ไม่ต่างอะไรจากที่หานลี่คิดเอาไว้นัก เมื่อหุ่นเชิดระดับหลอมสุญตาสองตัวสำแดงอิทธิฤทธิ์ นักรบชุดเกราะที่อยู่ในบริเวณรอบและอินทรีสองหัวก็ไม่อาจต้านทานได้ ไม่กลายเป็นซากศพสองสามส่วน ก็เปล่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาไม่หยุดท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมไหม้แล้วร่วงลงจากท้องฟ้า
ส่วนหุ่นเชิดสองตัวนั้นไม่รู้ว่าสร้างขึ้นจากวัตถุดิบอะไร ไม่ว่ากรงเล็บของอินทรียักษ์สองหัวที่เคยตะปบออกมา หรือว่าลำแสงต่างๆ บนนั้น ก็ทยอยกันดีดกลับมา
ต่อให้ระดับเทพแปลงสองสามคนปล่อยสมบัติสองสามชิ้นออกมา ก็ทิ้งร่องรอยตื้นๆ เอาไว้เพียงรอยเดียวเท่านั้น
ทว่าคนของเผ่าแมลงมีเขาเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะคาดการณ์สิ่งเหล่านี้เอาไว้แล้ว ไม่ได้เผยสีหน้าหวาดผวาออกมา กลับมีนักรบชุดเกราะจำนวนไม่น้อยที่ตบไปที่บั้นเอว ลำแสงห้าสีม้วนไปทางชนต่างเผ่าผมยาวผู้นั้น
ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ชนต่างเผ่า ก็ทยอยกลายเป็นตาข่ายผืนใหญ่คลี่ลงมา
คิดไม่ถึงว่าเผ่าแมลงมีเขาคิดจะจับเป็นชนต่างเผ่าผู้นี้
หานลี่มองเห็นฉากนี้ก็อดที่จะรู้สึกตื่นตะลึงไม่ได้
แต่ในยามนั้นเอง ชนต่างเผ่าผมยาวพลันแค่นเสียงอย่างเย็นชา ฉับพลันนั้นเท้าข้างหนึ่งพลันตบไปบนเรือเหาะใต้ฝ่าเท้า ชั่วขณะนั้นสมบัติชิ้นนี้พลันเปล่งแสงสว่างวาบ ฉับพลันนั้นพลันมีรัศมีสีทองหนาปรากฏขึ้น จากนั้นสองมือพลันร่ายอาคมอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะกระตุ้นเคล็ดวิชาอะไรสักอย่าง
ชั่วขณะนั้นในรัศมีลำแสงพลันมีเสียง “เปรี๊ยะๆ” ดังขึ้น ประจุไฟฟ้าสีขาวอ่อนปรากฏขึ้น
เมื่อตาข่ายยักษ์เหล่านั้นตกลงมา ก็ถูกประจุไฟฟ้าเหล่านี้ดีดออกไป กลายเป็นดวงลำแสงแล้วปริแตกระเบิดออก
ไม่รอให้นักรบชุดเกราะเหล่านี้ได้ลงมืออันใดอีก ชนต่างเผ่าผมยาวก็พลิกฝ่ามือทั้งสอง ยุทธภัณฑ์สีทองเรืองรองราวกับโล่ทรงกลมปรากฏขึ้นสองด้าน และโยนขึ้นไปกลางอากาศ
ยุทธภัณฑ์ทั้งสองด้านเปล่งเสียงหวีดร้องแล้วพุ่งออกไป
นักรบชุดเกราะรอบด้านพลันตะลึงงัน รีบร้อนจ้องเขม็งไปยังสิ่งนั้น ลำแสงสีทองสองด้านหมุนวน แต่กลับพุ่งไปทางชนต่างเผ่าอีกครั้ง
นี่จึงทำให้ทุกคนพลันตะลึงงัน
เสียง “ปัง” ดังอึกทึก โล่สองด้านโจมตีไปบนร่างของชนต่างเผ่าผมยาว และระเบิดลำแสงสีทองเจิดจ้าออกมา
จากนั้นร่างของชนต่างเผ่าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่เดิมกลับมีลูกบอลสีทองเส้นผ่าศูนย์กลางสองสามจั้งปรากฏขึ้น
ลูกบอลสีทองนี้เปล่งระยิบระยับ ราวกับสร้างขึ้นจากทองคำก็ไม่ปาน ผิวมีอักขระปรากฏขึ้นอย่างหนาแน่น ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
ได้ยินเพียงเสียง “กึกๆ” ประหลาดๆ ผิวของลูกบอลสีทองมีมีดแหลมยาวสองสามฉื่อปรากฏขึ้นอย่างหนาแน่น จากนั้นลูกบอลลูกนี้พลันเคลื่อนไหว พาเงาสายหนึ่งม้วนวนเข้าไปในฝูงชน
และไม่เห็นบนพื้นผิวมีความผิดปกติใดๆ แต่นักรบชุดเกราะที่ถูกลูกบอลสีทองพุ่งเข้าชนหรือว่าแฉลบผ่าน ล้วนทยอยกันร่างกายระเบิดออกเป็นสี่ห้าส่วน ไม่อาจต้านทานได้เลยสักนิด
ถึงแม้ว่าการโจมตีเหล่านี้จะอยู่บนลูกบอลสีทอง แต่ก็ถูกลูกบอลนี้หมุนวนอย่างรวดเร็ว แล้วถูกดีดออก
ชั่วพริบตาลูกบอลสีทองก็ผสานเข้ากับหุ่นเชิดร่างอาชา แล้วพุ่งตรงไปยังทิศทางเดียวกัน
ส่วนหุ่นเชิดหัวสิงโตตัวนั้น ก็ไล่ตามมาอยู่ด้านหลังติดๆ พลางพ่นลูกบอลเพลิงออกมาไม่หยุด กว่าครึ่งล้วนตรงไปยังอินทรียักษ์สองหัวที่อยู่สูงขึ้นไป ทำให้พวกมันไม่อาจโฉบลงมาได้ง่ายๆ
เมื่อทั้งสามร่วมมือกัน ก็เฉียบแหลมเป็นอย่างมาก
นักรบชุดเกราะและอินทรียักษ์ที่อยู่รอบด้านพลันถูกสังหารไปเกือบร้อยตนในพริบตา นี่จึงทำให้ทั้งสามที่ไปอยู่ตรงขอบ ใกล้จะฝ่าวงล้อมออกมาและหนีเตลิดไปได้
ผู้นำระดับเทพแปลงของเผ่าแมลงมีเขาคนหนึ่ง พลันเอ่ยปากตะโกนขึ้น
นักรบชุดเกราะที่แต่เดิมล้อมชนต่างเผ่าผมยาวและหุ่นเชิดเอาไว้ พลันร่างกายหยุดชะงัก ไม่เข้ามาใกล้กลับถอยออกไปแล้วแตกฮือออก
ลูกบอลสีทองและหุ่นเชิดสองตัวในละแวกนั้นหายวับไปในระยะร้อยตั้ง
ชนต่างเผ่าผมยาวที่ซ่อนตัวอยู่ในลูกบอลสีทองพลันตกตะลึง
และในยามนั้นเองเรือสงครามกลางอากาศพลันเคลื่อนไหว
เสาผลึกนับร้อยต้นที่อยู่ด้านล่างเรือสงครามพลันเปล่งแสงออกมาพร้อมกัน พ่นเสาลำแสงสีขาวนวลออกมาอย่างเนืองแน่น
พริบตานั้นลำแสงสีขาวก็ปกคลุมที่ว่างกลางอากาศทั้งหมดเอาไว้ เสียงระเบิดดังเสียดแก้วหูขึ้น
ยามนั้นลูกบอลสีทองรวมทั้งหุ่นเชิดสองตัวที่อยู่ท่ามกลางการโจมตีพลันถูกลำแสงสีขาวกลืนกินลงไป
นักรบชุดเกราะและอินทรียักษ์รอบด้านพลันถือโอกาสนี้วางกำลังการต่อสู้ใหม่ ล้อมที่นี่เอาไว้อีกครั้ง
การโจมตีด้วยเรือสงครามทั้งสองลำไม่ได้ดำเนินต่อไปนานนัก หลังจากผ่านไปชั่วครู่การโจมตีก็หยุดชะงักลง
หลังจากที่ลำแสงสีขาวซึ่งล้อมรอบอยู่หม่นแสง ก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง
หานลี่ที่อยู่ด้านล่างเองก็หรี่ตาทั้งสองข้างลงเช่นกัน และจ้องเขม็งมองไป
เห็นเพียงตรงใจกลางมีร่มยักษ์สีฟ้าปรากฏขึ้นคันหนึ่ง เส้นผ่าศูนย์กลางสิบจั้งเศษ กำลังเปล่งแสงระยิบระยับ
และด้านล่างร่มยักษ์คันนี้ ผิวของลูกบอลยักษ์สีทองมีร่างครึ่งท่อนของชนต่างเผ่าผมยาวงอกออกมา
เขาขมวดคิ้ว สายตากวาดค้นหารอบๆ ไม่หยุด หว่างคิ้วมีรอยไหม้เกรียมปรากฏขึ้น ส่วนหุ่นเชิดอีกสองตัวก็อยู่ติดกับลูกบอลสีทอง คาดไม่ถึงว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักกระผีกเช่นกัน
ครั้งนี้ชนต่างเผ่าผมยาวดูเหมือนว่าจะไม่ยอมยืดเนื้ออะไรอีก
หลังจากเขาร้องตะโกนออกมา ก็ยกมือขึ้นกวักไปกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นร่มยักษ์พลันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหดเล็กลง จนมีขนาดสองสามชุ่น ร่อนลงกลางฝ่ามือของเขา จากนั้นร่างกายพลันบิดเบี้ยว กายท่อนบนหายวับไปจากกลางอากาศ หดเข้าไปอยู่ในลูกบอลสีทอง
ส่วนร่างอาชาและหุ่นเชิดหัวสิงโตที่อยู่ข้างกาย พลันพลิ้วกาย กระโจนออกมาอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นการต่อสู้พลันปะทุขึ้นอีกครั้ง
สถานการณ์แทบจะไม่ต่างกับก่อนหน้า นักรบชุดเกราะและอินทรียักษ์รอบด้านยังคงไม่อาจต้านทานหุ่นเชิดทั้งสองและลูกบอลสีทองที่ปะทะเข้ามาได้
ชั่วครู่ก็เพลี่ยงพล้ำตายไปกว่าครึ่ง
มองเห็นชนต่างเผ่าผมยาวจะฝ่าวงล้อมออกมาอีกครั้ง แต่ฉับพลันนั้นลูกบอลไฟที่พ่นออกมาจากปากของหุ่นเชิดหัวสิงโตพลันหยุดชะงัก คิดไม่ถึงว่าจะไม่อาจพ่นออกมาได้อีก จากนั้นร่างของมันก็มีแสงสีแดงกะพริบวาบๆ หัวทั้งเจ็ดตกลงมาพร้อมกัน นิ่งงันอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน
นักรบชุดเกราะรอบด้านเห็นเช่นนั้น พลันตะลึงงัน ทันใดนั้นพลันรู้สึกยินดีขึ้นมา
ฉับพลันนั้นก็มีคนชูมือขึ้นสองสามคน หมอกลำแสงม้วนวนไป ชั่วพริบตาก็กลายเป็นตาข่ายสองสามผืน ห่อหุ้มหุ่นเชิดสิงโตเอาไว้
จากนั้นนักรบชุดเกราะสงสามคนก็ออกแรงดึง กวาดต้อนหุ่นเชิดทั้งตัวไป
เมื่อลดการปกป้องจากหุ่นเชิดหัวสิงโตไป อินทรียักษ์กลางอากาศก็กรูกันเข้ามาอย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัวอีกครั้ง ปีกทั้งสองข้างสยายออกไม่หยุด
มีดวายุหนาเป็นสายๆ พุ่งแหวกอากาศออกมา โจมตีไปยังลูกบอลสีทอง ทำให้ลำแสงสีทองสั่นเทาไปมาอย่างต่อเนื่อง ความเร็วในการหมุนวนผ่อนลง
ชนต่างเผ่าผมยาวตกอยู่ในวงล้อมอีกครั้ง สูญเสียโอกาสงามๆ ในการหลบหนีไป
สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าก็คือหุ่นเชิดตัวอาชาก็ต้านทานได้มากกว่าหุ่นเชิดก่อนหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สูญเสียพลังในการเคลื่อนไหวเพราะเหตุใดก็มิอาจรู้ได้เช่นกัน ถูกเผ่าแมลงมีเขาเหล่านั้นแย่งชิงไป
ชั่วพริบตานั้นแม้ว่าลูกบอลสีทองที่ตกอยู่ในอันตรายจะมีพลังการป้องกันตัวที่น่าตกตะลึง แต่การโจมตีด้วยมีดลำแสงไอกระบี่ต่างๆ รวมทั้งการสับของมีดวายุของนักรบชุดเกราะรอบๆ ด้าน ลำแสงสีทองกะพริบเรืองๆ ท่าทีต้านทานไม่อยู่
หานลี่มองจนมาถึงยามนี้พลันถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ชนต่างเผ่าผมยาวสามารถควบคุมหุ่นเชิดอสูรที่ระดับสูงกว่าตนเองสองสามเท่าใด และสามารถยืนหยัดกับการถูกล้อมด้วยคนจำนวนมากมานานเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา
ทว่าดูจากสถานการณ์นี้ เขาก็ไร้หนทางไปจริงๆ ถูกจับเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น
แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดชาวเผ่าแมลงมีเขาเหล่านั้นถึงอยากจับเป็นคนผู้นี้ แต่เขาเปิดเผยตัวออกมาด้วยความไม่ได้ตั้งใจ จึงก่อให้เกิดปัญหา ทันใดนั้นร่างกายพลันเคลื่อนไหว คิดจะจากไปอย่างเงียบเชียบ
แต่ในยามนั้นเองฉับพลันนั้นทางลูกบอลสีทองพลันมีเสียงไพเราะเสนาะหูของชนต่างเผ่าผมยาวดังขึ้น “ท่านอาวุโสที่อยู่ด้านล่าง ข้าน้อยคือจย่าเทียนมู่ของเผ่าหมื่นโบราณ! หากท่านอาวุโสยอมลงมือช่วย ข้าน้อยกลับไปยังเผ่าจะยอมมอบหุ่นเชิดสะท้านฟ้าให้!”
ชนต่างเผ่าผมยาวไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาถ่ายทอดเสียง ในน้ำเสียงแฝงเอาไว้ด้วยพลังวิญญาณ จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในรัศมีสองสามลี้ได้ยินอย่างชัดเจน!
เมื่อได้ยินหานลี่พลันตะลึงงัน ทันใดนั้นในใจพลันอดที่จะอยากด่ากราดออกไปไม่ได้
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าชนต่างเผ่าตรวจพบการดำรงอยู่ของเขาได้อย่างไร แต่เปิดเผยร่องรอยของเขาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ เกรงว่าคงไม่มีเจตนาดี
ส่วนเรื่องก็เป็นดังที่คิดไว้ เผ่าแมลงมีเขาที่อยู่กลางอากาศได้ยิน ทันใดนั้นผู้ที่เป็นหัวหน้าก็โบกมือ ทันใดนั้นนักรบชุดเกราะสองสามคนและอินทรียักษ์สองหัวสิบกว่าตัวก็มาค้นหาบนภูเขาที่เขาซ่อนตัวอยู่
ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ใช้วิธีการใด พริบตานั้นก็มาตามหาตามต้นไม้ใกล้ๆ กับเขา มองไปรอบๆ จากกลางอากาศไม่หยุด
หานลี่มุมปากกระตุก มองเห็นว่าไม่อาจซ่อนตัวได้ แต่ในใจกลับไม่มีความหวาดกลัวเท่าใดนัก
คนเผ่าแมลงมีเขาและอินทรียักษ์เหล่านี้พลังยุทธ์ต่ำต้อย จะคุกคามอะไรเขาได้ ปัญหาเดียวก็น่าจะเป็นเรือสงครามสองลำนั้น
ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น ถูกชนต่างเผ่าผมยาวผู้นั้นเปิดเผยร่องรอย แน่นอนว่าย่อมทำให้เขารู้สึกโกรธแค้น
หลังจากที่จิตสังหารฉายวาบผ่าน ฉับพลันนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ กระบี่เล่มเล็กยาวสองสามชุ่นยี่สิบกว่าเล่มพุ่งออกไป
เปล่งแสงสว่างวาบแล้วกลายเป็นเส้นไหมสีเงิน จมหายไปกลางอากาศแล้วหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ครู่ต่อมาเสียง “กึกๆ” ก็ดังสนั่นขึ้น
เส้นไหมสีเขียวสองสามสายปรากฏขึ้นกลางอากาศใกล้กับนักรบชุดเกราะเผ่าแมลงมีเขาและอินทรียักษ์ ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ
ร่างของนักรบชุดเกราะเหล่านี้และอินทรียักษ์สองหัวแหลกออกเป็นชิ้นๆ ในชั่วพริบตา ซากศพกลายเป็นห่าฝนสาดลงมา
ทันใดนั้นร่างของหานลี่ก็ปรากฏตัวใต้ต้นไม้ใหญ่ แผ่นหลังมีเสียงฟ้าฟาดดังขึ้น ปีกคู่หนึ่งปรากฏออกมา
เมื่อปีกทั้งสองกระพือ หานลี่ก็หายวับไปตามสายลม
ครู่ต่อมานักรบชุดเกราะเผ่าแมลงมีเขาที่ล้อมรอบชนต่างเผ่าผมยาวอยู่ตรงหน้า มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น
ประจุไฟฟ้าสีเขียวขาวเปล่งประกาย ร่างของหานลี่เปล่งแสงสว่างวาบปรากฏขึ้น
สองมือของเขาร่ายอาคม เส้นไหมสีเขียวเจ็ดสิบสองเส้นพุ่งออกมาจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย สองมือร่ายอาคมอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นเส้นไหมสีเขียวทั้งหมดพลันรางเลือน แบ่งจากหนึ่งเส้นเป็นสองเส้น สองเส้นเป็นสี่เส้น
พริบตานั้นทั่วท้องฟ้าก็มีลำแสงสีเขียวสว่างวาบ เสียงแหวกอากาศดังออกไปในรัศมีร้อยจั้ง
ส่วนนักรบชุดเกราะสามสิบกว่าคนและอินทรียักษ์สองหัวที่อยู่ในบริเวณนี้ พลันกรีดร้องอย่างน่าเวทนาออกมาอย่างต่อเนื่อง แค่สองสามชั่วลมหายใจ ก็ทยอยกันตกลงมาจากท้องฟ้า
คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานการโจมตีจากเส้นไหมกระบี่ของหานลี่ได้
ชั่วครู่รอบด้านของหานลี่ก็ไม่มีศัตรูแม้แต่คนเดียวอีก
ส่วนนักรบชุดเกราะเผ่าแมลงมีเขาคนอื่นๆ ในบริเวณรอบที่เพิ่งได้สติขึ้นมา ก็เผยสีหน้าตื่นตกใจออกมา ทยอยกันถอยร่นออกไปไกลตามจิตสำนึก
แต่หานลี่กลับไม่ได้เจตนาจะหยุดมือ สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นเงาร่างสีดำสองกลุ่มก็บินออกมาจากปาก
หลังจากลำแสงสีทองและดำสองสีเปล่งแสงสว่างวาบ กลางอากาศพลันมีอสูรน้อยรูปร่างเหมือนเสือดาวและวานรน้อยสีดำสูงสองสามฉื่อปรากฏขึ้น
“ลงมือ ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือ!” หานลี่ตะโกนออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยจิตสังหาร