แมลงเม่าประหลาดเปล่งเสียงซือๆ ออกมาจากปากไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าการโจมตีเมื่อครู่ทำให้มันรู้สึกประหลาดใจ แต่ทันใดนั้นดวงตาสีแดงทองก็ฉายแววโหดเ**้ยมออกมา สองมือพลิ้วไหว กายเนื้อบนแขนที่รางเลือนมีลำแสงสีเขียวปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง บาดแผลหายเป็นปลิดทิ้งอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันปีกที่แผ่นหลังพลันสะบัด เปล่งแสงสีขาวนวลเจิดจ้า
ปีกทั้งสองเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป กลับเผยมีดบินโปร่งใสเป็นร้อยๆ เล่มออกมา ทุกเล่มล้วนมีความยาวครึ่งฉื่อ ลำแสงเย็นเยียบเปล่งแสงสว่างวาบ ไอทมิฬกดดันผู้คน
ทันใดนั้นแววตาของตัวประหลาดตัวนี้พลันฉายแววโหดเ**้ยม มีดบินที่แผ่นหลังเปล่งเสียงหึ่งๆ ออกมา ดูเหมือนหมายจะกระโจนเข้ามาอีกครั้ง
และในตอนนั้นเองหานลี่กลับเปล่งเสียงหัวเราะออกมา ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบขึ้นบนร่าง เกล็ดที่ปรากฏขึ้นบนผิวหนังทยอยกันหายไป แขนสีทองทั้งสี่เองก็รางเลือนหายวับไป
นี่ทำให้แมลงเม่าประหลาดที่สติปัญญาไม่ต่ำต้อยนักตะลึงงัน การโจมตีอดที่จะหยุดชะงักลงไม่ได้
ส่วนหานลี่ที่อยู่ตรงข้ามกลับใช้มือหนึ่งร่ายคาถา แผ่นหลังมีเสียงฟ้าฟาด ปีกขนนกผลึกลำแสงคู่หนึ่งปรากฏขึ้น แค่ขยับคนก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ครู่ต่อมาเสียงฟ้าผ่าดังออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง ร่างของหานลี่เปล่งแสงสว่างวาบปรากฏขึ้น แต่ไม่ได้สำแดงเคล็ดวิชาป้องกันตัวใดๆ กลับใช้มือกอดอก เผยสีหน้าอมยิ้มขณะมองไปยังแมลงเม่าประหลาด
แม้นว่าแมลงเม่ายักษ์จะรู้สึกฉงนสงสัย แต่นิสัยความโหดเ**้ยมก็กดระงับความสงสัยไปในพริบตา ปากพลันร้องซือๆ ออกมา เกล็ดบนร่างลุกชัน ไล่ตามไป
แต่ยามนั้นหานลี่พลันลูบฝ่ามือแล้วฉีกยิ้มน้อยๆ ปากก็พ่นคำว่า
“ร่วง ร่วง ร่วง!”
คำว่า‘ร่วง’ออกจากปากสามคำ แมลงเม่าประหลาดพลันรู้สึกหัวหนักอึ้ง ความรู้สึกวิงเวียนหน้ามืดปะทุขึ้นมาที่ศีรษะ จากนั้นทรวงอกพลันรู้สึกคันยิบๆ ร่างกายส่วนหนึ่งสูญเสียความรู้สึกไป ซวนเซไปมาอย่างไม่อาจทำกายให้มั่นคงได้
แน่นอนว่าอสูรประหลาดทั้งตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว รีบร้อนก้มหน้าลงมองถึงพบว่า ตรงกลางรูโลหิตที่ทรวงอกไม่อาจสมานหากันได้ หนึ่งของร่างกายกลายเป็นสีดำสนิท ในเวลาเดียวกันกลิ่นคาวคละคลุ้งก็โชยออกมาจากผิวหนัง
ส่วนจุดที่ปกติเป็นสีม่วงดำ นั่นก็คือจุดที่สูญเสียความรู้สึกไป
คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะถูกพิษประหลาดที่ไม่เคยพบมาก่อน! พิษชนิดนี้มีคุณสมบัติในการอำพรางตัว คาดไม่ถึงว่าอาการที่ทำให้มันสูญเสียความรู้สึกนั้นมันกลับไม่รู้ตัวมาก่อนเลย และเมื่ออาการกำเริบ ก็แผ่ไปทั่วร่างแล้ว
แมลงประหลาดรู้สึกตะลึงงันไม่น้อย!
อ้าปากออกพ่นลำแสงสีเขียวออกมาอย่างไม่ต้องขบคิด ด้านในมีไข่มุกกลมสีเขียวมรกตขนาดเท่าไข่ไก่อยู่เม็ดหนึ่ง เปล่งแสงสว่างวาบแล้วไปถึงรูโลหิตตรงทรวงอก
ไข่มุกกลมหมุนคว้าง ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงเจิดจ้าแสบตา ในเวลาเดียวกันกลิ่นหอมกลุ่มหนึ่งก็โชยออกมาจากไข่มุกกลม ทำให้กลิ่นคาวคละคลุ้งเจือจางไป พิษสีม่วงดำที่กำลังแพร่ออกมาแข็งแน่น ชั่วพริบตาพลันหยุดขยายขนาดออกมา
หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลันรู้สึกประหลาดใจอยู่สองสามส่วน
ความรุนแรงของพิษจากคลื่นลำแสงภยันตรายนั้น เขาเคยเห็นมากับตา คาดไม่ถึงว่าจะไม่ทำให้มันจบชีวิตในทันที เห็นได้ชัดว่ากายเนื้อของมันมีพลังต้านทานพิษอย่างแน่นอน
แต่ทันใดนั้นหานลี่พลันหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา ร่างกายพลันกระโจนไปข้างหน้า ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นวิหคยักษ์สีเขียวความยาวสิบจั้งตัวหนึ่ง แล้วกระโจนเปล่งแสงสว่างวาบออกไปในเวลาเดียวกัน
แค่กะพริบวาบสองครั้ง วิหคยักษ์ก็พาพายุหมุนสีเขียวมาปรากฏตัวเหนือศีรษะของแมลงเม่าประหลาดที่กำลังติดพิษ
สองปีกสยายออก เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นขึ้น!
ชั่วพริบตานั้นผิวของวิหคยักษ์พลันมีประจุไฟฟ้าสีทองหนาๆ ปรากฏขึ้นเป็นสายๆ กรงเล็บยักษ์สีทองอ่อนคู่หนึ่งตะปบลงมา
แมลงเม่าประหลาดที่อยู่ด้านล่างพลันร่างกายสั่นเทา มีดประหลาดที่แผ่นหลังพุ่งออกมาราวกับห่าฝน
วิหคยักษ์เผชิญหน้ากับลำแสงสีขาวที่ดาหน้าเข้ามาก็ไม่ได้สนใจ ไม่ลดความเร็วการบินลงเลยสักนิด
หลังจากเสียงเคร้งๆๆ ดังขึ้น มีดประหลาดทั้งหมดที่โจมตีไปยังปีกขนนกก็ทยอยกันดีดตัวกลับมา ใบมีดที่ดูเหมือนแหลมคมเป็นพิเศษ คาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจทำอันตรายวิหคยักษ์ได้เลยสักนิด
นี่กลับไม่น่าแปลกประหลาดเลยสักนิด กายเนื้อของหานลี่เดิมทีก็แข็งแกร่งจนถึงขีดสุดแล้ว ประกอบกับที่แปลงกายเป็นวิหคคุนเผิง กายเนื้อก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหลายส่วน แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่สิ่งที่มีดแหลมคมจะทำอันตรายได้ กลับกันกรงเล็บแหลมคมคู่หนึ่งกลับฉีกการต้านทานด้วยใบมีดแหลมคมสิบกว่าเล่มได้อย่างง่ายดายแล้ว ทะลวงเข้าไปในร่างของแมลงเม่าประหลาดอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า
แต่หลังจากเห็นกรงเล็บลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบแล้ว เงาร่างแมลงเม่าประหลาดก็ฉีกออกเป็นชิ้นๆ ด้านในว่างเปล่า ดูไม่มีเลือดเนื้อในนั้นเลยสักนิด
คิดไม่ถึงว่าแมลงเม่าประหลาดตัวจริงจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเอาไว้เพียงเปลือกบางๆ ชั้นหนึ่งเท่านั้น แม้กระทั่งไข่มุกกลมสีเขียวที่ใช้กำจัดพิษตรงหน้า ยามนี้ก็เปล่งแสงสว่างวาบสลายหายไป ทว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
วิหคยักษ์พลันตะลึงงัน แต่หลังจากกวาดสายตาไปรอบๆ พร้อมกับลำแสงสีฟ้าที่เปล่งประกายจางๆ แล้ว ทันใดนั้นปึกทั้งสองพลันกระพือไปมาสองสามครา ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟ้าสีทองบนเรือนร่างพลันดีดออกอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นพลันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วรวมตัวกันกลายเป็นประจุไฟฟ้าสีทองขนาดหนาเท่าปากชาม เปล่งแสงสว่างวาบแล้วดีดตัวออกไป มีความยาวประมาณยี่สิบสามสิบจั้ง
เสียงหวีดร้องดังสนั่นขึ้น!
ชั่วพริบตาประจุไฟฟ้าสีทองก็กะพริบวาบอยู่ห่างออกไปในรัศมีสองสามร้อยจั้ง กระโดดไปมาอย่างลึกลับไม่หยุด แค่พริบตาก็อยู่ห่างออกไปไกลโข
เสียงดังสนั่นดังขึ้น!
ประจุไฟฟ้าระเบิดออกกลางอากาศห่างออกไปห้าสิบจั้ง เส้นไหมไฟฟ้าบางเบาจำนวนนับไม่ถ้วนกะพริบระยิบระยับ กลายเป็นตาข่ายสีทองขนาดยักษ์ปกคลุมลงมา
แต่ด้านล่างพลันมีลำแสงสีเขียวมรกตเปล่งประกาย ตาข่ายไฟฟ้าสีทองถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว
และขณะที่ลำแสงอัสนีสีทองกำลังกะพริบระยิบระยับ ด้านล่างพลันมีเงาร่างซวนเซปรากฏขึ้น
นั่นก็คือแมลงเม่าประหลาดที่ใช้กลยุทธ์จักจั่นลอบคราบ!
แต่แค่เจ้าตัวประหลาดในยามนี้ร่างกายสองในสามกลายเป็นสีม่วงดำ มีเพียงลำแสงสีเขียวที่เปล่งแสงระยิบระยับไปมา คาดไม่ถึงว่าจะมีไข่มุกสีเขียวเม็ดนั้นแฝงอยู่ ทำให้พิษยังคงวนเวียนไปมาอยู่ที่คอ ไม่อาจพุ่งมาที่ศีรษะได้
แขนอีกสองข้างและหางดูเหมือนว่าจะมีพลังต้านทานพิษ ท่ามกลางลำแสงสีเขียวอ่อน มีแค่ไอสีดำอ่อนปรากฏขึ้นชั้นหนึ่งเท่านั้น
ทว่าเช่นนั้นก็เห็นได้ชัดว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ถูกพิษกำเริบ ท่าทางจะล้มแหล่มิล้มแหล่
มิน่าล่ะมันจึงไม่กล้าประมือกับหานลี่อีกครั้งเลยแม้แต่น้อย สะกดพิษและคิดจะหนีในทันใด
ทว่าน่าเสียดายถึงแม้ว่ามันจะเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอำพรางกาย ก็ไม่อาจหลบซ่อนจากเนตรวิญญาณวารีกระจ่างของหานลี่ได้ ถูกหาพบในพริบตา
เพื่อต้านทานกับอัสนีเทวะปัดเป่าภยันตราย มันยังจำใจต้องทำใจดีสู้เสือโคจรพลังลมปราณเข้าต้านทาน
ผลคือด้วยเหตุนี้ พิษที่เพิ่งจะสะกดลงได้พลันกำเริบขึ้นมาอีกครั้งในทันใด ทำให้มันไม่อาจต้านทานได้อีก
ในเวลาเดียวกันวิหคสีเขียวพลันพุ่งออกมาท่ามกลางประจุไฟฟ้า ปีกทั้งสองเปล่งแสงสว่างวาบ ร่างกายอันใหญ่โตเปล่งแสงสว่างวาบสองสามคราแล้วมาปรากฏตรงแมลงเม่าประหลาด สายตามองมาด้านล่างด้วยความเย็นชา
แม้นว่าหานลี่ที่แปลงเป็นวิหคยักษ์จะไม่ใช่จิตวิญญาณเที่ยงแท้คุนเผิงที่แท้จริง แต่เป็นเพราะมีโลหิตของจิตวิญญาณเที่ยงแท้ แน่นอนว่าจึงยังคงมีพลังอานุภาพที่แข็งแกร่ง
แมลงเม่าประหลาดที่อยู่ด้านล่างเห็นเช่นนั้น ในที่สุดดวงตาสีทองก็ฉายแววหวาดกลัว ผิวเปล่งแสงสีเทาสว่างวาบ หลบหนีไปด้วยเคล็ดวิชาหลีกหนีอะไรสักอย่างอีกครั้ง
แต่ครู่ต่อมาพลันมีเสียงก้องกังวานดังขึ้น คาดไม่ถึงว่าไข่มุกสีเขียวมรกตในปากจะแตกตัวออกอย่างประหลาด
ความเปลี่ยนแปลงที่พิสดารนี้ทำให้หานลี่และแมลงเม่าประหลาดตะลึงค้าง
แต่ทันใดนั้นแมลงเม่าประหลาดก็เปล่งเสียงร้องแหลมสูงออกมา ทันใดนั้นร่างกายพลันระเบิดลำแสงเจิดจ้าออก ขยายใหญ่ขึ้นสองสามเท่าในเวลาเดียวกัน
แต่งูเหลือมยักษ์กลับเอียงหัว ลำแสงสีเทาสว่างวาบ หัวสิงโตอีกหัวหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างแปลกประลหาด
จากนั้นสัตว์ประหลาดตัวนี้พลันพลิ้วกาย กระโจนเข้ามาหานลี่ด้วยสีหน้าที่โหดเ**้ยม แขนสองข้างโบกสะบัด กรงเล็บลำแสงเต็มท้องฟ้าพุ่งแหวกผ่านอากาศส่งเสียง ฟิ้วๆ รวมตัวกันกลายเป็นกรงเล็บเงายักษ์สองข้าง
ท้องฟ้าในบริเวณสองสามลี้มีดวงลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ครู่ต่อมาพลันถูกกรงเล็บยักษ์ทั้งสองสูดเข้าไป
กรงเล็บเงาทั้งสองขยายใหญ่ขึ้น ให้ความรู้สึก ปกคลุมทั้งท้องฟ้าเอาไว้ และค่อยๆ ตะปบไปทางหานลี่อย่างเชื่องช้า
ขณะที่กรงเล็บเงากำลังตะปบลงมา หานลี่รู้สึกเพียงว่าไม่ว่าตนเองจะหลบหลีกอย่างไร ก็ไม่อาจหลบหลีกการโจมตีนี้ได้ รูม่านตาอดที่จะหดเล็กลงไม่ได้
ดังนั้นวิหคยักษ์พลันเปล่งเสียงร้องไพเราะออกมาจากปากทันที!
ผิวมีลำแสงสีเขียวโคจรไปมา เพียงชั่วลมหายใจ วิหคยักษ์พลันกลายเป็นนกยูงที่ถูกลำแสงห้าสีห่อหุ้มเอาไว้ มีขนาดแค่สองสามจั้ง แต่เปลวเพลิงที่ปกคลุมรอบกายกลับดูเจิดจ้าแสบตาราวกับมีรูปร่าง
คาดไม่ถึงว่าหานลี่จะกระตุ้นคาถาตื่นจากจำศีลแปลงกาย ชั่วครู่ก็กลายเป็นนกยูงห้าสี
มองเห็นกรงเล็บเงาแปลกประหลาดคู่นั้น ไม่รู้เพราะเหตุใดหานลี่ถึงได้แปลงกายเช่นนี้ไปตามความรู้สึก
ผลคือฉากที่น่าตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น!
มองเห็นกรงเล็บเงาตะปบมา ขนนกบนตัวของนกยูงห้าสีพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน ชั่วพริบตาก็หลอมละลายไปที่ผิวของเปลวเพลิงลำแสง
ชั่วขณะนั้นลำแสงวิญญาณห้าสีพลันขยายใหญ่ขึ้นสองสามเท่า จากนั้นกรงเล็บเงายักษ์ที่โถมเข้ามาด้านล่างพลันหมุนวน
มองจากไกลๆ ราวกับสายธารลำแสงห้าสีสายหนึ่งกำลังไหลย้อนกลับ!
สองหัวของแมลงเม่าประหลาดเห็นท่าทางน่าหวาดกลัวของนกยูงห้าสีและลำแสงห้าสี ชั่วขณะนั้นแววตาพลันฉายแววไม่อยากจะเชื่อ
ทว่ายามนี้มันกลับไม่อาจควบคุมการโจมตีของตนเองได้
เปล่งแสงสว่างวาบ กรงเล็บเงายักษ์และลำแสงห้าสีปะทะกันในพริบตา
ผลคือคาดไม่ถึงว่าจะเงียบเชียบ!
ลำแสงห้าสีกะพริบวาบๆ กรงเล็บเงายักษ์จมหายเข้าไปในธารลำแสงราวกับฟองสบู่ แล้วหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ท่าทางน่าดุดันก่อนหน้า ราวกับเป็นแค่ดอกถานฮวาชั่วค่ำคืน
แต่เพื่อความปลอดภัย หานลี่ไม่ก้าวเข้าไปแต่กลับถอย บนผิวมีลำแสงห้าสีเปล่งแสงสว่างวาบ นกยูงปรากฏอีกที่ห่างออกไปยี่สิบจั้งเศษอย่างลึกลับ
หลังจากที่แมลงเม่าประหลาดดูเหมือนจะโจมตีไร้ผลแล้ว กลับลอยอยู่ที่เดิมนิ่ง
หัวทั้งสองจ้องเขม็งมายังหานลี่ สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
แต่ครู่ต่อมา ไอพิษสีม่วงดำพลันหมุนวนกวาดออกไป หัวทั้งสองกลายเป็นสีม่วงดำ
ทำให้สัตว์ประหลาดร่างกายสั่นเทา ดวงตาทั้งสี่สูญเสียสติสัมปชัญญะ ทันใดนั้นก็ร่วงลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วราวกับไร้กระดูก
และในตอนนั้นเองนกยูงห้าสีพลันหุบปีกทั้งสอง ร่างกายหดเล็กลงสองสามเท่า กลับคืนร่างคนอีกครั้ง
หานลี่ลอยนิ่งอยู่ตรงนั้น จ้องมองแมลงเม่าประหลาดที่ตกลงไปด้วยความเย็นชา ไม่มีท่าทีจะบินเข้าไปเลยสักนิด
เสียง “ตูม” ดังขึ้น ร่างสีม่วงดำของแมลงเม่าประหลาดกระแทกลงบนน้ำแข็ง ขยับตัวไม่ได้อีก
หานลี่พลันเลิกคิ้ว แล้วถึงได้ใช้มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศ
เสียง พรึ่บ ดังขึ้น ลูกบอลเพลิงสีเงินลูกหนึ่งเปล่งแสงสว่างวาบแล้วปรากฏขึ้น
นั่นก็คือเพลิงกลืนวิญญาณที่ถูกแมลงเม่าประหลาดกักเอาไว้แต่เดิม!
ภายใต้ความคิดที่เคลื่อนไหวของหานลี่ ลูกบอลเพลิงสีเงินพลันพุ่งไปด้านล่าง และเปล่งแสงสีเงินสว่างวาบกลางทาง กลายเป็นวิหคเพลิงสีเงินระยิบระยับตัวหนึ่งอีกครั้ง
วิหคตัวนี้แค่กะพริบวาบ ก็มาอยู่เหนือซากศพของแมลงเม่าประหลาด สยายปีกทั้งสองออกคิดจะกระโจนเข้ามา
ในตอนนั้นเองสองหัวของวิหคเพลิงพลันระเบิดออกพร้อมกัน กลายเป็นหมอกสีโลหิต
กลางหมอกโลหิตมีเสียง พรึ่บๆ ดังขึ้น เพลิงสีเขียวขนาดเท่ากำปั้นสองดวงปรากฏขึ้น และพุ่งไปยังทิศทางตรงข้าม