หานลี่เห็นฉากนี้พลันมุมปากกระตุก ไม่เห็นว่าเขาจะใช้สมบัติใดๆ ปีกที่แผ่นหลังกลับคือกระพือออก กลายเป็นเส้นไหมผลึกสายหนึ่งพุ่งออกไป แต่ระหว่างทางผ่านพลันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป
ชายร่างใหญ่ที่กลายเป็นวิหคเพลิงพลันใจหายวาบ อ้าปากออกอย่างไม่ต้องคิด พ่นเปลวเพลิงสีม่วงออกมา ปกคลุมเบื้องหน้าห่างออกไปสิบจั้งเศษ
หากหานลี่แอบเข้ามาในบริเวณนี้ล่ะก็ จะต้องถูกเพลิงนี้ม้วนเข้าไปอย่างพอดิบพอดี
แต่เหนือกว่าที่ชายร่างใหญ่หัวโล้นคาดเอาไว้ หานลี่ไม่ได้สนใจเขาตั้งแต่แรกแล้ว หลังจากลำแสงสีขาวเปล่งแสงสว่างาบ คนก็มาปรากฎตัวเหนือสองหัวของวิหคยักษ์
อย่ามองว่าวิหคยักษ์มีร่างกายใหญ่โต แต่ปฏิกิริยากลับว่องไวอย่างหาที่เปรียบ
ชั่วพริบตาที่หานลี่มาปรากฎตัว หัวของมังกรวารีของวิหคตัวนี้ก็ชูขึ้น พ่นเสาลำแสงสีฟ้าออกมา
เสาลำแสงนี้ยังไม่ทันเข้ามาประชิดตัว อากาศรอบๆ ก็เปล่งเสียง “แกรก” ออกมา น้ำแข็งเย็นเยียบหนาบางไม่เท่ากั้นทอดตัวยาวมา
คาดไม่ถึงว่าเสาลำแสงนี้เย็นเยียบขนาดนี้ ไม่ด้อยไปกว่าเปลวเพลิงน้ำแข็งสวรรค์ของหานลี่ในตอนแรก ราวกับว่าแช่แข็งได้แม้กระทั่งอากาศ เปล่งแสงสว่างวาบแล้วมาอยู่ตรงหน้าของหานลี่
แววตาของหานลี่ฉายแววตกตะลึง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเสาลำแสงนี้แล้วก็ไม่มีทางหลบหลีกได้ สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเทาปรากฎขึ้นตรงหน้า
เมื่อเสาลำแสงสีฟ้าเข้ามา ก็แข็งตัวราวกับจมเข้าสู่น้ำ
และแค่พริบตาที่เสียไป ลำแสงห้าสีในแขนเสื้อก็เปล่งแสงสว่างวาบ ยื่นมือที่ขาวบริสุทธิ์ดุจหยกออกมาก
นิ้วทั้งห้าปัดไปที่หน้าอก หัวกะโหลกหน้าตาโหดเ**้ยมห้าหัวเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป ทันใดนั้นเปลวเพลิงห้าสีก็ทะลักออกมาจากฝ่ามือ ลำแสงเปล่งประกาย ดูเคร่งขรึมมาก
หลังจากผ่านการฝึกฝนมาหลายปี ในที่สุดแขนทั้งสองของหานลี่ก็ฝึกฝนคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติสำเร็จแล้ว จากนั้นพลันสำแดงฝีมืออย่างสบายๆ ก็สามารถควบคุมภูเขาเทวะดูดปราณและห้ามารใจเดียวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้กระทั่งหลังจากผนึกกำลังกับตัวเองแล้ว ก็ยังเพิ่มขึ้นหลายเท่า อานุภาพจะพัฒนาขึ้นตามการฝึกฝนของตนเช่นกัน
เสียงดังขึ้นเบาๆ ในที่สุดเสาลำแสงสีฟ้าก็ทำลายการขัดขวางงของลำแสงเทวะดูดปราณไป โจมตีไปยังฝ่ามือหยกขาว
แต่ผิวของฝ่ามือพลันมีเปลวเพลิงห้าสีไหลโคจรอยู่ เสาลำแสงเย็นเยียบเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายไปในทันที คาดไม่ถึงว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด
วิหคยักษ์เห็นเช่นนั้น หัวเสืออีกหัวก็ชูขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด พ่นคลื่นเสียงกึ่งโปร่งใสออกมา ตรงมาหาหานลี่
“หึ”
หานลี่แค่นเสียงอย่างเย็นชา ร่างกายมีลำแสงสีทองสว่างจ้า จากนั้นพลันพลิ้วไหว ร่างทั้งร่างที่มีลำแสงวิญญาณปกคลุมทะลวงเข้าไปในคลื่นเสียง
เสียง “ตูมๆๆ” ดังขึ้น คลื่นเสียงและลำแสงสีทองปะทะกัน ระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง
แต่หานลี่กลับทำเป็นมองไม่เห็นระเบิดเหล่านี้ หลังจากเปล่งแสงสว่างวาบสองสามครั้ง คนก็ทะลวงคลื่นเสียงมาอยู่หน้าวิหคยักษ์ ทุบกำปั้นทั้งสองลงไป
วิหคยักษ์เองก็นับว่าโหดเ**้ยมาก ร่างกายหลบไปอีกทาง กรงเล็บยักษ์ข้างหนึ่งเปล่งแสงเย็นเยียบออกมาตะปบออกไปกลางอากาศ
เสียงแหวกอากาศดังขึ้น ร่างของหานลี่ล้วนถูกกรงเล็บนี้ปกคลุมเอาไว้
หานลี่มีสีหน้าเคร่งขรึม กำปั้นทั้งสองข้างหนึ่งมีลำแสงสีสว่างวาบ อีกข้างหนึ่งมีเปลวเพลิงลำแสงห้าไหลวนโคจรไม่หยุด โจมตีไปยังกรงเล็บยักษ์อย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
เสียงตูมๆ สองครั้งดังขึ้น!
วิหคยักษ์เปล่งเสียงร้องแสบแก้วหูออกมา กรงเล็บยักษ์ไม่ทันได้หุบกรงเล็บ ก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ท่ามกลางลำแสงประหลาด จากนั้นก็กลายเป็นหมอกสีโลหิต
จากนั้นเงาร่างคนพลันเปล่งประกาย หานลี่ทะลุออกมาจากหมอกโลหิตด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
วิหคยักษ์สองหัวมีแววตาดุร้ายฉายแววสว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าจะไม่สนกรงเล็บที่ถูกทำลายของตน ยืดทั้งสองออกมา อ้าปากที่เป็นบ่อโลหิตทั้งสอง งับลงมาที่หานลี่อย่างรุนแรง
กลิ่นคาวเลือดลอยมาปะทะใบหน้า
ชายร่างใหญ่หัวโล้นและคนของเผ่าแดงสดคนอื่นๆ ที่อยู่อีกด้านเองก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง ชั่วขณะนั้นพลันโจมตีเข้ามาด้วยความตกตะลึงระคนโกรธแค้น
เปลวเพลิงสีม่วงกลุ่มหนึ่งและลูกบอลเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาอย่างหนาแน่น แต่ก็ผนึกรวมกันระหว่างทาง กลายเป็นทะเลเพลิงสีแดงสดขนาดร้อยจั้ง
ร่างของวิหคเพลิงเหล่านั้นพลันเคลื่อนไหว ทยอยกันจมหายเข้าไปในเปลวเพลิงอย่างไร้ร่องรอย
ทะเลเพลิงพลันหมุนวน ชั่วครู่ก็ม้วนเอาคลื่นเพลิงขนาดยักษ์สูงสิบจั้งเศษ ตรงเข้ามาหาหานลี่
แต่หานลี่ในครานี้จะปล่อยโอกาสให้พวกเขาโจมตีได้อย่างไร มือทั้งสองที่ร่ายอาคมอยู่นานแล้ว แผ่นหลังมีรูปสามหัวหกแขนสีทองปรากฎขึ้น แขนทั้งสองลางเลือนเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าจะหายวับไป
แทบจะในเวลาเดียวกันวิหคยักษ์ที่อยู่ด้านบนก็เปล่งแสงสีทองสว่างวาบสองแห่ง ชั่วครู่กลางอากาศก็มีแขนยักษ์สองข้างปรากฎขึ้น ฝ่ามือขนาดสองสามจั้ง เป็นสีทองเรืองรอง กำหมัดแล้วทุบลงมาด้านล่าง
หลังจากที่เสียง “ปังๆ” ดังขึ้นสองครั้ง ภายใต้ความคาดไม่ถึงกำปั้นสีทองขนาดยักษ์ทุบลงมาบนร่างของวิหคยักษ์อย่างแน่นหนา คาดไม่ถึงว่าจะทุบปีศาจตนนี้จนเซถอยไป ไม่อาจยืนได้อย่างมั่นคงได้
จากนั้นหานลี่ก็ใช้มือหนึ่งกดทะเลเพลิงที่พัดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ภูเขายักษ์สีดำปรากฎขึ้นเบื้องหน้า มันหมุนติ้วๆ กลายเป็นม่านลำแสงขนาดยักษ์ชั้นหนึ่ง หมุนวนไปทางคลื่นเพลิงเบื้องหน้า
เสียงอึกทึกดังขึ้น เปลวเพลิงลำแสงสีเทาตัดสลับกัน ครานั้นต่างฝ่ายต่างยืนกรานอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน
แม้นว่าลำแสงเทวะดูดปราณจะทำให้พลังเบญจธาตุไร้รูปร่าง แต่แน่นอนว่าก็มีข้อจำกัด คนของเผ่าแดงสดจำนวนมากกระตุ้นพลังของเปลวเพลิงเข้ามาโจมตี ก็ทำได้เพียงต้านทานเอาไว้เท่านั้น
ทว่าเป้าหมายของหานลี่เดิมที่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่
เขาถือโอกาสงามๆ นี้ หัวไหล่สั่นเทา แขนที่เหลือทั้งสี่บนรูปที่แผ่นหลังเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายไปเช่นกัน
ในเวลาเดียวกันวิหคยักษ์ก็เปล่งแสงสว่างวาบขึ้นกลางอากาศ ยื่นแขนยักษ์สีทองอีกสี่แขนออกมา
แขนสีทองเหล่านี้ตะปบออกไปกลางอากาศราวกับฉีกขาดอากาศ มือที่เป็นดุจเงาบีบคอทั้งสองของวิหคยักษ์เอาไว้
และวิหคยักษ์ที่เพิ่งจะได้สติจากการถูกโจมตีเห็นสถานการณ์เช่นนี้พลันตกตะลึง ร่างกายอันใหญ่โตพยายามบิดตัวไปมาอย่างสุดชีวิต แต่ปีกของมันกลับหนักอึ้งไม่อาจขยับตัวได้ราวกับมีภูเขายักษ์ทับอยู่บนร่างก็ไม่ปาน
คาดไม่ถึงว่ามือยักษ์สีทองอีกสองข้างจะดึงปีกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทำให้ครานั้นไม่อาจขยับกายได้เลยสักนิด
วิหคยักษ์สติกระเจิง ยังไม่รอให้ได้สำแดงวิชาอื่นเพื่อเอาตัวรอด มือยักษ์สีทองที่บีบคออยู่ก็ออกแรงพร้อมกัน พลังมหาศาลสี่กลุ่มทะลักออกมา
ร่างของวิหคยักษ์นับว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ภายใต้พลังมหาศาลนี้ คอก็เปล่งเสียง “ก๊อก” ราวกับกระดาษ ถูกบิดออกเป็นสองส่วน
ครานี้หานลี่ถึงได้คลายอาคมที่มือทั้งสอง รูปสีทองที่แผ่นหลังหายไป แขนหกแขนสีทองเองก็หายวับตามไป
จากนั้นหัวทั้งสองและร่างที่ไร้หัวพลันตกลงจากกลางอากาศ
หานลี่พลันหางตากระตุกสะบัดแขนเสื้อ ลูกบอลเพลิงสีเงินสามกลุ่มพุ่งออกมาในทันที เปล่งแสงสว่างวาบแล้วโจมตีไปยังร่างและหัวของวิหคยักษ์
หลังจากเสียง “ฟู่ๆ” ดังขึ้น
เปลวเพลิงสีเงินพลันขยายใหญ่ขึ้น ชั่วพริบตาก็เผาไหม้พวกมันจนเป็นเถ้าถ่าน จากนั้นก็ผนึกรวมตัวกันที่ใจกลาง กลายเป็นวิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่งบินกลับมา
“ไป!”
เห็นหานลี่ชูมือขึ้นก็สังหารวิหคยักษ์ที่มีกำลังแทบจะเทียบเท่ากับตัวเองได้ ชายร่างใหญ่หัวโล้นที่ส่งตัวออกมาจากทะเลเพลิงที่เดือดพล่านก็เอ่ยออกมาด้วยความตกตะลึง
ทันใดนั้นเสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้น วิหคเพลิงแปดเก้าตัวเปล่งแสงสว่างวาบพุ่งออกมาจากเปลวเพลิง ล้วนบินออกไปกลางอากาศ
ดูแล้วในที่สุดชายร่างใหญ่ของเผ่าแดงสดก็เข้าใจแล้วว่าคนของตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานลี่ ประกอบกับที่มีวิหคสวรรค์คนอื่นๆ คอยจับจ้องอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็เตรียมถอยอย่างไม่ลังเล
“เทียนหมิง จะไปตอนนี้ ไม่คิดว่าสายไปหน่อยหรือ!”
กลางอากาศมีเสียงของบุรุษอายุสามสิบกว่าปีของเผ่าวิหคสวรรค์ดังขึ้น จากนั้นประจุไฟฟ้าสีเงินก็เปล่งแสงสว่างวาบกลางอากาศ วิหคยักษ์สีเงินสามตัวปรากฎขึ้น มีทัพเสริมที่คาดไม่ถึง ในที่สุดคนของวิหคสวรรค์ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้างก็ทนไม่ไหวเริ่มลงมือ
มันพ่นประจุไฟฟ้าสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา ชั่งพริบตาก็กลายเป็นตาข่ายไฟฟ้าขนาดยักษ์ห่อหุ้มลงมา
ชายร่างใหญ่หัวโล้นที่กลายเป็นวิหคเพลิงเปล่งเสียงร้องยาวๆ ออกมา ชั่วขณะนั้นวิหคตนอื่นๆ พลันมารวมตัวกันโดยมีเขาเป็นใจกลาง คาดไม่ถึงว่าจะรวมตัวกันกลายเป็นวิหคเพลิงขนาดมหึมาความยาวยี่สิบจั้งตัวหนึ่ง
วิหคเพลิงตัวนี้เปล่งแสงสีม่วงออกมาจากร่าง หลังจากกระพือปีกทั้งสอง ก็ทะลวงผ่านตาข่ายไฟฟ้า
วิหคเพลิงสีเงินสามตัวพลันตกตะลึง ไม่กล้าปะทะพลางหลบทางให้
เปลวเพลิงสีม่วงของวิหคเพลิงสีม่วงพลันขยายใหญ่ขึ้น กระพริบวาบสองสามครั้ง ก็หนีออกไปจากตาข่ายกักมา ปรากฎตัวห่างอกไปร้อยจั้งเศษ
ความเร็วของเขานับว่าทำให้ผู้คนที่ได้ยินล้วนตะลึงงัน
หานลี่มองฉากนั้นแววตาเปล่งประกายสว่างวาบ แต่กลับลอยนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่มีท่าทีจะไล่ตามไปเลยสักนิด
วิหคเงินสามตัวลังเลเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าตามไปเช่นกัน
กลับเป็นผิวของพวกมันที่มีประจุไฟฟ้าสีเงินเป็นประกาย กลายเป็นมนุษย์อีกครั้งท่ามกลางเสียงฟ้าร้อง
“ขอบพระคุณนายท่านที่ลงมือช่วยเหลือ หากไม่เช่นนั้นพวกเราคงยากที่รอดจากเคราะห์ครั้งนี้ แต่พี่หน้าตาไม่คุ้นเลย เป็นคนของเผ่าที่หลบซ่อนตัวอยู่นอกมหาสมุทรหรือ?” บุรุษที่เป็นผู้นำของเผ่าวิหคสวรรค์ เผชิญหน้ากับหานลี่ผู้ที่ใช้พลังของคนคนเดียวกดคนของเผ่าแดงสดกลุ่มหนึ่งก็ไม่กล้าดูแคลนเลยแม้แต่น้อย เอ่ยถามพร้อมประสานกำปั้นคารวะตั้งแต่ไกลๆ
“ใช่คนของเผ่าวิหคสวรรค์หรือไม่ ผู้แซ่หานเองก็ไม่แน่ใจ ข้ามีต้นกำเนิดค่อนข้างพิเศษ ฝึกฝนอยู่ที่นอกมหาสมุทรตามลำพังมาจนถึงทุกวันนี้ ครั้งนี้แค่กลับมายังแผ่นดินเฟิงหยวนครั้งแรกเท่านั้น ทว่าดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ข้าคล้ายกับพวกเจ้ามาก มิเช่นนั้นคงไม่ลงมือไล่คนของเผ่าแดงสดไป” ความคิดของหานลี่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ปากกลับเอ่ยอย่างราบเรียบออกมา
“อ่าๆ นายท่านไม่จำเป็นต้องสงสัย ท่านคือชนรุ่นหลังของเผ่าวิหคสวรรค์ที่ถูกละเลยอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอก แค่กลิ่นอายของวิหคสวรรค์ที่แผ่ออกมาก็เป็นของจริงอย่างแน่นอน และยิ่งไปกว่านั้นยังเข้มข้นขนาดนี้ พี่น่าจะเป็นชนรุ่นหลังสายตรงของเผ่าเรา มิเช่นนั้นตัวต่อวิญญาณเหล่านั้นไม่มีทางหานายท่าพบแน่” บุรุษของเผ่าวิหคสวรรค์นามว่าเฟิงเสี้ยวหัวเราะด้วยเสียงแหบแห้งขณะเอ่ย
“พี่ฝึกฝนความสามารถจากนอกมหาสมุทร ข้าก็ว่าเหตุใดถึงไม่ค่อยเหมือนพวกเรา” สตรีของเผ่าวิหคสวรรค์หน้าตางดงามผู้นั้นเอ่ยอย่างถึงบางอ้อ
“ใช่แล้ว อย่างอื่นยังหลอกลวงได้ แต่กลิ่นอายของวิหคสวรรค์ไม่มีทางผิดแน่ มิเช่นนั้นเผ่าเบญจธาตุต่างๆ ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับเราคงไม่อาจแยกแยะกันได้” บุรุษเผ่าวิหคสวรรค์วัยเยาว์เองก็เอ่ยออกมาพร้อมกลั้วหัวเราะ
หานลี่ได้ฟังคำพูดเหล่านี้จบ ก็รู้สึกผ่อนคลายลง ดูแล้วการหลอมขนของวิหคมัจฉาเส้นนั้นจะช่วยให้เขาปกปิดฐานะของตนเองได้ ครั้งนี้ถือว่าไม่ได้ลงมืออย่างเปล่าประโยชน์ เขาเอ่ยอย่างราบเรียบในทันที
“ในเมื่อเหล่าสหายมั่นใจขนาดนี้ ดูแล้วข้าก็น่าจะเป็นคนของเผ่าวิหคสวรรค์ไม่ผิดแน่ แต่เมื่อครู่ข้าได้ยินคำพูดของคนเผ่าแดงสด ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของเผ่าวิหคสวรรค์ครานี้จะไม่ค่อยดีนัก”
“เรื่องนี้นั้นพูดยาก เทียนหมิงอาจจะแค่ขู่ให้ตกใจ และอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับเผ่าจริงๆ มิเช่นนั้นแม้นว่าเผ่าวิหคสวรรค์ของพวกเราจะเป็นเผ่าที่ค่อนข้างอ่อนแอในบรรดาเจ็ดสิบสองสาขาของเผ่าวิญญาณเหาะเหิน พวกเขาเองก็ไม่กล้าแอบเข้ามาอย่างเปิดเผยและแย่งของไปเช่นนี้” เมื่อได้ยินคำพูดของหานลี่ เฟิงเสี้ยวพลันมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นอีกครั้ง