ฉับพลันนั้นเขาพลันหน้าเปลี่ยนสี เผยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา
“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้านั่น! จากความเร็วและจิตสัมผัสที่แข็งแกร่งของอีกฝ่าย ถูกระบุตำแหน่งเอาไว้แล้ว ต่อให้หนีก็คงไม่ทัน ยันต์ชำระพิสุทธิ์ เผชิญหน้ากับคนผู้นี้เกรงว่าก็คงไม่มีผล แต่กลิ่นอายของอีกฝ่ายอ่อนแอกว่าเดิมไม่น้อย ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บหนัก ตอนนั้นชิงหยวนจื่อใช้พลังของเขตอาคมมหากระบี่ทองคำที่มีพลังระดับหลอมสุญตาต่อกรกับผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ ถึงแม้ว่าพลังยุทธ์ของข้าจะไม่พอ แต่ต่อกรกับเจ้าผู้ที่พลังยุทธ์ลดลงเป็นอย่างมาก หากเตรียมตัวล่วงหน้าให้ดี ก็น่าจะกักอีกฝ่ายเอาไว้ได้ และยิ่งไปกว่านั้นตนเองก็มีอสนีอื่นๆ อยู่ ก็ไม่ใช่ว่าจะสู้ไม่ได้” หานลี่ขบคิดอย่างรวดเร็ว รู้สึกเสียใจที่แยกกับเยี่ยฉู่และหญิงสาวทั้งสองเร็วไปหน่อย มิเช่นนั้นก็คงไม่ต้องมาประสบกับอันตรายเช่นนี้
ทว่าถึงอย่างไรเสียหานลี่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นบนร่างอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ลำแสงหลีกหนีพุ่งลงไปด้านล่าง
หลังจากเปล่งแสงสว่างวาบสองสามครั้ง คนก็มาปรากฏตัวเหนือภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง
เขาสะบัดแขนเสื้อโดยไม่พูดอะไร ฉับพลันนั้นกระบี่เล่มเล็กสีทองเจ็ดสิบสองเล่มก็บินออกมา จากนั้นเขาพลันร่ายคาถากระตุ้น กลายเป็นกระบี่ลำแสงสีทองหลายร้อยสาย ทยอยกันอำพรางตัวไปทั้งสี่ทิศ
เขาวางเขตอาคมมหากระบี่ทองคำลงตรงนั้น
จากนั้นหานลี่ก็ลูบไปที่ท้ายทอย ลำแสงสีเทาผืนใหญ่พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ลำแสงนั้นสลายตัวออก กลายเป็นลำแสงสีเทาชั้นหนึ่งห่อหุ้มเขาเอาไว้ข้างใน ในเวลาเดียวกันเขาพลันสะบัดแขนเสื้ออีกด้าน หัวกะโหลกสีขาวห้าหัวพลันปรากฏขึ้นตรงหน้า พ่นเปลวเพลิงเย็นเยียบห้าชนิดออกมาพร้อมกัน จากนั้นก็หลอมรวมกับลำแสงสีเทาอยู่ภายนอก กลายเป็นเปลวเพลิงห้าสีกลุ่มหนึ่ง
หานลี่ที่อยู่ในนั้นสองมือพลันร่ายอาคม เปลวเพลิงลำแสงผนึกรวมกันแล้วเปลี่ยนรูปร่าง กลายเป็นวงแหวนลำแสงห้าสีหนาๆ วงหนึ่ง ล้อมรอบเขาเอาไว้และโคจรไปมาไม่หยุด
แทบจะในเวลาเดียวกันแผ่นหลังของหานลี่พลันมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ปีกขนนกสีเขียวขาวคู่หนึ่งพลันปรากฏขึ้น
หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จ หานลี่ถึงได้เอาสองมือไหล่หลัง จ้องเขม็งไปยังกลางอากาศที่ไกลออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
แทบจะในพริบตานั้น ไกลออกไปพลันมีลำแสงวิญญาณเปล่งแสงสว่างวาบ ลูกบอลลำแสงสีเงินกลุ่มหนึ่งพุ่งแหวกอากาศเข้ามา หลังจากกะพริบวาบสองสามครั้ง ก็ปรากฏตัวเหนือภูเขาที่หานลี่อยู่
ลำแสงหม่นแสงลง เผยเงาร่างคนที่มีลำแสงสีเขียวห่อหุ้มเรือนร่างปรากฏขึ้น ตรงเอวคาดเข็มขัดสีเงินอ่อนเอาไว้เส้นหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าเป็นพฤกษาวิญญาณระดับสูงอย่างระดับเงินผู้นั้นที่ปรากฏตัวในเผ่าใบดำ
รูม่านตาของหานลี่หดเล็กลง ชั่วพริบตาก็พิจารณาอีกฝ่ายสิบกว่ารอบ
ดูจากภายนอก พฤกษาวิญญาณระดับเงินผู้นี้ดูเหมือนกับตอนที่อยู่ในป่าใบดำทุกระเบียบนิ้ว แต่แรงกดบนร่างกลับน้อยลงไปกว่าครึ่ง ท่าทางได้รับบาดเจ็บจริงๆ
หานลี่พ่นลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง ในใจพลันรู้สึกผ่อนคลายลง
หากเขาคิดผิดไป อีกฝ่ายยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บล่ะก็ เขาคงหันหัวหนีเตลิดไปแล้ว ไม่มีทางรออยู่ที่นี่แน่
ทว่าคิดดูแล้วพฤกษาวิญญาณระดับเงินผู้นี้ได้รับบาดเจ็บหนักก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร
เยี่ยอิ่งที่กระตุ้นโลหิตวิญญาณเที่ยงแท้กลายเป็นจิตวิญญาณของหงส์สวรรค์นั้นน่ากลัวเพียงใด เขาได้เห็นกับตาตัวเองมาแล้ว ความสามารถเหนือกว่าพฤกษาวิญญาณระดับสูงผู้นี้นัก
ตอนที่ไล่ตามหญิงสาวทั้งสองก่อนหน้านี้ คงต้องต่อสู้กันยกใหญ่ ถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
แต่คนผู้นี้ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็ยังตามรอยเขาอย่างไม่ลดละจนมาถึงที่นี่ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
อีกฝ่ายยอมไม่สนใจเยี่ยอิ่งและพวก มาเลือกตนเอง กว่าครึ่งคงเป็นเพราะเคยพบกับความยากลำบากมาแล้ว จึงไม่กล้าตามทั้งสองไป แต่เพื่อไม่ให้กลับไปมือเปล่า จึงคิดจะเอาตนเองไปชดเชย
ชั่วพริบตาหานลี่ก็ขบคิดถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายตามตัวเองมาได้เจ็ดแปดส่วน แล้วรู้สึกกลัดกลุ้มในใจ
ดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นของพฤกษาวิญญาณระดับเงินกวาดมาบนเรือนร่างของหานลี่เช่นกัน โบกกำปั้นโจมตีโดยไม่คิดจะปริปากเลยสักนิด
เสียงแหลมๆ แหวกผ่านอากาศระเบิดขึ้น แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่พลันรู้สึกเพียงว่าพลังมหาศาลที่ไร้รูปร่างกระทบกับเครื่องป้องกันนอกกาย
วงแหวนลำแสงห้าสีสั่นคลอน ทันใดนั้นลำแสงสีเทาที่ห่อหุ้มอยู่พลันเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของหานลี่สั่นเทา ถอยหลังร่นไปสองสามก้าวอย่างไม่รู้ตัว สีหน้าเขียวคล้ำปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องสองสามครั้ง แล้วถึงได้ฝืนยืนให้มั่นคงได้
หานลี่หน้าเปลี่ยนสี
การโจมตีเมื่อครู่ของอีกฝ่ายอย่างน้อยที่สุดก็น่าจะมีพลังสองสามหมื่นชั่ง และเป็นเพราะร่างกายของเขาแข็งแกร่ง หากเป็นผู้บำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ คนอื่น ต่อให้มีพลังยุทธ์ระดับหลอมสุญตา หากไม่ทันป้องกันก็อาจจะได้รับบาดเจ็บได้
พฤกษาวิญญาณระดับเงินน่ากลัวกว่าในตำนานดังคาด
“เอ๋”
เงาสีเขียวที่อยู่ไกลออกไปพลันเปล่งเสียงร้องอุทานด้วยความประหลาดใจออกมา ดูเหมือนว่าจะประหลาดใจที่หานลี่รับการโจมตีได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ดูเหมือนจะรู้สึกว่าหานลี่รับมือกับการโจมตีได้อย่างไม่ยากลำบากอย่างที่คิดไว้ หลังจากแค่นเสียงด้วยความเย็นชาแล้ว ก็สาวเท้ายาวๆ ออกไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ลำแสงสีเงินที่แผ่ออกมาจากร่างพฤกษาวิญญาณผู้นี้กะพริบวาบราวกับภาพลวงตา มาอยู่ห่างจากหานลี่ไปแค่สิบจั้งเศษ ในเวลาเดียวกันเกราะพฤกษาสีเขียวชิ้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ผิวของมันเปล่งแสงสีเงินระยิบระยับ หนามแหลมที่สั้นยาวไม่เท่ากันจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ทำให้พฤกษาวิญญาณที่ดูเหมือนธรรมดาๆ เปลี่ยนเป็นโหดเ**้ยม
รูม่านตาของหานลี่หดเล็กลง ปีกที่แผ่นหลังกระพือ กลายเป็นประจุไฟฟ้าสีเขียวขาวสายหนึ่งแล้วหายวับไปจากที่เดิม
ครู่ต่อมาคนก็มาปรากฏห่างออกไปสามสิบจั้งเศษ เขาพลันใช้สองมือร่ายอาคม ปากพลันบริกรรมคาถา
พฤกษาวิญญาณไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย สาวเท้ายาวๆ เข้าไปอีกครั้ง คนเปล่งแสงสว่างวาบพุ่งเข้าไปหาหานลี่อีกครั้ง
แต่ทันใดนั้นเสียง “ฉับ” ก็ดังขึ้น ร่างของพฤกษาวิญญาณเปล่งแสงสว่างวาบห่างออกไปสิบจั้งเศษ เบื้องหน้ามีเส้นไหมสีทองเปล่งประกายเจ็ดแปดสายปรากฏขึ้นอย่างไม่มีเค้าลางมาก่อน เปล่งแสงสว่างวาบแล้วสับลงมา
พฤกษาวิญญาณตะลึงงัน ลำแสงสีเขียวพลันเปล่งแสงสว่างวาบบนนิ้วทั้งห้า แล้วพลิกฝ่ามือตะปบออกไปอย่างไม่ต้องขบคิด
ผลคือได้ยินเพียงเสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวโจมตีไปบนเส้นไหมสีทอง ลำแสงวิญญาณตัดสลับกัน ทั้งสองซัดเข้าหากันอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน
พฤกษาวิญญาณพลันมีสีหน้าประหลาดใจหายแวบผ่าน นิ้วทั้งห้าอีกมือกางออก ปล่อยลำแสงสีเขียวห้าสายออกมาคิดจะเข้าร่วมการโจมตี
แต่ในตอนนั้นเอง ลำแสงสีทองที่อยู่รอบๆ พลันเปล่งแสงสีทองสว่างวาบ เส้นไหมสีทองเป็นสายๆ ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นพลันกะพริบวาบ ปรากฏตัวห่างจากพฤกษาวิญญาณไปแค่คืบ พัวพันเข้าด้วยกันอีกครั้ง คิดจะสับพฤกษาวิญญาณออกเป็นชิ้นๆ
เส้นไหมสีทองเหล่านี้เปล่งแสงสว่างวาบอย่างรวดเร็ว พฤกษาวิญญาณไม่ทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าก็ไม่ยอมตกอยู่ในอันตราย ร่างกายบิดพลิ้ว ด้านหลังห่างออกไปเจ็ดแปดจั้งมีเงาสีเขียวที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏขึ้น
เส้นไหมที่อยู่รอบๆ เปล่งแสงสว่างวาบ สับพฤกษาวิญญาณที่อยู่ตรงที่เดิมออกเป็นชิ้นๆ และทันใดนั้นก็สลายหายไป กลับเป็นแค่เงาลวงตาสายหนึ่งเท่านั้น
ครานี้พฤกษาวิญญาณระดับเงินถึงได้พบว่า ไม่ใช่แค่เส้นไหมสีทองที่อยู่เบื้องหน้า จุดที่ไกลออกไปรอบๆ ด้านต่างมีสิ่งที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏขึ้นจำนวนมาก
เส้นไหมสีทองเหล่านี้เปล่งแสงเจิดจ้า เข้ามาล้อมรอบจุดที่เขายืนอยู่
“เขตอาคมกระบี่!” เสียงประหลาดใจหลุดออกมาจากปากของพฤกษาวิญญาณ
แต่ทันใดนั้นมือของเขาพลันประกบเข้าหากัน ใจกลางมีลำแสงสีเงินเจิดจ้าปรากฏขึ้น แยกมือออกจากกัน ชั่วขณะนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้น เส้นไหมสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากทั่วทุกสารทิศ โจมตีไปยังเส้นไหมกระบี่ที่โผเข้ามาอย่างหนาแน่น
เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น เส้นไหมสีทองและลำแสงสีเงินพัวพันเข้าด้วยกัน เกิดเป็นระเบิดลำแสงสีทองและเงินสองสี
และไม่รู้ว่าลำแสงสีเงินเหล่านี้คือความสามารถชนิดใดของพฤกษาวิญญาณ คาดไม่ถึงว่าจะโจมตีจนเส้นไหมสีทองแหลกออกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับว่ามีอานุภาพมากกว่าเขตอาคมกระบี่อย่างไรอย่างนั้น
ร่างของพฤกษาวิญญาณพลิ้วไหว กลายเป็นเงาสีเขียวสายหนึ่งพุ่งออกมา คิดจะอาศัยโอกาสนี้หนีออกจากเขตอาคมกระบี่
คู่ควรกับระดับเงิน พฤกษาวิญญาณเพิ่งจะเคลื่อนไหว ครู่ต่อมาก็มาปรากฏตัวห่างออกไปห้าสิบหกสิบจั้ง เมื่อเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก็ทะลุผ่านเขตอาคมกระบี่ออกมาได้จริงๆ
แต่ในตอนนั้นเอง เบื้องหน้าพลันมีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น หานลี่ที่รอบกายมีประจุไฟฟ้าสีเขียวขาวพลันรัดร่างอยู่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ขยับแขนอย่างไม่เกรงใจ หลังจากเสียง “สวบๆ” ดังขึ้น กำปั้นสีดำและขาวก็พุ่งแหวกผ่านอากาศมา อานุภาพน่าตกใจ
พฤกษาวิญญาณไม่ทันได้คิดมาก ร่างกายไม่หยุดยั้งเลยสักนิด แต่สองแขนพลันเคลื่อนไหว ลำแสงสีเขียวสิบสายเปล่งแสงสว่างวาบพัวพันกัน กลายเป็นกรงเล็บลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปหากำปั้นเงา
เสียง “ตูมๆ” ดังสนั่นขึ้น กำปั้นเงาและกรงเล็บลำแสงปะทะกัน เสียงอึกทึกสั่นโสตประสาทหูพลันดังขึ้น เงาร่างคนสองสายเซถลาลอยไปด้านหลังพร้อมกัน
เมื่อพฤกษาวิญญาณกลับมายืนได้อย่างมั่นคงด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้ว ก็มองไปทางเขตอาคมกระบี่อีกครั้ง เส้นไหมสีทองบางๆ แต่เดิมที่หายวับไปพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง แล้วสับลงมาหาเขาอีกครั้ง
ภายใต้ความจนปัญญา นางจึงทำได้เพียงพลิ้วไหวร่างกายถอยออกไปจากที่เดิมอีกครั้ง แต่สายตากลับเต็มไปด้วยแววตาอาฆาต
พฤกษาวิญญาณระดับเงินผู้นี้รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่า ดูเหมือนว่าครานี้ตนเองไม่ควรจะมาไล่ตามมนุษย์ผู้บำเพ็ญเพียรผู้นี้เลย
เหมือนกับนางคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิด เวลาต่อมา พฤกษาวิญญาณเรียกความสามารถออกมาอีกสองสามชนิด แต่ทุกครั้งก็จะถูกเขตอาคมกระบี่ทำลายไป และถูกหานลี่ใช้สมบัติและกำปั้นคู่นั้นโจมตีจนล่าถอยไป
และในช่วงเวลาที่ล่าช้านั้น เส้นไหมกระบี่ที่หายวับไปก็ทยอยกันมาเหมือนเดิม กระตุ้นอานุภาพของเขตอาคมกระบี่อีกครั้ง
จากร่างกายที่แข็งแกร่งและพลังมหาศาลของหานลี่ในตอนนั้น ถึงแม้ว่าเผ่าพฤกษาวิญญาณจะมีร่างกายแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อาจสะบัดหานลี่ให้หลุด และพุ่งออกจากเขตอาคมกระบี่ได้
แน่นอนว่าพฤกษาวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บหนักผู้นี้ มีพลังเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น มิเช่นนั้นหากพฤกษาวิญญาณผู้นี้ยอมเสียปราณแท้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักสำแดงเคล็ดวิชาเฉพาะสักสองสามชนิด หานลี่ก็ไม่อาจขัดขวางได้
ทว่าครานี้พลังเขตอาคมมหากระบี่ทองคำของหานลี่ ทำให้พฤกษาวิญญาณผู้นี้ติดแหง็กอยู่ในนี้จริงๆ
ครานี้กระบี่เส้นไหมจำนวนนับไม่ถ้วนในเขตอาคมกระบี่ผสานเข้าด้วยกับ แววตาของพฤกษาวิญญาณผู้นี้เปล่งประกายสว่างวาบ เห็นได้ชัดว่ารู้ว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่แล้วเช่นกัน ฉับพลันนั้นพลันยืนอยู่ตรงกลางเขตอาคมกระบี่ไม่ขยับเขยื้อนอีก มีแค่เกราะพฤกษาบนร่างของเขาที่ยังคงมีลำแสงสีเงินไหลเวียนโคจรไปมาไม่หยุด หนามแหลมๆ ทั้งหมดเปล่งเสียงร้องครวญต่ำๆ ออกมา และเริ่มสั่นเทาเบาๆ
หานลี่พลันตกตะลึง ร่างกายเปล่งแสงสีเขียวออกมา กระตุ้นเขตอาคมกระบี่อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิด
และในตอนนั้นเองกลางพฤกษาวิญญาณที่อยู่กลางเขตอาคมกระบี่พลันชูคอขึ้น ปากเปล่งเสียงร้องแหลมๆ ออกมา เกราะสงครามบนร่างของเขาสั่นเทา หนามสีเงินด้านบนกลายเป็นลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา
ลำแสงสีเงินสว่างวาบ พุ่งออกมาหนาแน่น ราวกับไม่มีที่สิ้นสุดอย่างไรอย่างนั้น
ครานี้กลางเขตอาคมกระบี่ทั้งหมดพลันมีเสียงแหวกอากาศดังขึ้น ทันใดนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้นไม่หยุด ลำแสงสีทองและเงินระเบิดออกจนกลืนกินทุกอย่างไป
หานลี่มองเห็นฉากนั้นพลันสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเข้าไปเฮือกหนึ่ง
และในขณะที่ยังไม่จบนั้น พฤกษาวิญญาณที่พ่นหนามสีเงินออกมาไม่หยุดนั้น ร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้น ผิวเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต ต้นไม้โบราณสูงประมาณสิบจั้งต้นหนึ่งปรากฏขึ้นที่แผ่นหลังของพฤกษาวิญญาณ กิ่งไม้และใบไม้งอกออกมาไม่หยุด แผ่ขยายไปทั่วทั้งสี่ทิศ