A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน – ตอนที่ 1703 สวนสมุนไพร

ทว่าเขตอาคมลวงตาของจัตุรัสนี้นั้นไม่ธรรมดา หากทั้งสองไม่มีฝีมือ ก็ไม่อาจผ่านมาได้ในระยะเวลาอันสั้น

แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น เวลาที่เหลือก็มีไม่มากนัก มากสุดก็คือให้เขาค้นหาได้อีกที่หนึ่ง

หานลี่ขบคิดเช่นนั้น สายตากวาดมองวิหารข้างอีกสองหลังสองสามครา ท่าทางตัดสินใจไม่ถูก

ฉับพลันนั้นแววตาของเขาพลันเปล่งประกาย มองไปยังหอคอยที่อยู่ด้านหลังวิหารหลัก

ที่นั่นมีต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี กลิ่นพฤกษาเข้มข้นปกคลุมไว้กว่าครึ่ง และยิ่งไปกว่านั้นหลังจากสายลมอ่อนพัดโชยมา กลิ่นหอมของสมุนไพรก็ลอยปะปนมาด้วย

หานลี่พ่นลมหายใจยาวๆ เฮือกหนึ่ง อดที่จะเอ่ยพึมพำกับตัวเองว่า “เจ้าโง่” ไม่ได้

สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรแล้วสวนสมุนไพรย่อมเป็นสถานที่ที่ต้องมีในถ้ำพำนักทุกหลัง แม้ว่าที่นี่จะเป็นที่อยู่ของเซียน คิดดูแล้วก็ต้องมีสวนสมุนไพรแน่

ส่วนสมบัติอื่นๆ นั้นต่อให้ดีเลิศขนาดไหน จะไปเทียบกับสมุนไพรที่แดนเซียนมีอยู่ได้อย่างไร

ขอแค่หาสมุนไพรที่เหมาะสมพบ เขามีขวดลึกลับอยู่ในมือ ก็เพียงพอจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้แล้ว ดีกว่าสมบัติใดๆ เป็นร้อยเท่า

ดูจากไกลๆ สวนแห่งนี้น่าจะอยู่ตรงใจกลางของหอคอย

หลังจากที่คิดออกแล้ว หานลี่ก็ไม่ลังเลใดๆ อีก ทันใดนั้นก็พาหุ่นเชิดวานรยักษ์กลายเป็นควันสีเขียวอ่อนพุ่งตรงไปยังด้านหลังวิหารหลัก

จากความเร็วที่น่ากลัวของกายเนื้อหานลี่ หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยน้ำชา ก็เข้ามาในบริเวณหอคอย

แม้จะไม่รู้ว่าสวนสมุนไพรอยู่ตรงไหนกันแน่ แต่จุดที่มีไอวิญญาณเข้มข้นที่สุดก็แยกแยะได้ง่ายมาก

เขาไม่สนใจสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ระหว่างทาง หลังจากกะพริบวาบสองสามหน ก็มาถึงที่ราบใจกลางหอคอยทั้งสาม

ที่นี่เป็นสวนขนาดสองสามหมู่ กลิ่นหอมจางๆ แผ่ออกมาจากด้านใน

ทว่าทั้งสวนสมุนไพรล้วนถูกเสาสีม่วงทองทั้งห้าล้อมเอาไว้ ม่านลำแสงห้าสีห่อหุ้มมันลงมา

หานลี่มองเห็นฉากนี้ ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

เขตอาคมนี้ไม่เหมือนกับเขตอาคมง่ายๆ ที่ประตูห้องลับ แค่มองก็รู้ว่าเป็นเขตอาคมขนาดใหญ่ที่รับมือได้ยาก

แต่สำหรับเขตอาคมป้องกันตัวนั้น เขากลับมั่นใจในตนเองอยู่หลายส่วน

ทันใดนั้นเขาพลันครุ่นคิดเล็กน้อย มือหนึ่งพลันร่ายอาคม อ้าปากออก พ่นดวงแสงเพลิงสีเงินออกมา

ท่ามกลางลำแสงสีเงิน พลันมีเสียงร้องอันไพเราะดังขึ้น

ดวงแสงเพลิงเปล่งแสงสีเงินสว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นวิหคสีเงินบินออกมา

นั่นก็คือวิหคกลืนวิญญาณ

วิหคตัวนี้เชี่ยวชาญการกลืนกินพลังวิญญาณมากที่สุด สำหรับการทลายเขตอาคมประเภทนี้ ย่อมมีประโยชน์ในจุดที่คิดไม่ถึง

“ไป”

หานลี่ชี้ไปที่ม่านลำแสงห้าสีตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ ปากก็ออกคำสั่ง

ชั่วขณะนั้นวิหคเพลิงสีเงินพลันสยายปีกออก กลายเป็นลำแสงสีเงินกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา

เสียง “ปัง” ดังขึ้น!

ม่านลำแสงห้าสีสั่นเทาเล็กน้อย

จากนั้นเปลวเพลิงสีเงินและหมอกลำแสงก็ตัดสลับกันไปมา เปล่งเสียงระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง

ผิวของวิหคสีเงินมีเปลวเพลิงหมุนวนโคจร บางครั้งก็พุ่งออกมารอบๆ ด้าน หมอกลำแสงห้าสีที่สัมผัสกับมันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป ถูกกลืนไปอย่างไร้ร่องรอย

ม่านลำแสงค่อยๆ บางลงในพริบตา

หานลี่เห็นฉากนี้ชั่วขณะนั้นพลันเผยสีหน้ายินดีออกมา

เขตอาคมที่เซียนทิ้งเอาไว้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ดีเท่าใดนัก ง่ายดายกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

ขณะที่เขากำลังคิดจะกระตุ้นพลานุภาพของวิหคเพลิงอยู่นั้น เสาสีม่วงทองทั้งห้าต้นที่อยู่รอบด้านกลับเปล่งเสียงหึ่งๆ ออกมา จากนั้นลำแสงพลันเจิดจ้าขึ้น พ่นเสาลำแสงหนาๆ ออกมา เปล่งแสงสว่างวาบ แล้วทยอยกันจมหายเข้าไปในม่านลำแสง

ม่านลำแสงที่เดิมอ่อนแอพลันเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วกลับมาเป็นดังเดิมทันที

หานลี่เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น สีหน้าก็อดที่จะเคร่งขรึมไม่ได้

นิ้วทั้งสิบร่ายอาคมอย่างไม่ต้องขบคิด ปากพลันบริกรรมคาถา

ฉับพลันนั้นคำว่า “ขยาย” ก็พ่นออกมาจากปากของเขา

วิหคกลืนวิญญาณที่เดิมมีขนาดสองสามฉื่อ พลันแววตาเปล่งประกายโหดเหี้ยม ปีกทั้งสองสยายออกพุ่งไปกลางอากาศ จากนั้นพลันหมุนวน แล้วขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

แค่พริบตานั้นวิหคสีเงินยักษ์ขนาดสองสามจั้งก็ปรากฏขึ้นเหนือม่านลำแสงห้าสี

ชูคอส่งเสียงเพรียก ปีกสีเงินยักษ์กระพือไปด้านล่าง

เสียงแหวกอากาศดัง “ฟับๆ” ขนนกสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นดวงแสงเพลิง โจมตีลงมาราวกับห่าฝน

เสียงอึกทึกดังกว่าครึ่งของท้องฟ้า เปลวเพลิงแผดเผาปกคลุมทั้งหมดเอาไว้ข้างใน

แม้ว่าจะมีเสาห้าตนบรรจุพลังวิญญาณเบญจธาตุออกมาไม่หยุด แต่ม่านลำแสงนี้ก็ยังคงสั่นเทาอย่างรุนแรง

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้นวิหคยักษ์สีเงินกลับเก็บปีกทั้งสองข้าง ร่างกายหมุนวน คาดไม่ถึงว่าจะปล่อยลำแสงสีเงินออกมาแล้วกลายเป็นดวงแสงเพลิงขนาดยักษ์ พุ่งลงมาราวกับดาวตก

เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นพลันดังขึ้น!

ม่านลำแสงห้าสีไม่อาจต้านทานได้อีก ผิวของมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

หานลี่เห็นเช่นนั้นพลันรู้สึกดีอกดีใจ แววตาเปล่งประกาย เตรียมรอให้ม่านลำแสงนั้นพลังทลายในครู่ต่อมา แล้วพุ่งเข้าไปในสวนสมุนไพรทันที

แต่ความคิดของเขานั้นง่ายเกินไป

เสาลำแสงสีม่วงทองห้าต้นหยุดพ่นเสาลำแสง ครู่ต่อมาก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น สายฟ้าเปล่งแสงสว่างวาบ ประจุไฟฟ้าสีม่วงปรากฏขึ้น

เมื่อเห็นประจุไฟฟ้านี้หานลี่พลันมีสีหน้าดูไม่ได้ สายตากวาดไปยังม่านลำแสงห้าสีที่ใกล้จะพังทลายลงอีกครั้ง ทันใดนั้นพลันกัดฟัน ไม่เพียงไม่ยอมหลบหลีก บนร่างกลับมีไอสีดำหมุนวน เกราะมารเหนือฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง และยิ่งไปกว่านั้นพลังวิญญาณในร่างพลันบรรจุเข้าไปในเกราะอย่างบ้าคลั่ง

อักขระสีดำบนเกราะมารทยอยกันบินออกมา วนล้อมรอบหานลี่ไปมาไม่หยุด ปกป้องเขาไว้อย่างแน่นหนา

เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น ประจุไฟฟ้าสีทองบางๆ จำนวนนับไม่ถ้วนดีดออกมา กลายเป็นตาข่ายสีทองห่อหุ้มเขาเอาไว้

มือข้างหนึ่งตะปบไปกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นยันต์ตั้งหนึ่งพลันปรากฏขึ้น แล้วพุ่งมายังเรือนร่าง

หลังจากกะพริบวาบ เกราะลำแสงหลากสีสันสองสามชั้นก็ปรากฏขึ้นด้านนอกประจุไฟฟ้า

ยามนี้หานลี่แค่สะบัดแขนเสื้อ ภูเขาเทวะดูดปราณพลันบินออกมาจากแขนเสื้อ

ถูกร่ายอาคมกระตุ้น จนมีขนาดยักษ์สิบกว่าจั้ง ถูกต้านทานไว้เบื้องหน้าราวกับโล่ยักษ์

แม้ว่าประจุไฟฟ้าสีม่วงจะร้ายกาจมาก เขาก็ไม่เชื่อว่าพลังอัสนีเหล่านี้จะหลอมละลายภูเขาลูกนี้ได้

แทบจะในเวลาเดียวกันที่หานลี่เพิ่งทำการเสร็จ เสาสีม่วงทองห้าต้นก็เปล่งเสียงอัสนีฟ้าฟาดออกมาพร้อมกัน

ประจุไฟฟ้าสีม่วงขนาดเท่าปากถ้วยห้าสายดีดตัวออกมา และรวมตัวกันกลางอากาศ คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นดวงแสงอัสนียักษ์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางครึ่งจั้ง พุ่งเข้ามาโจมตีหานลี่อย่างดุดัน

หานลี่เห็นขนาดของดวงแสงอัสนีสีม่วง สีหน้าพลันเขียวคล้ำ แต่เขาก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน ปากกลับร้องตะโกนออกมา ฝ่ามือข้างหนึ่งตบไปบนยอดเขาสีดำตรงหน้า

ชั่วขณะนั้นอักขระสีเงินบนผิวพลันเปล่งแสงสว่างวาบ ม่านลำแสงสีเทาชั้นหนึ่งม้วนวนออกมาจากภูเขา ตรงเข้าไปหาดวงแสงอัสนีสีม่วงฝั่งตรงข้าม

ครู่ต่อมาทั้งสองก็ปะทะเข้าด้วยกัน

เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นขึ้น ม่านลำแสงสีเทาทำได้เพียงทำให้ดวงแสงอัสนีสั่นไหว แล้วถูกฉีกออก คาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจต้านทานได้นานนัก

นั่นก็ไม่แปลก!

แม้ว่าลำแสงเทวะดูดปราณจะมหัศจรรย์ แต่ตัวของมันก็มีประโยชน์แค่กับพลังเบญจธาตุ

เมื่อต่อกรกับพลังอัสนีลึกลับของแดนเซียน แน่นอนว่าย่อมมีประโยชน์ไม่มากนัก

ทันใดนั้นดวงแสงอัสนีสีม่วงพลันขยับ หมายจะปะทะเข้ากับยอดเขาสีดำ

หานลี่เห็นเหตุการณ์เช่นนั้นมุมปากพลันหยักขึ้น

ภูเขาเทวะดูดปราณในยามนี้ ไม่ได้มีเพียงพลังเทวะดูดปราณเพียงอย่างเดียว

ฝ่ามือที่เขากดลงไปบนยอดเขาเปล่งแสงสีเขียวออกมา เก็บอาคมสายหนึ่งเข้าไป ชั่วขณะนั้นเหนือยอดเขาสีดำพลันมีอักขระสีเงินปรากฏขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นยังหมุนวน และกลายเป็นหลุมดำขนาดเท่ากำปั้นสองสามหลุม ชั่วครู่ก็ต้านทานอยู่ด้านหน้ายอดเขา

หลังจากที่ดวงแสงอัสนีสีม่วงเปล่งแสงสว่างวาบก็ปะทะเข้ากับหลุมดำ และเปล่งแสงสว่างวาบ ราวกับว่าไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด

หานลี่มีแววตาเคร่งขรึม แต่กลับมองเห็นอย่างชัดเจน ดวงแสงอัสนีที่แต่เดิมมีเส้นผ่าศูนย์กลางครึ่งจั้งทะลวงผ่านหลุมดำไป ขนาดใหญ่กว่าหนึ่งในสาม

แต่ไม่รอให้เขาคิดอันใด

ดวงแสงอัสนีพลันโจมตีไปที่ยอดเขาสีดำ ชั่วขณะนั้นพลันเปล่งเสียงดังสนั่นขึ้น

ภายใต้ลำแสงอัสนีสีม่วง พลันมีเสียง “ครืดๆ” ดังขึ้น อสรพิษไฟฟ้าสีม่วงสองสายอ้อมยอดเขาทั้งสองฝั่ง แล้วพุ่งมาหาหานลี่อย่างชาญฉลาด

เสียง “ครืดๆ” ดังขึ้น เกราะลำแสงสองสามชั้นภายนอกสุด สัมผัสกับอสรพิษสีม่วงสองสาย ก็ทยอยกันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป คาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจต้านทานได้เลยสักนิด

หานลี่พลันหางตากระตุก แต่มือพลันโบกสะบัดไปด้านหน้า

ตาข่ายสายฟ้าสีทองพลันดีดตัวออกจากเรือนร่าง และตรงม้วนไปทางสายฟ้าสีม่วงสองสาย

และในยามนั้นเองเสียงแหวกอากาศพลันดังขึ้น

หานลี่ได้ยินเสียงนี้ แทบจะพลิ้วกายไปอย่างไม่ต้องขบคิด แล้วพาเงาเป็นสายๆ กระโจนออกไป

คาดไม่ถึงว่าจะเป็นม่านลำแสงห้าสี ในที่สุดภายใต้วิหคเพลิงสีเงินที่บ้าคลั่งก็แตกสลายออก

แต่ประจุไฟฟ้าสีม่วง ทองสองสีพลันตัดสลับกันไปมา สายฟ้าสองสายระเบิดออก

ชั่วพริบตาลำแสงสีม่วงก็กลืนกินลำแสงสีทองจนไปเกลี้ยง

อานุภาพการระเบิดมหึมาม้วนเอาพายุหมุนมาด้วย พาเส้นไหมสายฟ้าสีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนมาด้วย แค่หมุนวนก็ห่อหุ้มร่างของหานลี่เอาไว้

หานลี่พลันใจหายวาบ พลันต้องหยุดลง

เสียงอึกทึกพลันดังขึ้น!

ชั่วพริบตานั้นอักขระสีดำพลันปริแตก กลายเป็นไอสีดำและตาข่ายไฟฟ้าสีม่วงตัดสลับกันไปมา แล้วทยอยกันระเบิดออกพลางหายวับไป

ครู่ต่อมาเงาลวงตาสีทองสามเศียรหกกรพลันทะลักออกมาจากไอสีดำ สองแขนแค่โบกสะบัด ลำแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนก็พ่นออกมาฝ่ามือทั้งหก การโจมตีด้วยพายุหมุนร่วงลงมา

ฉากที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งพลันปรากฏขึ้น

เกราะมารบนร่างของหานลี่มีหนามแหลมๆ งอกออกมาสองสามแท่ง เหนือศีรษะมีลำแสงสีดำสนิทเปล่งแสงสว่างวาบ พ่นเสาลำแสงสีดำขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา

ในที่สุดเมื่อพายุหมุนถูกการโจมตีทั้งสองชนิดทำการโจมตีก็ส่งเสียงคร่ำครวญแล้วสลายหายไป

แต่ในยามนั้นเองเสาสีม่วงทั้งห้าก็เปล่งเสียงร้อง หมอกลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งแสงสว่างวาบ ถึงแล้วได้แหวกม่านลำแสงออกมาแล้วกลับคืนสู่เหนือสวนสมุนไพรเหมือนเดิม

หานลี่คิดจะหยุดลง แต่กลับไม่ทันแล้ว ทะลวงเข้าไปในหมอกลำแสงห้าสี

เสียงฟ้าร้องดังขึ้นรอบด้านอีกครั้ง ผิวของเสาทั้งห้าต้นเปล่งแสงอัสนีสว่างวาบ สายฟ้าสีม่วงพันรัดไปมาเป็นสายๆ จากนั้นเสียงฟ้าผ่าพลันดังขึ้นสองสามครั้ง กลายเป็นอสรพิษสายฟ้าสีม่วงพุ่งออกมา

หานลี่พลันหน้าซีดเผือด

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

Type: Author: ,
เจ้าบื้อที่สอง หานลี่ เด็กหนุ่มธรรมดาสามัญผู้ได้รับวาสนาให้ไปเข้าทดสอบเป็นศิษย์ในสำนักเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทำให้เขาได้รู้จักกับโลกใบใหม่ที่หนุ่มน้อยชนบทอย่างเขาใฝ่ฝันอยากสัมผัสกับมันมาโดยตลอด ในโลกแห่งเซียน เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรต่างฝึกฝนค้นหาเส้นทางเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นนิรันดร์ ทว่าเส้นทางที่แม้กระทั่งผู้บำเพ็ญเพียรซึ่งมีพรสวรรค์สูงส่งแต่กำเนิดยังต้องผ่านความยากลำบากเท่าไหร่กว่าจะไปถึงจุดนั้น แล้วเด็กหนุ่มปุถุชนเช่นเขาจะทำได้หรือ? ด้วยความสามารถอันธรรมดาสามัญของเขาจะเอาตัวรอดในโลกแห่งเซียนนี้ไปได้อย่างไร? เส้นทางแห่งความสำเร็จช่างอยู่ห่างไกลเสียเหลือเกิน… คัมภีร์วิถีเซียนเป็นนิยายจีนย้อนยุคเล่าเรื่องการเดินทางอันน่าติดตามของหานลี่ ผู้ต้องใช้ทั้งไหวพริบและพลังยุทธ์ในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ด้วยตัวคนเดียว มาร่วมเดินทางไปกับหานลี่ ผู้เย้ยฟ้าท้านรกเพื่อแสวงหาเส้นทางแห่งการเป็นเซียนด้วยกันเถอะ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset