A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน – ตอนที่ 2074 หมู่บ้านควันหอม

“นี่คือยอดเขาทรายเหล็ก! ดูแล้วพิเศษจริงๆ ไอมารหนาแน่นกว่าที่อื่น เกรงว่าที่นี่คงเป็นแหล่งกำเนิดของอสูรมารจำนวนไม่น้อยสินะ” หานลี่ยืนอยู่ตรงส่วนหน้าของสำเภาเหาะ มองยอดเขาที่อยู่ไกลลิบๆ แล้วเอ่ยพึมพำด้วยท่าทีครุ่นคิด

“เดิมเผ่าหงส์มรกตก็เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาควบคุมอสูร ยอดเขาทรายเหล็กเป็นหนึ่งในที่พำนักของเผ่ามัน สามารถสร้างอสูรมารให้แก่เผ่าหงส์มรกตไม่หยุด มิเช่นนั้นคนในเผ่ามีไม่มากจะควบคุมพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร” หญิงสาวสวมชุดขนนกยืนอยู่ด้านหลังหานลี่ แล้วเอ่ยปากต่อ

“เคล็ดวิชาควบคุมอสูร เผ่าหงส์มรกตอาศัยพลังภายนอก เกรงว่าพลังยุทธ์คงไม่เท่าไหร่” หานลี่ตอบกลับด้วยรอยยิ้มบางๆ

“เผ่าหงส์มรกตทั่วไปอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าหลักในแผนของพวกเรา เกรงว่าคงไม่อ่อนแอ ถึงอย่างไรเสียชีพจรโลหิตหงส์มรกตก็มีชื่อเสียงไม่หลอกลวง” หญิงสาวสวมชุดขนนกได้ยิน กลับเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา

“ในเมื่อพวกเราต่อสู้ได้แม้กระทั่งร่างแยกของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้ชนเผ่าหลักเหล่านั้นมีฝีมืออันใดก็คงไม่มีค่าอันใด กลับเป็นวิธีการอยู่อาศัยของเผ่าหงส์มรกตที่มีปัญหา คาดไม่ถึงว่าจะรวมตัวกันเป็นหมู่บ้าน หากอยากจะหาเป้าหมายที่เหมาะสมในการลงมือก็ยุ่งยากหน่อย” หานลี่ยังคงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

“เป็นเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือพวกเราไม่อาจรั้งรออยู่ที่นี่นานได้ มากสุดก็ใช้เวลาได้แค่สองสามเดือน มิเช่นนั้นจะไปรวมตัวไม่ทัน” หญิงสาวสวมชุดขนนกรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

“ขอแค่ไม่โชคร้ายนัก หนึ่งเดือนก็น่าจะเพียงพอ และยิ่งไปกว่านั้นท่านเซียนไม่ได้พกอาวุธสัมผัสวิเศษมาหรือ ขอแค่เข้าใกล้เป้าหมายในระยะสิบลี้ ย่อมสัมผัสได้” หานลี่เอ่ยอย่างราบเรียบ

“กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ผิด แต่ชนเผ่าหลักของเผ่าหงส์มรกตจะต้องถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนา เกรงว่าคงไม่อาจเข้าใกล้ได้ง่ายๆ หากพบกับหมู่บ้านขนาดใหญ่ ไม่แน่ว่าอาจจะทำได้เพียงเสี่ยงแอบเข้าไปเท่านั้น” หญิงสาวสวมชุดขนนกเผยท่าทีขบคิดเอาไว้ตั้งนานออกมา แล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“ขอแค่ดวงไม่แย่จนเข้าไปยังที่ที่บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หลิงหยวนนั่งบัญชาการอยู่ เจ้ากับข้าแอบเข้าไปในหมู่บ้านก็น่าจะไม่ใช่ปัญหา” หานลี่หัวเราะน้อยๆ ออกมา

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นกระมัง น่าเสียดายไม่ทราบว่าร่างแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หลิงหยวนซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่ มิเช่นนั้นขอแค่หลบหลีกไปให้ไกล ความเสี่ยงก็ลดลงแล้ว” หญิงสาวสวมชุดขนนกเอ่ยอย่างรู้สึกเสียใจเล็กๆ

“ผู้แซ่หานเองก็หวังว่าจะไม่ไปรบกวนร่างแยกบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ แต่สุดท้ายจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ลิขิตสวรรค์ ในเมื่อพวกเราอยากได้ประโยชน์จากแผนการนี้ เสี่ยงหน่อยก็เป็นเรื่องที่สมควร ถึงอย่างไรเสียในใต้หล้าก็ไม่มีอาหารกลางวันให้กินฟรีอยู่แล้ว” หานลี่เอ่ยอย่างไม่คิดเช่นนั้น

“จุ๊ๆ หากมีแค่น้องคนเดียวย่อมขี้ขลาด แต่หากมีพี่หานคอยช่วย ก็คงไม่เป็นไร ยามนี้พวกเราเข้าไปในยอดเขาทรายเหล็กกันเถิด แต่ยามที่เข้าไปไม่อาจควบคุมอาวุธมารชิ้นนี้ได้ เจ้ากับข้าทำได้เพียงต้องแอบเข้าไป” หญิงสาวสวมชุดขนส่งเสียงจุ๊ๆ ออกมาพลางประจบหานลี่หนึ่งประโยค แล้วเอ่ยพลางชี้ไปยังยอดเขาที่อยู่ไกลออกไป

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” หานลี่พยักหน้าย่อมไม่มีความเห็นใด และชิงบินลงจากสำเภาเหาะไป

ส่วนหญิงสาวสวมชุดขนนกพลันร่ายอาคม ชั่วพริบตาสำเภาเหาะใต้ฝ่าเท้าก็หดเล็กลงท่ามกลางลำแสงสีดำ จนมีขนาดเท่าฝ่ามือบินเข้ามาในมือของนาง

หลังจากที่ทั้งสองคนปรึกษาอันอีกครั้ง ก็แยกกันเป็นสายรุ้งสองสายบินเข้าไปในยอดเขาที่อยู่ไกลออกไป

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ ทั้งสองก็หายไปจากยอดเขาอย่างไร้ร่องรอย

……

ห้าวันต่อมาหานลี่ก็บินผ่านสองฝั่งของหุบเขาที่สูงชันไป ลำแสงหลีกหนีรวดเร็วมาก และยิ่งไปกว่านั้นยังรางเลือน เปล่งแสงสว่างวาบแล้วบินออกมายี่สิบสามสิบจั้ง

รอบๆ ไม่มีเงาของลำแสงหลีกหนีอีก หญิงสาวสวมชุดขนนกก็ไม่ได้อยู่ข้างกายเขา

เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่ทั้งสองเข้ามาในยอดเขาแล้วต่างก็แยกกันปฏิบัติการ

หลังจากนั้นไม่นานปลายยอดเขาอีกด้านกลับเห็นหานลี่บินแฉลบผ่านไปรางๆ ฉับพลันนั้นภายในถ้ำหินสองสามแห่งตรงสองฝั่งของหน้าผาก็มีเสียงเพรียกที่ยากจะฟังดังขึ้น

จากนั้นวิหคมารขนาดยักษ์สีเขียวมรกตสิบกว่าตัวก็บินออกมา และกระโจนลงไปหาหานลี่อย่างดุดัน

วิหคมารเหล่านั้นสยายปีกออกมา ขนาดประมาณห้าหกจั้ง เปลวเพลิงสีเหลืองเข้มในดวงตาทั้งสองเปล่งประกาย ราวกับว่าเป็นอีแร้งหัวโล้นขนาดยักษ์กว่าปกติยี่สิบสามสิบเท่า

หานลี่ที่อยู่ในลำแสงหลีกหนีมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่พลันยกแขนข้างหนึ่งขึ้น นิ้วทั้งห้าร่ายออกไป

พริบตานั้น!

เสียง ‘พรึ่บ’ พลันระเบิดออกมา เส้นไหมสีเขียวห้าเส้นพุ่งออกมาจากปลายนิ้ว เผชิญหน้ากับวิหคมารฝูงนั้นเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป

วิหคมารสิบกว่าตัวระเบิดเสียงกรีดร้องออกมา ร่างกายกลายเป็นฝนโลหิตโปรยปรายลงมา

ลำแสงหลีกหนีสีเขียวกลับเปล่งแสงสว่างวาบไปก่อนแล้ว ไม่มีกลิ่นคาวโลหิตแปดเปื้อนเลยสักนิด

……

ใกล้ๆ กับหุบเขาที่ค่อนข้างซ่อนเร้นอยู่แห่งหนึ่ง หญิงสาวสวมชุดขนนกกำลังแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ในป่าลึกด้านนอกหุบเขา แล้วมองไปยังทางเข้าหุบเขาอย่างเงียบๆ

ตรงทางเข้าของหุบเขามีต้นไม้พุ่มหญ้าสูงเกือบสองตัวคนดูเหมือนจะไม่ค่อยมีผู้คน รกร้างมาก

แต่หญิงสาวสวมชุดขนนกกลับมองปราดเดียวก็ตะลึงงันอยู่นาน และยิ่งไปกว่านั้นดวงตายังไม่กะพริบ ราวกับว่าเห็นสิ่งที่น่าสนใจมากอย่างไรอย่างนั้น

ฉับพลันนั้นเหนือทางเข้าหุบเขาก็มีระลอกคลื่นรางๆ ระลอกคลื่นไร้รูปร่างคลี่ตัวออกมา เผ่ามารติดปีกสวมชุดหนังสองตนปรากฏขึ้น

เผ่ามารทั้งสองพิจารณารอบด้านอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นทางเข้าหุบเขาไม่มีความผิดปกติใดๆ ก็สะบัดปีกทั้งสองข้างบินไปอย่างวางใจ ชั่วพริบตาก็กลายเป็นดวงลำแสงสีดำสองกลุ่มหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อเห็นฉากนี้หญิงสาวสวมชุดขนนกก็พ่นลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ใบหน้างดงามดุจบุปผา แต่ทันใดนั้นมือหนึ่งก็ร่ายอาคม ร่างกายอรชรอ้อนแอ้นพลันพลิ้วกายสลายหายไปจากที่เดิม

หลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งมื้ออาหาร ภายในถ้ำลึกลับที่อยู่ห่างจากยอดเขาไปหมื่นลี้เศษ หญิงสาวสวมชุดขนนกใช้ฝ่ามือกดไปที่ศีรษะของเผ่ามารติดปีกคนหนึ่งด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ใบหน้ามีรัศมีลำแสงห้าสีไหลวนโคจรไปมา กำลังจะสำแดงเคล็ดวิชาลับค้นวิญญาณที่ร้ายกาจ

ส่วนพื้นดินที่อยู่ด้านข้าง เผ่ามารอีกคนหนึ่งกำลังหมอบอยู่บนพื้นด้านล่างนิ่ง ท่าทางไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

หลังจากที่ผ่านไปสองสามชั่วอึดใจ ใบหน้าของหญิงสาวสวมชุดขนนกก็มีรัศมีลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป นิ้วทั้งห้าคลายออก เผ่ามารในมือร่วงลงกับพื้นราวกับไร้ซึ่งกระดูกก็ไม่ปาน

“คาดไม่ถึงว่าจะมีแค่หมู่บ้านรอบนอกของเผ่าหงส์มรกต และไม่มีชนเผ่าหลักอาศัยอยู่ในนั้น ดูแล้วคงทำได้แค่หาหมู่บ้านอื่นแล้ว ทว่าก่อนหน้านี้ต้องบอกข่าวกับสหายหานก่อน” หญิงสาวสวมชุดขนนกแววตาเปล่งประกายครุ่นคิดอยู่ที่เดิม แล้วเอ่ยพึมพำกับตัวเองอย่างจนปัญญา

จากนั้นหญิงสาวผู้นี้ก็แค่ตะปบมือเรียวไปกลางอากาศ ในมือมีจานอาคมสีขาวปรากฏขึ้น นิ้วชี้ไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว แล้วใช้ฝ่ามือตบลงไปเบาๆ

หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น ผิวของจานอาคมก็ระเบิดลำแสงสีขาวออกมา ด้านในมีอักษรสีเงินสองสามแถวเปล่งแสงสว่างวาบแล้วสลายหายไป

จากนั้นหญิงสาวก็มีสีหน้าผ่อนคลายลง แววตาสดใสกวาดไปที่มารทั้งสองที่อยู่บนพื้นแวบหนึ่ง ทันใดนั้นความเย็นชาก็ฉายแวบผ่าน

เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น

หานลี่ที่บินอยู่กลางอากาศต่ำๆ อย่างเงียบเชียบอีกด้านก็หน้าเปลี่ยนสีสัมผัสอันใดได้ทันที เขาพลิกฝ่ามือในมือมีจานอาคมที่เหมือนกันปรากฏขึ้น ด้านบนมีตัวอักษรสีเงินที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วเปล่งแสงสว่างวาบปรากฏขึ้น

หานลี่กวาดสายตาไปบนนั้น มุมปากหยักรอยยิ้มออกมา

ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีก็เปลี่ยนทิศทาง พุ่งอำพรางตัวไปอีกด้าน

……

ครึ่งเดือนต่อมาตรงขอบของแอ่งน้ำเล็กๆ ที่ถูกยอดเขาสามลูกโอบล้อมเอาไว้เป็นสามเหลี่ยม หานลี่และหญิงสาวสวมชุดขนนกยืนเคียงไหล่กันอยู่บนกิ่งไม้บนต้นไม้ที่สูงค้ำฟ้า กำลังมองไปยังหมอกสีขาวโพลนใจกลางยอดเขา

หมอกนี้ดูเหมือนจะหนาทึบ แต่หลังจากที่พายุภูเขาปัดมา คาดไม่ถึงว่าจะมีกลิ่นหอมที่อธิบายไม่ถูกโชยมา

“ท่านเซียนเยี่ยมั่นใจได้แล้วว่าที่นี่คือหมู่บ้านควันหอมหนึ่งในสี่ที่ตั้งมั่นของเผ่าหงส์มรกต ไม่ผิดสินะ” มองอยู่ชั่วครู่หานลี่ก็เอ่ยปากถามขึ้น

“ไม่ผิดแน่ ข้าใช้เคล็ดวิชาค้นวิญญาณกับเผ่าหงส์มรกตสองคนตามลำดับถึงได้รู้ตำแหน่งที่แม่นยำ แต่น่าเสียดายที่พลังยุทธ์ของสองคนนี้ไม่สูงนัก จึงไม่ค่อยรู้เรื่องในหมู่บ้านหงส์มรกตมากนัก แต่ตามขนาดของหมู่บ้านนี้น่าจะมีชนเผ่าหลักของเผ่าหงส์มรกตอยู่แน่ ทว่าที่นี่ถูกวางเขตอาคมที่ร้ายกาจเอาไว้ หากอยากแอบเข้าไป เกรงว่าคงไม่ง่าย” หญิงสาวสวมชุดขนนกตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบา ใบหน้างดงามเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา

“อืม ดูจากกลิ่นหอมในม่านหมอกแล้ว ดูแล้วที่นี่คงไม่ผิดแน่ ส่วนวิธีการแฝงตัวเข้าไป ข้าก็พอจะมี ทว่าต้องหาเวลาที่เหมาะสม พวกเรารออยู่ก่อนเถิด” หานลี่ได้ยินก็หัวเราะน้อยๆ ออกมา แล้วเอ่ยอย่างมีแผนการ

“เยี่ยมไปเลย ในเมื่อพี่หานมีวิธี น้องก็จะรอดู” หญิงสาวสวมชุดขนนกได้ยินย่อมดีใจ

หานลี่พยักหน้าไม่ได้เอ่ยอันใดอีก แต่แววตาที่มองไปยังยอดเขาที่อยู่ไกลออกไปกลับฉายแววแปลกประหลาด

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ขอบฟ้าพลันมีเสียงแหวกอากาศดังขึ้น อสรพิษบินขนาดยักษ์ความยาวสิบจั้งเศษปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า และพุ่งมาที่ยอดเขาอย่างรวดเร็ว

บนหลังของอสรพิษบินขนาดยักษ์มีมารเผ่าหงส์มรกตใบหน้าประดับไปด้วยความยินดีอยู่เจ็ดแปดคน

หนึ่งในนั้นล้นเป็นบุรุษและสตรีวัยเยาว์ แต่ผู้นำกลับเป็นชายชราผมสีดอกเลาคนหนึ่ง แต่ร่างกายกลับแผ่กลิ่นอายที่น่าตกตะลึงออกมารางๆ

“เยี่ยม โอกาสมาถึงแล้ว พวกเราลงมือกันเถิด” หานลี่ที่กำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้ เห็นเผ่ามารเผ่าหงส์มรกตก็ยืนขึ้นทันที และเอ่ยกับหญิงสาวสวมชุดขนนกอย่างไม่รีบร้อน

หญิงสาวสวมชุดขนนกเองก็ยืนขึ้นเช่นกัน แต่สายตาที่มองมายังหานลี่ ย่อมแฝงไว้ด้วยความประหลาดใจ

หานลี่เองก็ไม่ได้อธิบายอันใด มือหนึ่งพลันชูขึ้น ชั่วขณะนั้นพลันพุ่งไปหาหญิงสาว

หญิงสาวสวมชุดขนนกพลันตกตะลึง ตะปบมือออกไปตามจิตสำนึกแล้วก้มหน้าลงมอง

นั่นคือยันต์วิเศษสีม่วงแผ่นหนึ่ง

ยามนี้หานลี่ถึงได้เอ่ยอย่างเย็นชา

“สหายกระตุ้นยันต์วิเศษแผ่นนี้ ตามอยู่ด้านหลังคนเหล่านั้น แล้วแฝงตัวเข้าไปในหมู่บ้าน ขอแค่หมู่บ้านควันหอมไม่มีเขตอาคมต้องห้ามพิเศษในตำนาน ก็ไม่มีทางเปิดเผยร่องรอยแล้ว แต่สหายจงจำไว้ หลังจากที่กระตุ้นยันต์แล้ว อย่าใช้อิทธิฤทธิ์อื่นเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ยันต์ไร้ผล”

สิ้นเสียงหานลี่พลันตะปบมือไปกลางอากาศ ในมือมียันต์วิเศษที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏขึ้น และตบไปบนเรือนร่างอย่างรวดเร็ว

ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของหญิงสาวสวมชุดขนนก ชั่วพริบตาพลันระเบิดลำแสงสีม่วงออกมา ในเวลาเดียวกันบรรยากาศรอบๆ ก็มีอักขระยันต์สีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมา และกลายเป็นหมอกสีม่วงอ่อนห่อหุ้มร่างของหานลี่เอาไว้ข้างใน

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

Fan Ren Xiu Xian Chuan, Phàm Nhân Tu Tiên, RMJI, 凡人修仙传
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
เจ้าบื้อที่สอง หานลี่ เด็กหนุ่มธรรมดาสามัญผู้ได้รับวาสนาให้ไปเข้าทดสอบเป็นศิษย์ในสำนักเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทำให้เขาได้รู้จักกับโลกใบใหม่ที่หนุ่มน้อยชนบทอย่างเขาใฝ่ฝันอยากสัมผัสกับมันมาโดยตลอด ในโลกแห่งเซียน เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรต่างฝึกฝนค้นหาเส้นทางเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นนิรันดร์ ทว่าเส้นทางที่แม้กระทั่งผู้บำเพ็ญเพียรซึ่งมีพรสวรรค์สูงส่งแต่กำเนิดยังต้องผ่านความยากลำบากเท่าไหร่กว่าจะไปถึงจุดนั้น แล้วเด็กหนุ่มปุถุชนเช่นเขาจะทำได้หรือ? ด้วยความสามารถอันธรรมดาสามัญของเขาจะเอาตัวรอดในโลกแห่งเซียนนี้ไปได้อย่างไร? เส้นทางแห่งความสำเร็จช่างอยู่ห่างไกลเสียเหลือเกิน… คัมภีร์วิถีเซียนเป็นนิยายจีนย้อนยุคเล่าเรื่องการเดินทางอันน่าติดตามของหานลี่ ผู้ต้องใช้ทั้งไหวพริบและพลังยุทธ์ในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ด้วยตัวคนเดียว มาร่วมเดินทางไปกับหานลี่ ผู้เย้ยฟ้าท้านรกเพื่อแสวงหาเส้นทางแห่งการเป็นเซียนด้วยกันเถอะ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset