พวกสตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิว ไป๋ชี และปราชญ์เฒ่า พอเห็นเกาะขนาดใหญ่ ก็ยากปิดบังความตื่นเต้นบนใบหน้า แต่ก็รีบเปลี่ยนเป็นขยิบตาให้กันโดยไม่มีสาเหตุ ก่อนคืนสีหน้าท่าทางกลับดังเดิม
“ไปกันเถอะ การเดินทางของเราในครั้งนี้ นับว่าเห็นผลแล้ว หวังว่าสระชำระวิญญาณกับดอกบัววิญญาณพิสุทธิ์จะมีความวิเศษแบบในตำนานจริงๆ!” ดวงตาของหานลี่ทอประกายเล็กน้อย พลันเอ่ยปากขึ้น
“ไม่ผิด สิ่งมหัศจรรย์ของฟ้าดิน ตอนนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว ยังจะรออะไรอีก”
บรรพชนตระกูลหล่งหัวเราะเสียงดัง ก่อนเปล่งรัศมีแสงบนร่าง กลายเป็นแสงสีทองสายหนึ่ง พุ่งไปยังเกาะขนาดใหญ่ก่อนใครเพื่อน
ผู้อาวุโสฮุยไม่พูดไม่จา กลายร่างเป็นลมหมุน ตามไปติดๆ
“พวกเราก็ไปกันเถอะ”
สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวพูดเบาๆ แล้วจึงเก็บเรือยักษ์ขึ้น จากนั้นก็พลิกมือ หยิบธงแนวตั้งสีม่วงออกมาหนึ่งผืน หลังจากโยกเบาๆ แสงสว่างผืนหนึ่งก็ม้วนคนเผ่าวิญญาณทั้งกลุ่มไว้ด้านใน กลายเป็นแสงสีม่วงกลุ่มหนึ่ง พุ่งแหวกอากาศไป
พอเข้าไปในพื้นที่ทางทะเลซึ่งเต็มไปด้วยไอวิญญาณ ย่อมสามารถใช้วิชาล่องหนได้ตามอำเภอใจ
พริบตาเดียว บนผืนทะเลก็เหลือเพียงสองคน หานลี่กับสาวน้อยเสื้อคลุมขนนก
สาวน้อยหันมองรอบกาย เหล่ตามองหานลี่ แล้วยกมุมปากขึ้นยิ้มเบาๆ
“พี่หาน ตอนนี้วัตถุวิญญาณก็อยู่ตรงหน้าแล้ว มีแผนอะไรอีกไหม”
“แผนอะไรกัน! ก็บอกแต่แรกแล้วมิใช่หรือว่า สระชำระวิญญาณให้ใช้ร่วมกัน ส่วนดอกบัววิญญาณพิสุทธิ์ ไม่ว่าจะหาได้กี่ดอก ก็ต้องแบ่งให้เท่าๆ กัน” หานลี่ตอบโดยไม่เปลี่ยนท่าที
“ถ้าคนอื่นๆ ยอมทำตามที่ตกลงกันไว้จริงๆ น้องก็ย่อมรีบไปแทบไม่ทัน แต่ถ้าถึงตอนนั้นแล้ว เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดอื่นๆ ขึ้นมาล่ะ” ตาสวยของหญิงสาวกลอกไปมา ปากอวบอิ่มเปล่งวาจาเบาๆ
“นางฟ้าวางใจ! ถ้ามีเหตุไม่คาดคิด เจ้ากับข้าย่อมทำตามที่นัดแนะกันไว้แต่แรก ถอยออกพร้อมกัน” หานลี่เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนตอบเบาๆ
สาวน้อยเสื้อคลุมขนนกจึงเบาใจลง ยิ้มหวานพลางว่า
“ดี น้องก็รู้ว่าพี่หานเป็นคนเชื่อถือได้ งั้นเราเคลื่อนไหวกันเถอะ เกาะนี้แม้ไม่เล็ก แต่จากอิทธิฤทธิ์ของพวกเขา ไม่น่าจะใช้เวลานานมาก ที่จะเจอสระชำระวิญญาณ”
หานลี่พยักหน้าเงียบๆ ไม่พูดอะไร โบกแขนเสื้อ ร่างปล่อยแสงวิญญาณสีเขียวขมุกขมัวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า พอลอยวนเวียนอยู่ครู่หนึ่ง ก็กลายเป็นแสงสีเขียวสายหนึ่งพุ่งตรงไปยังเกาะขนาดใหญ่
ส่วนสาวน้อยเสื้อคลุมขนนกก็ร่ายมนตร์ด้วยมือข้างเดียว ร่างซึ่งสวมเสื้อคลุมขนนกห้าสี มีเมฆหมอกห้าสี
พวยพุ่งออกมา พยุงร่างอันบอบบางไว้ ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเช่นเดียวกัน
หานลี่มิได้กระตุ้นแสงล่องหนเต็มที่ เพียงตามคนเผ่าวิญญาณกับพวกบรรพชนตระกูลหล่งอยู่ด้านหลังไม่ไกลกันนัก
แม้เขาไม่รู้รายละเอียดที่ตั้งของสระชำระวิญญาณ แต่ดูจากท่าทางรีบร้อนของทั้งสองฝ่ายที่อยู่ด้านหน้า เห็นชัดว่ามั่นใจในเส้นทางนี้มาก
ผ่านไปครู่หนึ่ง กลุ่มคนก็เหาะยาวต่อเนื่องผ่านที่ราบแห่งหนึ่งกับป่าทึบหลายแห่ง ในที่สุดทิวเขาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า แต่ละลูกตั้งตระหง่านสวยงาม มีกลิ่นหอมสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าโชยมา
บรรพชนตระกูลหล่งกับคนเผ่าวิญญาณพลันชะงักแสงล่องหน หยุดอยู่ตรงหน้า แล้วทยอยกันปรากฏร่างออกมา
หานลี่เอะใจ พลันเร่งความเร็วในการล่องหนเพิ่มขึ้นหลายเท่า พอวาบก็ปรากฏตัวที่ข้างกายบรรพชนตระกูลหล่ง
ภายใต้แสงห้าสีกะพริบ สาวน้อยเสื้อคลุมขนนกก็ปรากฏตัวที่ข้างกายหานลี่อย่างไร้สุ้มเสียงเช่นกัน
ขณะนี้ ในหมู่ผู้บำเพ็ญเพียร มีระยะห่างระหว่างคนเผ่าวิญญาณกับพวกของหานลี่อย่างเห็นได้ชัด คล้ายมีทีท่าว่า ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
ชัดเจนว่า ขณะที่กำลังจะไปหาวัตถุวิญญาณที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ระหว่างผู้บำเพ็ญเพียรสองเผ่า แม้ยังไม่มีการกระทำแบบเป็นศัตรูกัน แต่ทุกคนก็เกิดความระแวดระวังขึ้นในใจไปโดยปริยาย อย่างไรเมื่อเกี่ยวข้องกับสระชำระวิญญาณ สมบัติวิเศษระดับพลิกฟ้า ใครๆ ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดไม่ซื่อ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ใช่คนเผ่าเดียวกัน
แต่ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนตระกูลหล่งหรือสตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิว ก็ล้วนมิได้แสดงความผิดปกติอะไรออกมา กลับมองไปยังทิวเขาด้านหน้า พลางหารือกันเบาๆ หลายคำ แล้วทั้งสองก็ลงมือพร้อมกันทันที
บรรพชนตระกูลหล่งม้วนแขนเสื้อ พอแสงสีทองในมือวาบ พลันมีขวานสีทองอร่ามเพิ่มขึ้นหนึ่งด้าม พื้นผิวเต็มไปด้วยอักขระสีเงินอ่อน และมีไอดุร้ายอันน่าตกใจแฝงอยู่ภายใน
ส่วนสตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิว ปากกลับท่องคาถา แสงวิญญาณสีขาวขุ่นเปล่งออกจากผิวกาย พออ้าปาก ก็พ่นลูกปัดสีขาวขุ่นขนาดเท่าไข่ไก่ออกมาหนึ่งเม็ด เต็มไปด้วยลวดลายมารที่ดูเหมือนเส้นโลหิต
พอเห็นดังนี้ หานลี่ก็เอะใจ หรี่ตาจ้องมองการกระทำของทั้งสองชนิดตาไม่กะพริบ
คนทั้งสองมีของบางอย่างที่ปิดบังไม่บอกกล่าวกันจริงๆ
และแล้วก็เห็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวจิ้มไปที่ลูกปัด วัตถุชิ้นนี้ส่งเสียงดังหึ่งๆ แล้วพุ่งไปยังเทือกเขาทันที หลังจากกะพริบไม่กี่ครั้ง ก็หยุดอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่ง เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง กะพริบถี่ไม่หยุด
“สหายหล่ง ที่นั่นล่ะ!” สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวเห็นดังนี้ ก็ตาวาว รีบร้องเสียงดัง
พอได้ยิน บรรพชนตระกูลหล่งก็ตะโกนดังลั่นอย่างไม่ลังเลใจ แล้วแสงสีทองบนผิวกายกะพริบ ปรากฏเกล็ดสีทองออกมาเป็นแนว ปกคลุมกว่าครึ่งร่าง ขณะร่างขยายใหญ่ บนศีรษะมีเขามังกรสีทองงอกออกมาคู่หนึ่ง
เขาโคจรโลหิตแท้ในร่าง กระตุ้นครึ่งร่างมังกรออกมา
บรรพชนตระกูลหล่งที่ร่างขยายใหญ่ราวห้าหกจั้ง พอขวานในมือสั่น ขวานทองก็ใหญ่ขึ้นทันที ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และในที่สุดก็กลายเป็นขวานยักษ์สะท้านฟ้า ยาวราวสิบจั้ง
บรรพชนตระกูลหล่งใช้สองมือจับขวานยักษ์ ฟันแรงๆ ลงบนยอดเขาที่มีลูกปัดลอยอยู่ด้านบน ซึ่งอยู่ห่างออกไป
เสียงเสียดแก้วหูดังระเบิดทันที!
แสงสีทองแผ่ออกจากขวานแล้วม้วนออกดุจลมกระโชกแรง พอวาบก็กลายเป็นเงาขวานขนาดใหญ่เกือบพันจั้ง ฟันโดนยอดเขาที่อยู่ห่างออกไปเสียงดังกระหึ่มดุจพายุบุแคม
สิ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ดวงอาทิตย์สีทองเส้นผ่านศูนย์กลางร้อยจั้งดวงหนึ่งพลันระเบิดออกจากยอดเขา และกลืนยอดเขาทั้งหมดเข้าไปในพริบตา คลื่นแสงสีทองหลายระลอกม้วนตัวอย่างรวดเร็วออกจากแสงแดดแผดจ้าในทุกทิศทุกทาง ยอดเขาอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบ สลายกลายเป็นเถ้าธุลีในทันที
และในตอนนี้เอง คลื่นที่รุนแรงกลุ่มหนึ่งก็ผุดขึ้นในแสงสีทอง กระจายไปยังที่ว่างในรัศมีร้อยลี้
ฉากอันน่าทึ่งปรากฏขึ้นแล้ว
ที่ว่างนอกยอดเขาซึ่งคลื่นกระจายผ่าน กระเพื่อมออกดุจผืนน้ำ และพอแสงสีทองวาบเก็บ ทิวทัศน์ก็พร่ามัว พื้นที่ด้านหลังยอดเขาซึ่งถูกทำลายเหล่านั้น พลันมียอดเขาเขียวขจีที่สูงใหญ่กว่าสองลูกเพิ่มขึ้นมา
และกึ่งกลางระหว่างยอดเขาสองลูก กลับมีหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยแสงวิญญาณสีเขียวขมุกขมัวลูกหนึ่ง
มองจากระยะไกล จะเห็นลำแสงสีขาวขุ่นขนาดใหญ่ลำหนึ่งพุ่งขึ้นจากหุบเขาสู่ท้องฟ้า ก่อนหายไปในที่ว่าง ราวกับพุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นเก้าอย่างไรอย่างนั้น
“ลำแสงวิญญาณสวรรค์! สระชำระวิญญาณอยู่ที่นั่นจริงด้วย”
พอบรรพชนตระกูลหล่งเห็นหุบเขากับลำแสงสีเงิน ก็หัวเราะร่าออกมาทีหนึ่ง แล้วกลายร่างเป็นสายรุ้งพุ่งออกไปโดยไม่พูดไม่จา
ผู้อาวุโสฮุยก็ตามไปติดๆ อย่างลิงโลด
สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวเห็นดังนี้ สีหน้าก็ยากปกปิดความตื่นเต้น แต่หลังจากเหลือบเห็นพวกบรรพชนตระกูลหล่งสองคนล่องหนไป สายตาก็เคร่งขรึมลง ฝ่ามือที่ซุกอยู่ในแขนเสื้อข้างหนึ่ง พลันขยี้ตราประทับคาถาประหลาดสุดๆ อันหนึ่งอย่างไร้สุ้มเสียง
จื่อสุ่ยที่ยืนไม่ขยับเขยื้อนอยู่ด้านหลังนาง ผู้มีดวงตาไร้ซึ่งอารมณ์อยู่แต่เดิม พลันเปล่งแสงบริสุทธิ์ออกมาเล็กน้อย ฝ่ามือทั้งสองข้างที่ซีดขาวและชี้ลง สั่นน้อยๆ
ถัดมา สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวก็ได้ยินเสียงเย็นๆ ของไป๋ชีดังขึ้นที่ข้างหู แม้เป็นเพียงประโยคสั้นๆ แต่กลับทำให้นางตกใจวาบ ตราประทับคาถาในมือกระจายออกทันที
แสงบริสุทธิ์ในดวงตาของชายหนุ่มเผ่าวิญญาณถูกเก็บลงอีกครั้ง พลันคืนกลับสู่สภาพปกติ
สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวเพิ่งจัดการทั้งหมดนี้เงียบๆ พลันรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงหันไปมอง และเห็นหานลี่
กำลังยืนมือไพล่หลังมองมาที่ตน พร้อมสีหน้าท่าทางกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม
สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวตกใจวูบ จึงเปลี่ยนความคิดกะทันหัน ขณะคิดพูดอะไรบางอย่าง ไป๋ชีที่อยู่ข้างๆ กลับพูดอย่างใจเย็นขึ้นก่อน
“พี่หาน สหายหล่งรุดไปแล้ว ท่านยังไม่ขยับอีก ไม่กลัวว่าสมบัติวิเศษจะถูกยึดเอาไปก่อนหรือ”
“แหะๆ พี่หานเชื่อใจในตัวพี่หล่งมาก สหายวางใจได้ ต่อให้พบสระชำระวิญญาณ ก็ใช่ว่าจะเข้าไปได้ง่ายๆ” หานลี่ยิ้มเย็นชาก่อนตอบ
“เช่นนี้นี่เอง งั้นเราเข้าไปช่วยพี่หล่งอีกแรงกันเถอะ อย่างไรที่นี่ก็เป็นแดนมาร ได้สมบัติวิเศษมาไว้ในมือยิ่งไวยิ่งดี ขืนปล่อยไว้นาน จะยิ่งมีปัญหา!”
สาวน้อยเสื้อคลุมขนนกที่อยู่ข้างๆ กลอกตาไปมา ก่อนพูดยิ้มๆ
“แน่นอน ถ้าคิดเข้าไปในสระชำระวิญญาณ ไม่แน่ว่าเรายังต้องร่วมแรงร่วมใจกันต่ออีกสักตั้ง” ไป๋ชีพยักหน้าโดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
ตอนนี้ สตรีศักดิ์สิทธิ์เชียนชิวจึงไม่พูดอะไรอีก ราวกับว่าผู้นำฝ่ายเผ่าวิญญาณพลันเปลี่ยนเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในแสงสีขาวที่ลึกลับท่านนี้ไปด้วย
และแล้ว คนเผ่าวิญญาณกับหานลี่ก็กลายร่างเป็นแสงล่องหนอีกครั้ง เหาะไปยังหุบเขานั่น
ระยะทางเท่านี้ สำหรับกลุ่มคนในระดับผสานอินทรีย์ ย่อมไม่นับเป็นอะไรได้
แต่หลังจากกะพริบแสงไม่กี่ครั้ง กลุ่มคนก็เป็นเช่นเดียวกันกับพวกบรรพชนตระกูลหล่งสองคนก่อนหน้านี้ ทยอยกันหายเข้าไปในชั้นแสงสีเขียวที่ปกคลุมหุบเขา
ผิดความคาดหมายของหานลี่อยู่บ้าง ชั้นแสงสีเขียวมิได้สกัดกั้นพวกเขาแม้แต่น้อย เพียงวาบ ก็หายเข้าไปได้อย่างง่ายดาย แต่ถัดมา หานลี่เพียงรู้สึกว่าตรงหน้าสว่างวาบ ร่างพลันตกอยู่ในโลกของจุดห้าสี โดยที่ที่สายตาสัมผัสได้ ล้วนเต็มไปด้วยจุดแสงห้าสีอันหนาแน่น
หานลี่สีหน้าเปลี่ยน ฝ่ามือคว้าจับที่ว่างอย่างไม่ต้องคิด จุดแสงขนาดเท่าเม็ดถั่วหลายเม็ดหายเข้าไปในฝ่ามือทันที พอกะพริบเล็กน้อย ก็ควบแน่นเป็นเม็ดผลึกห้าสีขนาดเท่าเม็ดถั่ว
เขาหายใจมันออกมา กระแสพลังวิญญาณบริสุทธิ์ก็พุ่งออกจากเม็ดผลึก ทำให้ตลอดทั้งร่างรู้สึกสงบและสบายสุดจะเปรียบไปชั่วขณะ
“ไอวิญญาณตกผลึก! ไอวิญญาณฟ้าดินของที่นี่บริสุทธิ์กว่าภายนอกมากกว่าสิบเท่า!” หานลี่พึมพำออกมาประโยคหนึ่ง ไม่สามารถซ่อนความตกใจบนใบหน้าได้อีก
ขณะนั้น ร่างของกลุ่มคนก็ทยอยกันตกลงไปในสระน้ำเขียวขจีสระหนึ่งกลางหุบเขา
จุดแสงห้าสีที่ลอยอยู่เหนือสระหนาแน่นกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนบรรพชนตระกูลหล่งกับผู้อาวุโสฮุยกำลังยืนอยู่ข้างสระ ขมวดคิ้วพลางพูดคุยอะไรบางอย่างกัน
“หรือที่นี่คือสระชำระวิญญาณ?”
หานลี่เห็นดังนี้ ก็สะดุ้ง และร่อนลงช้าๆ ในบริเวณใกล้เคียง
ขณะเดียวกัน บนภูเขาลูกเล็กๆ ห่างจากหุบเขาหลายร้อยลี้
ร่างงดงามในชุดกระโปรงขาวยืนเงียบๆ อยู่บนกองหินเขียว กำลังมองผ่านไปทางหุบเขา ขณะดวงตาซึ่งงดงามราวกับดวงดาวกำลังทอแสงสีเงินลึกลับ
ข้างหลังร่างในชุดขาว ชายร่างใหญ่ในชุดเกราะสีดำผู้หนึ่งกำลังยืนตัวตรงเงียบๆ อยู่ด้านข้าง