“หญ้าหลอมมาร!”
“เป็นไปไม่ได้!”
เสียงของเป่าฮวากับหยวนเหยี่ยนดังไล่ๆ กันมา เป่าฮวายังดี แม้ตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน
ทว่าเด็กหนุ่มชุดดำ หลังจากร้องเสียงดังออกมา กลับกระโดดขึ้น ตลอดทั้งร่างพร่ามัว หายไปจากที่เดิม
หานลี่เพียงรู้สึกว่าแสงสีดำวาบ บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนหนีบลมหมุนลูกหนึ่งมาปรากฏตรงหน้าเขากะทันหัน มือข้างหนึ่งขยายออก นิ้วทั้งห้าดุจตะขอเหล็ก พุ่งตรงเข้าคว้าจับหญ้าวิญญาณสีเงินอ่อน
ทุกการเคลื่อนไหวลื่นไหลดุจสายน้ำ พลังในการคว้าจับยิ่งเร็วปานฟ้าแลบ!
เด็กหนุ่มชุดดำในตอนนี้ ใบหน้าเหยเกเล็กน้อย จ้องมองหญ้าวิญญาณสีเงินอ่อนด้วยดวงตาอันแดงก่ำ ในดวงตานอกจากสิ่งนี้แล้ว คล้ายไม่เอาสิ่งอื่นอีก
สีหน้าหานลี่เคร่งขรึมลง แขนเสื้อข้างหนึ่งพลันสะบัด น้ำแข็งห้าสีวาบหาย พอปากส่งเสียงคำราม กำปั้นขนาดใหญ่ซึ่งปกคลุมไปด้วยเกล็ดดุจเกราะ กลายเป็นแสงสีทองขุมหนึ่ง ชกไปข้างหน้า
‘ปัง’ เสียงดังกัมปนาท
ภายใต้การพัวพันกันของไอดำกับแสงสีทอง พายุหมุนพุ่งขึ้นฟ้า คลื่นอากาศที่คุกรุ่นม้วนตัวออกทุกทิศทุกทาง สะท้านฟ้าสะเทือนดินไปทั่วชั่วขณะ แล้วรอยแตกเรียวยาวสีขาวนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นในที่ว่างใกล้ๆ กันอย่างแปลกประหลาด แต่หลังจากบิดเบี้ยว ก็ทยอยกันวาบหายอย่างไร้ร่องรอย
ใจกลางรอยแตก พอเงาร่างทั้งสองสายสั่น ก็พุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้าม
หลังจากสั่นไม่กี่ครั้ง ต่างฝ่ายกลับถอยโซซัดโซเซออกไปหลายสิบจั้ง ค่อยยืนให้มั่นใหม่
ซึ่งก็คือหานลี่กับบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยน!
ระหว่างการจู่โจมเมื่อครู่ ท่าทางทั้งสองเสมอกัน
หานลี่ค่อยๆ เงยหน้ามารแปลงขึ้น จ้องมองเด็กหนุ่มชุดดำด้วยดวงตาที่หนาวเย็นเข้ากระดูก พอไอดุร้ายบนใบหน้าวาบ ก็ตะโกนอย่างเฉียบขาด
“อะไร ท่านตัดสินใจลงมือแย่งกันดื้อๆ แบบนี้เลยหรือ ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้าคงต้องลงมือเป็นเพื่อนท่านสักหน่อย”
สิ้นเสียง แสงสีทองบนไหล่ข้างหนึ่งก็วาบ ปรากฏเงาสีทองของศีรษะมารแปลงหนึ่งศีรษะออกมา ขณะเดียวกันซี่โครงก็กระเพื่อมขึ้น แขนมารสีทองอีกสองแขนที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ด ก็งอกออกมากลางอากาศ
หานลี่ที่แปลงร่างเป็นเทพมารสองเศียรสี่กร กรทั้งสี่กำหมัดพร้อมกัน พลังปราณอันน่าพรั่นพรึงขุมหนึ่งซึ่งแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า พลันม้วนตัวออกจากร่างเขา
“ร่างแปลงนิพพานขั้นสอง! เจ้าฝึกกายนิพพานศักดิ์สิทธิ์จนถึงขั้นสูงสุดแล้วจริงๆ”
พอเป่าฮวาที่อยู่ห่างออกไปเห็นภาพนี้ ก็มีสีหน้าแปลกใจ พลางพึมพำออกมา
ส่วนบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยน หลังจากยืนได้มั่นในที่ที่ห่างออกไป พอเห็นร่างแปลงพิลึกพิลั่นของหานลี่ สีหน้าพลันเปลี่ยน ดวงตามีแววหวาดกลัวอยู่ลึกๆ
ทว่า “หญ้าหลอมมาร” สำหรับเขาแล้ว สำคัญเป็นอย่างยิ่งจริงๆ ดังนั้นหลังจากบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก็พูดเสียงดังกับหานลี่
“เจ้ามนุษย์หนุ่ม เจ้าคงหญ้าหลอมมารต้นนี้อยู่ในมือก็ไร้ซึ่งประโยชน์ ถ้ายอมมอบสิ่งนี้ให้ข้าแต่โดยดี ข้าจะรีบหันกายจากไป ไม่ถามเรื่องของเจ้ากับเป่าฮวาแม้แต่น้อยอย่างแน่นอน”
“หญ้าหลอมมาร? ผู้น้อยกลับได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก! เมื่อผู้อาวุโสทั้งสองท่านรู้จักสิ่งนี้ พอจะชี้แนะรายละเอียดเบื้องต้นให้ผู้น้อยฟังก่อนได้หรือไม่ จากนั้นค่อยพูดเรื่องอื่นกัน”
หานลี่ไม่สนใจข้อเสนอของเด็กหนุ่มชุดดำ กลับพูดขึ้นอย่างเย็นชา
“หญ้าหลอมมารก็คล้ายกับแก่นอัสนีเสียงสวรรค์ ล้วนเป็นสมุนไพรวิญญาณฟ้าดินที่มีเฉพาะในดินแดนเบื้องบน สรรพคุณหรือ ก็เหมือนอย่างที่สหายหยวนเหยี่ยนว่า มีประโยชน์มากกับพวกเราเผ่าศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเทียบกับข้า สิ่งนี้สำคัญกับสหายหยวนเหยี่ยนมากกว่า! ซึ่งสหายหยวนเหยี่ยนจะสามารถบรรลุขั้นสุดท้ายในภายภาคหน้าหรือไม่นั้น เกรงว่าเกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้หญ้าวิญญาณนี้มาหรือไม่ อีกอย่าง ข้าจะบอกให้ เมื่อก่อนนานมา จู่ๆ สหายหยวนก็มีความคิดพิลึกพิลั่น อยากใช้หญ้าวิญญาณที่คล้ายคลึงกันไม่กี่ชนิดมาเพาะพันธุ์ให้เป็นหญ้าหลอมมารที่แท้จริงออกมา แต่จนถึงตอนนี้ก็ยัง…”
“หุบปาก เป่าฮวา เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว!”
ขณะที่ไม่รู้ว่าเป่าฮวาคิดอย่างไร ถึงได้หัวเราะคิกคัก แล้วจุดประกายความสำคัญของหญ้าหลอมมารที่มีต่อบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนออกมากว่าครึ่ง ทำให้สีหน้าของเด็กหนุ่มชุดดำเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ยิ่ง จึงตวาดออกมาคำหนึ่ง ก่อนตัดบทพูดของสตรีชุดขาว
ตาสวยของเป่าฮวาค้อนขวับให้บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยน แล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ไม่พูดต่ออีก
“เป็นเช่นนี้นี่เอง!” หานลี่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“เจ้าหนุ่มแซ่หาน ในเมื่อเป่าฮวาพูดออกมาแล้ว ข้าก็พูดให้ชัดเจนเลยแล้วกัน! ข้าต้องได้หญ้าหลอมมารมาไว้ในครอบครอง ถ้าไม่ยินยอม ถึงข้าต้องสละจิตวิญญาณหลักสู้ตาย ก็ต้องทำให้เจ้าทิ้งมันไว้ตลอดกาล”
เด็กหนุ่มชุดดำมีแววดุร้าย คล้ายตัดสินใจแล้วจริงๆ
“เมื่อไม่มีประโยชน์กับข้า ข้าก็ไม่คิดว่าจะต้องเก็บมันไว้ในมือ แต่ถ้าผู้อาวุโสอยากได้แล้วจะเอาไปง่ายๆ เช่นนี้ ไม่รู้สึกว่า สบายไปหน่อยหรือ”
หลังจากหานลี่เปลี่ยนความคิด ก็ตอบกลับหน้าตาเฉย
“ขอเพียงยอมมอบหญ้าหลอมมารให้ข้า เรื่องอะไรก็ล้วนพูดคุยกันได้ แม้ข้าเป็นบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ในแดน
มาร แต่ก็รู้ตัวว่าสมบัติวิเศษที่มีอยู่ไม่น้อยบนร่าง สำหรับมนุษย์บำเพ็ญเพียรอย่างพวกเจ้า มันคือความฝันอย่าง
แน่นอน”
เด็กหนุ่มชุดดำยินดีปรีดาขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำพูดที่ผ่อนคลายลงจากปากของหานลี่
หลังจากเห็นร่างแปลงนิพพานขั้นสองของหานลี่ เขาก็รู้ตัวว่าไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยในการจับฝ่ายตรงข้ามไว้อีก ย่อมยินดีที่จะใช้ไม้อ่อนเพื่อให้ได้หญ้าวิญญาณสีเงินมา
“แหะๆ เรื่องหญ้าหลอมมารไว้ค่อยว่ากันดีกว่า ระหว่างข้ากับผู้อาวุโสเป่าฮวายังแลกเปลี่ยนกันไม่เสร็จเลย” หานลี่หัวเราะ ไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
“ก็ได้ ข้าจะรอให้สหายหานจัดการเรื่องอื่นให้เสร็จก่อน”
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนลังเลเล็กน้อย แล้วจึงพยักหน้าตอบกลับ
“ผู้อาวุโสเป่าฮวา สมุนไพรวิญญาณที่ข้านำออกมาเมื่อครู่ ท่านล้วนไม่ถูกใจ บนร่างผู้น้อยในตอนนี้จึงมีของอีกไม่กี่ชนิดจริงๆ ที่จะนำออกมา ถ้าต่อจากนี้ไปยังไม่มีของที่ท่านถูกใจอีก ก็โทษผู้น้อยไม่ได้แล้ว”
หานลี่เหลือบมองสตรีชุดขาว ก่อนพูดเสียงขรึม
“เจ้านำสมุนไพรวิญญาณอื่นๆ ออกมาก่อน ถ้าไม่ได้อะไรจริงๆ ค่อยพูดเรื่องอื่นกันก็ยังไม่สาย” เป่าฮวาเลิกคิ้ววาดขึ้น มีท่าทีสบายๆ
หานลี่ตอบรับคำหนึ่ง ไม่พูดจาไร้สาระอีก สะบัดแขนเสื้อ หลังจากแสงสีน้ำเงินกลุ่มหนึ่งวาบ ขวดหยกสีน้ำเงินอ่อนหนึ่งขวดก็ปรากฏออกจากที่ว่าง
เขาโยนขวดน้อยในมือไปยังที่ว่างตรงหน้า แล้วดีดนิ้วทั้งสิบออก เคล็ดวิชาพุ่งออกมาติดต่อกัน วาบหายเข้าไปในขวด
ขวดหยกสั่น แสงสว่างที่ปากขวดม้วนตัวออก หลังจากเสียง ‘ปัง’ ไอน้ำวิญญาณเข้มข้นขุมหนึ่งก็สาดกระจาย กลับพ่นน้ำพุวิญญาณสีขาวขุ่นสายหนึ่งออก
น้ำพุวิญญาณหนาไม่เกินปากชามข้าว แต่ใจกลางน้ำพุ ด้านในปรากฏฝักบัวสีเงินขนาดเท่ากำปั้นหนึ่งฝักกับรากบัวสีเงินหนาเท่าแขนเด็กหนึ่งท่อน
ฝักบัวติดอยู่กับก้านเรียวยาวที่งอกขึ้นจากรากบัวสีเงินอย่างมั่นคง ผิวเปล่งแสงสีเงินยวง เรียบรื่นเป็นพิเศษ ขณะส่ายช้าๆ บนน้ำพุ กลับให้ความรู้สึกแบบวิญญาณไร้ตัวตนที่ไม่แปดเปื้อนชนิดหนึ่ง
หลังจากหานลี่ปลดปล่อยวัตถุวิญญาณสองชนิดออกจากขวด ก็กวาดตามองสตรีชุดขาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง
ร่องรอยความสงบหายไปจากใบหน้าของบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เป่าฮวาท่านนี้แต่แรก ตาสวยทั้งสองข้างเปล่งประกายระยิบดุจดวงดาวขณะจ้องมองฝักบัวสีเงิน ไม่คิดซ่อนความปีติยินดีไว้อีก
แม้สตรีชุดขาวมิได้พูดอะไร แต่พอหานลี่เห็นภาพนี้ ย่อมรู้อยู่แก่ใจ
พอเขาเอะใจ ก็ชำเลืองมองบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนที่อยู่อีกด้าน
แม้บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนท่านนี้กำลังจ้องมองฝักบัวกับรากบัวสีเงินเช่นเดียวกัน แต่สีหน้าดูกังขาเล็กน้อย เห็นชัดว่าไม่รู้จักของทั้งสองอย่าง
หลังจากหานลี่พิจารณาในใจ ก็เปล่งเสียงบอกเป่าฮวาเบาๆ
“เห็นทีของชิ้นนี้ ก็คือของที่ผู้อาวุโสอยากได้แล้ว พอจะอธิบายชื่อและความเป็นมาของมันสักหน่อยได้
หรือไม่ ไขความสงสัยที่ค้างคาอยู่ในใจผู้น้อยมาช้านาน”
“ในเมื่อแม้แต่ชื่อเจ้าก็ยังไม่รู้ แล้วจะถามมากไปทำไม ในที่สุดข้าก็เดาไม่ผิด บนร่างเจ้ามีของที่ข้าอยากได้จริงๆ แต่ดูท่าทางเจ้า เหมือนไม่คิดจะมอบให้ข้า”
มือเรียวยาวของเป่าฮวาปัดเส้นสีเขียวออก แล้วจึงย้ายสายตาจากฝักบัวสีเงินมาที่หานลี่ พลางพูดเรียบๆ
“ถ้าเป็นสมุนไพรวิญญาณที่นำออกมาในช่วงแรกเหล่านั้นก็ว่าไปอย่าง แต่ช่วงหลัง สมุนไพรวิญญาณที่ข้าได้มาไม่กี่ชนิดนี้ ทุกชนิดน่าจะเป็นสมุนไพรวิญญาณที่แพร่กระจายออกจากแดนเซียน ผู้น้อยแม้ไม่รู้ภูมิหลังของพวกมัน แต่พวกมันล้วนมีเพียงหนึ่งเดียวในแดนมารและแดนวิญญาณอย่างแน่นอน ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้อาวุโส จะให้ง่ายๆ เช่นนี้ไหม อีกอย่างข้าน้อยเพียงพูดแต่แรกว่า จะนำสมุนไพรวิญญาณออกมาให้ผู้อาวุโสดู ยังไม่เคยรับปากว่าจะให้เลยเช่นนี้”
หานลี่มิได้ตอบอะไรตรงๆ กลับพูดอย่างสงบนิ่ง
“ถ้ากับคนต่างถิ่น ข้าก็จะแสวงหาผลประโยชน์ให้มากเข้าไว้เช่นกัน เอาล่ะ เจ้าคิดเสนอเงื่อนไขอะไร ขอเพียงบอก บนร่างข้ามีสมบัติและคาถาวิทยายุทธ์ที่เมื่อก่อนเคยแลกกับผู้เฒ่าแดนวิญญาณจำนวนหนึ่ง กระทั่งโลหิตบริสุทธิ์วิญญาณแท้กับยาวิเศษที่มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งกับผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์จำนวนหนึ่ง ในมือข้ามีหลากหลายชนิด ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ากับข้าฝึกวิชาไม่เหมือนกัน ต่อให้เจ้าอยากได้ประสบการณ์กับความเข้าใจบางอย่างในตอนที่ข้าเข้าสู่ระดับมหาเมธี ก็ใช่ว่าข้าจะชี้แนะเจ้าไม่ได้”
พอเป่าฮวาได้ยิน ก็ไม่รู้สึกแปลกใจ กลับยิ้มน้อยๆ ขณะพูด ท่าทางเหมือนมีแผนการในใจ
“โลหิตบริสุทธิ์วิญญาณแท้!”
กับของอื่นๆ หานลี่ไม่ค่อยใส่ใจ แต่พอฟังถึงของเหล่านี้ ก็ฉุกใจทันที
“ไม่ผิด ในอดีตข้าเคยสื่อสารกับวิญญาณแท้จำนวนหนึ่ง ในมือจึงมีโลหิตบริสุทธิ์วิญญาณแท้จำนวนหนึ่งอยู่ ข้าเห็นกายนิพพานของเจ้า อาศัยการกระตุ้นสายเลือดวิญญาณแท้หลายชนิด จึงสามารถบังคับการแปลงกายได้ดั่งใจ โลหิตแท้เหล่านี้น่าจะมีประโยชน์กับเจ้าไม่น้อยเลยทีเดียว”
สตรีชุดขาวยิ้มหวานขณะพูด
“ข้าต้องการโลหิตบริสุทธิ์วิญญาณแท้ก็จริง แต่ก็ใช่ว่าโลหิตแท้ทั้งหมดจะมีประโยชน์กับข้า ผู้อาวุโสบอกมาก่อนได้ว่า มีโลหิตบริสุทธิ์วิญญาณแท้ชนิดไหนบ้าง ผู้น้อยขอฟังก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
หานลี่เปลี่ยนสีหน้าชั่วขณะ แต่ก็สงบนิ่งลงได้อย่างรวดเร็ว
“ก็ดี โลหิตแท้ในมือข้ามี นกหงส์ นกเขาใหญ่หกปีก…” สตรีชุดขาวพูดออกมารวดเดียวหกชนิด ล้วนแล้วแต่เป็นวิญญาณแท้ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
พอหานลี่ฟังจบ ใบหน้ามีความประหลาดใจวาบผ่าน แต่ก็ปฏิเสธอย่างไม่ลังเลใจแต่อย่างใด
“ถ้าเป็นไม่กี่ชนิดนี้ เกรงว่าข้าใช้ประโยชน์ไม่ได้ละ ในมือของผู้อาวุโสยังมีโลหิตบริสุทธิ์วิญญาณแท้อย่างอื่น
อีกไหม”
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เป่าฮวายิ้มน้อยๆ ในที่สุดก็นิ่งไปสักพัก ก่อนส่ายหน้าช้าๆ
“ข้ายังมีโลหิตบริสุทธิ์ของหงส์หลากสีจำนวนหนึ่ง แต่เจ้าก็มีแล้ว คิดว่าไม่เอาอีกหรอก อย่างอื่นหรือ ข้าใช้
หมดไปนานแล้ว ไม่เหลือเลย หรือสหายจะลองดูยาวิเศษจำนวนหนึ่งในมือข้าว่าใช้ได้หรือไม่”
“ไม่ต้องแล้ว ครั้งนี้ผู้น้อยเสี่ยงอันตรายเข้ามาในแดนมาร ก็เพราะของสองสิ่งในสถานที่แห่งนี้ ขอเพียงผู้อาวุโสให้ข้าได้สมหวังดังตั้งใจ ข้าต้องมอบสมุนไพรวิญญาณให้แต่โดยดี ไม่มีเงื่อนไขอย่างแน่นอน!”