ดวงจิตที่แบ่งไปจำนวนหนึ่งเมื่อแนบไปบนตัวตุ๊กตายนต์ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่บนสระน้ำ แต่อาศัยสัมผัสจากดวงจิต ก็สามารถสำรวจไปในสระน้ำโดยทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
น้ำในสระสีเงินอ่อน เห็นได้ชัดว่าเหนียวหนึบอย่างน่าอัศจรรย์เกินกว่าที่เขาคาดไว้มาก
หมาป่ายักษ์จมลึกเข้าไปในสระน้ำถึงสามสี่จั้ง จากนั้นก็มีแรงสะท้อนเด้งกลับมาจากก้นสระ ว่าทั้งสี่ด้านของสระน้ำมีกำลังมหาศาลจำนวนนับไม่ถ้วนแผ่ออกมารำไร ทำให้ยากที่จะดำดิ่งลงไป
หมาป่ายักษ์เมื่อค่อยๆ ดำลงไปอีกจั้งกว่า พลังมหาศาลรอบด้านก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรุนแรงหลายเท่าตัว แรงสะท้อนยิ่งทำให้มันไม่อาบที่จะลงไปต่อ
พร้อมกันนั้นในร่างของตุ๊กตายนต์ ก็มีเสียงดัง “แกรก” ดังขึ้นมาไม่หยุด ดูท่าทางเปล่ากลับพร้อมที่จะถูกแรงกดมหาศาลนั้นบีบจนระเบิดได้ทุกเวลา
ดวงจิตที่แบ่งออกเมื่อกวาดสำรวจใกล้ๆ นอกจากน้ำในสระสีเงินอ่อนแล้ว ก็ยังคงไม่สามารถสัมผัสถึงสิ่งอื่นใดแม้แต่น้อย
บนท้องฟ้าเหนือสระน้ำ หานลี่ย่นคิ้ว ดวงจิตค่อยๆ ขยับ
ขาทั้งสี่ของหมาป่ายักษ์ขยับเบาๆ เมื่อไหร่ขึ้นมาประมาณครึ่งจั้ง แล้วเริ่มค่อยๆ ขยับว่ายช้าๆ ไปตามระดับน้ำ
ถึงแล้วท่วงท่าเชื่องช้าอย่างมาก แต่พื้นที่ของสระน้ำแห่งนี้กว้างเพียงไม่เกินร้อยจั้ง ช่วงเวลาเพียงหนึ่งก้านธูป ตุ๊กตาหุ่นยนต์หมาป่ายักษ์สำรวจไปรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้อะไร
หานลี่นิ่งอยู่ชั่วครู่ แล้วใช้มือข้างหนึ่งกวักไปยังน้ำหนึ่งที
เมื่อเสียงดัง “พรึ่บ” ตุ๊กตายนต์หมาป่ายักษ์ก็ลอยพุ่งออกมา พร้อมกันนั้นก็มีแสงสว่างสีขาวลูกหนึ่งพุ่งออกมา ดับวูบซึมลงไปในร่างกายของหานลี่
หานลี่กวาดสายตามองไปยังตัวของหมาป่ายักษ์ปราดหนึ่ง เมื่อไม่เห็นอะไรผิดปกติ ก็ตวัดแขนเสื้อม้วน เก็บตุ๊กตายนต์เอาไว้
เขาไม่มีทางที่จะยอมแพ้เพียงแค่นี้ เขายกมือข้างหนึ่งขึ้น ห่วงอสูรสีดำทะมึนวงหนึ่งก็ลอยหมุนออกมาพลางส่งเสียงอื้ออึง
แสงสีทองบนห่วงม้วนตัวรอบหนึ่ง แมลงปีกแข็งขนาดยักษ์จำนวนนับร้อยก็บินพุ่งออกมาจากตรงกลาง
แต่ละตัวล้วนแต่เปล่งแสงสีทองเป็นประกาย นอกจากนี้ยังมีเขี้ยวยาวโง้งโผล่ออกมาดูโหดเหี้ยม นั่นก็คือแมลงกลืนทองที่โตเต็มใบ
หานลี่ใช้มือข้างหนึ่งร่ายอาคมโดยไม่ลังเล บนหน้าผากกันในนั้นก็มีแสงสีขาวกะพริบขึ้น ส่งเสียงดัง “ซู่ๆ”
วัตถุส่งผลึกแก้วจำนวนนับร้อยพุ่งออกมาจากด้านใน แต่ละก้านแทรกซึมเข้าไปในร่างของแมลงสีทองแต่ละตัวอย่างแม่นยำไม่มีผิดพลาด
ในขณะที่แมลงปีกแข็งจำนวนนับร้อยขยับ ก็กลายร่างเป็นแสงสีทองหลายรูปบินโถมลงไปกลางสระ แล้วจมดิ่งลึกลงไปกลางสระอย่างรวดเร็ว
ช่วยร่างกายที่แทบจะไม่อาจทำลายได้ของแมลงกลืนทอง อีกทั้งพละกำลังมหาศาลที่มีติดตัว ย่อมสามารถดำดิ่งลึกลงไปได้อย่างง่ายดาย
ชั่วครู่เดียว แมลงกลืนทองนับร้อยตัวก็ดำลึกลงไปกว่าเจ็ดแปดจั้งในอึดใจเดียว จากนั้นก็ค่อยๆ ผ่อนความเร็วลง
แต่มาถึงเวลานี้ ก็ยังคงไม่เห็นก้นสระ
ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนหน้าของหานลี่ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนความคิด ว่าครั้งหน้าจะลองใช้ดวงจิตราชาแมลงสักสิบกว่าตัวดีหรือไม่
แต่เมื่อแมลงกลืนทองเหล่านี้ดำลึกลงไปได้สิบจั้งอย่างยากลำบาก สีหน้ายินดีในที่สุดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ในระดับน้ำลึกลงไปสิบจั้ง ในที่สุดก็เห็นพื้นทรายสีขาวสะอาด
หานลี่รู้สึกยินดีอย่างมาก รีบสั่งให้แมลงกลืนทองออกสำรวจไปยังทิศทางต่างๆ ทันที
ในที่สุดก็พบว่ามุมทั้งสองของสระน้ำ ปรากฏมีดอกบัววิญญาณสูงหลายศอกเจ็ดต้นอย่างง่ายดาย
แต่ละต้น ลำต้นโปร่งใสราวกับผลึกแก้ว ด้านในมีฝอยเส้นเลือดอยู่หนาแน่น ทอดผ่านตลอดลำต้นไปถึงยอดของดอกบัว เครื่องรางดอกบัววิญญาณทั้งเจ็ดต้น ในนั้นมีอยู่สามต้นที่มีดอกตูมสีอ่อนขนาดราวกำปั้น มีอยู่สองต้นแย้มบานเกือบครึ่ง มีเพียงดอกเดียวเท่านั้นที่เบ่งบานอย่างเต็มที่
เหล้าดอกบัวที่ยังไม่เบ่งบานอย่างแท้จริงเหล่านั้น เป็นเพียงสีเหลืองอ่อนๆ ธรรมดาเท่านั้น แต่ดอกบัววิญญาณที่บางอย่างเต็มที่ กลีบดอกเป็นสีแดงสดราวกับเนื้อ บนผิวนอกยังมีรอยปูดโปนราวกับเส้นเลือดเช่นเดียวกับมนุษย์ ดูแปลกประหลาดยิ่งนัก
หานลี่เห็นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกผิดหวัง แต่กลับรู้สึกยินดีเป็นการใหญ่
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณและบัวชำระวิญญาณ ถึงแม้ว่าในแดนวิญญาณจะมีเพียงน้อยนิด แต่ในเมื่อเขาวางแผนที่จะเสี่ยงภัยเข้ามายังแดนมารแล้ว ยอมที่จะคิดหาวิธีการต่างๆ เพื่อจะได้ข้อมูลข่าวคราวมาจำนวนหนึ่งให้ได้
จากข้อมูลทั้งหมดที่เขาหามาได้ บัววิญญาณนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ชนิดหนึ่งในสวรรค์และโลก ไม่เพียงแต่จะงอกขึ้นได้เพียงกลางสระล้างวิญญาณ และดอกบัววิญญาณตอนที่ยังไม่บานและก่อนที่สีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่ได้แตกต่างจากหญ้าวิญญาณทั่วไป ไม่ได้มีฤทธิ์อะไรมากมายนะ
แต่เมื่อดอกบัวบาน สามารถอยู่ได้นานถึงพันปี หากไม่มีใครมาเด็ด ก็จะกลายเป็นพลังวิญญาณอันบริสุทธิ์ หลอมรวมกับสระวิญญาณโดยอัตโนมัติ และเมื่อดอกไม้บานในรอบต่อไป ต้องรอเป็นเวลาถึงพันปี
ดังนั้นในตอนแรกที่ยังไม่ได้เข้าสู่สระล้างวิญญาณ ถึงแม้พวกบรรพชนตระกูลหล่งจะวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งนี้มาโดยตลอด ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถได้พบกับดอกบัววิญญาณซึ่งกำลังบานอยู่พอดีได้ และต่อให้สามารถหามาได้สักดอกสองดอก แต่ด้วยจำนวนคน หนึ่งคนก็คงได้เพียงกลีบดอกสักสองสามกลีบ
ตอนนี้บรรพชนตระกูลหล่งต่างก็ล้มตายอย่างไม่คาดคิด เหลือเพียงเขาผู้เดียว ดอกบัววิญญาณดอกนี้ ก็ถือว่าเพียงพอ เพียงพอที่จะทำให้เขาได้ดูดซึมเอาฤทธิ์ยาอันมหัศจรรย์ของดอกบัววิญญาณนี้ได้อย่างเต็มที่
หานลี่พยายามสะกดความยินดีในใจ แล้วสั่งให้แมลงคืนทองสำรวจไปยังมุมอื่นๆ ของก้นสระวิญญาณอีกครั้งอย่างละเอียด
ผลก็คือนอกจากบัวชำระวิญญาณเหล่านั้นแล้ว ก็ไม่ได้มีโอสถวิญญาณอื่นใดอีก
นี่ก็ไม่ได้แปลกอะไร!
ด้วยแรงดันอันน่าหวาดกลัวของวารีวิญญาณกลางสระล้างวิญญาณ โอสถวิญญาณทั่วไปยากที่จะเจริญเติบโตอยู่ที่ก้นสระ หนำซ้ำพลังวิญญาณที่อยู่ในสระสำหรับโลกภายนอกแล้ว ก็บริสุทธิ์เกินไปจริงๆ เมล็ดพันธุ์โอสถวิญญาณอื่นหากบังเอิญตกลงมา ก็คงได้เพียงแต่ระเบิดตัวมันเอง ไม่ต้องพูดถึงการที่จะงอกรากเจริญเติบโต
ในขณะที่หานลี่กำลังใคร่ครวญ แมลงคืนทองที่ดำดิ่งลงไปยังต้นสระเหล่านั้น งานได้เงินก็โกรธขึ้นมาทันที ดูราวกับพากันตื่นเต้นขึ้นมาอย่างผิดปกติ
หานลี่รู้สึกแปลกใจ รีบเชื่อมต่อดวงจิตที่แบ่งออกไปอีกครั้ง แล้วรีบตรวจสอบแมลงวิญญาณเหล่านั้นทันที
ผ่านไปชั่วครู่ สีหน้าเอาก็เปลี่ยนทันใด สั่งใช้ดวงจิตดวงหนึ่งอย่างรวดเร็ว แมลงคืนทองดวงหนึ่งก็โผล่พ้นผิวน้ำช้าๆ อย่างไม่เต็มใจ
เมื่อแมลงปีกแข็งสีทองขนาดเท่ากำปั้นตัวนี้ปรากฏขึ้นเหนือผิวน้ำ ดวงตาทั้งคู่ของหานลี่ก็เปล่งประกายมองคะเน
มองจากภายนอกแล้ว แมลงวิญญาณตัวนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากตอนแรก แต่ลมปราณของมันมีความเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่อ่อนแอลมหรือแข็งแกร่งขึ้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณสมบัติเดิม
หานลี่ขมวดคิ้วแน่น ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ กลางดวงตาของเขาส่องประกายสีน้ำเงิน
คราวนี้ สีหน้าเขาก็เผยความประหลาดใจขึ้นมาทันที
แมลงวิญญาณที่ดูแล้วไม่ได้แตกต่างไปจากตอนแรกแม้แต่น้อย เกราะสีทองบนตัว ปรากฏไยสีขาวเส้นหนึ่งที่สามารถมองสำรวจได้ด้วยตาเนื้อ ถึงแม้ว่าจะบางจนแทบมองไม่เห็น แต่ก็สามารถยืนยันได้ว่าไม่ใช่สิ่งที่แมลงกลืนทองมีมาตั้งแต่แรกอย่างแน่นอน
ดวงจิตของหานลี่ขยับอย่างรวดเร็ว เมื่อสีหน้าของเขาเปลี่ยน ทันใดนั้นก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปยังห่วงอสูรวิญญาณ
ทันใดนั้นก็มีแมลงกลึงทองตัวหนึ่งบินพุ่งออกมาจากห่วง ส่องแสงกะพริบ แล้วร่อนลงกลางฝ่ามืออย่างว่าง่าย
เมื่อมือข้างนี้ชูแมลงวันทองตัวนี้ขึ้นกลางอากาศ แสงสีน้ำเงินกลางดวงตาก็ส่องกะพริบอย่างต่อเนื่องกวาดมอง
พริบตาเดียว เขาก็สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย!
เป็นไปตามการคาดการณ์ไว้แต่แรกจริงๆ ด้วยดวงตาวิญญาณ แมลงกลืนทองที่เพิ่งปรากฏขึ้นใหม่กลางห่วงวิญญาณ เกราะแข็งบนตัวดูลื่นเป็นเงาอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้มีใยสีขาวเหล่านั้น
เห็นได้ชัดว่าเมื่อแมลงกลืนทองเข้าไปในสระล้างวิญญาณ เกาะแข็งบนตัวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้
หรือว่าสระล้างวิญญาณแห่งนี้ จะมีปฏิกิริยาอย่างมากกับแมลงกลืนทองเหล่านี้
หานลี่ครุ่นคิดในใจเช่นนี้ แล้วขยับดวงจิตโดยไม่มัวลังเล เรียกแมลงกลืนทองโตเต็มวัยตัวหนึ่งออกมาจากน้ำ
แมลงวิญญาณที่ได้ลงสระไปตัวที่สอง บนผิวกายปรากฏเส้นใยสีขาวบางเรียวหลายเส้นเช่นกันตามคาด
มาถึงขั้นนี้ หานลี่ก็ไม่ลังเลอีก สระล้างวิญญาณแห่งนี้มีผลประหลาดที่จะกระตุ้นการกลายพันธุ์ของแมลงกลืนทองโตเต็มวัยเหล่านี้ แต่ไม่รู้ว่าปฏิกิริยาเช่นนี้จะทำให้แมลงวิญญาณเหล่านี้แปรเปลี่ยนไปในลักษณะใด
เขาครุ่นคิดในใจเช่นนี้ แต่บนใบหน้ากับเผยความประหลาดใจยินดีออกมา ไม่ได้ปล่อยแมลงวิญญาณทั้งหมดออกมาทันที แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ร่ายอาคมอาคม เรียกแมลงกลืนทองที่เหลือซึ่งดำอยู่ในสระน้ำออกมา แล้วเรียกกลับเขาไปในห่วงอสูรวิญญาณทั้งหมดในทันที
หานลี่เข้าใจแจ่มแจ้ง แมลงกลืนทองเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ ย่อมเป็นเพราะได้ดูดซับเอาพลังงานลึกลับของน้ำในสระเอาไว้ จึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลง
และพลังงานเหล่านี้ในสระล้างวิญญาณ คือเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เขาได้ถือกำเนิดใหม่ ในขณะที่ตนยังไม่ได้ชำระไขกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น จะยอมตัดพลังงานเหล่านี้ทิ้งได้อย่างไร
มิเช่นนั้นแล้วหากพลังงานไม่เพียงพอ การชำระไขกระดูกล้มเหลว แม้แมลงกลืนทองเหล่านี้เมื่อกลายพันธุ์แล้วจะมีอานุภาพมากขึ้น เขาคงได้แต่เพียงคับแค้นเสียใจภายหลัง
อย่างไรเสียเลื่อนระดับสู่ขั้นมหายาน ถึงจะเป็นที่อยู่ที่แท้จริงของเขา เรื่องอื่นใดทั้งหมด เป็นเพียงแค่เรื่องหาประโยชน์มิได้
แน่นอนว่าหากชำระไขสันหลังสำเร็จ ย่อมแตกต่างอย่างมาก เขาย่อมปล่อยแมลงกลืนทองออกมา ปล่อยให้พวกมันดูดซับเอาทุกสิ่งอย่างในสระอย่างเต็มที่
สำหรับทั้งหมดนี้ หานลี่ครุ่นคิดจนเข้าใจ อีกทั้งได้พบบัวชำระวิญญาณที่เขาตามหาแล้ว จึงเก็บห่วงอสูรวิญญาณอย่างไม่ลังเลโดยทันที สะบัดแขนเสื้อหนึ่งที เงาสีทองรางๆ ลูกหนึ่งก็พุ่งออกมา หมุนวนอยู่รอบหนึ่ง แล้วกลายร่างเป็นอสูรสีทองน้อยๆ ตัวใหญ่ประมาณศอกตัวหนึ่ง
นั่นก็คืออสูรมิคาทน!
“ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้ไม่น่าจะมีคนนอกเข้ามา แต่เผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ในช่วงที่ข้าเข้าไปในสระ เจ้าก็คอยช่วยคุ้มครองข้า หากมีใครบุกเข้ามา ต้องรั้งเอาไว้สุดความสามารถ” หานลี่กำชับเสียงต่ำ
“นายท่านโปรดวางใจ ข้าจะทำสุดกำลัง” อสูรน้อยพูดด้วยน้ำเสียงกังวานใสของเด็กสาว เงาร่างขยับไหว พริบตาเดียวก็กลายเป็นเงาหายลับไปท่ามกลางความว่างเปล่า
หานลี่พยักหน้าสีหน้านิ่งเฉย ร่างกายเปล่งแสงสีน้ำเงิน เงาร่างคนสีเขียวอ่อนก็ส่องสว่างออกมาอย่างน่าประหลาด
คนผู้นี้หน้าตาเหมือนกับหานลี่ราวกับเป็นคนเดียว และสวมชุดคลุมยาวสีน้ำเงินอ่อนเช่นกัน นั่นก็คือร่างวิญญาณเทพจือเซียน
จากนั้นหานลี่ก็ตบกลางศีรษะ ไอสีดำลูกหนึ่งก็พ่นออกมา ในนั้นมีทารกปราณสีดำสนิทปรากฏเลือนราง
นี่คือทารกมารที่สองของหานลี่
ทารกมารนี้ทันทีที่ปรากฏตัว และเชื่อมประสานจิตกับหานลี่ ทันใดนั้นก็ส่งเสียงร้องต่ำโผไปยังร่างวิญญาณ ชั่วพริบตาก็ซึมแทรกเข้าไปภายในไม่เหลือร่องรอย
จากนั้นไม่รอให้หานลี่ออกคำสั่ง ร่างวิญญาณที่หลับตาสนิทในตอนแรก ดวงตาสีน้ำเงินอ่อนทั้งคู่ก็ลืมขึ้น ส่งยิ้มบาง แล้วกลายร่างเป็นแสงสีเขียวพุ่งไปยังแมกไม้ทึบที่อยู่ใกล้ๆ
ในตอนนั้นเอง หานลี่จึงได้หยิบธงค่ายหลายพับและแผ่นผังค่ายออกมา โยนไปยังทั้งสี่ด้านของสระน้ำอย่างแรง เวลาเพียงผู้เดียวก็ตั้งค่ายกลอาคมชั่วคราวสามอันขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ปกป้องสระวิญญาณเอาไว้ด้านในอย่างแน่นหนา
เพื่อเป็นการระวังตัว ป้องกันบรรพชนแดนมารสองตนนั้นที่อยู่ด้านนอกจะใช้วิธีการอะไรบางอย่างที่ถ้าไม่ถึง หานลี่ได้ระวังตัวอย่างถึงที่สุด ได้เอาแผนการระวังทั้งหมดออกมา
ถึงแม้ว่าอสูรมิคาทนและร่างวิญญาณที่ควบคุมโดยทารกมาร รวมไปถึงเขตอาคมเหล่านี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสกัดกั้นระดับบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ขอเพียงสามารถถ่วงเวลาให้เขาได้สักหน่อย ยังไม่ถูกใครช่วยโอกาสโจมตีได้ทันท่วงที
หานลี่เมื่อทำการทั้งหมดเสร็จสิ้น จึงได้สบายใจขึ้นอย่างแท้จริง สีหน้าคลายลง จากนั้นก็ค่อยๆร่อนลงสู่กลางสระน้ำช้าๆ โดยทันที