“ข้าน้อยอู๋โยวสองสามวันก่อนอยากส่งคนมาเชิญสหายแต่เป็นเพราะมีเรื่องเข้ามาถึงได้มาพบสหายในวันนี้” ในบรรดาบุรุษสตรีเผ่ามารชายหนุ่มที่หว่างคิ้วมีลวดลายมารสีแดงสดคนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นหัวหน้าประสานมือคารวะหานลี่แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ระดับหลอมสุญตาขั้นปลาย!”
หลังจากที่หานลี่กวาดสายตาไปบนเรือนร่างของคนเหล่านั้นแม้ว่าชายหนุ่มจะดูเหมือนมีสมบัติอาคมบดบังกลิ่นอายอยู่ครึ่งหนึ่งก็ยังคงมองพลังยุทธ์ของอีกฝ่ายออกอย่างชัดเจน
นอกจากบุรุษที่มีพลังยุทธ์ไม่อ่อนแอแล้วคนอื่นๆ กลับมีพลังยุทธ์แค่ระดับเทพแปลงและส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับขั้นต้น
“ได้ยินว่านายท่านมีทองคำมารจำนวนมากเป็นความจริงหรือ” หานลี่เองก็ไม่เกรงใจหลังจากที่นั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่มเผ่ามารก็เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
“เรื่องนี้เป็นความจริงมิเช่นนั้นข้าน้อยคงไม่รอคอยการมาเยือนของสหาย” ชายหนุ่มเผ่ามารเองก็นั่งลงแล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นสหายอู๋โยวก็บอกมาเถิดว่ามีทองคำมารเท่าไหร่คิดจะขายอย่างไร” หานลี่พยักหน้าแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง
“เรื่องนี้ไม่รีบร้อนอู๋โยวยังมีเรื่องอยากจะเตือนสักหน่อยหากสหายไม่ถือสาพวกเราก็จะได้คุยกันต่อมิเช่นนั้นสหายมาจากทางไหนก็กลับไปทางนั้น” ชายหนุ่มอู๋โยวพลันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นหลายส่วน
“สหายมีอะไรก็พูดมาเถิดข้าน้อยไม่ใช่คนที่ไม่เคยผ่านวิบากขวากหนามมาก่อน” หานลี่ได้ยินกลับตอบด้วยรอยยิ้ม
“ดี ดูแล้วสหายคงเป็นคนที่มีไหวพริบพวกเจ้าไปรอข้างนอก รอให้ข้าและแขกคนสำคัญคุยเสร็จจะเรียกเจ้าเข้ามาเอง” อู๋โยวลูบไล้ฝ่ามือแล้วหัวเราะแต่ทันใดนั้นก็มีสีหน้าเคร่งขรึมแล้วออกคำสั่งกับคนอื่น
บุรุษและสตรีคนอื่นๆ ได้ยินก็ตอบรับด้วยความเคารพนบน้อมแล้วทยอยกันเดินออกไปจากประตูห้องโถง
และบุรุษไว้เครายาวที่ไม่กล้าเคลื่อนไหวซี้ซั้วตั้งแต่เข้ามาก็ทำความเคารพอย่างนอบน้อมและออกไปเช่นกัน
ยามนี้อู๋โยวสะบัดแขนเสื้อแผ่นป้ายสีดำสนิทสองสามแผ่นบินออกมาหมุนคว้างอยู่กลางอากาศรอบหนึ่งคาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นม่านลำแสงสีดำสนิทชั้นหนึ่งกั้นทั้งสองออกจากโลกภายนอก
หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้นแววตาพลันเปล่งประกายใบหน้าไร้ซึ่งความประหลาดใจแต่ในใจกลับรู้สึกสนอกสนใจขึ้นมาหลายส่วน
ความยิ่งใหญ่ของเผ่ามารที่อยู่ตรงหน้าเห็นได้ชัดว่าเนื้อหาการพูดคุยต่อจากนี้ย่อมไม่ธรรมดา
“ให้นายท่านเห็นเรื่องน่าขบขันแล้วแต่เรื่องนี้สำคัญมากข้าน้อยจำเป็นต้องระมัดระวัง” อู๋โยวกระแอมไอเบาๆ แล้วอธิบายอย่างถ่อมตนสองประโยค
“ไม่เป็นไรยามนี้ก็พูดได้แล้วสินะ” หานลี่เอ่ยพร้อมกับอมยิ้ม
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วสาเหตุที่ข้าน้อยระมัดระวังเช่นนี้หลักๆ ของที่มาของทองคำมารกลุ่มนี้ความจริงแล้วมันไม่ค่อยจะโปร่งใสข้าน้อยขายให้สหายได้ในราคาที่ต่ำมากแต่สหายต้องสาบานต่อจิตมารไม่ว่าหลังจากแลกเปลี่ยนไปแล้วจะเกิดอันใดขึ้นก็ห้ามดึงพวกเราไปเกี่ยว” ชายหนุ่มเผ่ามารจ้องเขม็งไปยังหานลี่แล้วเอ่ยออกมาทีละคำๆ
“ความหมายของสหายคือพวกเจ้าแค่จะเอาของมาไว้ในมือข้าจากนั้นไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นก็ให้ข้าน้อยเป็นผู้รับผลห้ามเกี่ยวโยงกับพวกเจ้า” หานลี่มีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงพลางย้อนถามอย่างราบเรียบ
“หึๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าสหายเป็นผู้มีที่มาที่ไป แค่นี้ก็รู้แล้วแม้ว่าข้าน้อยจะกล่าวเช่นนี้หากนายท่านทำการแลกเปลี่ยนสำเร็จขอแค่ไม่อยู่ที่นี่นานย่อมไม่เกิดปัญหาอันใด ที่ข้าน้อยพูดไปก่อนหน้าเป็นแค่การพูดเผื่อไว้เท่านั้น” อู๋โยวเอ่ยด้วยรอยยิ้มพร้อมกับสีหน้าที่ผ่อนคลายลง
“อืม ข้าว่าสหายอู๋โยวคงไม่อยากให้ข้าถูกคนสืบหาได้อย่างรวดเร็วแล้วโยงมาที่พวกท่านได้สินะ” หานลี่ได้ฟังก็หัวเราะหึๆ ออกมา
“สหายคิดอย่างไรข้าน้อยจะไม่ถามให้มากความอู๋โยวแค่อยากบอกว่าประวัติความเป็นมาของทองคำมารกลุ่มนี้มีมากมายนักที่เป็นรูปธรรมกว่านี้ย่อมไม่อาจพูดได้ส่วนจะยอมซื้อหรือไม่กลับแล้วแต่สหาย” อู๋โยวหุบยิ้มสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
“หากข้าน้อยไม่ซื้อของเกรงว่าสหายอู๋โยวคงไม่คิดจะให้ข้าน้อยไปง่ายๆ สินะ” หานลี่เงียบขรึมไปชั่วครู่แล้วเอ่ยด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
“สหายคิดมากไปแล้วข้าน้อยไม่มีทางทำเรื่องที่ไม่เป็นผลดีกับสหายแค่จะใช้เคล็ดวิชาลับกำจัดความทรงจำที่คุยกับสหายเมื่อครู่เท่านั้น” ครั้งนี้ชายหนุ่มเผ่ามารเอ่ยออกมาด้วยความสัตย์จริง
“กำจัดความทรงจำ เป็นวิธีที่ไม่เลวจริงๆ แต่ปัญหาเรื่องจิตสัมผัสนั้น ในเรื่องเคล็ดวิชาลับก็อาจจะล้มเหลวได้ ข้าน้อยไม่อยากถูกคนลงอาคมมั่วซั่ว!” หานลี่หัวเราะอย่างเย็นชาออกมา แล้วตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ
“เช่นนั้นสหายก็ไม่ยอมแลกเปลี่ยนกับข้าน้อย” ชายหนุ่มเผ่ามารเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ในเมื่อเป็นเรื่องได้เปรียบ เหตุใดข้าถึงจะไม่ทำ มีทองคำมารเท่าไหร่ บอกราคามา ข้าต้องการทั้งหมด” หานลี่มีสีหน้าผ่อนคลายลง แล้วเอ่ยพร้อมกับหัวเราะหึๆ ออกมา
“เยี่ยม ขอแค่นายท่านยอมทำการแลกเปลี่ยน ย่อมไม่จำเป็นต้องกำจัดความทรงจำ ทว่ายังต้องสาบานต่อจิตมาร” อู๋โยวได้ยินพลันผ่อนคลายลง จากนั้นก็ยินดียิ่ง
“สาบานต่อจิตมารนั้นไม่ยาก ทว่าคุยเรื่องการแลกเปลี่ยนก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด หากจำนวนทองคำมารในมือเจ้าไม่อาจทำให้ข้าพอใจ การแลกเปลี่ยนนี้ก็จะไม่ทำ” น้ำเสียงของหานลี่เปลี่ยนไป
“ไม่ทราบว่าจำนวนสองพันก้อน จะเข้าตาสหายหรือไม่” ถึงยามนี้ในที่สุดอู๋โยวถึงได้เอ่ยไพ่ตายของตนออกมา
“สองพันก้อน”
แม้ว่าหานลี่จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินจำนวนมากขนาดนี้ ก็อดที่จะหน้าเปลี่ยนสีสองสามครั้งไม่ได้
จำนวนมากขนาดนี้ มันเกือบจะเท่าผลรวมที่เขากวาดมาจากร้านอื่นๆ เมื่อวันก่อนๆ มาอยู่ในมือของสิ่งมีชีวิตระดับหลอมสุญตาก็แปลกประหลาดจริงๆ
“ราคาคิดอย่างไร? ต่อให้เป็นทองคำมารทั้งหมด หากคุณสมบัติไม่ผ่าน ข้าก็อาจจะเอาไม่หมด” หานลี่ขบคิดอย่างรวดเร็ว ปากกลับเอ่ยอย่างไม่ลังเล
“เรื่องนี้ท่านอาวุโสโปรดวางใจ! ล้วนเป็นทองคำมารระดับสุดยอด ไม่มีทางเอาสินค้ามีตำหนิมาเติมให้แน่ ส่วนราคานั้น ขอแค่สหายจำนวนที่พอใจ ราคาก็จะต่ำกกว่าร้านอื่นหนึ่งในสามส่วน” ชายหนุ่มเผ่ามารตบอกรับประกันและยื่นฝ่ามือออกมาข้างหนึ่ง กางนิ้วทั้งห้าออกแล้วโบกไปมาด้านหน้าหานลี่
“ต้องเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ ถูกแค่หนึ่งในสามส่วน ราคานี้มันสูงมาก” หานลี่หรี่ตาทั้งสองข้างลง แล้วสั่นศีรษะอย่างแช่มช้า
“เช่นนั้นสหายอยากได้เท่าไหร่?” อู๋โยวไม่ได้โกรธ กลับเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
“ข้ารับได้แค่ราคาถูกกว่าทั่วไปครึ่งหนึ่งเท่านั้น มิเช่นนั้นการค้าครั้งนี้ข้าน้อยก็ไม่ทำ” หานลี่เอ่ยอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ดูเหมือนว่าจะขบคิดเรื่องนี้มาเนิ่นนานแล้ว
“ได้ ครึ่งหนึ่งก็ครึ่งหนึ่ง ขอแค่นายท่านยอมสาบานโลหิตต่อจิตมาร ก็ไม่เป็นปัญหา และยิ่งไปกว่านั้นการแลกเปลี่ยนนี้ต้องรีบทำให้เร็วที่สุด อย่าล่าช้า มิเช่นนั้นพรุ่งนี้ที่นี่เวลานี้ พวกเรามาทำการแลกเปลี่ยนกันเป็นอย่างไร? แน่นอนว่าหากสหายกังวล ก็พาผู้ช่วยมาด้วยได้” อยู่นอกเหนือความคาดหมายของหานลี่ ชายหนุ่มเผ่ามารแค่ครุ่นคิดเล็กน้อย ก็ตอบรับอย่างเต็มปาก และเอ่ยเวลาสถานที่ที่จะแลกเปลี่ยนออกมาทันที
เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีรีบเร่ง หานลี่ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่หลังจากพยักหน้าก็หาววอดขณะเอ่ย
“ไม่มีปัญหา เอาตามที่สหายอู๋โยวว่า พรุ่งนี้จะทำการแลกเปลี่ยน ส่วนผู้ช่วยนั้นหึๆ ถึงยามนั้นค่อยว่ากันก็แล้วกัน”
“สหายตรงไปตรงมาดังคาด ยามนี้วันพรุ่งอู๋โยวจะมารอที่นี่อีกครั้ง” ชายหนุ่มเผ่ามารคารวะหานลี่ ไม่ปิดบังความตื่นเต้นในใจอีก
“ในเมื่อคุยเสร็จแล้ว ข้าน้อยยังมีธุระ คงไม่อยู่ที่นี่นานอีก” หานลี่พลันยืนขึ้น แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ
อู๋โยวย่อมไม่ขัดขวางอีก หลังจากที่สลายม่านลำแสงรอบด้านออก ก็มาส่งหานลี่ที่นอกประตูห้องโถงด้วยตนเองอย่างมีมารยาท หลังจากที่มองเห็นเงาแผ่นหลังของหานลี่สลายหายไป ถึงได้กวักมือเรียกบุรุษและสตรีเผ่ามารคนอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนั้น แล้วพาพวกเขากลับไปที่ห้องโถงอีกครั้ง
“พี่ชาย คุยสำเร็จหรือไม่?” บุรุษหน้าตาคล้ายกับอู๋โยวหลายส่วนเข้ามาในห้องโถง แล้วเอ่ยอดไม่ไหวเอ่ยถามขึ้น
“น้องสามวางใจ สำเร็จแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นพรุ่งนี้จะทำการแลกเปลี่ยนทันที” อู๋โยวตอบกลับด้วยรอยยิ้มบางๆ
“เยี่ยมจริงๆ สุดท้ายของร้อนก็ออกจากมือได้ พี่ชาย พวกเราแลกเปลี่ยนเสร็จแล้ว ต้องออกจากเมืองน้ำตกสีครามทันทีใช่หรือไม่” บุรุษเผ่ามารผู้นั้นพลันดีอกดีใจ แล้วรีบร้อนเอ่ยถามขึ้น
“แน่นอนว่าต้องไปทันที เถียหู่ เจ้าจัดการกรรมกรที่เหมืองแร่เกลี้ยงหรือยัง อย่าเหลือภัยพิบัติอันใดเอาไว้!” อู๋โยวตอบกลับหนึ่งประโยค แล้วพลันเอ่ยถามชายหนุ่มเผ่ามารอีกคนหนึ่ง
“พี่ใหญ่วางใจ ผู้ที่รู้เรื่องล้วนถูกปิดปากหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่พยาน แม้กระทั่งเพื่อเป็นการป้องกัน ข้ายังปิดตายทางเข้าออกเหมืองแร่ ต่อให้มีคนหนีออกไปได้จริงๆ ก็ไม่อาจออกมาจากเหมืองแร่ได้ในระยะเวลาอันสั้น” เผ่ามารวัยกลางคนรีบเอ่ยอย่างเคารพนบน้อม
“เช่นนั้นก็ดี พวกเราเปิดเหมืองแร่ในละแวกเมืองน้ำตกสีครามโดยพลการ เดิมก็ฝ่าฝืนกฎของขุมอำนาจต่างๆ อยู่แล้ว ครั้งนี้ยังพบศิลาแร่หายากจำนวนมากอย่างคาดไม่ถึง หากข่าวแพร่งพรายออกไป จะต้องดึงหายนะมาหาแน่ ต้องรีบปล่อยของออกไป แล้วไปจากที่นี่ทันที ถึงจะมีหวังในการรักษาชีวิต” อู๋โยวพ่นลมหายใจออกมา ยังคงกังวลใจเล็กๆ
“แต่พี่ใหญ่เหตุใดต้องเสี่ยงอันตรายขายของในเมืองนี้ เหตุใดถึงไม่เอาศิลาแร่หนีไปก่อน แล้วไปหาโอกาสเหมาะๆ ขายออกไปในเมืองอื่น เช่นนั้นราคาศิลาแร่ก็จะไม่ถูกกดจนต่ำเช่นนี้” หญิงสาวเผ่ามารหน้าตาหมดจดคนหนึ่ง ยังคงเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ
“หึ เจ้าอยากป้อนอาหารนกที่ตายไปแล้วเพราะความมั่งคั่งหรือ! นำศิลาแร่ไปด้วย เป็นการรนหาที่ตายของพวกเราอย่างแท้จริง หากไม่มีสมบัติมหาศาลอยู่กับตัว ขอแค่พวกเราหนีทัน แม้ว่าขุมอำนาจใหญ่ๆ เหล่านั้นจะรู้ข่าว กว่าครึ่งก็ไม่มีทางเสียแรงไล่สังหารพวกเรา แต่หากนำศิลาแร่ไปด้วย เกรงว่าพวกเราวิ่งไปสุดหล้าฟ้าเขียว ขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นก็ไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ แน่ และยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้ข้าศึกษาอย่างละเอียดแล้ว ว่าเหตุใดเหมืองแร่ส่วนตัวถึงมีศิลาแร่หายากปรากฏขึ้นจำนวนมาก กลับพบข่าวที่แย่ยิ่งกว่าเดิม” อู๋โยวเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ข่าวที่แย่กว่าเดิม! พี่ใหญ่ ยังมีข่าวอันใดที่แย่กว่าสถานการณ์ของพวกเราในยามนี้อีก!” ชายหนุ่มเผ่ามารพลันตกตะลึง อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
บุรุษและสตรีเผ่ามารคนอื่นๆ เองก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา