หานลี่ครุ่นคิดเล็กน้อย สะบัดแขนเสื้อไปกลางอากาศ เหนือศีรษะมีลำแสงสว่างวาบ ภูเขาย่อมๆ สูงสองสามจั้งสามลูกปรากฏขึ้น
เขาร่ายอาคมกระตุ้น ภูเขาสามลูกส่งเสียงกรีดร้องแล้วร่อนลงมารอบๆ แท่นผลึก!
ตึง! ตึง! ตึง!
ภูเขาขนาดย่อมสามลูกร่อนลงมาบนพื้นอย่างแรง และเปล่งแสงสว่างวาบพลางขยายใหญ่ขึ้น พริบตาก็มีขนาดร้อยจั้งเศษ ราวกับยอดเขาขนาดยักษ์ของจริงก็ไม่ปาน คุ้มกันแท่นผลึกเอาไว้ข้างในอย่างแน่นหนา
หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จ หานลี่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ อีก แค่หลับตานั่งสมาธิ
เขานั่งสมาธิตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึงเย็น และจากยามเย็นจนถึงเช้า
…
นักพรตเซี่ยและอิ๋นเย่ว์ที่อยู่บนยอดเขาสองลูกที่อยู่ไกลออกไป จับจ้องการเคลื่อนไหวของหานลี่อยู่เงียบๆ แต่ใบหน้ากลับมีสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป
นักพรตเซี่ยมีสีหน้าราบเรียบ แต่หว่างคิ้วของอิ๋นเย่ว์กลับเผยความกังวลออกมา
หลังจากผ่านไปอีกสองชั่วยาม ยามที่แสงอาทิตย์แรกแผ่ลงมาที่ยอดเขาในละแวกนั้น หานลี่ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น มือหนึ่งร่ายอาคมอย่างช้าๆ กลิ่นอายยิ่งใหญ่แผ่ออกมาจากเรือนร่างพวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้าทันที แผ่นหลังมีลำแสงสีทองสว่างวาบ เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์สูงสองสามจั้งปรากฏออกมา
หานลี่ร้องตะโกนด้วยเสียงต่ำๆ ออกมา เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่นหลังเปล่งแสงสีทองสว่างวาบ คาดไม่ถึงว่าจะมีขนาดร้อยจั้งเศษ ในเวลาเดียวกันดวงตาทั้งหกก็ลืมขึ้น แขนทั้งหกร่ายอาคมที่แตกต่างกัน
หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลางอากาศก็มีพายุหมุนก่อตัวขึ้น เมฆดำปกคลุม
หานลี่ที่นั่งสมาธิอยู่บนแท่นผลึก ทำเหมือนมองไม่เห็นทุกอย่าง แค่ยกมือขึ้นร่ายอาคมไปด้านล่าง
พริบตานั้นแท่นยักษ์ก็ส่งเสียงอึกทึกออกมา ลวดลายบนผิวไหลวนโคจรราวกับมีชีวิตก็ไม่ปาน และกลายเป็นเขตอาคมขนาดน้อยใหญ่ร้อยเขต กะพริบวาบๆ อยู่บนยอดเขา
ไอวิญญาณฟ้าดินรอบๆ สั่นเทาอย่างรุนแรง ลำแสงห้าสีสันจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นทั่วท้องฟ้าจนสุดลูกหูลูกตา ราวกับว่าปกคลุมทั่วท้องฟ้า ท่าทางยิ่งใหญ่มโหฬาร!
และหานลี่ที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องก็หลับตาทั้งสองข้างสนิท ใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึก คาดไม่ถึงว่าจะเข้าสู่สมาธิอีกครั้ง
แต่จากนั้นเขตอาคมบนแท่นผลึกก็เปล่งแสงสว่างวาบ กลิ่นอายบนเรือนร่างแทบจะเพิ่มขึ้นทุกทุกหนึ่งเค่อ
แม้ว่าการเพิ่มความแข็งแกร่งจะเป็นไปอย่างช้าๆ หากไม่ตั้งใจตรวจสอบก็แทบจะสัมผัสไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไประดับการเพิ่มขึ้นก็ยังอยู่ในจุดที่น่าตกตะลึงยิ่ง
ส่วนเทวรูปสามเศียรหกกร ที่แผ่นหลังของหานลี่ร่างกายก็ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเช่นกันตามกลิ่นอายที่เพิ่มขึ้นทุกทุกหนึ่งชั่วยามร่างกายก็จะใหญ่ขึ้นสองสามจั้ง
ทั้งวันนั้นเทวรูปพลันสูงขึ้นสิบจั้งเศษ ร่างที่เดิมเป็นเงาลวงตาสีทองเองก็หนาขึ้น
เวลาค่อยๆ ผ่านไป!
หานลี่นิ่งงันอยู่บนแท่นผลึก แต่กลิ่นอายบนเรือนร่างกลับค่อยๆ เพิ่มขึ้นด้วยความเร็วที่ไม่เปลี่ยนแปลง ราวกับจะต่อเนื่องไปก็ไม่ปาน
…
ครึ่งเดือนต่อมากลิ่นอายบนเรือนร่างของหานลี่ก็เพิ่มขึ้นจนทำให้ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ต้องตกใจจนขวัญกระเจิงอย่างไม่รู้ตัว เทวรูปที่แผ่นหลังสูงสามร้อยจั้ง ร่างกายเปล่งแสงระยิบระยับ ร่างกายหนาแน่นขึ้นราวกับร่างจริงก็ไม่ปาน
และกลางอากาศเมฆสีดำราวกับก้นหม้อก็ปกคลุมทั่วท้องฟ้า แสงอาทิตย์และจันทราล้วนไม่อาจแทรกลงมาได้
ทั้งบ่อเปลี่ยนเป็นมืดมนอย่างหาที่เปรียบมิได้ ให้ความรู้สึกมืดมนอย่างหาที่เปรียบ
มีเพียงไอวิญญาณฟ้าดินที่กลายเป็นดวงลำแสง ที่ยังลอยนิ่งอยู่กลางอากาศตามจุดต่างๆ ทว่าจากเดิมที่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วก็เปลี่ยนเป็นขนาดเท่าไข่ไก่ตั้งแต่เมื่อไรก็สุดจะรู้ได้
มองไกลๆ ราวกับหิ้งห้อยยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนลอยนิ่งอยู่กลางอากาศก็ไม่ปาน และแผ่ลำแสงที่อ่อนโยนออกมา
ในที่สุดหานลี่ก็ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น รูม่านตาเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ ราวกับสายฟ้าสองสายเปล่งประกายอยู่ในเบ้าตา มือหนึ่งตบไปที่หน้าผากโดยไม่พูดจา รัศมีลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบ ทารกวิญญาณสีทองขนาดสองสามฉื่อปรากฏออกมา
แม้ว่าทารกวิญญาณจะมีขนาดเล็กจิ๋ว แต่ใบหน้าเล็กๆ กลับตึงเครียด หลังจากที่ปรากฏตัวขึ้นมือน้อยๆ ก็ยกขึ้นกลางอากาศแล้วชี้ไป
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น เมฆสีดำที่อยู่กลางอากาศมีแสงสีเงินสว่างวาบ สายฟ้าหนาสองสามจั้งสับลงมากลางอากาศ
ทารกวิญญาณสีทองหรี่ตาทั้งสองข้างลง คาดไม่ถึงว่าจะแค่อ้าปากเล็กๆ ออกโดยไม่หลบหลีก รัศมีลำแสงสีเขียวม้วนวนออกมา
ฉับ!
ประจุไฟฟ้ายักษ์สับลงมาด้านล่างอย่างไร้ซึ่งการกีดขวาง แต่หลังจากที่เปล่งแสงสว่างวาบก็หายวับไป ถูกทารกวิญญาณสูบเข้าไปในปากเล็กๆ ราวกับปลาวาฬสูบน้ำ
จากนั้นทารกวิญญาณสีทองถูมือทั้งสองข้างไปมา เรือนร่างมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ประจุไฟฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา คาดไม่ถึงว่าจะรวมตัวกันกลายเป็นอักขระสายฟ้าสีเงิน ในเวลาเดียวกันก็พุ่งออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านพร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น
หลังจากเสียงร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง อักขระสายฟ้าเหล่านี้ก็จมหายวับไปจากกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย
ต่อมาพลังไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งก็ฟาดลงมารอบๆ ลูกบอลลำแสงห้าสีที่เดิมนิ่งงันอยู่พลันเกิดความโกลาหล
ท่ามกลางลูกบอลลำแสงที่เปล่งแสงสว่างวาบ พลันหมุนวนโคจรไปมา
ไม่ใช่แค่นั้นทารกวิญญาณสีทองที่นั่งสมาธิอยู่กลางอากาศ พลันใช้มือหนึ่งร่ายอาคม กายเนื้อด้านล่างแผ่กลิ่นอายแข็งแกร่งออกมา แรงกดที่น่ากลัวราวกับจะกดทับทุกสิ่งแผ่ลงมาเหนือบ่อ แล้วหมุนวนโคจรติ้วๆ
จากใจกลางของแท่นยักษ์ มีระลอกคลื่นไร้รูปร่างขนาดยักษ์เพิ่มขึ้นมา ฉีกทึ้งลูกบอลลำแสงที่ลอยอยู่รอบด้านเข้าไป และกลายเป็นรัศมีลำแสงเป็นเส้นๆ พ่นลงมาด้านล่าง
ทารกวิญญาณและกายเนื้อของหานลี่เปล่งแสงสว่างวาบ ในเวลาเดียวกันก็มีลวดลายวิญญาณสีเงินปรากฏขึ้นเป็นสายๆ
รัศมีลำแสงห้าสีม้วนวน พอสัมผัสกับผิวหนังของทั้งสอง ชั่วขณะนั้นลวดลายวิญญาณสีเงินก็เปล่งแสงเจิดจ้า จมหายเข้าไปข้างในอย่างเงียบเชียบ
กลางอากาศเหนือบ่อที่ม้วนลูกบอลลำแสงเข้าไปในระลอกคลื่นยักษ์ไม่หยุด อีกด้านของระลอกคลื่นที่เป็นเหมือนร่มยักษ์พลันพ่นรัศมีลำแสงม้วนวนออกมาด้านล่าง แล้วบรรจุเข้าไปในร่างของทารกวิญญาณและกายเนื้อของหานลี่ไม่หยุด
จากนั้นเวลาพลันไหลผ่านไป ผิวของทารกวิญญาณค่อยๆ เจิดจ้าขึ้น ผิวหนังของกายเนื้อด้านล่างเปล่งแสงแวววับออกมา
ทว่าแค่หนึ่งมื้ออาหารทั้งสองก็ถูกรัศมีลำแสงสีทองปกคลุมเรือนร่างเอาไว้ คนหนึ่งเรือนร่างแวววาวราวกับหยกขาวก็ไม่ปาน
ทว่ายามนี้ไอวิญญาณเหนือบ่อพลันกลายเป็นลูกบอลลำแสง ในที่สุดก็ถูกกวาดไปจนเกลี้ยง ชั่วครู่ก็ทำให้ท้องฟ้าผืนใหญ่ว่างเปล่า
ทารกวิญญาณของหานลี่เห็นระลอกคลื่นมีรัศมีลำแสงห้าสี ใบหน้าเล็กๆ ก็อดที่จะเคร่งขรึมไม่ได้ ไม่เห็นเขามีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่เศียรหนึ่งของเทวรูปสีทองราวกับมนุษย์ยักษ์ที่แผ่นหลังก็ส่งเสียงผิวปากต่ำๆ ออกมา จากนั้นกรทั้งหกก็ร่ายอาคม กลางฝ่ามือมีลำแสงสีทองหมุนวน มีลูกบอลลำแสงสีทองขนาดเท่าใบหน้าปรากฏขึ้น และโบกสะบัดไปกลางอากาศพร้อมกัน
ชั่วพริบตานั้นลูกบอลลำแสงหกลูกก็พุ่งออกมา และรวมตัวกันกลางอากาศ กลายเป็นลูกบอลลำแสงยักษ์สีทองเรืองรอง
ทารกวิญญาณส่งเสียงร้องมือน้อยๆ กวักไปกลางอากาศ ลูกบอลลำแสงยักษ์เปล่งแสงสว่างวาบ ส่งเสียงเปรี้ยะๆ ระเบิดออก
อักขระยันต์สีทองจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมา แล้วหมุนวนอย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นระลอกคลื่นยักษ์สีทอง ชั่วพริบตาก็สอดแทรกไปกับระลอกคลื่นเดิมจนเป็นร่างเดียวกัน
ปากของเทวรูปสามเศียรหกกรผิวปากต่ำๆ ไม่หยุด กรทั้งหกพลิ้วไหวอีกครั้ง ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบ ชั่วขณะนั้นพลันพ่นเสาลำแสงสีทองหนาเท่าถังน้ำออกมาหกสาย โจมตีไปยังก้นของระลอกคลื่นกลางอากาศอย่างพอดิบพอดี และจมหายไปอย่างเงียบเชียบ
ระลอกคลื่นสีทองมีเสียงอึกทึกดังขึ้น ชั่วพริบตาก็ขยายขนาดเป็นใหญ่ยักษ์
ทว่าสองสามชั่วลมหายใจ ระลอกคลื่นสีทองก็กลายเป็นสิ่งมหึมาราวกับร่มยักษ์ แทบจะปกคลุมบ่อน้ำหนึ่งในสามส่วนเอาไว้
ทารกวิญญาณของหานลี่เห็นเช่นนั้น ชั่วขณะนั้นใบหน้าพลันเผยสีหน้ายินดีออกมา มือเล็กๆ ร่ายอาคมชี้ไปทางระลอกคลื่นสีทองอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นระลอกคลื่นสีทองพลันมีเสียงร้องต่ำๆ ดังขึ้น กลับเป็นเสียงสวดมนต์ภาษาสันสกฤตราวกับเสียงเพลงดังออกมาแทน ในเวลาเดียวกันพลังแรงดูดมหาศาลราวกับฉีกขาดท้องฟ้าได้พลันม้วนวนออกมา และกลายเป็นระลอกคลื่นแผ่ออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน
ครู่ต่อมาทั้งท้องฟ้าก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น แผ่ไปรอบด้านอย่างรวดเร็ว!
หลังจากที่ผ่านไปสองสามชั่วลมหายใจ ขอบฟ้าก็มีเสียงเพรียกที่น่าตกตะลึงกว่าก่อนหน้าดังขึ้น ราวกับมีระลอกคลื่นที่น่าตกตะลึงม้วนวนมาจากจุดที่ไกลยิ่งกว่า
ลำแสงวิญญาณเปล่งแสงสว่างวาบ ขอบฟ้ามีสีสันสวยงามปรากฏขึ้น แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเพรียกดังขึ้น ระลอกคลื่นสีสันสวยงามที่ไร้ขอบเขตม้วนวนเข้ามา
ลำแสงวิญญาณเปล่งแสงสว่างวาบ ขอบฟ้ามีสีสันสวยงามปรากฎขึ้น แต่ทันใดนั้นก็เสียงเพรียกดังสนั่นขึ้น ระลอกคลื่นสีสันสวยงามไร้ขอบเขตม้วนวนปรากฏขึ้น
ทารกวิญญาณของหานลี่เห็นเช่นนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี รูม่านตาเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ ชั่วขณะนั้นพลันมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของระลอกคลื่นได้อย่างชัดเจน
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นลูกบอลลำแสงห้าสีจำนวนนับไม่ถ้วนรวมร่างกัน ถึงได้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าตกตะลึง
ใบหน้าเล็กๆ ของทารกวิญญาณอดที่จะเผยสีหน้ายินดีออกมาไม่ได้ หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง เทวรูปยักษ์หกกรที่แผ่นหลังก็พลิ้วไหวอีกครั้ง ชั่วขณะนั้นก็พ่นเสาลำแสงสีทองสิบกว่าต้นออกมาพุ่งเข้าไปในระลอกคลื่นสีทอง ทำให้ระลอกคลื่นขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง แล้วมีพลังแรงดูดมหาศาลสองสามลูกม้วนวนออกมา
ภายใต้พลังมหาศาลนี้ระลอกคลื่นทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็เปล่งแสงสว่างวาบสองสามครั้งแล้วมาอยู่เหนือบ่อ ทยอยกันจมหายเข้าไปในระลอกคลื่นสีทอง
ชั่วขณะนั้นเหนือแท่นผลึกรัศมีลำแสงหนาแน่นจนเกือบจะเหนียวข้นสองสามเท่าก็ม้วนวนออกมาอีกครั้ง
ทารกวิญญาณของหานลี่และกายเนื้อมีอักขระวิญญาณสีเงินหมุนวนโคจร ทยอยกันดูดรัศมีวิญญาณเข้าไปอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
ร่างของทั้งสองราวกับรูที่ไร้ก้น ไม่ว่าพลังปราณฟ้าดินจำนวนเท่าไรก็สามารถดูดเข้าไปได้
และระลอกคลื่นยักษ์กลางอากาศ ครั้งนี้พลันฉีกทึ้งไอวิญญาณฟ้าดินในรัศมีสองสามหมื่นลี้ ดังนั้นระลอกคลื่นที่ขอบฟ้าพลันให้ความรู้สึกที่ไม่มีวันหมดแรงอย่างต่อเนื่อง
ทว่าแม้ว่าทารกวิญญาณของหานลี่และกายเนื้อจะแข็งแกร่งกว่าผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันสองสามเท่า แต่ภายใต้พลังแรงดูดมหาศาลเช่นนี้ ไม่นานก็เผยท่าทีอิ่มตัวออกมา
หากดูดต่อไปอีก ทารกวิญญาณและกายเนื้อของเขาไม่เพียงจะไม่อาจเสริมความแข็งแกร่งชั่วคราวได้ กลับมีโอกาสจะระเบิดแล้วจบชีวิตลงแปดเก้าส่วน
ดังนั้นหลังจากที่ทารกวิญญาณส่งเสียงแค่นเสียงหึออกมา อักขระวิญญาณที่ผิวก็เปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป ลายอาคมบนกายเนื้อด้านล่างก็หายวับไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ยามนี้เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เดิมนิ่งงันกลับอ้าปากทั้งสามออก ออกแรงดูดกลืนไอวิญญาณฟ้าดินที่ทะลักออกมากลางอากาศโดยไม่ได้ออกแรงเลยสักนิด ร่างกายเปล่งแสงสีทองจางๆ คาดไม่ถึงว่าจะขยายใหญ่ขึ้นหนึ่งส่วน
เช่นนี้แม้ว่าทารกวิญญาณของหานลี่และกายเนื้อจะไม่ดูดพลังวิญญาณฟ้าดินอีก แต่เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์กลับรับทั้งสองอย่างไม่เกรงใจ ดูดรัศมีวิญญาณที่หมุนวนไปจนหมดโดยไม่เหลือเข้าไปในร่าง