A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน – ตอนที่ 2221 อัสนีบวงสรวงปรากฏขึ้นอีกครั้ง

หานลี่ย่อมไม่รู้ฉากที่เกิดขึ้นในส่วนลึกของวังธรณี แต่หลังจากที่ไม่รู้สึกประหลาดๆ ก็อดที่จะวางใจขึ้นสองสามส่วนไม่ได้

ยามนี้พวกเขาสี่คนเดินออกมาจากสวนดอกไม้ มาถึงจัตุรัสเล็กๆ ที่ดูธรรมดาๆ แห่งหนึ่ง

ตรงข้ามจัตุรัสมีตำหนักขนาดสองสามหมู่ตั้งตระหง่านอยู่ ดูแล้วเงียบสงัด ไม่มีสุ้มเสียงเลยสักนิด

“แปลกจัง จิตสัมผัสไม่อาจเข้าไปได้ หรือว่ากระตุ้นเขตอาคมนี้ไม่ได้” ลี่ว์สือเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ไม่ใช่ว่าเขตอาคมไม่มีผล แต่เป็นเพราะตำหนักหลังนี้ใช้วัตถุดิบพิเศษจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราสร้างขึ้น นี่เป็นวัตถุดิบที่เรียกว่า ‘ทรายแม่น้ำยมโลก’ มีสรรพคุณในการกั้นจิตสัมผัส สหายลี่ว์สือไม่อาจตรวจสอบด้านในได้ ย่อมไม่แปลกเลยสักนิด” เป่าฮวาที่อยู่ด้านข้างพิจารณาตำหนักสองแวบ กลับหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น

“ไม่ถูก ที่นี่ดูเหมือนจะมีกลิ่นอายของแมลงพิษ!”

บรรพชนลี่ว์สือกลับไม่ได้วางใจเพราะคำพูดของเซี่ยเหลียน กลับย่นจมูกสองครั้ง หน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมแล้วเอ่ย ในเวลาเดียวกันมือหนึ่งก็ตะปบไปกลางอากาศ ไอสีเขียวพันรัดดาสั้นแล้วปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ

“กลิ่นอายแมลงพิษ! สหายลี่ว์สือไม่มีทางเข้าใจผิด” เซี่ยเหลียนได้ยินพลันตกตะลึง แล้วใช้นิ้ววาดไปด้านหน้า วงแหวนทรงกลมสีเงินอ่อนเปล่งแสงสว่างวาบแล้วปรากฏขึ้น

“หึ ตาเฒ่าฝึกฝนวิธีร้อยชีวิตไม่เหลวไหล ขอแค่ตั้งใจแม้ว่าจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ห่างออกไปยี่สิบสามสิบลี้ก็แยกแยะกลิ่นอายได้อย่างชัดเจน ยามนี้ก็นับว่าได้อันใดแล้ว!” บรรพชนลี่ว์สือแค่นเสียงหึ แล้วเอ่ยอย่างมั่นใจมาก

หานลี่ได้ยินก็ขมวดคิ้วมองไปยังตำหนักที่อยู่ตรงข้ามชั่วครู่ ฉับพลันนั้นก็ร่ายมือทั้งสองข้าง แล้วชูขึ้นอีกครั้ง

เสียงฟ้าผ่า “เปรี้ยง” ดังขึ้นสองครั้ง ประจุไฟฟ้าสีทองสองสายดีดตัวออกมา จากนั้นพลันหมุนวน กลายเป็นงูเหลือมสีทองยาวสิบจั้งเศษ เปล่งแสงสว่างวาบแล้วกระโจนเข้าไปประตูในตำหนัก

พริบตานั้นในตำหนักก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น มองเห็นสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกลางๆ

“อัสนีหลีกหนี!” เซี่ยเหลียนเห็นสายฟ้าสีทองมีท่าทีน่าตกตะลึงก็อดที่จะหน้าเปลี่ยนสีไม่ได้

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วอัสนีเทวาปัดเป่าภยันตรายจำไม่มีผลควบคุมบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามารอย่างพวกนางนัก แต่หากออกมาจากหานลี่ที่เป็นสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกัน ย่อมมีผลไม่น้อย

และในยามนี้ท่ามกลางเสียงอัสนีในตำหนักก็มีเสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้น จากนั้นเสียง “พรึ่บๆ” ก็ดังขึ้น เงาสีดำห้าดวงเปล่งแสงสว่างวาบพุ่งออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วเรียงตัวกันร่อนลงมาเหนือจัตุรัสขนาดย่อม เผชิญหน้ากับหานลี่และสิ่งมีชีวิตระดับมหายานสองสามคนพอดี

“เป็นแมลงพิษเหล่านั้นจริงๆ ด้วย!” ลี่ว์สือมองเห็นโฉมหน้าเงาสีดำเหล่านั้นอย่างชัดเจน ก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นเยียบ

เงาสีดำห้าดวงคือแมลงยักษ์หน้าคนตัวเป็นแมลงห้าตัว ทุกตัวล้วนมีความสูงสามสี่จั้ง บนคอยาวบางมีใบหน้าของบุรุษอัปลักษณ์ปรากฏอยู่

และแขนหน้าของพวกมันก็กุมอาวุธที่เหมือนกับกระบองหนาๆ เอาไว้

ทว่านอกจากแมลงหน้าคนตัวใหญ่สุดที่ยืนอยู่ตรงกลางแล้ว เกราะเป็นสีฟ้าอ่อน อีกสองตัวล้วนมีร่างกายสีดำ คล้ายกับซากแมลงหน้าคนที่หานลี่และพวกเห็นมาก่อนหน้า

แมลงหน้าคนสีฟ้าที่เป็นผู้นำเห็นหานลี่และพวกทั้งสี่ ใบหน้าพลันเผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา และพ่นคำพูดมนุษย์ออกมาพลางหัวเราะประหลาดๆ ออกมา

“คิกๆ…เยี่ยมจริงๆ…คาดไม่ถึงว่าจะเป็นชนต่างเผ่า…และกินเลือดเนื้อเป็นอาหาร…คิกๆ…”

“ใช่แล้ว…คิดถึงรสชาติโลหิตจริงๆ…ครั้งที่แล้วที่กินไปก็นานมากแล้ว…คิกๆ…”

แมลงหน้าคนตัวอื่นๆ เผยก็เผยสีหน้าละโมบออกมา

หานลี่และคนอื่นๆ ย่อมมองเห็นแมลงหน้าคนเหล่านั้นอย่างชัดเจน

เซี่ยเหลียนได้ยินพลันมีสีหน้าเคร่งขรึม มือหนึ่งชี้ไปกลางอากาศ วงแหวนสีเงินสามวงตรงหน้าส่งเสียงอึกทึกท่ามกลางลำแสงเจิดจ้า

หานลี่มองแมลงหน้าคนห้าตัวแล้วกลับเอ่ยกับเซี่ยเหลียนและลี่ว์สือด้วยรอยยิ้ม

“คาดไม่ถึงว่าจะพบถึงห้าตัว นี่กล่าวได้ว่าทั้งไม่นับว่าดีมาก และไม่นับว่าแย่มากกระมัง ข้าและพี่เซี่ยต่อกรกับสามตัวนี้ ที่เหลืออีกสองตัวก็มอบให้สหายทั้งสอง น่าจะไม่มีปัญหาสินะ”

“ไม่มีปัญหาแน่นอน สหายเซี่ยและพี่หานไม่ใช่ระดับมหายานทั่วๆ ไป ก็นับว่ารบกวนแล้ว” เซี่ยเหลียนหัวเราะหึๆ แล้วตอบรับ

บรรพชนลี่ว์สือย่อมไม่คัดค้าน โบกใบมีดสั้นในมือ ชั่วขณะนั้นไอสีเขียวพลันม้วนวนกลายเป็นมังกรวารี กระโจนไปยังแมลงหน้าคนอีกคน

แมลงหน้าคนตัวนั้นเห็นเช่นนั้นกลับไม่หวาดกลัวเลยสักนิด หลังจากอ้าปากออกก็พ่นไอสีเทาขาวออกมา

เสียงอึกทึกดังขึ้น!

ไอสองกลุ่มปะทะกัน แล้วหมุนวนทันที พลางพุ่งไปยังที่สูง ราวกับว่ามังกรวารีสีเขียวและเทาสองตัวกำลังกัดทึ้งกันไปมาไม่หยุด

วงแหวนสีเงินสามวงตรงหน้าเซี่ยเหลียนเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วหายไปติดๆ

ครู่ต่อมาเหนือแมลงยักษ์อีกตัวพลันมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น วงแหวนสีเงินสามวงเลือนรางแล้วปรากฏขึ้น พลางร่อนลงมาด้านล่างอย่างรุนแรง

ใบหน้าของแมลงหน้าคนด้านล่างพลันเผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา แค่โบกกระบองหนาๆ สองกระบองที่กุมไว้ในมือไปมา ชั่วขณะนั้นบรรยากาศรอบๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น พลังมหาศาลสีขาวสองกลุ่มปะทะเข้ากับวงแหวนสีเงินสามวงราวกับคลื่นโหมกระหน่ำ

ลำแสงของวงแหวนสีเงินสามวงพลิ้วไหว คาดไม่ถึงว่ายามนั้นจะถูกต้านทานจนไม่อาจร่อนลงมาได้

แมลงหน้าคนสีฟ้าที่อยู่ตรงกลางเห็นเช่นนั้น ปากก็หัวเราะประหลาดๆ ออกมาอีกครั้ง สะบัดกระบองสีดำในมือเช่นกัน ขาหลังที่ยืนอยู่พลันขยับ ร่างทั้งร่างเลือนรางจมหายไปกลางอากาศ

นักพรตเซี่ยเห็นเช่นนั้นแววตาพลันเปล่งประกาย เอ่ยอย่างราบเรียบว่า ‘มอบให้ข้า’ ผิวมีสายฟ้าสีเงินปรากฏขึ้นแล้วเสียงฟ้าผ่าพลันดังขึ้นพลางสลายหายไป

ครู่ต่อมากลางอากาศพลันมีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น นักพรตเซี่ยและแมลงยักษ์สีฟ้าพลันปรากฏตัวขึ้นจากอากาศที่สั่นเทาท่ามกลางระเบิดดังสนั่น

นักพรตเซี่ยตะปบมือไปกลางอากาศโดยไม่ปริปาก ประจุไฟฟ้าสีเงินพันรัดรวมตัวกัน กลายเป็นใบมีดยักษ์สีเงินระยิบระยับสองเล่ม จากนั้นร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดสิบจั้งเศษ แล้วสาวเท้าไปด้านหน้าพร้อมกับเสียงอึกทึกแล้วสับลงไปที่ศีรษะของแมลงยักษ์ที่พุ่งเข้ามา

แมลงยักษ์สีฟ้าส่งเสียงร้อง ร่างกายพลิ้วไหวใหญ่ขึ้นสองสามเท่า มือโบกกระบองยักษ์ พุ่งเข้ามาอย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว

เสียงอึกทึกราวกับฟ้าดินกำลังถล่มทลายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองล้วนไม่หลบหลีก เผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยใบมีดที่กำลังร่ายรำมา

ใบหน้าของนักพรตเซี่ยไร้ซึ่งความรู้สึก แต่มือกลับโบกใบมีดสีเงินคู่หนึ่ง ราวกับกรงล้อสีเงินสองกรงวนล้อมรอบศัตรูไปมา

แมลงยักษ์หน้าคนสีฟ้ากลับหัวเราะเสียงประหลาดไม่หยุด กระบองยักษ์สีดำในมือกลายเป็นไอสีดำหนาๆ สายหนึ่งพันรอบตัวของเขาไปมา ใบหน้าอัปลักษณ์คล้ายกับจะบ้าคลั่ง

ทั้งสองในยามนี้กลับแยกความสูงต่ำไม่ออก

ยามนี้แผ่นหลังของเซี่ยเหลียนพลันมีเงาลวงตาดอกไม้สีเขียวยักษ์ปรากฏขึ้น แค่กะพริบวาบสองสามครั้ง ก็กลายเป็นใบมีดลำแสงสีเขียวนับพันสาย ภายใต้การกระตุ้นก็กลายเป็นทะเลใบมีดม้วนวนไปยังแมลงยักษ์ฝั่งตรงข้าม

และบรรพชนลี่ว์สือพลันมีตราประทับยักษ์สีทองเรืองรองเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สุดจะรู้ได้ มือหนึ่งชี้นิ้วไป ตราประทับยักษ์กลายเป็นภูเขาสีทองทับไปที่คู่ต่อสู้ของตนเองไม่หยุด

แม้ว่าแมลงยักษ์หน้าคนที่มันเผชิญจะมีร่างกายแข็งแกร่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าตกตะลึงนี้ ก็ทำได้เพียงหลบหลีกอย่างต่อเนื่องเท่านั้นไม่กล้าตั้งรับตรงๆ

หานลี่เห็นสองคนนี้สำแดงอิทธิฤทธิ์พันรัดแมลงหน้าคนสองตัว ทันใดนั้นสายตาก็กวาดไปยังแมลงหน้าคนสองตัวที่เหลืออยู่

แมลงสองตัวสุดท้ายเผยสีหน้าลังเลออกมา เห็นได้ชัดว่ายังคิดไม่ออกว่าจะช่วยสนับสนุนสหายก่อนหรือว่าต่อกรกับศัตรูตรงหน้าก่อน

หานลี่เห็นเช่นนั้นพลันหัวเราะน้อยๆ ออกมาไม่ได้พูดจา มือหนึ่งร่ายอาคม อักขระสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกมา

แต่เสียงฟ้าร้องพลันดังขึ้น อักขระยันต์กลายเป็นประจุไฟฟ้าเจิดจ้าสีทอง ห่อหุ้มเรือนร่างของหานลี่ไว้

แต่อาคมในมือหนึ่งของเขาพลันเปลี่ยนไป มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว

ประจุไฟฟ้าสีทองทั้งหมดพันรัดรวมตัวอยู่ใจกลางฝ่ามือของเขา คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นลูกบอลอัสนีสีทองเรืองรองในพริบตา ใจกลางฝ่ามือของเขามีเสียงอึกทึกดังขึ้นไม่หยุด และแผ่กลิ่นอายที่น่ากลัวยิ่งออกมา

แมลงหน้าคนสองตัวเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็สัมผัสได้พลังคุกคามของหานลี่ แทบจะในเวลาเดียวกันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ปีกที่แผ่นหลังของทั้งสองกระพือ คาดไม่ถึงว่าจะกระโจนมาหาหานลี่พร้อมกับเงาที่ไม่สมบูรณ์

แมลงหนึ่งในนั้นอ้าปาก พ่นของเหลวสีดำที่มีกลิ่นคละคลุ้งออกมา

แมลงอีกตัวกลับร่ายมือทั้งสอง กระบองหนาๆ สองกระบองในมือส่งเสียงกรีดร้อง คาดไม่ถึงว่าจะหลุดมือแล้วทุบไปทางหานลี่

กระบองยังไม่ทันได้ตกลงมาจริงๆ พายุน่ารังเกียจสองกลุ่มที่แทบจะหายใจไม่ออกพลันโชยมา

หานลี่พลันเลิกคิ้ว ยักไหล่ทั้งสองเบาๆ ร่างทั้งร่างกลายเป็นลำแสงวิญญาณสลายหายไปราวกับฟองสบู่

กระบองหนาๆ ทั้งสองและของเหลวสีดำร่วงลงมาจากบนท้องฟ้า!

แต่แมลงยักษ์สองตัวเองก็มีสติสัมปชัญญะ เมื่อเห็นฉากนี้ ทันใดนั้นปีกที่แผ่นหลังก็กระพือ ร่างเลือนรางหายไปจากกลางอากาศเช่นกัน

ครู่ต่อมาสองฝั่งของจัตุรัสก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น แมลงยักษ์สองตัวพลันปรากฏออกมาอย่างเงียบเชียบ

ฉากที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าพลันปรากฏขึ้น

จุดที่หานลี่หายไปมีลำแสงสีเขียวรวมตัวกัน เงาร่างคนสายหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครั้งลางๆ

เมื่อครู่หานลี่ไม่ได้ไปจากที่นี่จริงๆ แค่สำแดงวิชาลวงตา ปิดบังแมลงสองตัวนั้นได้อย่างง่ายดาย

แมลงยักษ์สองตัวเห็นฉากนี้ก็รู้ว่าแย่แล้ว ทันใดนั้นก็ร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว แล้วกระโจนมาหาหานลี่อีกครั้ง

แต่ยามนี้หานลี่พลันกระตุ้นอาคม โยนลูกบอลอัสนีในมือไปกลางอากาศ

ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบ ลูกบอลอัสนีจมหายไปกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย แต่เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นพลันดังมา

อักขระยันต์สีทองจำนวนนับไม่ถ้วนแผ่ออกมาจากกลางอากาศ เสาอัสนีสีทองหนาเท่าถังน้ำเปล่งแสงสว่างวาบ โจมตีไปที่แมลงหน้าคนตัวนั้นอย่างแม่นยำ

นั่นก็คือเคล็ดลับวิชาบวงสรวงอัสนีที่หานลี่เพิ่งเรียนได้ไม่นาน!

เสียงกรีดร้องคร่ำครวญดังขึ้น!

แมลงพิษตัวนี้ส่งเสียง “ครืดๆ” ท่ามกลางลำแสงสีทองไม่ทันแม้กระทั่งจะดิ้นรนก็กลายเป็นผุยผงสลายหายไป

คาดไม่ถึงว่าเคล็ดวิชาบวงสรวงอัสนีจะร้ายกาจเพียงนี้ แม้แต่แมลงหน้าคนก็ยังไม่อาจต้านทานการโจมตีได้!

แมลงยักษ์อีกตัวเห็นเช่นนี้ก็ทั้งตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว ไม่รอให้ตนเองกระโจนมา ก็ส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงออกมา ระลอกคลื่นไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งม้วนมาทางหานลี่

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

Fan Ren Xiu Xian Chuan, Phàm Nhân Tu Tiên, RMJI, 凡人修仙传
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
เจ้าบื้อที่สอง หานลี่ เด็กหนุ่มธรรมดาสามัญผู้ได้รับวาสนาให้ไปเข้าทดสอบเป็นศิษย์ในสำนักเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทำให้เขาได้รู้จักกับโลกใบใหม่ที่หนุ่มน้อยชนบทอย่างเขาใฝ่ฝันอยากสัมผัสกับมันมาโดยตลอด ในโลกแห่งเซียน เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรต่างฝึกฝนค้นหาเส้นทางเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นนิรันดร์ ทว่าเส้นทางที่แม้กระทั่งผู้บำเพ็ญเพียรซึ่งมีพรสวรรค์สูงส่งแต่กำเนิดยังต้องผ่านความยากลำบากเท่าไหร่กว่าจะไปถึงจุดนั้น แล้วเด็กหนุ่มปุถุชนเช่นเขาจะทำได้หรือ? ด้วยความสามารถอันธรรมดาสามัญของเขาจะเอาตัวรอดในโลกแห่งเซียนนี้ไปได้อย่างไร? เส้นทางแห่งความสำเร็จช่างอยู่ห่างไกลเสียเหลือเกิน… คัมภีร์วิถีเซียนเป็นนิยายจีนย้อนยุคเล่าเรื่องการเดินทางอันน่าติดตามของหานลี่ ผู้ต้องใช้ทั้งไหวพริบและพลังยุทธ์ในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ด้วยตัวคนเดียว มาร่วมเดินทางไปกับหานลี่ ผู้เย้ยฟ้าท้านรกเพื่อแสวงหาเส้นทางแห่งการเป็นเซียนด้วยกันเถอะ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset