“โครม” เสียงอู้อี้ดังขึ้น กำปั้นเปลวสีทองก็พุ่งเข้าใส่ ใบมีดลมสีขาวพลันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
หานลี่ในร่างของลิงยักษ์เลือนราง ที่ขวางอยู่ด้างหน้าของนักพรตเซี่ย กำลังหุบกำปั้นขนาดใหญ่เข้ามาอย่างช้าๆ
นางพญาหนอนข้าวได้เห็นดังนี้ ก็ตกใจเล็กน้อย
ใบมีดลมเล่มนั้นเมื่อครู่นี้ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ความจริงแล้วมันกลับรวมตัวอัดแน่นไปด้วยพลังมากมายที่ไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรง
ไม่ต้องพูดถึงการขว้างมีดขว้างดาบระดับสูงโดยทั่วไป กลัวว่าแม้แต่สมบัติวิญญาณธรรมดาก็ไม่สามารถสั่นคลอนมันได้เลยแม้แต่น้อย
“ข้าประเมินเจ้าต่ำไป ดูเหมือนว่าเนื้อในเจ้านั้นเองก็แข็งแกร่ง ข้าจำได้ว่าในกลุ่มของเผ่ามารที่ถูกสะกดด้วยเวทมนตร์ของข้า มีมารแปลงกายระดับมหายานขั้นสูงที่ดูเหมือนกับเจ้าในตอนนี้มาก เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะฝึกวิทยายุทธ์แบบเดียวกัน” ในสายตาของนางพญาหนอนข้าวมีแสงเย็นวาบปรากฏขึ้นพร้อมเอ่ยขึ้นช้าๆ
นางไม่ถามและไม่สนใจว่านักพรตเซี่ยและเป่าฮวาจะหายไปที่ไหน ตอนนี้นางมุ่งความสนใจไปที่ หานลี่ผู้เดียว
“อ้อ ท่านหมายถึงวิชานิพพานบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่าวิชามารเที่ยงแท้พราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ของข้านี้จะมีบางอย่างที่ไม่เหมือน แต่กับแหล่งกำเนิดการฝึกวิทยายุทธ์อื่นๆ บางอย่าง นอกจากนี้ ข้าก็จะบอกความจริงกับใต้เท้า แม้ว่าข้าจะมีสมบัติอยู่ไม่น้อย และมีความเชี่ยวชาญในอิทธิฤทธิ์อยู่มาก แต่ที่จริงความสามารถที่แท้จริงในการบังคับกล่อง น่าเสียดายที่มันก็คือร่างร่างกายนี้” หานลี่เอ่ยขึ้นเบาๆ ไม่กี่ประโยค แขนทั้งหกข้างของร่างลิงยักษ์ก็จีบมือในท่าสวดเต้าหยิน แสงสีทองขนาดใหญ่เปล่งออกมาจากร่าง เกล็ดสีม่วงทองก็พุ่งกระฉูดออกมาจากร่าง แต่ละลวดลายวิญญาณสีเงินอัดแน่น และไหลเวียนทั่วทั้งผิวกาย
ทันใดนั้น มังกรทอง หงส์หยก วิหคอัสนี ไก่ฟ้า ร่างภาพลวงตาขนาดใหญ่หลายตัวปรากฏขึ้นมา ข้างหลังร่างลิงยักษ์ และหลังจากที่แวบขึ้นมาก็พุ่งไปข้างในร่างวานรยักษ์ทันที
ร่างกายของวานรยักษ์ฉับพลันก็ขยายใหญ่ขึ้นมา ท่ามกลางอักขระศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนที่หมุนวนเป็นเกลียวขึ้นไป กลายเป็นร่างมารที่สูงพันกว่าจั้ง
ผิวภายนอกของวานรยักษ์ เป็นเกล็ดสีม่วงสีทองสลับกับลวดลายวิญญาณสีเงิน ทันทีที่รวมกัน ก็กลายเป็นชุดเกราะสงครามสีม่วงทองที่ประทับด้วยอักษรลวดลายสีเงินที่งดงามวิจิตร และห่อหุ้มร่างกายไว้อย่างแน่นหนา ความดุดันแผ่กระจายออกมาจากข้างใน ทำให้ผู้คนรู้สึกสะท้านในใจ!
ในเวลาเดียวกัน บริเวณจุดตันเถียนในร่างกายของหานลี่ ก็มีคนต่ำต้อยหนึ่งคนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ สีหน้าเคร่งขรึมจีบมือในท่าสวดเต้าหยินด้วยมือข้างเดียว ผิวชั้นหนึ่งมีเปลวไฟสีเงินเผาไหม้อย่างรุนแรงไม่หยุด แผ่กระจายลมปราณเบาบางที่ลึกล้ำเหลือกำหนดออกมา
หานลี่ในขั้นผลิดอกไม่ลังเลเลยที่จะใช้พลังที่แท้จริง เพื่อจุดไฟที่ต้นเหตุโดยตรง
ผลจากการทำเช่นนั้น ทำให้พลังยุทธ์และร่างกายของเขาแข่งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แต่หลังจากจบเรื่องแล้วจะต้องเกิดภัยใหญ่ขึ้นในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน และไม่มีทางที่ประคับประคองไว้ได้นานแน่
นางพญาหนอนข้าวที่เห็นสถานการณ์ดังนี้ เดิมกลางศีรษะที่ประดับด้วยสีหน้าเหยียดหยาม ในที่สุดก็พลันเปลี่ยนไป
“ร่างนิพพานศักดิ์สิทธิ์เผ่ามาร ไม่ใช่ เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เท่านี้…เอ๋? นี่…นี่คือคาถาร้อยชีพจรหลอมสมบัติ ทำไมเจ้าถึงสามารถใช้เคล็ดลับวิชาสร้างหุบเขาร้อยลูกแดนเซียนได้ ข้าเข้าใจแล้ว ตอนนั้นที่เจ้าได้ฝึกฝนวิชาแปลพักตร์สร้างหุบเขาร้อยลูกในแดนมนุษย์ เฮอๆ เป็นเช่นนี้เอง เจ้าคิดว่าไม่ต้องมีการชี้นำจากเซียนหลายร้อยนิกาย ก็สามารถฝึกฝนอิทธิฤทธิ์ตามใจได้เพียงผิวเผิน ก็สามารถต่อต้านข้าได้แล้วอย่างนั้นเหรอ!” นางพญาหนอนข้าวอุทานเสียงหลง แต่หลังจากที่ใบหน้าและดวงตาของหญิงสาวหมุนไปมาไม่กี่ครั้ง ก็กลับมาสงบนิ่ง และหัวเราเย้ยหยันขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลาต่อมา ผิวกายของนางพญาหนอนข้าวก็ปรากฏอักขระศักดิ์สิทธิ์สีทองสีเงินนับไม่ถ้วนขึ้นให้เห็น ร่างหยกสีขาวดุจคริสตัลก็ขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง
ในพริบตา นางพญาหนอนข้าวนี้ก็กลายร่างขนาดใหญ่ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าวานรยักษ์ที่อยู่ตรงข้ามเลย สัตว์ขนาดใหญ่มหึมาสองตัว ตัวหนึ่งอยู่ทางซ้ายอีกตัวอยู่ทางขวา เกือบจะครอบครองทั้งสองฝั่งเหวลึกใต้ท้องทะเล และต่างคนต่างปะทุกลิ่นไอน่าสะพรึงกลัวให้กันมาแต่ไกล
“ใช่หรือไม่ จะสามารถต่อสู้กับร่างที่แท้จริงของใต้เท้าได้หรือไม่นั้น หานคนนี้จะต้องลองดูก่อน ถึงจะรู้” หานลี่เอ่ยขึ้นเสียงเย็น ร่างวานรยักษ์สามหัวใบหน้าพลันปรากฏแสงสีทองขึ้น แต่ละคนถูกปกคลุมด้วยชั้นเกราะสีเงิน เผยให้เห็นดวงตาที่เฉียบคมขนาดใหญ่ทั้งหกดวง และภายใต้เสียงคำรามเสียงดัง กลุ่มลูกแสงหลากสีสามลูกก็พุ่งออกมาจากร่างพร้อมกัน ข้างในแต่ละลูกมีเนินเขาเล็กๆ เสมือนจริงอยู่ในนั้น
หลังจากที่เนินเขาเล็กๆ ทั้งสามลูกหมุนไปรอบๆ เสียง “ครึ้ม” ก็ดังขึ้น พลันก็พุ่งชนเข้าด้วยกัน รวมกันเป็นลูกแสงสลัวขนาดใหญ่หนึ่งลูก
มือใหญ่ข้างหนึ่งของวานรยักษ์เกราะสีทองยื่นออกไปทางลูกแสง หลังจากที่พลันหดตัวลงอีกครั้ง ก็ชักกระบองขนาดใหญ่สีเขียวสีดำออกมา
กระบองอันนี้ไม่เพียงแต่เล็กบางหาที่เปรียบมิได้ พื้นผิวก็สลักด้วยลวดลายวิญญาณหลากสี ดูเหมือนแสงสายัณห์นับหมื่นแสน ลักษณะที่หนักหาที่เปรียบไม่ได้
วานรยักษ์คว้ากระบองยักษ์สีดำเขียวมาไว้ในมือ ดวงตาเย็นเยือกทั้งหกเพียงแค่กวาดมองไปยังนางพญาหนอนข้าวที่อยู่ตรงข้ามเล็กน้อย แขนก็พลันขยับขึ้นทุบลงไปกลายเป็นลมกระโชก
กระบองยักษ์นั้นยังไม่ได้ตกลงมาจริงๆ กลางอากาศว่างเปล่าก็ระเบิดเสียงหวีดร้องแหลมกระแทกหูขึ้นมาก่อน ทันใดนั้นกลางอากาศก็ปรากฏรอยสีขาวขนาดใหญ่ขึ้น ขณะเดียวกันแรงลมที่มองไม่เห็นยากที่จะอธิบายก็ก่อตัวขึ้นมาอย่างดุดัน
หากไม่ใช่การแปลงกายนิพพานระดับสามก่อนหน้านี้ ทำให้ความแข็งแกร่งของเนื้อหนังมังสา
หานลี่สามารถเทียบสูงต่ำกับข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับวิญญาณบริสุทธิ์ได้แล้วละก็ ทว่าตอนนี้เขาผู้ที่จุดไฟที่ต้นเหตุ ในร่างกายมีพลังมหาศาลที่มีอยู่สามารถทำลายท้องฟ้าแยกดินด้วยมือเปล่าได้ ณ ขณะนั้น
ดังนั้นวานรยักษ์จับกระบองเบาๆ และทุบลงอากาศว่างเปล่าเปิดออกเป็นรอยตะเข็บขนาดใหญ่
นางพญาหนอนข้าวที่อยู่ด้านล่างเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ตาทั้งคู่หรี่ลง มองดูท้องฟ้าที่ร่วงหล่นลงมาด้วยแรงมหาศาลราวกับไม่มีสิ่งใดอยู่ กลับกันนั้นใต้ท้องแขนขาราวกับกรรไกรสีดำดุจน้ำหมึกทั้งสอง ทันใดนั้นก็ยกขึ้นสลับกัน และตรงไปที่กระบองขนาดใหญ่
เสียง “ครึ้ม” ดังขึ้นดั่งสายฟ้าฟาดลงกลางแจ้ง กลุ่มแสงรังสีหลากสีก็ระเบิดกระจายออกมา
ทั้งเหวลึกใต้ท้องทะเลพลันสั่นสะเทือนขึ้น ทำให้ผู้คนรอบๆ แทบหยุดหายใจกับระลอกคลื่นยักษ์ที่มองไม่เห็น และซัดอย่างบ้าคลั่งไปทั่วทั้งสี่ทิศ
แต่ร่างใหญ่มหึมาของวานรยักษ์และนางพญาหนอนข้าว ในระหว่างที่กำลังเกิดการสั่นสะเทือนกลับมั่นคงราวกับเขาไท่ชาน
และหลังจากที่แสงสว่างที่ส่องบนอากาศสูงนั้นหายไป ก็สามารถมองเห็นกระบองสีดำเขียวและแขนสีดำทั้งสองข้างที่ติดอยู่ด้วยกันบนกลางอากาศสูงได้ชัดเจน
ทั้งสามก็สั่นไหวเล็กไม่หยุดนิ่ง แต่กระบองยักษ์ไม่มีทางที่ร่วงหล่นลงมา แขนหน้าทั้งสองก็ไม่มีทางที่แยกออกจากกันได้!
การโจมตีเมื่อสักครู่ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ลักษณะของการต่อสู้
ในใจหานลี่ก็ตกตะลึงไปอยู่พักหนึ่ง แต่หลังจากที่ร่างวานรยักษ์คำรามออกมาอีกครั้งหนึ่ง แขนทั้งหกก็ขยับพร้อมกัน
ราวกับว่ากระบองยักษ์ กลายเป็นเงากระบองหนากลิ้งไปยังคู่ต่อสู้อย่างรุนแรงทุกทิศทาง
สีหน้าของนางพญาหนอนข้าวก็บูดบึ้ง ไม่พูดจาร่างกายส่วนล่างก็พลันเลือนรางไปชั่วขณะ เสียงแผดร้องคำรามถล่มนภานับไม่ถ้วนก็พลันออกมาจากทั่วทั้งร่างอย่างบ้าคลั่ง ภาพลวงตาแขนขาก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศว่างเปล่าใกล้เคียง
ทั้งสองไม่ขยับและไม่ใช้พลังยุทธ์ใดๆ ต่อสู้โดยตรงด้วยกำลังความแข่งแกร่งของเนื้อหนังมังสา
เสียงครึกโครมของลมฟ้าก็พลันดังขึ้น!
ลมพายุพุ่งออกมาจากน้ำ อากาศว่างเปล่าก็ยิ่งสั่นคลอนเลือนราง ระหว่างที่สั่นสะเทือนก็ปรากฏรอยเล็กๆ สีขาวที่อัดแน่นออกมาให้เห็น ระลอกคลื่นขนาดใหญ่ก็ทยอยพุ่งสู่ขึ้นสู่ท้องฟ้าไป
ภายใต้การต่อสู้ของสัตว์ขนาดใหญ่มหึมาทั้งสอง ฟ้าถล่มดินทลายทั่วทั้งเหวลึกใต้ท้องทะเลราวกับฉากวันโลกาวินาศ
เสียง “ปัง” ทะลุหูดังขึ้น ในตอนที่นางพญาหนอนข้าวได้เผลอ ก็ถูกกระบองยักษ์สีเขียวดำพุ่งเข้าใส่ส่วนข้างหลังหยกขาวอย่างแรง ภายใต้พลังมหาศาลที่น่ากลัวนี้ ฉับพลันก็ถูกทุบจนตัวลอยออกไปเกินกว่าร้อยจั้ง
แต่ในเวลาต่อมา พญาหนอนตัวนี้ก็แผดเสียงร้องขึ้น ภายใต้ร่างก็เลือนราง ฉับพลันหน้าไม้ก็พุ่งยิงกลับมา อีกนิดเดียวก็จะถึงที่ที่วานรยักษ์อยู่อีกครั้ง และทันทีที่แขนขาแหลมคมนับสิบกวัดแกว่ง มีดขว้างสีขาวก็ยิงพุ่งออกมานับไม่ถ้วน
ใบมีดขว้างเหล่านี้ทุกเล่มล้วนแฝงไปด้วยพลังมหาศาลในนั้น ซ้ำยังระเบิดขึ้นโดยกะทันหันในระยะใกล้เช่นนี้ ถึงแม้ว่าวานรยักษ์ในชุดเกราะสีทองจะไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่ก็อดมือไม้อ่อนไม่ได้กระบองในมือก็สั่นอย่างรุนแรง
เสียง “ฟู่ๆ” ดังขึ้นสองครั้ง
สองกำปั้นขาวดุจดั่งหยกที่ปิดบังไว้ด้วยมีดขว้าง ยื่นออกมาจากกลางอากาศว่างเปล่า ก็กดลงบนชุดเกราะสีทองบริเวณหน้าอกของวานรยักษ์ พร้อมกับออกแรง
แสงสีม่วงทองก็เปล่งประกายออกมา ด้านหน้าชุดเกราะของวานรยักษ์เว้าเป็นหลุมขนาดใหญ่สองหลุม หลังจากที่ร่างกายสั่นสะเทือน ก็ลอยไปด้านหลังทันทีโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากที่ตีลังกาไปหลายตลบ ถึงได้พยายามที่จะกลับมายืนให้มั่นคงใหม่อีกครั้ง
และในเวลานี้ นางพญาหนอนข้าวยิ้มเยาะขึ้น ปีกข้างหลังสั่นไหว ร่างก็พลันเกาะติดราวกับมารร้าย แขนขาดำสนิททั้งสิบก็กลายเป็นเคียวเกี่ยวเอาชีวิต ฟันไปทั่วทั่งร่างของวานรยักษ์ทันที
และในเวลาเดียวกัน แขนที่ลักษณะคล้ายแขนมนุษย์อีกข้างหนึ่ง ก็พุ่งไปยังระหว่างกลางศีรษะและขุดเอาดวงตาทั้งสองข้างของวานรยักษ์ไปอย่างเงียบๆ
ด้วยระดับการระรานกายหยาบของนางพญาหนอนข้าวแล้ว หากการโจมตีต่อเนื่องประสบผลสำเร็จ ถึงแม้ว่าร่างวานรยักษ์ของหานลี่จะมีอิทธิฤทธิ์มหาศาล ก็เกรงว่าอาจจะได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ไม่น้อย
แต่ดูเหมือนว่าหานลี่จะคาดเดากับสถานการณ์นี้มาก่อนแล้ว ในตอนที่เขากำลังทำร่างกายให้มั่นคงอยู่นั้น ทันใดก็ดันกระบองยักษ์ในมือออกไปด้านหน้าในแนวนอน แสงส่องประกายขึ้น ไม่นานก็คืนสู่สภาพเดิมกลายเป็นยอดเขาขนาดใหญ่สามลูก และปิดกั้นอยู่ด้านหน้าอย่างแน่นหนา ปกป้องร่างขนาดใหญ่วานรยักษ์ที่อยู่ด้านหลัง
เสียง “ชรือๆ” ดังขึ้น!
ภาพขาหน้าของนางพญาหนอนข้าวที่กรีดเกินออกมา ทำให้ภายนอกยอดเขาทั้งสามลูกก็ปรากฏร่องลึกกว่าสิบร่องขึ้นมา
แต่แขนลักษณะคล้ายมนุษย์คู่นั้นของนางพญาหนอนข้าว ทันทีที่เห็นด้านหน้าถูกขัดขวาง กลับระเบิดดังขึ้น และพุ่งขึ้นตัดอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่มือมนุษย์เลือนรางไป ไม่นานสายฟ้าก็โอบล้อมยอดเขาเอาไว้ นิ้วมือทั้งสองนิ้วยังคงเสียบไว้อยู่ที่ดวงตาทั้งคู่ของวานรยักษ์อยู่
ชั่วพริบตาลมแรงแหลมคมถล่มฟ้าก็พัดมาถึง
วานรยักษ์ในชุดเกราะสีทองที่นึกไม่ถึงว่านางพญาหนอนข้าวนี้จะมีมือนี้ คิดอยากที่จะหลบหลีก แต่ก็สายไปแล้ว
ด้วยความสิ้นหวัง ทำได้เพียงปรับพลังยุทธ์ในร่างกายโดยพลัน ทันใดนั้นเกราะสีเงินด้านหน้าก็ปรากฏอักขระศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนออกมา ในขณะเดียวกันดวงตาทั้งคู่ก็พลันปิดลง “ปังๆ”
สองนิ้วแหลมของนางพญาหนอนข้าวที่เสียบทะลุอยู่บนอักขระศักดิ์สิทธิ์บนใบหน้าของวานรยักษ์ และทิ่มไปบนเปลือกตาของวานรยักษ์อย่างดุดัน
ถึงแม้ว่าในใจของวานรยักษ์เกราะสีทองจะมีการเตรียมพร้อมแล้ว เพียงรู้สึกคล้ายกับถูกค้อนหนักๆ ตีเข้าที่เปลือกตา หลังจากที่ตาทั้งสองดำสนิท ทันใดก็มีดาวสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาให้เห็น
ความเจ็บปวดที่เกินจะทนได้พลุ่งพล่านบนดวงตา
แต่ปากของวานรยักษ์ก็ยังเปล่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน และยอดเขาขนาดใหญ่ทั้งสามก็พลันเลือนรางหายไปในทันใด
และพื้นผิวชุดเกราะสีม่วงทองทันใดก็มีแสงแห่งชัยชนะสีเงินปรากฏขึ้น สักพักลายวิญญาณสีเงินนับไม่ถ้วนก็หลุดพุ่งยิงออกไป และจมลงไปบนร่างขนาดใหญ่ของนางพญาหนอนข้าว
นางพญาหนอนตกตะลึง ขณะที่กำลังคิดจะลงมือ ร่างกายกลับรัดแน่นขึ้นมาทันใด โซ่เงินหนาอย่างหาที่เปรียบมิได้ปรากฏขึ้นมาให้เห็น และมัดเขาไว้อย่างแน่นหนา