Chapter 109 : ไม่ต้องกลัว ฉันเป็นแค่ปีศาจ
แม้ว่าแม็กซ์จะไม่ชอบที่ครัสซูเข้าใกล้เอมี่มากเกินไป แต่เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปห้าม
ยังไงซะมันก็ไม่ได้มีกฎว่าคนที่มากินอาหารห้ามรับเอมี่เป็นลูกศิษย์และเขาก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะบังคับให้นักเวทย์ที่มีพลังมากขนาดนี้ออกไปได้ ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้ก็คือเฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังและคอยป้องกันในกรณีที่เขาจะล่อลวงเอมี่ออกไป
คำพูดของเอมี่ทำให้ลูกค้าบางคนหัวเราะ พวกเขาได้ยินข้อตกลงเล็กๆนี้ของทั้งคู่เมื่อวันก่อน
“ได้เลย หนูอยากกินอะไรล่ะ ? แค่บอกฉันแล้วฉันจะซื้อให้หนูเอง” ครัสซูพูดพร้อมกับยิ้มแล้วนั่งลงที่โต๊ะของเอมี่
“หนูอยากได้ข้าวผัดหยางโจวหนึ่งจาน” เอมี่พูดและยิ้ม “คุณบอกว่าคุณจะจ่ายให้หนู คุณไม่สามารถกลับคำพูดที่คุณสัญญาเอาไว้แล้วได้”
“ฉันไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน” ครัสซูหยิบเหรียญทอง 6 เหรียญออกมาจากกระเป๋าเงินของเขาแล้วส่งให้กับเอมี่ “นี่เงิน 6 เหรียญทอง” เขาพูดและรู้สึกอายเล็กน้อยแต่ก็มีความสุข
“ขอบคุณค่ะคุณปู่เคราครึ่ง” เอมี่รับเหรียญทองมาอย่างมีความสุขแล้วเงยหน้าขึ้นมาขยิบตาให้กับแม็กซ์และยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
แม็กซ์ส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม ครัสซูวางแผนว่าจะสร้างโอกาสนี้ขึ้นมาเพื่อใช้เวลากับเอมี่ตามลำพังเพื่อที่เขาจะสามารถตรวจสอบพรสวรรค์ของเธอได้ แต่เขาก็ต้องล้มเหลวเพราะกลอุบายของเอมี่ แต่มันก็ทำให้เขาพบว่าเอมี่มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม
มันไม่ใช่ข่าวร้ายสำหรับแม็กซ์ พรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของเอมี่ต้องดีมากแน่ๆ ถึงทำให้นักเวทย์ที่ทรงพลังขนาดนี้ต้องการจะรับเธอไปเป็นลูกศิษย์ เธออาจจะกลายเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลังมากเช่นกัน
อย่างที่ครัสซูเคยพูดเอาไว้ เราต้องแข็งแกร่งถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ในโลกใบนี้
อย่างไรก็ตามแม็กซ์ไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่ง เขาแค่ต้องการรวย เขาสามารถซื้อของทุกชนิดจากระบบได้
ยังไงซะมันก็สายเกินไปแล้วสำหรับแม็กซ์ที่จะเริ่มฝึก มันง่ายกว่าที่จะซื้อความแข็งแกร่งจากระบบ นอกจากนี้เขายังสามารถอัพเกรดร้านอาหารของเขาได้
ยาเบะมิยะเช็ดโต๊ะและเดินออกมาจากห้องครัวอย่างรวดเร็ว เธอมายืนอยู่ข้างแม็กซ์ด้วยรอยยิ้ม ร่างกายของเธอแข็งเกร็งเล็กน้อย หัวใจของเธอเต้นแรงและในหัวของเธอก็ว่างเปล่าเพราะความกังวลใจ
“หญิงสาวคนนี้คือใครเหรอแม็กซ์ ?” แฮร์ริสันถามอย่างสงสัยและมองไปที่ยาเบะมิยะ เขารู้ได้ในทันทีว่าเธอเป็นลูกครึ่งมังกร แต่เสื้อผ้าที่พิเศษและกระดูกคอที่บอบบางที่ถูกเปิดเผยออกมาจากชุดของเธอนั้นมีเสน่ห์มาก ถุงน่องสีดำที่ขาของเธอและผ้าคาดผมสีขาวทำให้เธอดูแปลกตาสำหรับเขา
ลูกค้าบางคนมองไปที่แม็กซ์และยาเบะมิยะด้วยความอยากรู้อยากเห็นและรอให้แม็กซ์ตอบคำถามที่กวนใจพวกเขาอยู่
เอมี่เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ดังนั้นแม่ของเธอจะต้องเป็นเอลฟ์อย่างแน่นอน หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่แม่ของเธอ
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกครึ่งมังกรแต่รอยยิ้มของเธอนั้นดูดีมาก มันเป็นเหมือนกับลมหายใจที่สดชื่นของฤดูใบไม้ผลิที่ทำให้เรารู้สึกมหัศจรรย์ พวกเขาคิด
“เธอเป็นพนักงานเสิร์ฟของเรา ยาเบะมิยะ” แม็กซ์พูดด้วยรอยยิ้ม คนส่วนใหญ่มักจะมาต่อแถวเพื่อกินอาหารที่นี่เป็นประจำ พวกเขาชอบเอมี่ดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสที่จะเปิดรับลูกผสมมากกว่าคนอื่นๆ และสิ่งที่เขาคิดและเคยพูดไว้ก็ถูก
แฮร์ริสันหักนิ้วของเขา “เห็นมั้ย ? ฉันบอกนายแล้วว่าเธอเป็นพนักงานเสิร์ฟ” เขาพูดอย่างไม่พอใจกับจอร์จจากนั้นเขาก็ยกนิ้วโป้งให้กับแม็กซ์อย่างชื่นชม “แม็กซ์ สายตาของนายเฉียบคมมาก เธอเหมาะกับรูปแบบของร้านนายอย่างสมบูรณ์แบบ”
แม็กซ์พยักหน้าและยิ้ม เขาชอบสิ่งที่แฮร์ริสันพูดจริงๆ เขามีดวงตาที่เฉียบแหลม
ยาเบะมิยะรู้สึกเขิน มันไม่ได้เป็นเพราะความอับอายแต่เป็นเพราะเธอรู้สึกตื่นเต้น ไม่เคยมีลูกค้าชมเธอมาก่อน ถึงแม้ว่าแฮร์ริสันจะชื่นชมแม็กซ์เป็นหลักแต่เธอก็ยังรู้สึกภูมิใจอยู่เล็กน้อย
จอร์จพยักหน้า “ใช่ ฉันชอบรอยยิ้มของเธอ เห็นแล้วอยากจะยิ้มตามเลย” เขายิ้มและเดินเข้ามาพร้อมกับแฮร์ริสัน
ลูกค้าคนอื่นๆต่างก็ยิ้มให้เธอด้วยสายตาที่ชื่นชม พวกเขาไม่รู้สึกว่าลูกผสมนั้นน่ารังเกียจอีกต่อไป อาจเป็นเพราะเอมี่ พวกเขาชอบเอมี่และตอนนี้พวกเขาก็รู้สึกว่าถูกดึงดูดโดยยาเบะมิยะ
ยาเบะมิยะยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจที่มากยิ่งขึ้น เธอยืดหลังของเธอและรู้สึกประหม่าน้อยลงและได้รับความสำคัญมากยิ่งขึ้น ต่อจากนี้ไปถือได้ว่าเธอเป็นตัวแทนของร้านอาหารและมารยาทของเธอจะส่งผลต่อความประทับใจของลูกค้า เธอไม่ต้องการทำลายความเชื่อใจของแม็กซ์ที่มีให้เธอ
หลังจากที่ลูกค้าเข้ามาหมดแล้วแม็กซ์ก็ปิดประตู “ผ่อนคลายนะมิยะ ฉันจะรับออเดอร์ของลูกค้า 10 คนแรกและเธอจะรับช่วงต่อจากนั้น เธอคิดว่าเธอสามารถจัดการกับมันได้มั้ย ?” เขาพูดในขณะที่มองไปที่ยาเบะมิยะ
เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง “ได้ค่ะ” กำปั้นขวาของเธอกำแน่น เห็นได้ชัดว่าเธอยังรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อย
เอมี่เดินเข้าไปหาเธอพร้อมกับอุ้มลูกเป็ดขี้เหร่เอาไว้ในอ้อมแขน “คุณทำได้พี่สาวมิยะ” เธอพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองและชูกำปั้นเล็กๆของเธอ จากนั้นเธอก็ส่ายตัวลูกแมวไปมาเพื่อให้กำลังใจ
“เหมียว…” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องออกมาอย่างไม่เต็มใจ
ยาเบะมิยะพยักหน้า หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเมื่อมองไปที่แม็กซ์ เอมี่และลูกแมว
แม็กซ์เดินเข้าไปข้างในและเริ่มรับออเดอร์
“แม็กซ์ ฉันต้องการข้าวผัดหยางโจวสามจาน เสิร์ฟแค่สองจานก่อนนะแล้วจานสุดท้ายค่อยเสิร์ฟทีหลัง” ครัสซูพูดกับแม็กซ์ด้วยรอยยิ้ม
แม็กซ์พยักหน้า “ได้เลย รอสักครู่นะ” แน่นอนว่าหนึ่งจานนั้นสำหรับเอมี่ หลังจากที่เขารับออเดอร์ของลูกค้า 10 คนแรกเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็วและเริ่มทำอาหาร
แม้ว่ายาเบะมิยะจะยังกังวลอยู่เล็กน้อยและยังพูดได้ไม่คล่องนักแต่เธอก็พยายามยิ้มและรับออเดอร์
ประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงกระดิ่ง “ติ๊งง”
“ยินดี – ” เมื่อมองไปเห็นซาเจราสมันก็ทำให้เธอรู้สึกตกใจก่อนที่เธอจะพูดจบ เขาถือเก้าอี้เหล็กเอาไว้ในมือ หัวล้านของเขา ผิวหนังที่ปกคลุมไปด้วยรอยแตกของลาวา เขาดูน่ากลัวมาก
ซาเจราสผงะไปเพราะเจอกับใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย เมื่อเขาเห็นว่าเธอกลัวเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เขารีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องกลัว ฉันเป็นแค่เป็นปีศาจ”