Chapter 136 : ฉันรู้สึกหมดแรง
คิ้วของซาเจราสเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ “ฉันเองก็เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกันแล้วหลังจากนั้นลูกไฟก็พุ่งเข้ามาใส่ฉัน” เขามองไปที่ครัสซูและอูเรี่ยน “ลุยเลยถ้านายคิดว่านายสามารถเอาชนะชายชราสองคนนั้นได้”
ทันใดนั้นคีลก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แล่นผ่านแนวกระดูกสันหลังเมื่อเขานึกถึงมังกรน้ำแข็งที่น่ากลัวและชายชราที่สามารถทุบทำลายมังกรได้ด้วยการเหวี่ยงไม้เท้าเพียงแค่ครั้งเดียว เขาส่ายหัว “ผมคิดว่ามันคงดีที่สุดถ้าเราซื้อมันจากเขา”
ซาเจราสรู้สึกโล่งใจ จากนั้นเขาก็หันไปหามอนด์ “นายคิดว่ายังไงมอนด์ ?”
“ผมว่าอย่าดีกว่า ผมยังอยากได้โร่วเจียหมัวเพิ่มอีกสองอัน” มอนด์พูดขึ้นหลังจากที่เขานิ่งคิดไปครู่หนึ่ง
“โร่วเจียหมัวอีกสองอัน ?” ซาเจราสพูดอย่างตื่นเต้น “เราสามารถใช้จำนวนของโร่วเจียหมัวเพื่อวัดว่าเราแข็งแกร่งแค่ไหนแล้วได้”
ใบหน้าของคีลสว่างขึ้น “ประมาณว่าระดับ 1 1 โร่วเจียหมัว ระดับ 1 2 โร่วเจียหมัวแบบนี้เหรอครับ ?” เขาเขย่งเท้าขึ้นเพื่อตบไหลมอนด์ “นี่ไม่เลวเลย”
ซาเจราสพยักหน้า “ใช่ เราสามารถใช้การเรียกแบบนี้สำหรับนักสู้ระดับ 1 และ 2 ได้ ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องการโร่วเจียหมัวอีกมากเท่าไหร่เพื่อไปถึงระดับ 4” เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดเสริมว่า “นักสู้ระดับ 2 ของเรานั้นแข็งแกร่งพอๆกับนักเวทย์หรืออัศวินระดับ 4 ดังนั้นการเรียกแบบนี้จึงถือว่าดีกว่ามาก”
“ผมเห็นด้วย” มอนด์พูดพร้อมกับยิ้ม
“หัวล้านใหญ่ หัวล้านเบอร์ 2 และเบอร์ 3 คุยกันเบาๆ ! อย่ารบกวนลูกค้าคนอื่น พวกคุณคงไม่อยากให้หนูโกรธนะ” เอมี่พูดพร้อมกับมองไปที่พวกเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างพร้อมกับเหวี่ยงกำปั้นของเธอไปมาด้วยความไม่พอใจ
ครัสซูและอูเรี่ยนหันไปมองพวกซาเจราสพร้อมกันในทันที
ซาเจราสรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันทีแต่มันก็ไม่ได้หยุดความกังวลของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันคือชีวิตของเขา “เงียบก่อน” เขารีบบอกให้ลูกน้องของเขาหยุดพูด
คีลและมอนด์หยุดพูดในทันทีด้วยความกังวลและไม่สร้างความรำคาญอะไรอีก
คีลทะลวงคอขวดที่สองแล้วและมอนด์ก็ต้องการโร่วเจียหมัวอีกแค่สองอันเพื่อยกระดับ ปีศาจลาวาจะกลับไปอยู่ที่สู่จดสูงสุดของเกาะปีศาจอีกครั้ง
ปีศาจทั้งสามคนกลับไปพูดคุยกันอย่างมีความสุขด้วยเสียงเบาๆ พวกเขาปล่อยไฟออกมาแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้โกรธ แม้แต่โต๊ะและเก้าอี้ก็ปลอดภัยจากเปลวไฟ เมื่อลูกค้าคนอื่นๆเห็นว่าปีศาจยอมทำตามคำพูดของเด็กหญิงตัวน้อยพวกเขาจึงตัดสินใจว่าพวกเขาสามารถกินอาหารอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัย พวกเขารู้สึกโล่งอกและกลับมานั่งต่อ
ลูกค้าที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ พวกเขาอ้าปากค้างและมองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวเธอ เธอดูน่ารักมากถึงแม้ว่าเธอจะโกรธทำให้ทุกคนอยากหยิกแก้มของเธอ
ร้านอาหารนี้ต้องน่าสนใจมากแน่ๆ พวกเขาคิดและเดินเข้ามาอย่างคาดหวัง
ลูกค้าประจำต่างก็พากันยิ้ม ใบหน้าตอนโกรธของเอมี่ทำให้พวกเขารู้สึกดี พวกเขาไม่ได้เห็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักแบบนี้มานานมากแล้ว
“พนักงานเสิร์ฟ เราอยากได้โร่วเจียหมัวอีกแปดอัน” ซาเจราสพูดกับยาเบะมิยะด้วยเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้พร้อมกับยกมือขึ้น
พนักงานเสิร์ฟสาวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ได้ค่ะ” เธอพบว่าปีศาจคนนี้เชื่อฟังมากอย่างร่าประหลาดใจ เขาดูน่ากลัวแต่ก็ค่อนข้างสุภาพ
ร้านอาหารเต็มไปด้วยผู้คน คนที่มาช้าต่างก็ต้องยืนรอ ยาเบะมิยะแนะนำเมนูทั้งสองให้กับพวกเขาด้วยเมนูในมือของเธอ มันอาจจะไม่สะดวกนักที่จะกินข้าวผัดจากจานในขณะที่ยืน แต่มันไม่ใช่สำหรับโร่วเจียหมัว
กลิ่นหอมที่แสนเย้ายวนลอยอยู่ในอากาศและความพึงพอใจบนใบหน้าของลูกค้าถือว่าเป็นการโฆษณาที่ดีกว่าโฆษณาไหนๆ
บางคนเดินออกไปทันทีเมื่อเห็นราคา ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถจ่ายค่าอาหารอย่างฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้ไม่ว่ามันจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม
หลายคนเลือกที่จะอยู่ต่อ 300 เหรียญทองแดงนั้นไม่ถือว่าถูกเลย แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลองเพื่อขจัดคามสงสัย คนที่ไม่สามารถรอที่นั่งว่างได้ก็มักจะสั่งโร่วเจียหมัว
“ฉันอยากได้โร่วเจียหมัวด้วย ขอเร็วหน่อยนะ ฉันต้องไปทำงาน” ชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีเทาที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร้านขายของพูดขึ้น
“ฉันอยากได้สองอัน บางทีภรรยาของฉันอาจจะชอบ” ชายร่างผอมสูงที่สวมชุดลำลองและรองเท้าออกกำลังใช้มือขยี้ผมยุ่งๆของเขา
วิเซนนิโอ้ถูกไล่ลงจากเตียงโดยภรรยาของเขาในตอนเช้า เขาต้องออกมาซื้ออาหารเช้าให้กับเธอ ทว่าการต่อสู้ระหว่างนักเวทย์สองคนนั้นทำให้เขาอารมณ์ไม่ดี ทันใดนั้นเขาก็ดีใจที่ตื่นขึ้นมา รูปลักษณ์ของร้านอาหารนี้ดึงดูดเขาเข้ามาและเขาวางแผนที่จะซื้ออาหารเช้าจากที่นี่
ภรรยาของเขาเป็นเจ้าของร้านค้า 10 แห่งในลานเอเดนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับทางออก เธอสามารถหารายได้ได้หลายหมื่นเหรียญจากค่าเช่าเพียงแค่อย่างเดียว เธอรวยจริงๆ
เขาถูกเรียกว่านักขุดทองที่ไร้ยางอายเมื่อเขาแต่งงานกับเธอ (ถ้าบ้านเราก็ ‘หนูตกถังข้าวสาร’)
แต่เขาไม่สนใจ เขาเกิดมาในครอบครัวนักธุรกิจ แต่ธุรกิจของครอบครัวนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเพราะว่าเขาเป็นลูกนอกสมรส เขาถือว่าตัวเองโชคดีที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ร่ำรวยและดูดีด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
การเป็นเจ้าของที่ก็ไม่เลว
เขาไม่สนใจความมั่งคั่งของครอบครัวอีกต่อไป
ภรรยาของเขาค่อนข้างมีอารมณ์ทางเพศสูงและชอบออกคำสั่งกับเขาเสมอ แต่นอกจากนั้นเธอก็ถือว่าค่อนข้างดี เขาสามารถใช้เงินของเธอกับอะไรก็ได้ยกเว้นผู้หญิง
เขาเดินไปข้างนอกพร้อมกับกระเป๋าที่เต็มไปด้วยเหรียญทุกวันแต่เขาไม่สามารถซื้อบริการได้เพราะว่าภรรยาของเขาจ้างคนมาตามดูเขา
อย่างไรก็ตามเขาจะไม่มีความต้องการอีกหลังจากที่เขามีอะไรกับภรรยาของเขา เขาจะไม่สนใจแม้ว่าจะมีเอลฟ์ที่สวยมากๆมายืนอยู่ตรงหน้าเขา – แม้ว่าเธอจะเปลือยอยู่ก็ตาม
ฉันรู้สึกไม่มีแรงเลย วิเซนนิโอ้คิดอย่างหดหู่และหาวออกมา เขายุ่งอยู่ตลอดทั้งคืนเพราะภรรยาของเขา ฉันต้องการยาบำรุง
“ได้เลย รอสักครู่นะคะ” ยาเบะมิยะพูดพร้อมกับยิ้มแล้วเดินไปที่ห้องครัว