Chapter 137 : เพื่อโร่วเจียหมัว !
แม็กซ์สังเกตเห็นวิเซนนิโอ้ เขาดูน่ากลัวมาก ร่างกายผอมๆในชุดหลวมๆ หล่อเหลาและมีจมูกโด่ง แต่ผิวกลับซีดขาวและถุงใต้ตาสีดำคล้ำทำให้เขานึกถึงเพื่อนของเขาที่มักจะมีผู้หญิงล้อมรอบในชีวิตก่อน
หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเขาให้ความรู้สึกคุ้นเคย เขาไม่ได้มีอะไรเหมือนกับพวกนั้น
แม็กซ์ดูถูกพวกเขา พวกเขาไม่ดีพอที่จะเป็นเพื่อนของเขา
เขามีเพื่อนถึงแม้ว่ามันจะมีอยู่ไม่มากนัก เขาคุ้นเคยกับความเหงาและเริ่มชอบมันมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาดูน่ากลัวจริงๆ เขาจะอยู่ได้อีกไม่นานถ้าเขาไม่สนใจปัญหาสุขภาพของตัวเอง
ในหัวของเขาตัวเลขจำนวนลูกค้าใหม่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การเฝ้ามองของเขา เขายิ้มกับตัวเอง การต่อสู้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นโฆษณาที่ยอดเยี่ยมสำหรับร้านอาหารของเขา เขาสามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ภายในไม่กี่วันด้วยความเร็วระดับนี้
จากนั้นเขาก็จะปลดล็อคสูตรข้าวไก่ตุ๋น ฉันคิดว่าเอมี่น่าจะชอบอาหารจานใหม่นี้ ฉันหวังว่ามันจะมีผลพิเศษ
ข้าวตุ๋นไก่เป็นหนึ่งในสามของห่วงโซ่ร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามันมีความพิเศษ เขาเคยกินข้าวไก่ตุ๋นแท้ๆมาก่อนในชีวิตที่แล้วของเขา
แม็กซ์เริ่มสงสัยแล้วว่าอาหารจานใหม่นี้จะมีรสชาติแบบไหนด้วยส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมจากระบบและทักษะที่สมบูรณ์แบบของเขา
ขนมปังในเตาอบทั้งสองยังต้องใช้เวลาในการอบและไม่มีใครสั่งข้าวผัดหยางโจวในตอนนี้ “พักซักหน่อยเถอะ” แม็กซ์พูดกับยาเบะมิยะ เขาเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับโร่วเจียหมัวสองอันสุดท้ายในมือ
“แม็กซ์ ขอบคุณสำหรับโร่วเจียหมัว ปีศาจลาวาจะกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของนาย” ซาเจราสพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข
คีลและมอนด์รีบยืนตัวตรงในทันที ใบหน้าของพวกเขาดูเคร่งขรึมเหมือนกับหลุมศพ พวกเขาต้องทำดีกับแม็กซ์เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถลักพาตัวเขาไปได้ นอกจากนี้โร่วเจียหมัวของเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นประโยชน์ มอนด์เองก็ทะลวงผ่านคอขวดที่สองของเขาแล้วหลังจากที่กินโร่วเจียหมัวไปสามอัน
แม็กซ์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณ” ใจหนึ่งเขาก็ต้องการให้ซาเจราสพาลูกค้ามาให้เขาเพิ่มขึ้น อีกใจหนึ่งเขาก็พบว่าเปลวไฟของพวกเขานั้นน่ารำคาญเล็กน้อย ฉันคงต้องพูดคุยหาทางออกกับซาเจราส บางทีพวกเขาอาจจะนั่งกินข้างนอกได้
เขามองไปที่ปีศาจทั้งสองคนที่ซาเจราสพามา คนตัวอ้วนดูค่อนข้างจะฉลาดและตัวที่สูงนั้นค่อนข้างจะธรรมดา
“โอ้ พวกเขาเป็นเพื่อนของฉัน คีลและมอนด์” ซาเจราสพูดพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนของเขา “กองทัพเพลิงโลกันตร์เกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้เลย !”
แม็กซ์ยกคิ้ว คีล มอนด์และกองทัพเพลิงโลกันตร์เหรอ ? เขามองไปที่ปีศาจทั้งสามอย่างประหลาดใจ นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือว่าเป็นโชคชะตากันแน่ ?
ฉันหวังว่าพวกเขาคงจะไม่ได้สร้างกองทัพเพลิงโลกันตร์นี้ขึ้นมาเพื่อหารายได้สำหรับการกินโร่วเจียหมัวนะ สีหน้าของแม็กซ์ดูแปลกๆเมื่อนึกภาพพวกเขาพุ่งเข้าใส่ศัตรูพร้อมกับตะโกนว่า “เพื่อโร่วเจียหมัว !” เขารู้สึกเสียใจกับอาเซรอทจริงๆ
กองทัพเพลิงโลกันตร์ ?! ดวงตาของคีลและมอนด์เป็นประกาย มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินชื่อนี้แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่ถูกต้อง ไม่มีชื่อไหนที่เหมาะสมกับพวกเขาไปกว่าชื่อนี้อีกแล้ว
“ไปก่อนนะแม็กซ์ เราจะกลับมากินอาหารค่ำ” ซาเจราสพูดพร้อมกับพยักหน้า จากนั้นเขาก็ยิ้มให้กับยาเบะมิยะ จ่ายเงินแล้วเดินไปที่ประตู คีลและมอนด์รีบตามเขาไปในทันที
“หัวหน้า คุณคิดชื่อนี้ขึ้นมาได้ยังไง ?” คีลถามอย่างสงสัยเมื่อพวกเขาออกมานอกประตู
“มันเป็นชื่อที่ดีจริงๆ ! มันเหมาะมาก !” มอนด์พูดอย่างตื่นเต้นพร้อมกับพยักหน้า
ซาเจราสเกาหัวล้านๆของเขา “ฉันยืมชื่อนี้จากแม็กซ์” เขายอมรับและยิ้ม “ตอนนี้เรามีกลุ่มของเราเองแล้ว เราต้องมีคำพูดปลุกใจ”
“เพื่อกองทัพเพลิงโลกันตร์ !” มอนด์พูดหลังจากที่เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
คีลส่ายหัว “มันไม่สร้างแรงบันดาลใจและความฮึกเหิมเลย”
“นายมีอันที่ดีกว่านี้มั้ย ?” ซาเจราสถามคีล คีลค่อนข้างฉลาดไม่เหมือนกับปีศาจลาวาคนอื่นๆ เขาเป็นมือขวาของซาเจราสและได้รับความไว้วางใจ
“เพื่อโร่วเจียหมัว !” คีลพูดขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
ใบหน้าของซาเจราสและมอนด์สดใสขึ้นมาในทันที “เพื่อโร่วเจียหมัว !” พวกเขาตะโกน
มอนด์พยักหน้า “ใช่ ! อันนี้ดีกว่า ! มันสร้างแรงบันดาลใจมาก !” เขาพูดอย่างตื่นเต้น
ซาเจราสพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันเองก็ชอบมันเหมือนกัน” เขาตบไหล่คีล “ตามที่นายต้องการเลยคีล จากนี้ไปนายจะเป็นเจ้าหน้าที่ของเรา”
คีลพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณครับหัวหน้า” เขาพูด ตอนนี้เรายังมีกันแค่สามคนเท่านั้น แต่อีกไม่นานเราจะกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด
คำขวัญของเราจะดังก้องไปทั่วทั้งทวีป และฉันจะเป็นคนเริ่มพูดมันเป็นคนแรก
“เพื่อโร่วเจียหมัว !” พวกเขาพูดพร้อมกับหัวเราะ
เสียงหัวเราะของพวกเขาทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองมาที่ปีศาจทั้งสามแล้วก็รีบเดินห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
…
ที่ห้องพักภายในโรงแรมกีย่า แซลลี่กำลังพับผ้าห่มอย่างระมัดระวัง เธอทำให้รอยยับนั้นเรียบขึ้นด้วยนิ้วที่เพรียวบางของเธอ เธอพับแล้วก็หยิบมันขึ้นมาเบาๆจากนั้นเธอก็วางมันไว้ที่หัวเตียง รอยยับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้นๆถ้ามันไม่กระทบกับงานของฉัน !” แซลลี่พูดด้วยความโกรธพร้อมกับเหวี่ยงกำปั้นของเธอไปมา จากนั้นเธอก็ถอนหายใจแล้วหยิบกระเป๋าเงินของเธอออกมา ข้างในมีเหรียญมังกรเหลืออยู่แค่สองถึงสามเหรียญ
ฉันควรจะกินข้าวผัดสายรุ้งมั้ยนะ ? แซลลี่คิดพร้อมกับมองไปที่เงินของเธอ