Chapter 161 : แบบหวานหรือแบบคาว
“ฉันบอกแล้ว ร้านอาหารมามี่เปิดตัวเมนูใหม่ที่เรียกว่าพุดดิ้งเต้าหู้และนักเวทสองคนได้ต่อสู้กันเพื่อตัดสินว่ารสชาติไหนเป็นของแท้!” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“จริงเหรอ? งั้นฉันต้องลองดูแล้ว ฉันยังจำรสชาติของข้าวผัดหยางโจวของเขาได้อยู่เลย แต่ฉันคงต้องใช้เงินที่แอบเก็บเอาไว้อีกครั้ง”
ชายคนแรกพูดต่อ “ใช่ เรากินอาหารที่ร้านนี้ได้แค่ไม่กี่ครั้งต่อเดือน ลูกของฉันจะเข้าโรงเรียนเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นฉันจึงต้องประหยัดเงินให้กับเขา แต่มันยากเกินไปที่จะพลาดอาหารของเขา”
“นักเวทต่อสู้กันเพื่ออาหาร?! ร้านอาหารที่คุณพูดถึงอยู่ที่ไหน? อาหารมันดีอย่างที่คุณพูดจริง ๆ เหรอ?” เสียงที่สามถามขึ้น
วันนี้ร้านอาหารมามี่เป็นประเด็นที่ร้อนแรงมาก การต่อสู้ในตอนเช้าทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ส่งเสริมอาหารเมนูใหม่ หลายคนที่ไม่เคยไปที่ร้านมาก่อนต่างก็รู้สึกทึ่งและสงสัยว่าอาหารประเภทไหนที่ทำให้นักเวทย์สองคนสู้กันได้
…
ผู้คนจำนวนมากกำลังต่อแถวอยู่ที่หน้าร้านอาหารของแม็กซ์
น่าแปลกที่มันมีแถวอยู่สองแถว ที่หัวแถวคือครัสซูและอูเรี่ยน พวกเขายืนห่างกันมากกว่าหนึ่งเมตรแต่ชัดเจนว่าระยะห่างนั้นยังไม่มากพอ
ใต้ฝ่าเท้าของอูเรี่ยนมีดอกไม้น้ำแข็งขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดอ่อนและสง่างามกำลังหมุนอยู่อย่างช้า ๆ
ในขณะเดียวกันที่เท้าของครัสซูก็มีนกเพลิงที่กำลังมองไปที่ดอกไม้น้ำแข็งด้วยความระมัดระวัง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพร้อมที่จะสู้แล้ว แต่ไม่มีใครเริ่มเคลื่อนไหวก่อน
พวกเขาระงับเวทมนต์ของพวกเขาเอาไว้เนื่องจากมีผู้บริสุทธิ์อยู่รอบ ๆ
“แบบหวานเป็นรสชาติที่แท้จริงของพุดดิ้งเต้าหู้” ครัสซูพูดขึ้นอย่างจริงจังพร้อมกับกระแทกไม้เท้าของเขาลงกับพื้น
“แบบหวานน่ะไปลงนรกซะ ฉันชอบแบบคาว” อูเรี่ยนพูด เสียงของเขารุนแรงต่อหูของผู้ฟังเป็นอย่างมาก
พวกเขาจ้องมองกันและกัน ชั่วขณะหนึ่งดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะสู้กันแต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ยังคงเอาแต่มองกันเหมือนเดิม
ลูกค้าคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขาอาจจะถูกฆ่าตายถ้าหากทั้งคู่สู้กันใกล้ ๆ กับพวกเขา การเข้าแถวอาจจะเป็นอันตรายได้ในบางครั้ง
ลูกค้าที่ยืนใกล้พวกเขาที่สุดอยู่ห่างจากพวกเขาไปสองเมตรแต่คนอื่นก็ไม่ได้บ่น พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี มังกรน้ำแข็งทำให้เกิดความกลัวภายในใจของพวกเขา
พวกเขาไม่เคยกินพุดดิ้งเต้าหู้มาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเลือกข้างของพวกเขา
ประตูจะไม่เปิดไปอีกครึ่งชั่วโมง ลูกค้าหลายสิบคนกำลังยืนรออยู่ ทั้งสองแถวต่างก็ยาวพอ ๆ กัน
ความเป็นปรปักษ์กันระหว่างครัสซูและอูเรี่ยนเริ่มส่งผลกระทบกับคนอื่น ๆ อากาศนอบ ๆ ดูเหมือนจะตึงเครียด
“เฮ้ เพื่อน ทำไมถึงมีสองแถวล่ะ?” โมโยชิถามคนที่รออยู่ในแถว เขามากับเพื่อนของเขา แอนเดรียส* (แก้จาก ‘แอนเดรีย’ นะครับ ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าเป็นชื่อของผู้หญิง)
“แบบหวานและแบบคาว เลือกของคุณ”
โมโยชิเข้าใจได้ในทันทีเมื่อเขามองเห็นอูเรี่ยนและครัสซู “ฉันชอบแบบคาวเหมือนกัน” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือออกไป
“โอ้ สวัสดี” ชายคนนั้นยื่นมามาจับมือของเขา
“เขาชอบแบบหวาน” โมโยชิพูดพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนของเขา
คนที่เลือกพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวทุกคนหันไปมองแอนเดรียสในทันที
“ใจเย็น ๆ นะเพื่อน” แอนเดรียสสะดุ้ง
“เฮ้ คุณไม่ต้องไปกลัวพวกเขาหรอก” ผู้ชายที่ดูแข็งแกร่งในอีกแถวพูดขึ้น คนอื่น ๆ ในแถวเดียวกันต่างก็มองมาที่เขาอย่างให้กำลังใจ
ตอนนี้แอนเดรียสรู้สึกปลอดภัยแล้ว เขาเข้าไปต่อแถวนั้นในทันที
มีคนเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายในเวลาไม่กี่นาที บางคนอยากลองทั้งสองแบบ แต่ไม่มีใครกล้าพอที่จะเริ่มแถวที่สามข้าง ๆ นักเวทย์ที่ทรงพลังทั้งสองคน
แซลลี่ตกใจเมื่อเธอสำรวจดูผู้คนที่มาต่อแถว เธอคลุมหน้าด้วยผ้าพันคอผ้าไหม ที่นี่ได้รับความนิยมอย่างมากหลังจากที่ฉันมากินแค่ไม่กี่วัน?
แซลลี่หยุดเดินและรู้สึกลังเล ฉันต้องรออยู่กับมนุษย์หลายคน คนแคระ แล้วก็ออร์ค และบางทีฉันอาจจะต้องแบ่งโต๊ะกันกับพวกเขา… เธอเคยกินอาหารพร้อมกันกับคนแคระภายในร้านอาหารนี้ แต่นี่เป็นเรื่องที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง
มีคนมากมายที่มารออยู่และจะมีอีกมากเมื่อร้านเปิดให้บริการ ฉันจะทนกินอาหารโต๊ะเดียวกันกับคนแคระและออร์คได้มั้ยนะ? แซลลี่คิดกับตัวเอง
“ร้านอาหารดูเหมือนจะยุ่งมาก สิ่งที่สวยงามไม่เคยถูกมองข้ามเลย” ลูน่าพูดพร้อมกับมองดูสิ่งต่าง ๆ เห็นได้ชัดว่าเธอกังวลว่าร้านอาหารอาจจะไม่ดึงดูดลูกค้าเนื่องจากราคาของสินค้าแต่กลับกลายเป็นว่ามันไม่จำเป็นต้องห่วงเลย
ฉันสามารถซื้อกลับไปได้ แซลลี่ไม่สามารถต้านทานต่อความอยากกินข้าวผัดหยางโจวแสนอร่อยได้ เธอกำกำปั้นของเธอแล้วเดินไปที่แถว
บางทีตอนนี้พวกเขาอาจจะมีเมนูใหม่ ลูน่ายิ้มและมองไปที่ร้านอาหาร
“คุณผู้หญิง แบบหวานหรือแบบคาว?” ชายหนุ่มคนหนึ่งถามขึ้นในขณะที่เขามองมาที่ลูน่าและแซลลี่