Chapter 166: พ่อสอนหนูทำอาหารได้มั้ยคะ?
ลูกไฟของเอมี่ส่งเสียงกรีดร้องอันตราย พวกเขารู้สึกได้ถึงความร้อนจากระยะไกล
เธอน่ารักมาก ที่สำคัญคือเธอสามารถเผาเคราของครัสซูและเอาชนะซาเจราสได้
พวกเขาไม่ต้องการยุ่งกับเธอ
พวกเขาไม่อยากถูกร้านนี้แบน
พวกเขาลดเสียงของพวกเขาลง ตอนนี้พวกเขาสามารถได้ยินเสียงของจานที่กระทบเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ได้และเสียงอันกระตือรือร้นของยาเบะมิยะ กลิ่นหอมในอากาศเริ่มรุนแรงมากขึ้น
ลูน่ามองดูเอมี่และยิ้ม เธอทำตัวได้มีประโยชน์มาก จากนั้นเธอก็มองดูกฎในเมนู ดูเหมือนว่าเขาจะมีอะไรที่คล้ายกันกับโนแวน พวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนกันได้
จากนั้นมีเสียงกลืนน้ำลายดังขึ้นในบรรยากาศที่เงียบสงบนี้
พวกเขาหันไปมองและรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นฮาเป็งและพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาว
ฮาเบ็งยิ้ม “ได้เวลากินแล้ว” เขารีบหยิบช้อนขึ้นมาในทันที เขาได้พุดดิ้งเต้าหู้เป็นคนที่สี่ตั้งแต่เริ่มเสิร์ฟอาหาร
ครัสซูตักพุดดิ้งเต้าหู้เข้าปาก “อื้มม พุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานเข้ากันได้ดีกับข้าวผัดหยางโจว” เขาอุทานพร้อมกับสัมผัสได้ถึงรสชาติที่ยอดเยี่ยม
อูเรี่ยนกัดโร่วเจียหมัวจากนั้นก็กินพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาว “การจับคู่แบบนี้ทำให้มันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยม” ผลพิเศษของโร่วเจียหมัวทำให้เขารู้สึกว่าหลังของเขามันโค้งน้อยลง
เขาทำให้มันชุ่มฉ่ำแบบนี้ได้ยังไง?! ชายวัยกลางคนที่ดูร่ำรวยคิดกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ เขาตักมันเข้าปากอีกครั้ง ความหวานนี้ทำให้เขารู้สึกมึนเมาและมันทำให้เขาหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
“ฉันชอบสิ่งนี้!” ฮาเป็งพูด ช้อนของเขายกขึ้นและลงอย่างรวดเร็วในขณะที่เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ลูกค้าคนอื่น ๆ ต่างก็หยุดเถียงกันเพื่อรออาหารของพวกเขาอย่างอดทน
คนที่มีอาหารมาเสิร์ฟแล้วนั้นกินเหมือนกับแมวดม ส่วนคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ต่างก็มองไปที่ครัวอย่างตื่นเต้นและคาดหวัง สันติภาพและความเงียบสงบได้กลับคืนมาอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ” เอมี่พูดแล้วทำให้ลูกไฟหายไป เธอตบหัวลูกเป็ดขี้เหร่เบา ๆ แล้วมันก็เข้าใจในทันทีและไถลตัวลงไปตามขาของเธอ เธอปีนลงจากเก้าอี้ เขย่งเท้าขึ้นเพื่อหยิบถ้วยทั้งสองใบแล้วเดินไปที่ห้องครัว
“พ่อคะ หนูควรวางพวกมันไว้ตรงไหน?” เอมี่ถามในขณะที่เธอถือพวกมันเอาไว้ในมืออย่างระมัดระวัง
“เอามานี่มา ส่งพวกมันมาให้พ่อ” แม็กซ์วางถ้วยลงในอ่างแล้วยิ้ม เธอช่วยทำให้คนสั่งอาหารเพิ่มขึ้นโดยไม่ทำให้พวกเขารู้สึกขุ่นเคือง ฉันไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถทำงานแบบนี้ได้นอกจากเธอ
“พ่อสอนหนูทำอาหารได้มั้ยคะ?” เอมี่ถามในขณะที่เธอมองไปที่เครื่องครัว
แม็กซ์รู้สึกประหลาดใจ “หนูอยากเรียนทำอาหารเหรอ?”
เอมี่พยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ค่ะ อาหารของพ่อทำให้หลาย ๆ คนชอบพ่อ หนูเองก็อยากให้คนมาชอบหนูเยอะ ๆ เหมือนกัน”
“เด็กโง่ มีคนเยอะมากที่ชอบหนูถึงแม้ว่าหนูจะไม่รู้วิธีการทำอาหารก็ตาม” แม็กซ์พูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้หนูยังสูงไม่พอที่จะใช้กระทะ พ่อจะสอนหนูเมื่อหนูสูงกว่าโต๊ะทำอาหาร ดังนั้นพยายามกินให้มากขึ้นและสูงขึ้น!”
เอมี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยอยู่พักหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเธอดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอเดินไปที่โต๊ะทำอาหารแล้วเงยหน้าขึ้นมองมัน มันสูงมากกว่าเธอประมาณ 10 เซนติเมตร “รอก่อนเถอะ ฉันจะสูงกว่าคุณในเวลาไม่นาน”
แม็กซ์ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มเมื่อเขามองดูลูกสาวแสนน่ารักของเขา
เอมี่ยืนมองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินกลับไปที่เก้าอี้ประจำของเธออีกครั้ง
“กินให้อร่อยนะคะ” ยาเบะมิยะพูดในขณะที่เธอวางพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานและพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวลงตรงหน้าแซลลี่และลูน่าตามลำดับ มันดูอ่อนนุ่มและสั่นเล็กน้อยแต่ก็ยังคงรูปร่างเอาไว้ได้
หญิงสาวทั้งสองคนถูกดึงดูดความสนใจไปโดยอาหารในทันที รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของพวกเธอในขณะที่พวกเธอได้กลิ่นหอมแสนอร่อย
ลูน่าหยิบช้อนของเธอขึ้นมาและเหลือบมองแซลลี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอต้องเอาผ้าพันคอที่ปิดหน้าของเธออยู่ออกอย่างแน่นอน
เอลฟ์วัยกลางคนที่ยืนอยู่ในแถวเองก็กำลังมองมาที่แซลลี่และหรี่ตาลงราวกับว่าเขากำลังคิดถึงเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างอยู่
แซลลี่หมกมุ่นอยู่กับอาหารจนไม่ได้สังเกตรอบ ๆ ตัว เธอถอดผ้าพันคอออกแล้ววางมันลง จากนั้นเธอก็ตักมันขึ้นมาด้วยช้อนแล้วมองมันด้วยความแปลกใจ
เธอสวยมาก! ลูน่าคิดกับตัวเอง
ดวงตาของเอลฟ์วัยกลางคนเบิกกว้าง “เธออยู่ที่นี่!” จากนั้นเขาก็รีบปิดปากของเขาแล้วก้มหัวลงเพื่อซ่อนตัวอยู่ข้างหลังออร์คที่ยืนอยู่ข้างหน้า