Chapter 188 : เขาสามารถฆ่ามังกรได้ด้วยการแกว่งดาบเพียงแค่ครั้งเดียว
อาการชาเริ่มหายไป แม็กซ์รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาในขณะที่เขาก้าวไปบนพื้นซึ่งทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้น
ฉันไม่ใช่คนพิการอีกต่อไปแล้ว! ฉันอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเป็นพ่อที่ดีได้
“ฉันจะทำงานได้มากขึ้น ฉันคิดว่ายังไงซะฉันก็ควรจะจ้างพนักงานเสิร์ฟเพิ่ม” แม็กซ์พูดกับตัวเองในขณะที่เขาเดิน
เขาผ่านโรงตีเหล็กของโมไบอยู่บ่อย ๆ แต่เขาไม่เคยเข้าไป
โรงตีเหล็กโมไบใหญ่พอ ๆ กับบ้านของแม็กซ์ อันที่จริงบ้านทุกหลังในลานเอเดนนั้นมีขนาดเท่ากัน พวกมันถูกสร้างขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกัน ร้านค้าขนาดใหญ่หลายแห่งมักจะร่วมบ้านตั้งแต่สองหลังขึ้นไปเข้าด้วยกัน
บ้านของโมไบสร้างขึ้นมาจากหินสี่เหลี่ยมสีดำซึ่งน่าจะเป็นการซ่อมแซมใหม่เมื่อดูจากหน้าตาของมัน
แผ่นป้ายของเขาทำมาจากแผ่นเหล็กห้าแผ่นที่แขวนอยู่บนแท่งเหล็กที่ยื่นออกมาจากผนังด้านหน้า บนแผ่นเหล็กมีตัวอักษรสีแดงห้าตัวติดเอาไว้อยู่ อ่านได้ว่า ‘ตีเหล็ก (forge)’ ดูเหมือนว่ามันจะถูกทาสีใหม่ไปหลายครั้ง มันเก่าและได้พบเจอกับลูกค้ามาเป็นจำนวนมาก
โรงตีเหล็กมีประตูเป็นไม้และตอนนี้มันก็เปิดกว้าง
แม็กซ์ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังทุบค้อน โชคดีที่ระบบทำงานได้ดีมากและทำให้บ้านกันเสียงได้ มันจะฆ่าฉันถ้าฉันต้องทนฟังมันทุกวัน
เขาหยุดอยู่ที่ประตูแล้วมองเข้าไปข้างใน เขาเห็นอาวุธหลายชนิดแขวนอยู่บนราวสองชั้นและผนังด้านขวา มันมีทั้งขวาน มีด กระบองเหล็ก ดาบสั้น ดาบยาวและดาบหนัก พวกมันเป็นอาวุธที่ใช้กันทั่วไปในโลกนี้ มีเก้าอี้สี่ตัวที่ผนังด้านซ้ายซึ่งมีหน้าต่างเล็ก ๆ อยู่ ไกลออกไปที่กำแพงด้านซ้ายเป็นที่ที่โมไบกำลังทำงานอยู่ การออกแบบนั้นเรียบง่ายและพื้นหินสีดำก็ดูค่อนข้างสะอาด
ดาบเปล่งประกายแวววาวคมชัด
เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ดาบแต่ละเล่มมีราคา 1,000 เหรียญทอง แม็กซ์คุ้นเคยกับดาบเป็นอย่างมาก
โดยปกติแล้วอาวุธนั้นมีความสำคัญกับทหารมาก พวกมันอาจจะหมายถึงการได้มีชีวิตอยู่ต่อหรือการตายในบางครั้ง ชื่อเสียงของโมไบทำให้ธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จ
มีช่างตีเหล็กแค่สามคนเท่านั้นที่เก่งพอ ๆ กับโมไบ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครบอกได้ว่าใครดีที่สุด แต่ความจริงที่ว่าเขายุ่งอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมามันก็ได้พิสูจน์แล้ว
เมื่อแม็กซ์เดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆ เขาจะได้ยินเสียงผู้ชายกำลังพูดอยู่ เขาจำเสียงของโมไบและฮาเป็งได้ เห็นได้ชัดว่าฮาเป็งมาที่นี่หลังจากที่กินอาหารเช้า
“อะไรทำให้นายมาที่นี่ล่ะแม็กซ์?” โมไบถามพร้อมกับมองมาที่แม็กซ์ผ่านทางหน้าต่างบานเล็ก ๆ ด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ต้องสนใจฉันหรอก ฉันแค่มาดูน่ะ” มันค่อนข้างแปลกที่เจ้าของร้านอาหารจะมาซื้ออาวุธ
ฮาเบ็งเดินออกมาและยิ้มให้แม็กซ์ “นายควรซื้อไว้สักอันนะแม็กซ์”
แม็กซ์ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ฉันมีอยู่แล้วล่ะ หมายถึงมีดทำครัวน่ะ ฉันมาที่นี่เพราะความอยากรู้อยากเห็นของฉันเท่านั้น” ที่จริงแล้วฉันต้องการหาว่าน้ำหนักของดาบเล่มไหนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน
แม็ก อเล็กซ์มักจะใช้ดาบหนักสีดำชั้นเลิศของเขา มันมีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม เขาสามารถฆ่ามังกรได้ด้วยการแกว่งดาบเพียงแค่ครั้งเดียว
ตอนนี้แม็กซ์สามารถยกของหนัก ๆ ได้แล้ว แต่ตอนนี้เขายังไม่มีความสามารถพอที่จะใช้ดาบที่มีน้ำหนักมากได้
“ระบบ นายขายอาวุธมั้ย?” แม็กซ์ถาม เขาพบว่าอาวุธของเพื่อนบ้านแพงเกินไป
“ฉันไม่มีอาวุธร้ายแรง” ระบบตอบอย่างจริงจัง
“ฉันคิดว่าฉันจากที่นี่สักอัน”
“ฉันจะขายให้คุณถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่ใช้มันกับใคร” ระบบพูดอย่างไม่เต็มใจ
“ดาบจะมีไว้ทำไมถ้าฉันไม่สามารถใช้มันฆ่าได้? นายตั้งใจจะให้ฉันเล่นมันเหมือนกับของเล่นที่บ้านเหรอ?!”
“ของเล่นไม่ดีตรงไหน? คุณซื้อของเล่นของเอมี่จากฉัน จำได้มั้ย? ของเล่นบางตัวต้องการทักษะ ความทุ่มเทและเวลามากกว่าอาวุธเย็นของคุณซะอีก บางอันมีราคาแพงกว่ามาก แล้วทำไมคุณถึงต่อต้านของเล่นล่ะ”
นี่เป็นการโต้กลับที่ดี กล่องเพลงของเอมี่มีราคา 200 เหรียญทอง เป็นไปไม่ได้ที่ของเล่นจะมีราคาแพงกว่าอาวุธ
ฮาเป็งพยักหน้า “มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับพวกเราถ้าหากว่าคุณกลายเป็นอัศวิน พวกเราสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่มีอัศวิน แต่พวกเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพ่อครัว”
“ขอบคุณ” แม็กซ์ยิ้ม แต่แม็ก อเล็กซ์ไม่ได้เป็นแค่อัศวิน เขาเดินไปที่กำแพงที่แขวนดาบยาวเอาไว้
“ฉันจะเลือกแบบที่สั้นกว่านี้ถ้าฉันเป็นคุณ” โมไบพูดพร้อมกับยิ้มในขณะที่เขาเดินออกมาพร้อมกับผ้ากันเปื้อนสีดำหนา
ฉันเห็นเขาเหนื่อยมากในขณะที่เขาทำอาหาร เขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะยกพวกมันได้ โมไบคิดกับตัวเอง ฉันไม่ต้องการให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือ แบบที่สั้นกว่าเป็นดาบสำหรับผู้หญิงแต่มันก็เบากว่ามาก
“ขอบคุณ แต่ฉันคิดว่าฉันชอบแบบนี้” แม็กซ์หยิบมันขึ้นมาด้วยมือของเขา ด้ามดาบนั้นดูดีมาก แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกมีไฟขึ้นมา