Chapter 201 : พวกเรากำลังบิน!
แม็กซ์หมุนป้ายจาก ‘เปิด’ เป็น ‘ปิด’ หลังจากหมดเวลาอาหารกลางวันและยิ้มในขณะที่เขามองดูเอมี่จั๊กจี้ลูกเป็ดขี้เหร่
“หนูต้องกลับไปโรงเรียนเมื่อไหร่เหรอคะพ่อ?” เอมี่ถาม ฉันคิดว่าพ่อดูแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย
“ก่อนบ่าย 2 โมงน่ะ” แม็กซ์ตอบด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขาเดินเข้าไปลูบหัวเอมี่ “ไปงีบสักหน่อยนะ”
เอมี่พยักหน้าพร้อมกับถูไถหัวของเธอกับมือของแม็กซ์เหมือนกับที่ลูกแมวกำลังทำกับมือของเธอ “โอเคค่ะ”
ยาเบะมิยะที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่พูดขึ้น “ฉันคิดว่าตอนเช้าฉันช่วยพาเอมี่ไปโรงเรียนได้นะคะ” เธอพูดพร้อมกับมองไปที่แม็กซ์
“อืม…” แม็กซ์ใช้ความคิด มันจะช่วยบางเบางานให้ฉัน แต่ …
“แต่พี่สาวมิยะ คุณรู้วิธีขี่จักรยานมั้ย?” เอมี่ถาม
มิยะรู้สึกแปลกใจ เธอมองไปที่พาหนะสองล้อ คงมีแค่อัจฉริยะอย่างเจ้านายเท่านั้นที่สามารถขี่พาหนะอันชาญฉลาดนี้ได้
เธอส่ายหัว “ไม่ ฉันขี่ไม่ได้”
“ถ้าเราเดิน หนูจะต้องตื่นเร็วขึ้นเพราะมันจะต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงที่นั่น หนูจะมีเวลานอนน้อยลงกว่าเดิม” เอมี่พูด
“ฉัน…ฉันจะฝึก ฉันจะฝึกขี่มัน” ยาเบะมิยะหันไปหาแม็กซ์ “คุณช่วยสอนฉันขี่มันได้มั้ยคะหัวหน้า?”
เอมี่ปรบมือ “เป็นความคิดที่ดีมาก พ่อคะ! พ่อสอนพี่สาวมิยะได้มั้ยคะ? เธอจะได้ขี่มันไปส่งหนูที่โรงเรียน!”
เห็นได้ชัดว่ายาเบะมิยะอยากแบ่งเบาภาระงานของเขา แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะเรียนรู้วิธีขี่จักรยาน แม็กซ์พยักหน้า “ได้เลย แต่มันอาจจะใช้เวลาหลายวันหน่อยนะและเธออาจจะล้มหลายครั้งก่อนที่เธอจะขี่ได้คล่อง”
“ฉันไม่กลัวเจ็บค่ะ” พนักงานเสิร์ฟสาวดูมีความมุ่งมั่นมาก
“นะคะพ่อ สอนพี่สาวมิยะนะคะ” เอมี่พูดพร้อมกับเขย่าแขนของเขา
แม็กซ์ยอมแพ้ เขาลูบหัวเอมี่ด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ๆ พ่อจะสอนเธอ” เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “พ่อจะไปที่บริการจัดหางานหลังจากที่พ่อขี่จักรยานไปส่งหนูที่โรงเรียนตอนบ่ายนี้ เราต้องการพนักงานเสิร์ฟคนอื่นเพิ่ม”
“หนูจะมีพี่สาวเพิ่มอีกคน!” เอมี่ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจ
“หัวหน้าคะ ฉัน…” ยาเบะมิยะพูดและก้มหน้าลงราวกับว่าเธอกำลังโทษตัวเองว่าเธอทำให้แม็กซ์เดือดร้อน
“ฉันไม่สามารถหาพนักงานเสิร์ฟที่ดีไปกว่าเธอได้แล้วล่ะมิยะ อย่าโทษตัวเองเลย เธอทำงานได้ดีมาก แต่ปริมาณงานเพิ่มขึ้นมากและเธอจะไม่มีเวลายิ้มอีกต่อไป พวกเขาชอบเห็นเธอยิ้มและเธอต้องทำแบบนั้นด้วย”
ยาเบะมิยะพยักหน้า “ขอบคุณค่ะหัวหน้า”
“เธอจะสวยเหมือนพี่สาวมิยะมั้ยคะ?” เอมี่ถามอย่างสงสัย
“ใช่แล้วล่ะ และเธอจะทำงานหนักเหมือนมิยะด้วย” แม็กซ์พูดด้วยรอยยิ้ม
“เหมียว!” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องขึ้นและพยายามเรียกร้องความสนใจจากเอมี่ มันกลัวที่จะเสียตำแหน่งในบ้านนี้
เอมี่ฟุบหลับไปบนเคาน์เตอร์ ไม่นานหลังจากนั้นเมื่อถึงเวลาเรียนแม็กซ์ก็ปลุกเธอขึ้นมาและเข็นจักรยานออกไปนอกร้าน เธอปีนเข้าไปบนที่นั่งของเธอและหันไปมองลูกเป็ดขี้เหร่ที่กำลังนั่งอยู่ที่ประตู “มาได้แล้วลูกเป็ดขี้เหร่!”
มันมองดูตะกร้าแล้วส่ายหัว “เหมียว เหมียว”
“ปล่อยให้มันอยู่ที่บ้านเถอะ มันไม่ค่อยชอบนั่งจักรยาน” แม็กซ์ขึ้นคร่อมจักรยาน “จับดี ๆ นะ”
เอมี่พยักหน้าอย่างมีความสุข “ค่ะพ่อ!”
แม็กซ์ยิ้มและออกแรงถีบจักรยาน จักรยานออกตัวไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้เขาสามารถขี่จักรยานได้เร็วขึ้นมากเพราะว่าเขาแข็งแกร่งขึ้น
แน่นอนว่ามันดึงดูดสายตาของหลาย ๆ คนอีกครั้ง
“นี่เป็นเวทมนตร์เหรอ?” เสียงหนึ่งถามขึ้น
“อาจจะ ล้อสองล้อนั้นเจ๋งมาก” เสียงที่สองตอบ
“พวกเราแซงรถม้าแล้ว!” เอมี่พูดอย่างคึกคัก
“คันที่สองคัน!
“คันที่สาม! เราแซงรถม้ามาสามคันแล้ว!
“พ่อคะ พวกเรากำลังบิน!”
เอมี่โบกแขนของเธออย่างมีความสุข เธอไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแต่เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นมากกว่า เธออยากให้แม็กซ์ปั่นให้เร็วขึ้นอีก
พวกเขาหยุดที่หน้าประตูโรงเรียน เอมี่ปีนลงจากจักรยานอย่างรวดเร็ว “หนูเดินไปที่ห้องเรียนเองได้ค่ะพ่อ”
แม็กซ์พยักหน้า เธอรู้จักโรงเรียนนี้ดีกว่าฉัน “โอเค เป็นเด็กดีที่โรงเรียนนะ”
“ค่ะพ่อ หนูไปแล้วนะ” เอมี่โบกมือลาเขาแล้วเดินเข้าโรงเรียนไป “สวัสดีตอนบ่ายค่ะคุณหัวผักกาดและคุณกระดองเต่า” เธอพูดกับยามทั้งสองที่อยู่ที่ประตู
พวกเขายิ้มตอบแหย ๆ “สวัสดีตอนบ่าย”
แม็กซ์รู้สึกอายเล็กน้อย เธอชอบที่จะตั้งฉายาให้กับคนอื่นจริง ๆ
ชื่อเล่นพวกนี้จะค่อนข้างแม่นยำ ชายชราไม่มีผมยกเว้นที่ส่วนบนของศีรษะ ออร์คผมแดงเองก็ถือโล่สีดำที่ดูเหมือนกับกระดองเต่า
ยามทั้งสองคนแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างจนปัญญา