Chapter 234 : คุณสอนหนูได้มั้ยว่ามันต้องทำยังไง?
“สวัสดีมิยะ แซ – ไอช่า” แม็กซ์พูดด้วยความแปลกใจ ยาเบะมิยะเดินมาข้างหน้าร้านและมีแซลลี่เดินตามออกมา
เขาไม่มีเวลาบอกพวกเธอเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับกำหนดการใหม่ของเขา แต่เขาคิดว่าพวกเธอน่าจะกลับบ้านไปหลังจากที่พวกเธอเห็นประกาศที่ประตู
ยาเบะมิยะที่สวมชุดเมดสีน้ำเงินขาวยิ้มอย่างร่าเริง
ดวงตาของแม็กซ์เบิกกว้างเมื่อเขามองเห็นชุดกี่เพ้าสีขาวน้ำเงินของแซลลี่ เขามองเธอขึ้นลง มันสมบูรณ์แบบมาก เธอสลัดภาพที่เธอสวมชุดเดรสออกไปได้โดยสิ้นเชิงซึ่งมันทำให้เธอดูเซ็กซี่และมีเกียรติมากขึ้น ฉันเคยจ่ายเงินเพื่อไปงานแฟชั่นโชว์มาหลายครั้งและเธอสวยกว่านางแบบทุกคนที่ฉันเคยเห็นมา เขาไปงานแฟชั่นโชว์พวกนั้นเพื่อขอเบอร์โทรของสาว ๆ
“ว้าว วันนี้คุณดูสวยมากเลยพี่สาวเอลฟ์ หนูชอบชุดของคุณ” เอมี่พูดกับแซลลี่ การแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย เธอมองไปที่ยาเบะมิยะจากนั้นก็หันไปมองแซลลี่ “แต่คุณมาทำอะไรที่นี่กับพี่สาวมิยะเหรอคะ?”
แม็กซ์ยิ้ม “ไอช่ากำลังจะมาทำงานที่นี่ หนูเรียกเธอว่าพี่สาวไอช่าก็ได้”
“สวัสดี ฉันชื่อไอช่า” แซลลี่พูดกับเอมี่ด้วยรอยยิ้ม น่าแปลกที่ฉันไม่คิดว่าเขาดูน่ารังเกียจ แซลลี่คิด อาจเป็นเพราะว่าเขากำลังชื่นชมชุดที่เขาทำขึ้นมา
“สวัสดีค่ะพี่สาวไอช่า แต่หนูคิดว่าชื่อของคุณคือ…” เอมี่คิดอยู่ครู่หนึ่งและพยายามนึก“ใช่แล้ว ชื่อของคุณคือไอช่า ยินดีต้อนรับค่ะพี่สาวไอช่า ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
แซลลี่เอียงคอของเธอ “ขอบคุณนะจ๊ะ” เธอชอบสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ที่น่ารัก สดใสและดูฉลาดคนนี้
ยาเบะมิยะเดินเข้ามารับไก่เพลิงไปจากมือของแม็กซ์ เมื่อเธอมองเห็นเขี้ยวหมูป่าเธอก็รู้สึกตกใจ “คุณไปล่าสัตว์มาเหรอคะหัวหน้า?” เธอรู้ดีว่าพวกเขาไปทำอะไรมา เธอเคยทำงานในครัวมาหลายปีแล้ว
แซลลี่เองก็รู้สึกแปลกใจมากเช่นกัน เธอเองก็เป็นนักล่าฝีมือดีคนหนึ่ง เธอไม่เข้าใจว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างแม็กซ์ฆ่าหมูป่าสัมฤทธิ์ได้ยังไง
แม็กซ์พยักหน้า “ใช่ ฉันออกไปหาวัตถุดิบมา เข้าไปข้างในกันเถอะ วันนี้เราไม่ต้องทำงาน” เขาวางเอมี่ลง จากนั้นก็เปิดประตูแล้วเข็นจักรยานเข้าไปข้างในพร้อมกับลูกแมวที่กำลังกอดเขี้ยวหมูป่าอย่างวิงเวียนอยู่ในตะกร้า
เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาข้างในแม็กซ์ก็ปิดประตู ลดมู่ลี่ลงและเปิดไฟ จากนั้นเขาก็นั่งลงและถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความรู้สึกเหนื่อยล้าเริ่มถาโถมเข้ามาใส่เขา
ขาของเขาเมื่อยล้าจากการเดินเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อบางส่วนของเขาตึงเมื่อเขาทำการต่อสู้แค่เพียงเล็กน้อยบนเนินเขา มือซ้ายและแขนของเขารู้สึกชาจากการถือไก่เพลิงหนัก ๆ และแผลของเขาก็เริ่มมีเลือดออกมาอีกครั้ง
“หัวหน้า คุณได้รับบาดเจ็บ!” ยาเบะมิยะพูดอย่างกังวล
“พ่อเป็นอะไรมั้ยคะ? เจ้าหมูโง่นั่น! หนูน่าจะเผามันให้กลายเป้นถ่านไปเลย!” เธอจับมือของเขาขึ้นมาแล้วเป่ามัน “รู้สึกดีขึ้นมั้ยคะพ่อ?”
แม็กซ์ยิ้ม “ดีขึ้นแล้วล่ะ ตอนนี้พ่อไม่รู้สึกเจ็บเลย ไม่ต้องนะ มันเป็นแค่แผลเล็ก ๆ เท่านั้นเอง ไม่นานมือของพ่อก็จะหายดีแล้ว”
“บางทีฉันน่าจะช่วยได้ถ้ามันเป็นอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ” แซลลี่พูดขึ้นเบา ๆ
ใบหน้าของเอมี่สดใสขึ้นมาในทนัที “จริงเหรอคะ? ช่วยพ่อของหนูหน่อยนะคะพี่สาวไอช่า!” เอมี่พูดด้วยสีหน้าคาดหวัง
“แผลจะขัดขวางการทำอาหารของหัวหน้าในขณะที่เขากำลังทำอาหารอยู่” ยาเบะมิยะพูดและมองไปที่แซลลี่
“ฉันสามารถใช้เวทมนตร์แห่งชีวิตได้ ฉันจะทำให้ดีที่สุด” แซลลี่พูด
“ขอบคุณนะ” แม็กซ์พูดแล้วถอดผ้าพันแผลออกออก แผลดูแย่กว่าที่เขาคิดเอาไว้
เขารู้จักเวทมนตร์แห่งชีวิต มันถูกมองว่าเป็นศาสตร์แห่งการรักษาขั้นสูงและมีแค่เอลฟ์เท่านั้นที่สามารถใช้มันได้
แซลลี่หยิบตะเกียบขึ้นมาจากโต๊ะแล้วถือปลายข้างหนึ่งไว้ แสงสีเขียวปรากฏขึ้นจากปลายนิ้วของเธอแล้วพุ่งไปตามตะเกียบ จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวและดูราวกับว่ามันมีชีวิตอยู่ ใบไม้แตกออกมาจากมัน
เอมี่มองดูด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ยาเบะมิยะมองแซลลี่ด้วยความชื่นชม
แม็กซ์ยังไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
แซลลี่ท่องคาถาเบา ๆ แสงสีเขียวพุ่งออกมาจากตะเกียบไปที่แผลของแม็กซ์ แสงนั้นทำความสะอาดแผล จากนั้นเนื้อและผิวหนังก็เริ่มเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ความเจ็บปวดหายไปเกือบจะในทันที แผลรู้สึกเย็นสบายและคันเล็กน้อย
จกานั้นตะเกียบก็หมดพลังชีวิตไปอย่างรวดเร็ว ใบไม้สีเขียวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและร่วงลงไปที่พื้นอย่างช้า ๆ แสงสีเขียวจางหายไปและตะเกียบก็ผุพัง
เอมี่ปรบมือ “มันได้ผล! แผลหายไปแล้ว! พี่สาวไอช่าคะ คุณสอนหนูได้มั้ยว่ามันต้องทำยังไง?”