Chapter 237 : ลูกครึ่งเอลฟ์ที่น่ารังเกียจ
สมาชิกคณะกรรมการคนอื่น ๆ มองไปที่เชียร์ด้วยความประหลาดใจ
ประธานหอการค้าได้รับการเลือกตั้งมาเป็นเวลาห้าปีแล้ว ตระกูลผู้ก่อตั้งทั้งสี่มีสิทธิ์ลงสมัครรับตำแหน่งประธานและมีเพียงสมาชิกในห้องนี้เท่านั้นที่จะลงคะแนนเสียงได้
หัวหน้าตระกูลผู้ก่อตั้งทั้งสี่ต่างก็เคยเป็นประธานมาก่อน แต่หลังจากที่ผู้อาวุโสของตระกูลด็อจและมาร์ควิสเสียชีวิตไปทั้งสองตระกูลต่างก็ปฏิเสธตำแหน่ง แม้แต่เอียน บัฟเฟตก็ประกาศว่าเขาจะไม่ดำรงตำแหน่งประธานอีกต่อไปตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อน
สมาชิกหลาย ๆ คนเกือบจะลืมความจริงที่ว่าประธานจะต้องเลือกใหม่ในทุก ๆ 5 ปีเพราะว่าเจฟฟรีเป็นประธานมานานกว่า 20 ปีแล้ว ดูเหมือนว่าชื่อของเขาจะกลายเป็นคำต่อหลังประธานไปแล้ว
ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของเขาจนถึงตอนนี้.
สมาชิกคณะกรรมการคนอื่น ๆ ที่รู้ว่าเชียร์เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งกำลังสงสัยว่าใครจะเป็นผู้ชนะในที่สุด หญิงสาวผู้ทะเยอทะยานหรือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์
เจฟฟรีหยุเดินแล้วหันกลับมามอง “ฉันยอมรับการท้าทายของเธอ เด็กน้อย เธอจะล้มเหลวเหมือนกับเด็ก ๆ ของตระกูลด็อจและตระกูลมาร์ควิส” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หยาบคาย
“วิธีการของคุณมันเก่าไปแล้ว” เชียร์พูดหร้อมกับเดินขึ้นมาข้างหน้า “ถ้าคุณต้องแข่งขันในระยะยาวคุณจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน”
เจฟฟรียิ้มบาง “ฉันแทบจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว” เขาเดินออกจากห้องไป
ริมฝีปากของเชียร์โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เซ็กซี่ ไม่ต้องห่อง ฉันจะไม่ทำให้คุณรอนาน หลังจากที่เหรียญหล่นลงในแขนเสื้อของเธอหญิงสาวที่ยั่วยวนก็เดินไปที่ประตูโดยไม่แม้แต่จะมองไปที่ชายอีกคน
“กรุณาดูให้แน่ใจว่าสมาชิกทุกคนได้รับสำเนาของรายชื่อนี้” ชายวัยกลางคนพูดพร้อมกับเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของเขาและจากไปอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศผ่อนคลายลงหลังจากนั้น
“เกิดอะไรขึ้นกับเส้นผมและคิ้วของนาย กู๊ดเนีย? ฉันเกือบจะหัวเราะในที่ประชุม!” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะ
“เด็กทำแบบนี้กับฉัน! นายเชื่อมั้ย?” กู๊ดเนียพูดด้วยความโกรธ
ดีโว่ผงะ “เด็กเหรอ? นายต้องล้อเล่นแน่ ๆ!” พวกเขารู้จักกันมานานกว่า 20 ปีแล้วและกลายเป็นกรรมการพร้อมกันในปีนี้ พวกเขาทั้งสองคนชอบที่จะใช้ตำแหน่งของพวกเขาเพื่อกินอาหารฟรี
พวกเขารวยแต่พวกเขารู้สึกเจริญอาหารกว่าเมื่อพวกเขาไม่ต้องจ่าย พวกเขากินอาหารที่ร้านอาหารที่เป็นสมาชิกหรือร้านอาหารที่ต้องการเป็นสมาชิกเสมอ พวกเขาทั้งสองไร้ยางอายเป็นอย่างมาก
“ฉันก็อยากให้มันเป็นแบบนั้น นายเคยไปที่ร้านอาหารมามี่ที่อยู่ที่มุมตะวันตกของลานมั้ย? เด็กนั่นเป็นลูกสาวของเจ้าของร้าน เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ที่น่ารังเกียจ! เจ้าของร้านพูดไม่ดีเกี่ยวกับหอการค้าของเรา เขาบอกว่าเขาจะไม่เข้าร่วมและเขารอคอยที่จะเห็นมันหายไป!”
“ฉันไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน ทำไมเราไม่ไปที่นั่นกันตอนนี้เลยล่ะ? ฉันจะทำให้พวกเขาเสียใจกับสิ่งที่พวกเขาทำกับนาย!” ดีโว่พูดอย่างโกรธเคือง
“แค่เราสองคน ฉัน…” กู๊ดเนียพูดอย่างไม่เต็มใจ
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะให้จอร์นนี่ไปกับพวกเราด้วย เขาเป็นนักเวทระดับ 3 และเป็นหนึ่งในมือดีของฉัน” ดีโว่พูดอย่างมั่นใจ
ใบหน้าของกู๊ดดเนียสดใสขึ้นมา “ฉันเป็นหนี้นายครั้งนึงแล้วเพื่อน” เขาจ้างนักเวทยระดับ 3 เอาไว้หลายคนแต่เขาต้องการให้พวกนั้นคอยดูแลธุรกิจของเขา “พวกเขายังจ้างลูกครึ่งมังกรเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย…”
…
แม็กซ์ยิ้มเมื่อเขามองเห็นเครื่องครัวและวัตถุดิบในการทำเมนูใหม่
เอมี่ ยาเบะมิยะและแซลลี่กำลังฟังเพลงจากกล่องเพลงอยู่ แม็กซ์มองดูพวกเธอและพูดพึมพำว่า “น่องไก่หนึ่งอันเพียงพอสำหรับการทำไก่ตุ๋นแปดที่ แต่พวกเธอจะต้องหิวมากแน่ ๆ ฉันคิดว่าฉันใช้น่องไก่ทั้งอันเลยดีกว่า” เขาตัดหั่นน่องไก่ออกมาด้วยมีดสีทองแล้วนำไก่ที่เหลือไปแช่ไว้ในตู้เย็น ไก่ตัวนี้สามารถอยู่ได้นานหลายวัน
จากนั้นเขาก็หั่นมันเป็นชิ้น ๆ เนื้อนี้มันนุ่มและมันกว่าน่องไก่ที่ระบบจัดเตรียมเอาไว้ให้ เขาจำเป็นต้องปรับวิธีการปรุงอาหารของเขาเล็กน้อยถ้าเขาต้องการทำให้มันสมบูรณ์แบบ
เขาจัดการทุกอย่างด้วยความชำนาญ
แซลลี่หันมามองที่ห้องครัวและสงสัยว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร