Chpater 24 : พี่สาวเอลฟ์สุดสวย
ไม่นานแม็กซ์ก็ทำข้าวผัดหยางโจวจานแรกเสร็จและเดินออกมา
เมื่อแซลลี่เห็นถาดในมือของแม็กซ์ตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที มันดูวิเศษจริงๆ ! นี่คือข้าวผัดหยางโจวงั้นเหรอ ? ข้าวถูกเคลือบไปด้วยไข่สีทอง วัตถุดิบแต่ละอย่างถูกหั่นให้มีขนาดเท่ากับเม็ดข้าว สีของพวกมันผสมกันอยู่ในจานแต่ก็ดูเป็นระเบียบ ทั้งหมดนี้ทำให้มันดูเหมือนกับงานศิลปะที่ประณีต ความสดใหม่นี้มันกระตุ้นความอยากอาหารของเธอ
เมื่อแม็กซ์เดินผ่านเธอไป กลิ่นหอมของข้าวผัดก็ลอยคลุ้งจนเธออดไม่ได้ที่จะสูดกลิ่นมันเข้าไป เธอได้กลิ่นไข่และกลิ่นของวัตถุดิบต่างๆซึ่งทำให้เธอรู้สึกหิวยิ่งกว่าเดิม เธอหันตามไปมองโมไบถึงแม้ว่ามันจะขัดกับความตั้งใจของเธอก็ตาม
“ข้าวผัดหยางโจวของนายได้แล้ว กินให้อร่อยนะ” แม็กซ์วางจานลงตรงหน้าโมไบพร้อมกับช้อนที่วางเอาไว้ที่ขอบจาน
“ขอบคุณ” โมไบมองไปที่ข้าวผัดตรงหน้า เขาไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้เลย เขาอดไม่ได้ที่จะสูดกลิ่นหอมอันลึกล้ำที่ลอยมาที่จมูกของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะกินมันไปถึง 4 จานเมื่อตอนเที่ยง แต่เขาก็ยังต้องการกินมันเพิ่มอีก ดังนั้นเมื่อเขาทำงานของช่วงบ่ายเสร็จ เขาก็ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวที่จะมาที่นี่หลังจากที่อาบน้ำและเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว
โมไบหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตักข้าวเข้าปาก เขาเคี้ยวมันอย่างช้าๆ รสชาติของวัตถุดิบกระจายอยู่ภายในปากของเขาทันทีและไหลลงไปในคอของเขาราวกับกระแสน้ำที่อบอุ่น โมไบรู้สึกอุ่นไปทั่วตัว ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเมื่อตอนบ่ายหายไปในทันทีและเขาก็รู้สึกดีมากจนอยากจะร้องออกมา
“มันดีจริงๆ ! ถึงแม้ว่าฉันจะกินมันอีกเป็นร้อยครั้ง แต่ฉันก็ยังคิดว่ามันอร่อย !” โมไบกินเข้าไปอีกคำแล้วก็อีกคำ เขาไม่สามารถหยุดมือของเขาได้
เมื่อเทียบกับการกินแบบตะกละเมื่อตอนเที่ยงแล้ว มื้อเย็นนี้เขาค่อยๆเคี้ยวอย่างช้าๆเพื่อสัมผัสถึงรสของวัตถุดิบทุกๆอย่าง ด้วยวิธีนี้ต่อมรับรสของเขาจึงรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากและเขาก็พบว่าอาหารจานนี้อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก
แซลลี่ได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลาย เธอรู้สึกลนลานขึ้นมาในทันที โชคดีที่แม็กซ์นั้นยังอยู่ในครัวเพื่อเตรียมทำจานที่สองและโมไบก็หมกมุ่นอยู่กับอาหารเย็นของตัวเองจนไม่ได้สนใจเธอ
มันดีจริงๆเหรอ ? แซลลี่คิดขณะที่เธอมองไปที่โมไบที่กำลังกินข้าวผัดอย่างมีความสุข
กลิ่นหอมที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศนั้นดึงดูดเธอเป็นอย่างมาก การแสดงออกของเธอนั้นราวกับว่าเธอกำลังรู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจ เธอกำกระเป๋าเงินของตัวเองเอาไว้แน่นโดยที่ไม่รู้ตัว ในนั้นมีเงินอยู่แค่ 12 เหรียญมังกรและ 8 เหรียญทองทองเท่านั้น จิตใต้สำนึกของเธอบอกกับเธอว่าเธอไม่อาจใช้เงินตามใจชอบได้
แต่กลิ่นนี้มันดีจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้สึกว่าเธออยากจะลองกินข้าวผัดในจานของคนแคระในขณะที่เธอกำลังดูเขากินอยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าพวกคนแคระที่มีหนวดเครานั้นน่ารังเกียจอยู่เสมอ เธอรู้สึกละอายใจที่เธอรู้สึกแบบนี้
ฉันเป็นเอลฟ์ชั้นสูง ! ฉันคิดแบบนี้ได้ยังไง ? แซลลี่กำหมดแน่น แต่เธอก็ยังไม่สามารถละสายตาจากจานข้าวผัดได้ มันช่างเจ็บปวดจริงๆ !
โมไบกินจานแรกจนหมดโดยไม่เหลือข้าวไว้แม้แต่เม็ดเดียว เขาวางช้อนลงอย่างไม่ค่อยพอใจ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าแซลลี่กำลังมองมาที่เขาเขาก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา “ข้าวผัดหยางโจวของแม็กซ์อร่อยจริงๆนะ คุณจะเสียใจถ้าไม่ได้กินมัน”
“อื้อ ใช่” แซลลี่หันหน้าหนี ความภาคภูมิใจในฐานะเอลฟ์ทำให้เธอไม่สามารถยอมรับอาหารที่คนแคระแนะนำได้ แต่เมื่อมองไปที่เมนูตรงหน้า เธอก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง
บางทีเขาอาจจะไม่เคยกินอะไรดีๆมาก่อน เขาถึงได้บอกว่ามันอร่อยสินะ ? แม่นมเคยบอกฉันว่ามนุษย์ใช้มือจับวัตถุดิบโดยตรง มันปลอดภัยจริงๆเหรอที่ฉันจะกินอาหารที่เคยถูกมือของมนุษย์จับ ? บางทีมันอาจจะไม่เป็นไรที่ฉันจะใช้เงิน 600 เหรียญทองแดงในมื้อนี้ ? ฉันยังมีเงินเหลืออีกตั้ง 12 เหรียญมังกรและฉันจะใช้พวกมันอย่างระมัดระวังมากขึ้น
โมไบไม่ใส่ใจกับท่าทีไม่สนใจของเธอและรอข้าวผัดจานที่สองของเขาด้วยความคาดหวัง
พวกเอลฟ์ก็เป็นกันซะแบบนี้ คิดว่าตัวเองดีกว่าเผ่าอื่น โมไบคิด ดูจากสีผมแล้ว เธอน่าจะมีเชื้อสายของราชวงศ์ ที่จริงเธอก็ถือว่าดีมากแล้ว เพราะเธอสามารถนั่งอยู่ในร้านอาหารเดียวกันกับคนแคระได้
โมไบรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้เกิดใหม่มาหลังจากที่กินข้าวผัดหยางโจวไป 4 จานเมื่อตอนเที่ยง แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเขากินเยอะไปเมื่อตอนเที่ยง ตอนนี้เขาจึงไม่ได้รู้สึกหิวมากนัก ดังนั้นแค่ 2 จานก็เพียงพอแล้วสำหรับมื้อเย็น
…
เสียงงัวเงียของเด็กน้อยดังขึ้นจากด้านหลังเคาเตอร์ “พ่อ…”
ตาของโมไบเป็นประกายขึ้นมาในทันที เขามองไปทางเคาเตอร์ด้วยความคาดหวัง เด็กน้อยนี่น่ารักจริงๆ เขาโดนเธอดูถูกอยู่หลายครั้งเมื่อตอนเที่ยงและโดนหลอกให้กินข้าวผัดหยางโจวไปถึง 4 จาน แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงของเธอ เขาก็ไม่ได้นำเรื่องพวกนั้นมาใส่ใจเลย
เขารีบปิดร้านก่อนเวลา อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่ร้านนี้เพราะว่าเขาต้องการกินข้าวผัดหยาวโจวแสนอร่อย แต่นั่นไม่ใช่เหตุเผลเดียว เขาต้องยอมรับเลยว่าเขามาที่นี่เพื่อมาดูสาวน้อยน่ารักคนนี้ด้วย
แซลลี่แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินเสียงของเอมี่ เธอมองไปที่เคาเตอร์ ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เธอเป็นลูกสาวของเจ้าของร้านงั้นเหรอ ?
ในขณะที่แซลลี่กำลังคิดอยู่นั้น สาวน้อยในชุดนอนสีม่วงปุกปุยก็โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังเคาเตอร์ และเมื่อเธอหันมาเห็นแซลลี่ เธอก็ต้องตกตะลึงราวกับว่าเธอกำลังตาฝาด เธอเอามือขยี้ตาตัวเองแล้วมองดูอีกครั้ง ทันใดนั้นตาของเธอก็เบิกกว้างทันที เธอรีบหันกลับไปหาพ่อที่อยู่ในครัวแล้วพูดขึ้น “พ่อคะ ดูสิ ! พี่สาวเอลฟ์สวยมาก !”
น่ารักจริง ! แซลลี่รู้สึกเหมือนหัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะ เด็กน้อยที่เอามือขยี้ตาของเธอในชุดนอนหมีสีม่วงนี่น่ารักจริงๆ น่ารักเหมือนกับหมีน้อยเลย
ไม่ เธอน่ารักยิ่งกว่าหมีน้อยมาก ใบหน้าเล็กๆน่ารักของเธอทำให้แซลลี่อยากจะเข้าไปหยิกแก้มของเธอจริงๆ และคำพูดที่ตื่นเต้นของเธอนั้นทำให้ใบหน้าของแซลลี่แดงขึ้นมาเล็กน้อย มันเป็นคำพูดที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย แต่มันก็ทำให้แซลลี่รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
ไม่นานแซลลี่ก็พบว่าตัวเองกำลังมองไปที่หูแหลมๆภายใต้เส้นผมสีเงินอยู่ เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอเป็นลูกครึ่งเอลฟ์เหรอ ?
แม็กซ์เดินออกมาพร้อมกับข้าวผัดจานที่สองและวางไว้ตรงหน้าโมไบ เขาลูบหัวของเอมี่และยิ้ม “เอมี่ตื่นแล้วเหรอ”
เอมี่พยักหน้า “ใช่ เอมี่ตื่นมาแล้วก็หิว เอมี่อยากกินข้าวผัดสายรุ้งของพ่อ หนูเลยลงมาข้างล่าง” จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่แซลลี่อย่างตื่นเต้น “พ่อ พี่สาวเอลฟ์คนนั้นสวยมาก เอมี่ไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้มาก่อนเลย”
“เอมี่ก็จะสวยเหมือนกันเมื่อลูกโตขึ้น” แม็กซ์นั่งลงข้างๆเอมี่ที่ยังคงอ้าปากค้างอยู่ เขาหันไปยิ้มให้แซลลี่และพูดขึ้น “ใช่มั้ย ?”