Chapter 260 : ฉันจะทำยังไงดีล่ะ?
ห้องโถงตกอยู่ในความเงียบ มิกกี้มองดูกลอเรียจากไปและอยากจะตามเธอไปแต่ผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนจับมือเขาเอาไว้แล้วส่ายหัว เธอดูทั้งกังวลและโล่งใจ
สีใบหน้าของคนอื่นมีหลากหลาย แต่พวกเขาส่วนใหญ่กลับมองด้วยความพึงพอใจ พวกเขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นแลนซ์และครอบครัวของเขาถูกลงโทษอย่างรุนแรง
เจฟฟรีดูแปลกใจแต่เขากลับไม่ได้โกรธอย่างน่าประหลาด เขามองดูที่นั่งของกลอเรียจากนั้นก็เริ่มหั่นสเต็ก “กิน”
“พ่อคะ กลอเรียเป็น – ” ออโรร่าเริ่มพูด
“ฉันจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าแกใส่ผ้าคลุมหน้าที่น่ากลัวแทนที่จะใช้แป้งฝุ่นหนา ๆ” เจฟฟรีย์พูดอย่างเยือกเย็น เขาเอาสเต็กขนาดพอดีคำหนึ่งชิ้นเข้าปาก “ถ้าฉันได้ว่าแกใช้ยาเสพติดเวทมนตร์พวกนั้นอีกฉันจะตัดหางปล่อบวัดแก แกเข้าใจมั้ย?”
“ค่ะพ่อ” ออโรร่ารีบตอบแล้วก้มหน้าลง
ผู้หญิงจะไม่มีวันทำอะไรได้เลย เจฟฟรีคิดในขณะที่เขากิน มีแค่คนโง่อย่างเอียนเท่านั้นแหละที่ยอมให้ผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูล นี่เป็นครั้งแรกที่กลอเรียท้าทายฉัน เธอดูเหมือนพ่อมาก
ในสวนของคฤหาสน์มอร์ตัน กลอเรียกำลังนั่งอยู่ที่ริมสระน้ำและมองดูปลาว่ายไปมา “ถ้าฉันกินพุดดิ้งเต้าหู้ต่อไปฉันคิดว่าฝ้าและกระของฉันน่าจะหาย แต่ฉันจะทำยังไงดีล่ะ?” เธอกระซิบ
…
แม็กซ์มาทำอะไรที่นี่? ลูน่าสงสัยในขณะที่เธอมองไปที่แผ่นหลังของเขา เธอเดินเข้าไปอีกนิดและมองเห็นเด็ก ๆ กำลังกินอาหารด้วยรอยยิ้มมีความสุข
แม็กซ์เอาของมาให้พวกเขากินเหรอ? จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นเอมี่และเข้าใจได้ในทันที นี่ต้องเป็นความคิดของเธอแน่ ๆ เธอใจดีมาก
เมื่อพิจารณาถึงราคาแล้วแม็กซ์ก็ใจดีมากเช่นกัน ลูน่าคิด
เอมี่หันกลับมาและมองเห็นลูน่า “คุณครูลูน่า!” เธอเรียกและโบกมือของเธอ
เด็กคนอื่น ๆ หยุดกินและรีบยืนขึ้นเพื่อทักทายลูน่า
แม็กซ์หันกลับมาและรู้สึกแปลกใจที่ได้พบเธอที่นี่ แต่เมื่อเขาเห็นถุงใบใหญ่เขาก็เข้าใจ “สวัสดีตอนบ่ายลูน่า”
เธอช่วยเอมี่เป็นอย่างมากดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะช่วยเหลือเด็กคนอื่น ๆ ด้วย แม็กซ์คิด
ลูน่ายิ้มให้กับเด็ก ๆ และโบกมือของเธอ “สวัสดีตอนบ่ายแม็กซ์” จากนั้นเธอก็เดินไปหาพวกเขา
วันนี้เธอสวมชุดเดรสลายดอกไม้สีเขียวเข้มและผ้าพันคอผ้าฝ้ายสีขาวของเธอ รอยยิ้มของเธอดูใจดีและอ่อนโยน “คุณเอาอาหารเย็นมาให้เด็ก ๆ เหรอ?” แม็กซ์ถาม
ลูน่าพยักหน้า “ใช่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีของกินที่ดีกว่าอยู่แล้ว” เธอสูดหายใจ “มันมีกลิ่นที่หอมมาก แต่ฉันไม่คิดว่าฉันเคยได้กลิ่นมันมาก่อน มันเป็นเมนูใหม่เหรอ?”
แม็กซ์พยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ มีเหลืออีกสองชุด คุณลองกินดูสิ” เขาพูดพร้อมกับหยิบกล่องข้าวและไก่ตุ๋นออกมาจากถุง
ลูน่าโบกมือ “ขอบคุณนะแต่ฉันกินอาหารมาแล้ว” ดวงตาของเธอมองไปที่เด็ก ๆ “โคลินอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“มีคนรับเขาเป็นลูกบุญธรรมแล้วครับ วิหารสีเทาหาครอบครัวให้เขาได้ ตอนนี้เขาได้กินข้าวอร่อย ๆ ทุกวันเลย” เด็กคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความอิจฉา
“ข้าวไม่มีอะไรเทียบได้กับข้าวไก่ตุ๋นนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้กินไก่และฉันรู้สึกอบอุ่นมาก” เด็กอีกคนพูดอย่างมีความสุข
ลูน่ายิ้ม “ฉันดีใจที่มีคนรับเขาเป็นลูกบุญธรรม” ถึงแม้ว่าเด็ก ๆ พวกนี้จะไร้เดียงสาและน่ารัก แต่คนส่วนมากมักจะชอบรับอุปการะเด็กทารกมากกว่า
“ลองกินมันดูนะคะคุณครูลูน่า ทุกครั้งคุณจะมากินอาหารกับพวกหนูที่นี่ คุณยังไม่ได้กินอะไรมาแน่” เอมี่อ้อนลูน่า “มันเรียกว่าข้าวตุ๋นไก่และหนูแน่ใจว่าคุณจะชอบมัน”
“มันอร่อยมากเลยนะคะคุณครูลูน่า” เจสสิก้าพูดเสริมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ
เด็กคนอื่น ๆ ก็ขอร้องให้ลูน่ากินด้วย พวกเขาตัดสินใจว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากถ้าเธอพลาดอาหารที่อร่อยขนาดนี้
แม็กซ์ยิ้มแล้วส่งข้าวสองกล่องให้เธอ “กินมันเถอะ คิดซะว่าทำเพื่อเด็ก ๆ”
ลูน่าลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเธอก็มองไปที่ใบหน้าของเด็ก ๆ และรอยยิ้มของแม็กซ์ จากนั้นเธอก็รับกล่องข้าวมาและยิ้ม “ขอบคุณนะ” จากนั้นเธอก็หันไปหาเด็ก ๆ “มากินด้วยกันเถอะ”
เด็ก ๆ ยิ้มและกลับไปกินอาหารต่อ
ลูน่าเปิดฝาและกลิ่นหอมน่าอร่อยก็ลอยออกมาในทันที มันน่าจะแพงกว่าข้าวผัดหยางโจว ลูน่าคิดในขณะที่เธอมองดูเนื้อไก่สีน้ำตาล