Chapter 267 : 100 เหรียญทอง
“800 เหรียญทองแดงสามารถซื้อพุดดิ้งเต้าหู้ได้สี่ถ้วย” หญิงสาวกระซิบ
“ฉันแอบเก็บเงินเอาไว้ 500 เหรียญทองแดงแต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่มากพอ” ชายหนุ่มกล่าว
มันไม่แพงมากสำหรับฉันแต่ฉันจะรอดูว่ามันเป้นยังไง แฮร์ริสันคิดและไม่ได้รีบสั่ง
ไก่มีกลิ่นหอมที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่มีใครสั่งมันเพราะว่าราคา
“ฉันอยากได้ข้าวไก่ตุ๋น” คาร์ลพูดพร้อมกับนั่งลงที่ที่ประจำ
“ได้เลย รอสักเดี๋ยวนะ!” แม็กซ์ตอบรับ เขายิ้มให้กำลังใจแซลลี่และเดินเข้าไปในครัว
“ไม่ต้องกังวล เธอทำได้ดีมาก” ยาเบะมิยะกระซิบบอกแซลลี่และเริ่มรับออเดอร์
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่สะเทือนกับราคานี้เลยนะคาร์ล” จิมมี่ผู้ที่เติบโตขึ้นมากับเรื่องเล่าของชายชราพูดขึ้น ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของร้านค้าเล็ก ๆ
ตอนนี้คนส่วนใหญ่ที่อยากจะสั่งเมนูใหม่ตัดสินใจที่จะรอและดูว่ามันคุ้มค่ากับเงินหรือไม่
“ฉันเชื่อใจแม็กซ์ ยิ่งราคาแพงมากเท่าไหร่อาหารก็ยิ่งดีมากเท่านั้น เขาไม่อยากเสียลูกค้าหรอก” คาร์ลบอก
จิมมี่พยักหน้าเห็นด้วย ถึงอย่างนั้นเงินค่าขนมรายเดือนของเขาก็มีแค่ 2,000 เหรียญทองแดงเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจ่ายเงิน 800 เหรียญทองแดงสำหรับอาหารเมนูเดียวนี้
แม็กซ์ไม่กังวล เช้านี้เขาทำไก่ตุ๋นได้แค่ 48 ชามเท่านั้นและเขาเชื่อว่าเขาจะขายพวกมันได้หมด ถ้าพวกเขายินดีจ่าย 600 เหรียญทองแดงสำหรับข้าวผัดหยางโจว เงินอีกแค่ 200 เหรียญทองแดงก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้
หลังจากที่ทุกคนนั่งลงบางคนเริ่มพูดคุยและกระซิบกระซาบกันและพวกเขาต่างก็ชื่นชมพนักงานเสิร์ฟที่น่ารัก คนที่ชอบพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานและคนที่ชอบพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวเองก็หยุดเถียงกัน พวกเขาไม่อยากทำลายความอยากอาหารของคนอื่น
หลายคนสั่งพุดดิ้งเต้าหู้และรอดูข้าวไก่ตุ๋นที่คาร์ลสั่ง
“จอร์จ นายคิดยังไงกับไก่ตุ๋นนี่?” แฮร์ริสันถาม
“แม็กซ์ไม่เคยทำอะไรนอกจากอาหารอร่อยและฉันได้ยินมาว่าซุปไก่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง วันนี้มิแรนดามีความอยากอาหารมากขึ้น มันอาจเป็นเพราะข้าวผัดหยางโจว ฉันกำลังคิดว่าฉันจะซื้อไก่เพลิงไปให้เธอ แต่ถ้าไก่ตุ๋นนี่มีซุปเหมือนกันฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำซุปไก่ เธอไม่ชอบอาหารที่พวกเราทำ”
“ชีวิตคู่ของพวกนายนี่มันเลี่ยนจริง ๆ มันแทบจะทำให้ฉันเป็นโรคเบาหวานแล้ว!” แฮร์ริสันพูดอย่างอิจฉา
จากนั้นยาเบะมิยะก็เดินออกมาพร้อมกับถาดที่มีชามดินเผาสีน้ำตาลและถ้วยข้าวอยู่ด้านบน
ไก่ตุ๋นส่งกลิ่นหอมน่าอร่อยออกมาในขณะที่เธอเดินผ่านมาแต่ละโต๊ะ
“หอมมาก!”
“ใช่ มันหอมมากจริง ๆ! ฉันไม่เคยทำไก่ที่มีกลิ่นหอมออกมาได้เลย”
“ฉันคิดว่าฉันได้กลิ่นอะไรบางอย่างที่แปลก ๆ แต่มันกลับทำให้มึนเมา”
ลูกค้าต่างก็จ้องไปที่ไก่ตุ๋นบนถาด
“ข้าวไก่ตุ๋นได้แล้วค่ะ กินให้อร่อยนะคะ” ยาเบะมิยะพูดแล้ววางอาหารลงตรงหน้าคาร์ล
ดวงตาของคาร์ลจับจ้องไปที่อาหาร กลิ่นหอมที่น่าดึงดูดจากไก่สีน้ำตาลและน้ำซุปข้น ๆ ทำให้เขาต้องหลับตาลงและสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“มันมีเห็ดหอมอยู่ด้วยเหรอ?!” คาร์ลพูดพร้อมกับมองดูเห็ดหอมในชาม
ลูกค้าคนอื่น ๆ ดูสับสน
“เห็ดหอม? มันคืออะไร?” จิมมี่ถาม
“มันเป็นวัตถุดิบที่มีค่า” คาร์ลพูดอย่างตื่นเต้น “มันเป็นวัตถุดิบจากสวรรค์ หลายปีก่อนฉันโชคดีที่ได้กินเห็ดหอมเป็นครั้งแรกที่ป่าแห่งสายลม แต่ฉันยังจำรสชาติของมันได้ดี! จากนั้นฉันก็พยายามขอซื้อมันจากพวกเอลฟ์และบางครั้งถ้าฉันโชคดีฉันก็จะซื้อมันมาได้หนึ่งหรือสองดอก เมื่อคิดถึงเวลาและความพยายามที่จะซื้อพวกมันฉันคิดว่าพวกมันมีราคาประมาณดอกละ 100 เหรียญทอง ฉันใช้มันเพียงแค่หนึ่งดอกในการทำซุป” เขาหยิบเห็ดหอมสไลด์ขึ้นมา “แต่เห็ดหอมที่ฉันซื้อมาไม่มีอะไรเทียบกับเจ้านี่ได้เลย!”
ลูกค้าคนอื่น ๆ อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง พวกเขารู้สึกพิศวงในเรื่องที่คนเล่าเรื่องคนนี้เล่าจริง ๆ
แน่นอนสิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงยิ่งกว่านั้นคือเห็ดหอมที่คาร์ลกำลังมองดูอยู่อย่างกระตือรือร้นนั่น!
พวกมันถูกหั่นเป็นแผ่น ๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามีเห็ดหอมมากกว่าหนึ่งดอกในชาม พวกมันหายากและความหายากของพวกมันทำให้พวกเขาไม่รู้คุณค่าของมัน
คำพูดของคาร์ลทำให้แม็กซ์ยิ้มออกมา ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะรู้จักเห็ดหอม เขาต้องเป็นนักชิมแน่ ๆ ฉันควรจะตั้งราคาให้สูงกว่านี้เพราะเห็ดหอมหายากมากในโลกนี้
“ให้ฉันลองดูสิ” คาร์ลพูดและเอาเห็ดหอมเข้าปากในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังมองเขาอยู่