Chapter 269 : มันน่าขยะแขยงโดยสิ้นเชิง!
“โอ้…”
ทันใดนั้นปีศาจทั้งสองก็เข้าใจ การแข่งขันอาหารมีมานานหลายสิบปีแล้ว มันเป็นอีเวนท์ที่จะจัดขึ้นในทุก ๆ เดือนและผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี วันนี้เป็นวันแรกของการแข่งขัน
“ได้เลยครับ” พวกเขาตอบรับ พวกเขาดีใจมากที่พวกเขาไม่ได้ถูกแบน พวกเขารับบัตรลงคะแนนมาแล้วนั่งลงที่โต๊ะ
“แม็กซ์เข้าร่วมการแข่งขันด้วย” ชายคนหนึ่งกล่าว
“ฉันอยากให้เขาชนะ แต่ถ้าเขาชนะร้านนี้จะเป็นที่รู้จักมากขึ้นและเราจะต้องรอนานขึ้นอีก” เสียงที่สองพูดขึ้น
“ใช่ มันจะเป็นเรื่องที่แย่มากถ้าเขาบอกเราว่าเขาขายหมดแล้วหลังจากเรารอกันอยู่นาน”
แซลลี่ยืนอยู่ที่โต๊ะและมองดูปีศาจทั้งสองที่นั่งหลังตรงพร้อมกับถือปากกาเอาไว้ในมือเหมือนนักเรียน
อาหารทั้งห้าเมนูและราคาของพวกมันถูกเขียนเอาไว้อย่างสวยงามในบัตรลงคะแนนแต่ละใบ สิ่งที่ลูกค้าต้องทำก็คือติ๊กลงคะแนนให้กับอาหารที่พวกเขาสั่ง การจัดอันดับนั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสี่ประการ ได้แก่ ความประทับใจโดยรวม รสชาติ สภาพแวดล้อมและการบริการ พวกเขาให้คะแนนได้ตั้งแต่หนึ่งดาวถึงห้าดาวโดยที่หนึ่งดาวคือไม่พอใจเลยและห้าดาวคือพึงพอใจเป็นอย่างมาก พวกเขายังแสดงความคิดเห็นได้ในส่วนความคิดเห็น
“ความประทับใจโดยรวม : ห้าดาว, รสชาติ : ห้าดาว, สภาพแวดล้อม : ห้าดาว, บริการ…” ปีศาจทั้งสองเงยหน้าขึ้นมามองแซลลี่และพูดออกมาพร้อมกัน “ห้าดาว!”
หลังจากที่พวกเขาเขียนว่า “อาหารที่นี่อร่อยมากจริง ๆ” ในส่วนความคิดเห็นพวกเขาก็วางปากกาลงและยิ้มให้กับแซลลี่ “เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ?”
แซลลี่พยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราก็ออกไปได้แล้วใช่มั้ยครับ?”
“แน่นอน”
ปีศาจทั้งสองรู้สึกโล่งใจมาก พวกเขาเดินไปที่ประตูและไม่ยอมให้ตัวเองผ่อนคลายจนกว่าพวกเขาจะออกไปข้างนอก
“พนักงานเสิร์ฟคนนั้นน่ากลัวมาก!” ปีศาจที่หน้าตาน่าเกลียดพูดขึ้น
“มันเป็นความผิดของนาย ไปหาภารกิจทำกันเถอะ” เพื่อนของเขาพูด
“บริการของเธอไม่คุ้มกับคะแนนห้าดาวเลย”
“งั้นนายก็กลับไปเปลี่ยนคะแนนเป็นสามหรือสองดาวสิถ้านายว่าอย่างนั้น”
ปีศาจที่หน้าตาหน้าเกลียดหันกลับไปมองร้านอาหาร “นายคิดว่าฉันโง่รึไง?”
แซลลี่เก็บโต๊ะแล้วใช้เวทมนต์น้ำในการทำความสะอาด ลูกค้าที่อยู่ใกล้ ๆ ถูกเธอทำให้ตะลึง
ทุกวันนี้แม้แต่พนักงานเสิร์ฟก็ยังทรงพลัง? พวกเขาสงสัย
“เรียนให้หนักขึ้น ไม่งั้นแม้แต่งานพนักงานเสิร์ฟลูกก็จะหาไม่ได้!” พ่อคนหนึ่งพูดเตือนลูกชายของเขา
เด็กชายตัวเล็กพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ครับพ่อ!” ตอนนี้เขามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเป็นนักเรียนตัวอย่าง
ดวงตาของแซลลี่กวาดไปทั่วห้องและทำให้ลูกค้าทุกคนรีบก้มลงไปมองอาหารของพวกเขา
ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพวกเขากลัวฉัน แซลลี่สงสัย ฉันยังใจดีไม่พอใช่มั้ย โดยปกติแล้วเธอจะไม่ค่อยพูดกับผู้ชาย แต่วันนี้เธอพยายามเป็นมิตรกับพวกเขาให้มากขึ้น
ยาเบะมิยะยิ้มให้กำลังใจเธอและยกนิ้วให้เธอในขณะที่เธอเดินสวนมาพร้อมกับชามไก่ตุ๋นสองชาม
แซลลี่ยิ้มตอบและรู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมา เธอเร่งฝีเท้าของเธอและวางจานลงในเครื่องล้างจาน เธอได้เรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมหัศจรรย์นี้แล้ว
ที่จริงแล้วเธอเสนอให้ล้างจานด้วยเวทมนต์ของเธอ แต่แม็กซ์ไม่อยากให้เธอใช้พลังเวทมากจนเกินไป
“เธอทำได้ดีมาก ทำดีแบบนี้ต่อไปนะ” แม็กซ์พูดกับแซลลี่ด้วยรอยยิ้ม ฉันจะไม่บังคับให้เธอยิ้มตราบใดที่เธอไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด
แซลลี่พยักหน้า “ขอบคุณค่ะหัวหน้า” เธอทำงานได้เร็วขึ้น เมื่อเธอได้ยินใครเรียกเก็บเงินเธอจะเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยการที่มีแซลลี่เข้ามาทำงานยาเบะมิยะก็ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งอีกต่อไป เธอสามารถมอบรอยยิ้มที่อบอุ่นให้กับทุกคนได้ ในทางกลับกันแซลลี่ทำให้พวกเขารู้สึกเย็นเยียบ พวกเขาจะกรอกบัตรลงคะแนนในทันทีที่เธอถาม
“ห้าดาวสำหรับทุกจานยกเว้นพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวาน มันน่าขยะแขยงโดยสิ้นเชิง!” ลูกค้าคนหนึ่งพูดและให้คะแนนพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานหนึ่งดาว
“งั้นเหรอ? ฉันจะให้คะแนนพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวหนึ่งดาวเหมือนกัน!” เสียงที่สองพูดขึ้น
“คุณจะทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ยังไงเราก็จะชนะในที่สุด!”
“ไม่ เราจะชนะ!”
แซลลี่ยืนมองอย่างไม่แน่ใจและไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี แม็กซ์บอกพวกเธอเกี่ยวกับการแข่งขันแล้วและเธอกลัวว่าการที่ลูกค้าทะเลาะกันแบบนี้จะทำให้เขาแพ้
“ปล่อยให้พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ” แม็กซ์กระซิบบอกเธอ ภายนอกเขากำลังยิ้มแต่ภายในใจเขากำลังสาปแช่งพวกปัญญาอ่อน
โชคดีที่ภารกิจกำหนดให้มีแค่จานเดียวเท่านั้นที่ติด 1 ใน 30 อันดับแรก โร่วเจียหมัวได้รับคำสั่งซื้อมากที่สุดในร้านอาหารของเขาและเขามั่นใจว่ามันจะติด 30 อันดับแรกได้
แซลลี่พยักหน้าอย่างโล่งใจและกลับไปทำงานของเธอต่อ
…
“ในที่สุดเราก็มาถึงที่นี่ เมืองเคออส ฉันได้ยินมาว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุด เธอคิดว่าพวกเขาจะตามรอยพวกเรามาถึงที่นี่มั้ยลู่ลู่? นอกจากนี้ฉันยังได้ยินมาว่ามีอาหารอร่อยมากมายอยู่ที่นี่!” เด็กสาวผมสีน้ำตาลที่มีอายุประมาณ 20 ต้น ๆ ถามในขณะที่แขนของเธอกำลังโอบรอบเอวของผู้ชายพร้อมกับเดินมาถึงทางเข้าลานเอเดน