Chapter 272 : กงล้อไฟ
“หนูเรียนเวทมนตร์อะไรมาเหรอ?” แม็กซ์ถามหลังจากที่เขาเปิดประตูให้เธอเข้ามา
“มันต้องทรงพลังมากแน่ ๆ เพราะท่านครัสซูนั้นทรงพลัง” ยาเบะมิยะพูดด้วยรอยยิ้มในขณะที่เธอเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถาดอาหารในมือ
แซลลี่รู้สึกอยากรู้อยากเห็น เอมี่มีความสามารถมากเหมือนกับอิริน่า และเธอจะกลายเป็นหนึ่งในนักเวทที่ทรงพลังที่สุดในทวีปนี้
“อาจารย์ครัสซูบอกว่ามันเรียกว่าหงล้อไฟ แต่หนูยังใช้คาถานี้ได้ไม่คล่องเลย” เอมี่ยิ้ม
แม็กซ์รู้สึกประหลาดใจ “กงล้อไฟ?” นาจามีอาวุธที่ถูกเรียกว่ากงล้อไฟ ครัสซูคิดชื่อนี้ขึ้นมาได้ยังไง
เอมี่พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ใช่ค่ะ ให้หนูแสดงให้พ่อดูนะ มันน่าสนใจมาก ๆ เลย”
“ได้เลย” แม็กซ์อยากเห็นว่ากงล้อเพลิงของเธอแตกต่างจากนาจาหรือไม่
“พ่อควรจะถอยออกไปสักหน่อย” เอมี่เตือน จากนั้นเธอก็ร่ายคาถา “กงล้อไฟ!”
ทันใดนั้นเปลวไฟสองดวงก็ปรากฏขึ้นมาใต้ฝ่าเท้าของเธอราวกับว่าพวกมันเป็นไอพ่น เอมี่ลอยอยู่ในอากาศสูงจากพื้นประมาณสิบเซนติเมตร
ดวงตาของแม็กซ์เบิกกว้าง ได้แล้วเหรอ?! และเธอเรียนรู้มันได้ในเวลาสั้น ๆ เนี่ยนะ?! พูดได้เลยว่าเธอเป็นอัจฉริยะ! เธอจะเชี่ยวชาญเวทมนตร์นี้ในเวลาไม่นาน
“น่าทึ่งมาก! เอมี่กำลังบิน!” ยาเบะมิยะอุทานด้วยความทึ่ง
งั้นนี่ก็คือเวทมนตร์ของครัสซู น่าทึ่งมาก! แซลลี่คิดอย่างประหลาดใจ มันยากมากที่จะปลดปล่อยพลังเวทออกมาอย่างต่อเนื่อง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักเวทระยะประชิดถึงมีจำนวนน้อย
“เหมียว เหมียว!” ลูกเป็ดขี้เหร่กำลังวิ่งไปรอบ ๆ เอมี่อย่างตื่นเต้น มันไม่ได้เข้าใกล้เกินไปเพราะไฟ
“ตอนนี้หนูจะลงจอดแล้วนะ” เอมี่พูดหลังจากที่ลอยอยู่ประมาณ 30 วินาที เปลวไฟหายไปและเธอก็ลงมายืนที่พื้น “มันเป็นยังไงบ้างคะพ่อ?” เธอถาม
“เวทมนตร์ของหนูน่าน่าทึ่งจริง ๆ! และหนูเพิ่งจะเรียนมันมาไม่นาน พ่อภูมิใจในตัวหนูมาก!” แม็กซ์พูดและลูบหัวเธอ เขารู้สึกประหลาดใจกับความก้าวหน้าของเธอ ในอัตรานี้เธอจะแข็งแกร่งกว่าฉันมาก ตัวเรานี่น่าอายจริง ๆ
“ไปล้างมือเถอะ อาหารกลางวันของหนูพร้อมแล้ว เป็นข้าวไก่ตุ๋นและพุดดิ้งเต้าหู้” แม็กซ์บอก
เอมี่พยักหน้า “ค่ะพ่อ” เธออุ้มลูกแมวขึ้นมาแล้วทักทายยาเบะมิยะและแซลลี่จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในครัว
“พ่อคะ หนูคิดว่าหนูจะกินอาหารหลังจากที่พวกเขาเข้ามา ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะรู้ว่าข้าวไก่ตุ๋นแสนอร่อยเป็นยังไง” เอมี่พูดหลังจากที่เธอล้างมือเสร็จ
“ได้เลย งั้นเอาพุดดิ้งเต้าหู้เพิ่มอีกถ้วยนึงด้วยนะ” แม็กซ์วางอาหารของลูกแมวลงที่พื้น เธอสนุกกับการแกล้งลูกค้าในขณะที่พวกเขาท้องว่าง
เอมี่พยักหน้าและปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ จากนั้นเธอก็มองไปที่ลูกเป็ดขี้เหร่ที่กำลังจะกิน “อย่ากินเยอะนักนะ เดี๋ยวน้ำหนักของแกจะเพิ่มขึ้นอีก”
ลูกแมวพยักหน้า “เหมียว เหมียว” มันเริ่มกินพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานอย่างมีความสุขและลืมคำพูดของเอมี่ไปในทันที
“มากินกันเถอะ” แม็กซ์พูดกับพนักงานเสิร์ฟทั้งสองคนแล้วนั่งลง
ยาเบะมิยะกัดโร่วเจียหมัวแล้วหางของเธอก็โผล่ออกมาอีกครั้งแล้วส่ายไปมา เธอไม่รู้สึกอึดอัดที่มันมาอีกต่อไปแล้ว
แซลลี่กำลังกินข้าวผัดหยางโจวอย่างช้า ๆ เธอไม่ได้กินข้าวไก่ตุ๋น น่าจะเป็นเพราะว่ามีมันเนื้อมากเกินไป ส่วนราคาของมันก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ถ้าเธอกินข้าวไก่ตุ๋นเป็นอาหารกลางวันเธอจะต้องกินพุดดิ้งเต้าหู้เป็นอาหารเช้าและอาหารเย็น
…
มีแถวสองแถวอยู่ด้านนอกร้านอาหารและยาวเข้าไปในลานเอเดน บรรยากาศรอบ ๆ ในตอนนี้นั้นเงียบแปลก ๆ
มันมีความตึงเครียดลอยอยู่ในอากาศและทำให้คนรู้สึกหายใจไม่ออก
ครัสซูไม่เข้าใจ
“ท่านผู้นำ พวกพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวให้คะแนนพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานหนึ่งดาว ด้วยคะแนนเท่านี้มันจะไม่สามารถติดท็อปได้!” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดบอกครัสซูอย่างโกรธเคือง
“อะไรนะ?!” ครัสซูรู้เรื่องการแข่งขันอาหารและเขาเห็นหน้าจอเวทมนตร์ระหว่างทางที่มาที่นี่
“แล้วพวกเราตอบโต้พวกนั้นกลับไปยัง?” ชายชราถามกลับ
“เราเอาคืนพวกนั้นด้วยการให้คะแนนพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวหนึ่งดาวครับท่าน” ชายหนุ่มตอบ
ครัสซูพยักหน้า “ดี” เขาหันไปมองอูเรี่ยน “พุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวควรได้คะแนนแค่หนึ่งดาว” เขาเยาะเย้ย
อูเรี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา “รอดูเถอะว่าใครจะชนะในตอนท้าย”
“ดูสิลู่ลู่! ผู้คนมากมายต่อแถวรออยู่ที่นั่น แน่นอนว่านี่ต้องเป็นร้านอาหารที่ดี! ไปกันเถอะ!” ฉีฉีพูดในขณะที่เธอถือแพนเค้กต้นหอมเอาไว้ในมือ
“แต่เรากินมาทั้งเช้าแล้วนะ” ลู่ลู่พูดพร้อมกับยิ้มแหย ในมือเขายังถืออาหารเอาไว้อีกหลายอย่าง
“แต่ฉันยังหิวอยู่เลย…น้าา…” เธอขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“เอาล่ะ ๆ ฉันเองก็หิวอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน ไปกันเถอะ” ลู่ลู่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักพร้อมกับจับมือเธอแล้วเดินไปที่ร้านอาหาร