Chapter 28 : พ่อซื้อลูกเป็ดขี้เหร่ให้เอมี่ได้มั้ย ?
เอมี่กินข้าวผัดหยางโจวไปแค่สามจานเท่านั้นตั้งแต่เช้า แต่ความร้อนของลูกไฟที่เธอปล่อยออกมาในตอนนี้นั้นน่ากลัวกว่าเมื่อตอนเช้ามาก การพัฒนาของเธอนั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ
นอกจากนี้ถ้าเธอสามารถพัฒนาพลังของเธอได้ด้วยการกิน มันก็คงจะไม่เป็นปัญหาที่เธอจะพัฒนาความสามารถของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น เธอแค่ต้องกินต่อไปเรื่อยๆทุกวันๆ
“พ่อ พ่ออยากเล่นกับไฟมั้ย ?” เอมี่พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ในขณะเดียวกันเธอก็มองไปที่เปลวไฟที่พลิ้วไหวไปมาอยู่ในมือของเธอเหมือนกับเด็กน้อยที่อยากจะแบ่งของเล่นของเธอให้กับคนอื่น
แม็กซ์โบกมือปฏิเสธในทันที “ไม่ มันร้อนเกินไป จำไว้นะเอมี่ ลูกอย่าใช้ลูกไฟนี้กับคนอื่นๆ ยกเว้นว่าคนพวกนั้นจะเป็นคนเลว ไฟนี้มันอันตรายมาก” ไฟนี้ไม่ควรเอามาเล่นเลย
“คนเลวเหรอ ?” เอมี่คิดอยู่สักพัก “ถ้าคนพวกนั้นไม่จ่ายค่าอาหาร งั้นพวกเขาก็นับว่าเป็นคนเลวใช่มั้ย ?”
แม็กซ์พยักหน้า “ใช่ นั่นเรียกว่า ‘กินแล้วหนี’ พวกนั้นคือคนเลว” ในชีวิตก่อนเขาไม่ชอบพวกกินแล้วหนีและตอนนี้เมื่อเขาเป็นเจ้าของร้านอาหาร เขาก็ยิ่งเกลียดพวกแบบนี้มากยิ่งขึ้น
เอมี่พยักหน้ารับอย่างจริงจัง “โอ้ เอมี่เข้าใจแล้ว ถ้าพวกเขาไม่จ่ายเงิน หนูจะจุดไฟเผาพวกเขา”
“งั้นพ่อจะยกหน้าที่ปกป้องร้านของเราให้กับลูก” แม็กซ์หัวเราะ อาจจะมีลูกค้าแบบนั้นโผล่มาจริงๆ ถ้าลูกไฟของเอมี่สามารถทำให้คนพวกนั้นกลัวได้ เธอก็อาจจะสามารถปกป้องร้านได้จริงๆ ยังไงซะระบบก็ค่อนข้างน่าเชื่อถือยกเว้นแค่เรื่องที่มีเงินมาเกี่ยวด้วย แม็กซ์เก็บโต๊ะแล้วเดินกลับเข้าไปในครัว
ข้างใต้ต้นไม้ใหญ่ที่นอกร้านแซลลี่ยังคงอยู่ที่นั่น เธอมองไปที่ร้านอาหารด้วยความสับสน ฉันควรรายงานเรื่องนี้ให้ผู้ติดต่อของเราในเมืองเคออสหรือว่าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ? แต่ข้าวผัดหยางโจวนี่อร่อยจริงๆ ถ้าฉันมีเงินฉันจะกินมันวันละ 3 ครั้งเลย แต่ตอนนี้ฉันกินมันได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เธอต่อสู้กับความคิดของตัวเองอยู่สักพักแล้วใจของเธอก็ลอยไปหาข้าวผัดหยางโจวที่เธอเพิ่งจะกินไป เธอยังสัมผัสได้ถึงรสชาติของมันภายในในปากของเธอเมื่อเธอนึกถึงมัน
ช่างเถอะ ยังไงซะตอนนี้ฉันก็เป็นผู้หลบหนี ฉันไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ แซลลี่ปัดมือไปมาราวกับว่าเธอกำลังไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป จากนั้นเธอก็สะพายธนูเอาไว้ที่หลัง บางทีเจ้าของร้านอาจจะไม่ได้สนเรื่องพวกนี้ ไม่งั้นเขาคงจะไม่เอาน้ำพุแห่งชีวิตมาใส่ในข้าวผัดอยางโจวที่มีราคา 6 เหรียญทองอย่างโจ่งแจ้งหรอก แม้ว่าน้ำนี้จะเจือจางไปมากแล้วก็ตาม
“ร้านอาหารมามี่ พ่อกับลูกสาวก็น่าสนใจเช่นกัน” แซลลี่หันกลับไปมองร้านอาหารอีกครั้ง จากนั้นก็เดินจากไป
แม็กซ์เอาจานไปล้างที่เครื่องล้างจานแล้วไปนั่งอยู่ที่ด้านหลังเคาเตอร์กับเอมี่เพื่อรอลูกค้า
มีคนจำนวนมากเข้ามาในร้านในตอนเย็น แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าข้าวผัดมีราคาแพงมาก พวกเขาก็ส่ายหัวและออกจากร้านไป
แม็กซ์อยากจะจับพวกเขามาฟังถึงที่มาของวัตถุดิบ เขาอยากให้คนพวกนั้นรู้ว่าพวกเขามีโอกาสได้กินของดีมากแค่ไหน แต่ในฐานะของผู้ที่จะกลายเป็นเชฟเทพในอนาคต เขาจึงต้องระงับความต้องการนี้ไป เขาไม่ต้องการทำอะไรที่มันขัดกับหลักการของตัวเอง
วันนี้เขามีลูกค้าแค่สองคนเท่านั้น แต่เขาขายข้าวผัดหยางโจวไปได้ถึง 8 จาน ซึ่งถือว่าค่อนข้างน่าพอใจสำหรับวันแรก
ตอนสองทุ่มหลังจากที่เขาได้เห็นลูกค้าคนที่ 8 ส่ายหัวและเดินออกจากร้านไป แม็กซ์ก็เดินไปที่ประตูแล้วพลิกป้ายหน้าร้านเป็น ‘ปิด’ เขาปิดไฟด้านนอกร้านและจบวันแรกของการเปิดร้านโดยสมบูรณ์
“พ่อ วันนี้เราไม่ขายข้าวผัดสายรุ้งแล้วเหรอ ?” เอมี่พูดขึ้นหลังจากที่เธอดับลูกไฟในมือของเธอ
แม็กซ์พยักหน้าและยิ้มออกมา “ใช่ วันนี้พอแค่นี้ก่อน” เขาเอาเงินที่ได้ในวันนี้ออกมานับดู เขาได้เงินมาทั้งหมด 20 เหรียญทอง 1 เหรียญมังกรและ 12 เหรียญทองแดง มันควรจะมีมากกว่านี้ แต่เงิน 18 ทองนั้นถูกหักอัตโนมัติไปโดยระบบเมื่อตอนเย็น มันคือค่าวัตถุดิบ
นี่เป็นแค่วันแรกเท่านั้น เมื่อคืนนี้เขามีเงินอยู่ในกระเป๋าแค่ 2 เหรียญทองแดงเท่านั้น
“เหรียญทองเต็มไปหมดเลย !” เอมี่มองเหรียญทองบนโต๊ะด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เธอเงยหน้าขึ้นมามองแม็กซ์แล้วพูดว่า “พ่อ พ่อซื้อลูกเป็ดขี้เหร่ให้เอมี่ได้มั้ย ?”
“แน่นอน เราจะไปเดินดูรอบๆลานพรุ่งนี้เช้าและดูว่ามีใครขายพวกมันบ้าง” แม็กซ์ลูบหัวเอมี่พร้อมยกยิ้ม เธอยังหมกมุ่นอยู่กับห่านย่าง ฉันคงต้องพาเธอออกไปเสี่ยงโชคดูในวันพรุ่งนี้
แม็กซ์ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยหลังจากที่ทำงานมาทั้งวัน นั่นเป็นเพราะว่าระบบได้เตรียมวัตถุดิบและจัดการขั้นตอนเบื้องต้นให้แล้ว และเขาไม่จำเป็นต้องล้างจานด้วยซ้ำ นอกจากนี้ข้าวผัดสามจานที่เขากินเข้าไปก็ยังช่วยลดความเหนื่อยล้าและทำให้เขารู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นว่าเอมี่เริ่มง่วง แม็กซ์ก็ให้เธอท่องสูตรคูณที่เธอเรียนมาเมื่อตอนบ่าย เธอจำได้ทั้งหมดจนถึง 3×6 แต่เธอก็ต้องยอมแพ้หลังจากที่คิดอยู่นาน เธอรู้สึกกังวลจริงๆ
แม็กซ์ยิ้มให้กำลังใจเธอ “ไม่เป็นไร เอมี่ทำได้ดีแล้ว วันนี้ลูกได้ใช้สิ่งที่เรียนไปแล้ว พรุ่งนี้เราจะเริ่มจาก 3×6 พ่อมั่นใจว่าลูกจะจำส่วนที่เหลือได้”
เอมี่พยักหน้า “พรุ่งนี้เอมี่จะพยายามให้เยอะขึ้น”
แม้ว่าแม็กซ์จะมุ่งเน้นความสนใจไปร้านอาหาร แต่เขาก็ไม่ต้องการทุ่มความสนใจไปที่เรื่องนี้เรื่องเดียว เขาใช้เวลาว่างตอนนี้เพื่อตัดสินใจเวลาเปิดทำการของร้าน ด้วยวิธีนี้เขาจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในร้านตลอดทั้งวันและลูกค้าของเขาก็จะรู้ว่าจะต้องมาเมื่อไหร่ มันจะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
มื้อเช้า 7.30-9.00 น. มื้อเที่ยง 11.30-13.30 น. มื้อเย็น 17.00-21.00 น. เวลาที่เหลือคือเวลาว่างและเขาตัดสินใจที่จะพักผ่อน 1 วันต่อสัปดาห์
“เยี่ยม” แม็กซ์ดูเวลาเปิดทำการในกระดาษและพูดขึ้นในหัว “ระบบ นายช่วยเพิ่มเวลาเปิดร้านไว้ที่ป้ายด้านนอกได้มั้ย ?”
“ระบบแนะนำให้คุณขยายเวลาทำการ คุณจะได้ขายอาหารได้มากขึ้น” ระบบตอบกลับ
“การเป็นเจ้าของร้านมันคืองานของฉันไม่ใช่ทั้งชีวิตของฉัน ฉันต้องการมีความสุขกับชีวิตและงานของฉัน” แม็กซ์พูดขึ้นนิ่งๆ เขาเริ่มหมดความอดทน “นายจะช่วยฉันรึเปล่า ? เพราะถึงยังไงถ้านายไม่ช่วยงั้นฉันก็จะเอากระดาษนี้ไปติดไว้กับป้ายหน้าร้านอยู่ดี”
หลังจากผ่านไปสักพักระบบก็ตอบกลับ “เวลาเปิดทำการถูกเพิ่มเข้าไปบนป้ายเรียบร้อยแล้ว”
“งั้นเราขึ้นไปนอนกันดีกว่า” แม็กซ์เก็บเงินใส่ลิ้นชัก เนื่องจากระบบจะหักเงินค่าวัตถุดิบอัตโนมัติ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
แม็กซ์สอนเอมี่แปรงฟันและล้างหน้ารวมไปถึงแนะนำสิ่งของต่างๆในห้องน้ำให้เธอเข้าใจ หลังจากที่เขาอาบน้ำและล้างหน้าแล้ว เขาก็อุ้มเธอขึ้นไปวางบนเตียงเล็กๆของเธอ
เจ้าตัวน้อยนี่ง่วงแล้ว เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงเตียงนุ่มๆของเธอ เธอก็แทบจะไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้เลย
“ฝันดีนะ” แม็กซ์ยิ้มพร้อมกับลูบหัวของเอมี่
“พ่อ อย่าลืมพาหนูไปซื้อลูกเป็ดขี้เหร่ด้วยนะ พ่อสัญญาเอาไว้แล้ว” เอมี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับยื่นมือออกมาจับนิ้วของแม็กซ์เอาไว้
แม็กซ์พยักหน้า “ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้เราจะไปซื้อด้วยกัน”
“พ่อดีที่สุดเลย” เอมี่ลุกขึ้นมาจับหน้าของแม็กซ์เอาไว้ก่อนที่จะจูบเข้าไปที่แก้มของเขา จากนั้นเธอก็นอนลงแล้วหลับตา เธอหลับไปในเวลาไม่นานพร้อมกับปากที่ยังคงพึมพำอยู่ว่า “ลูกเป็ดขี้เหร่…ลูกเป็ดขี้เหร่…ห่านย่าง…”