Chapter 31 : ซื้อไข่ลูกเป็ดขี้เหร่
“เงียบซะ ถ่านดำ !” อูเรี่ยนตะโกนบอกเสียงดัง เขาสวมเสื้อคลุมสีดำสำหรับนักเวทย์ ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย เขามองไปที่พ่อกับลูกสาวที่เพิ่งเดินออกไป “เป็นพลังเวทมนต์ที่แข็งแกร่งจริงๆ ! สาวน้อยคนนั้นเป็นอัจฉริยะงั้นเหรอ ? หรือว่าชายคนนั้นคือนักเวทย์ทรงพลังที่ปกปิดตัวตน ?” เขาพึมพำ
“ตอนนี้แกกลายเป็นถ่านดำจริงๆแล้ว” นกแก้วสีเขียวหัวเราะอีกาที่ขนถูกไฟไหม้จนหมด
“ชายชรา เรียกฉันว่าฟามาโอดิบเบนผู้ทรงเกียรติ วังของฉันถูกเด็กน้อยนั่นเผา รีบไปหามาให้ฉันใหม่และทำชุดกันไฟมาให้ฉันด้วย ไม่งั้นจะมีคนแอบมองดูเรือนร่างที่งดงามของฉัน” อีกาบ่น จากนั้นมันก็ดมดูรอบๆ “สวรรค์ ทำไมฉันถึงได้กลิ่นไก่ย่าง ?” มันตะโกนขึ้นมา
อูเรี่ยนมองไปที่อีกา “เงียบซะ ไม่งั้นฉันจะให้แกกินยาใหม่ของฉัน !” ใบหน้าของเขาดูไร้ความรู้สึก และเสียงของเขานั้นเหมือนกับเสียงปิศาจที่คลานออกมาจากนรก
อีกาหยุดบ่นในทันที มันขยับขาของมันไปมาอย่างขี้ขลาดแล้วพูดขึ้น “อย่างน้อย…อย่างน้อยก็หาใบไม้มาให้ฉันสักสองสามใบเพื่อให้ฉันปกปิดตัวเองได้มั้ย คุณคงไม่อยากเห็นฉันในสภาพแบบนี้หรอก”
“ถั่วเขียว เอาใบไม้ให้เขาหน่อย” อูเรี่ยนพูดขึ้นขณะที่เดินเข้าไปในร้าน “ทำไมฉันถึงไม่เคยสังเกตเห็นพลังเวทมนต์นั่นมาก่อน ? บางทีเราอาจจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในสักวัน” เขาพึมพำกับตัวเอง
“ท่านอูเรี่ยน ครั้งหน้าเรียกฉันว่าซันนี่ถ้าคุณอยากให้ฉันช่วย” นกแก้วพูดออกมาอย่างสนุกสนาน เธอขยับหัวไปข้างๆเพื่อเปิดล็อคกรงขังแล้วบินออกไป หลังจากนั้นสักพักเธอก็บินกลับมาพร้อมกับใบไม้สองใบแล้ววางเอาไว้ข้างๆถ่านดำ จากนั้นเธอก็บินกลับไปที่กรงของเธอแล้วล็อคประตูกรงเอาไว้
“ไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะต้องมีสภาพแบบนี้” ถ่านดำถอนหายใจออกมา เขามองไปรอบๆแล้วนำเอาใบไม้สองใบขึ้นมาปกปิดส่วนสำคัญของเขาเอาไว้
แม็กซ์เดินไปที่ลานพร้อมกับเอมี่ เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมากหลังจากที่เธอได้ยิงลูกไฟใส่อีกาดำไป เธอกระโดดนำหน้าไปอย่างร่าเริงแล้วหยุดรอแม็กซ์ ก่อนที่จะกระโดดต่อไปอีกครั้ง
แม็กซ์มีเงิน 10 เหรียญทองอยู่ในกระเป๋า พวกมันสำคัญกับเขามากในตอนนี้ แต่ถ้า เอมี่อยากจะซื้ออะไรเขาก็จะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย แต่สาวน้อยนั้นเกรงใจมาก พวกเขาเดินไปรอบๆได้ครึ่งชั่วโมงแล้วแต่เธอก็ขอแค่หุ่นกระบอกติดเชือกตัวเดียวเท่านั้น
จากนั้นแม็กซ์ก็พาเอมี่ไปที่ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในลานเอเดน โชคไม่ดีที่พวกเขาไม่เจอหงส์เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกเป็ดขี้เหร่เลย
พวกเขาเจอลูกเป็ดธรรมดาอยู่บ้าง แต่แม็กซ์ก็กลัวว่าเมื่อพวกมันโตขึ้นแล้วไม่ได้กลายเป็นหงส์เอมี่จะรู้สึกว่าเขาหลอกเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่ซื้อพวกมันมา
ผักที่นี่ราคาถูกมาก แต่ระบบเคยบอกเอาไว้ว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้นำวัตถุดิบจากภายนอกเข้าไปในครัว ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกดึงดูดด้วยราคาที่ถูกของพวกมัน
“พ่อ พวกเราไม่สามารถหาลูกเป็ดขี้เหร่ได้ในวันนี้ใช่มั้ย ?” เอมี่เงยหน้าขึ้นมามองแม็กซ์ด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
แม็กซ์พยักหน้า “พวกเขาบอกว่าลูกเป็ดขี้เหร่ยังไม่เกิดเลย บางทีพวกเราอาจจะหาซื้อมันได้ในวันหลัง” เขาพยายามหาวิธีปลอบเอมี่ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง หงส์นั้นหายากมากรอบๆเมืองเคออส มีโอกาสสูงมากที่จะไม่พบพวกมันไปอีกนาน
“นั่นอะไร ?” ก่อนที่แม็กซ์จะได้พูดปลอบต่อ สายตาของเอมี่ก็ถูกดึงดูดไปโดยแผงสมุนไพรข้างทาง เธอวิ่งไปที่นั่นแล้วก้มหน้ามองทันที เธอมองมันด้วยตาที่เบิกกว้างจากนั้นก็หันมามองแม็กซ์แล้วตะโกนเรียก “พ่อดูนี่สิ ! นี่ต้องเป็นไข่ลูกเป็ดขี้เหร่แน่ๆ !”
“โอ้ ?” แม็กซ์เดินไปหาเธอ เจ้าของแผงลอยนี้เป็นชายวัยกลางคนผิวคล้ำที่ดูแข็งแกร่งที่กำลังนั่งสานตะกร้าอยู่ เขาดูเหมือนคนเก็บสมุนไพรและมือของเขาก็ด้านจากการปีนเชือก กระสอบบนพื้นเต็มไปด้วยสมุนไพร ข้างเท้าของเขามีกองหญ้าแห้งเล็กๆที่ด้านบนมีไข่สีเทาขนาดเท่ากับปากชามวางเอาไว้อยู่
“พ่อ เราซื้อไข่นี่ได้มั้ย ? พ่อบอกว่าไม่มีลูกเป็ดขี้เหร่ในตอนนี้ ดังนั้นเราน่าจะเอาไข่ฟองนี้กลับไปฟักที่บ้านได้” เอมี่เงยหน้าขึ้นมองแม็กซ์ขณะเดียวกันเธอก็ชี้ไปที่ไข่ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง
แม็กซ์พยักหน้าและยิ้มให้ “ได้สิ” สาวน้อยผิดหวังมาพอแล้วในวันนี้ เขาอยากให้เธอกลับบ้านไปด้วยอารมณ์ที่ดี เขาจึงหันไปหาเจ้าของร้านแล้วถามว่า “ไข่นี่คือไข่อะไร ?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ ฉันเจอมันที่หน้าผาเมื่อวานนี้ตอนที่ฉันไปเก็บสมุนไพร มีแค่นกเท่านั้นที่ไปถึงที่นั่นได้ ดังนั้นมันน่าจะเป็นไข่นก มันมีสารอาหารมากนะ” คนขายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“เท่าไหร่ ?” ตาของแม็กซ์เป็นประกายขึ้นมา ถ้ามันเป็นไข่นก งั้นมันก็คงจะคล้ายกับหงส์เมื่อมันฟักออกมา นอกจากนี้เมื่อตัดสินจากขนาดของไข่แล้ว นกตัวนี้น่าจะมีขนาดใหญ่กว่านกกระจอกเทศ ซึ่งมันจะเป็นพาหนะที่ดีให้เอมี่ขี่ได้หลังจากที่ฝึกมันแล้ว
คนขายยิ้มและเกาหัว เมื่อเขามองไปที่เอมี่ที่กำลังมองไปที่ไข่ด้วยความสนใจ “ฉันเห็นว่าสาวน้อยชอบมัน งั้นก็…3 เหรียญทองก็แล้วกัน”
“ได้ นี่ 3 เหรียญทอง” แม็กซ์ส่งเงินให้คนขายที่เสี่ยงชีวิตตัวเองทุกวันกับการปีนผา ถ้านี่เป็นไข่นกจริงๆ 3 เหรียญทองก็ไม่ถือว่าแพงเลย
“ขอบคุณ เอาตะกร้านี้ไปด้วยสิสาวน้อย ไข่ใบนี้สามารถใส่ได้พอดีเลย” คนขายใส่ไข่ลงไปในตะกร้าที่เขาเพิ่งจะทำเสร็จและส่งมันให้กับเอมี่
“ขอบคุณสิ เอมี่” แม็กซ์รีบบอกกับเอมี่
“ขอบคุณค่ะ” เอมี่รับตะกร้ามาอย่างร่าเริงและถือมันด้วยมือทั้งสองข้าง “ทำตัวดีๆนะลูกเป็ดขี้เหร่ ฉันจะฟักแกออกมาให้ได้เลย” เธอกระซิบ
“ไม่เป็นไร” คนขายโบกมือไปมาพร้อมกับยิ้ม จากนั้นเขาก็หันไปหาแม็กซ์และพูดว่า “ฉันมีลูกสาวอายุพอๆกับเธอและลูกสาวของฉันก็ชอบเลี้ยงสัตว์ด้วยเหมือนกัน แต่เธอมีลิงสองตัวแล้ว ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะไม่เอาไข่ใบนี้ไปให้เธอ”
“เข้าใจแล้ว สาวน้อยอยากได้ลูกเป็ดขี้เหร่มาหลายวันแล้ว หวังว่าเธอจะชอบมันเมื่อมันฟักออกมา” แม็กซ์ยิ้มอย่างขมขื่นให้กับเขา แต่เมื่อเขามองไปที่เอมี่สายตาเขาก็เต็มไปด้วยความเอ็นดู
เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากแผงขายสมุนไพร แม็กซ์อยากจะช่วยเอมี่ถือตะกร้าแต่เธอก็ปฏิเสธ เธออุ้มตะกร้าเดินนำหน้าแม็กซ์ไปด้วยความพยายามทำให้เขารู้สึกกังวลว่าเธอจะทำมันตก
ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงร้านหลังจากที่ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง เอมี่วางตะกร้าไว้ที่บันไดนอกร้านอย่างระมัดระวังก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เธอหันไปหาแม็กซ์และพูดขึ้นอย่างจริงจัง “พ่อคะ ขอบคุณที่พ่อซื้อไข่ลูกเป็ดขี้เหร่นี้ให้หนูนะ หนูจะดูแลมันเป็นอย่างดีเลย”
“แต่คนขายบอกว่ามันอาจจะไม่ใช่ไข่ของลูกเป็ดขี้เหร่ มันอาจจะเป็นไข่ของนกตัวอื่นก็ได้” แม็กซ์พูดยิ้มๆ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้กับเธอ
เอมี่ส่ายหน้าอย่างดื้อรั้น “ไม่ หนูมั่นใจว่ามันเป็นของไข่ลูกเป็ดขี้เหร่ หนูจะฟักมันออกมาและเลี้ยงมันให้โตขึ้น มันจะโตขึ้นเป็นหงส์แสนสวยและ…และ…”
จากนั้นแม็กซ์ก็เห็นเอมี่กลืนน้ำลาย
……….
RIP ลูกเป็ดขี้เหร่ล่วงหน้า