Chapter 334: พี่ชาย คุณมีปัญหาอะไรกับผมรึเปล่า?
“นั่น” สีหน้าของแดเนียลแข็งที่อไปในทันทีเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เขากลัวมากว่าบทสนทนาจะไปในทางนี้ เขาพยายามหันเหความสนใจของยายะแต่เธอก็ไม่ยอมละความสนใจจากว่าวสีม่วงที่สวยงามเลย
“หนูอยากได้ว่าว! หนูอยากได้ว่าวตัวใหญ่!”
“ว่าวตัวใหญ่น่าสนุกกว่า! ว่าวตัวเล็กนี้ไม่สนุกเลย! ผมอยากได้ว่าวแบบนั้น!”
“พ่อ พ่อไม่ได้พูดก่อนที่เราจะมาที่นี่เหรอว่าว่าวของเราจะลอยได้สูงที่สุด? ตอนนี้มันยังลอยได้ไม่สูงเลย พ่อเป็นคนโกหก”
ยายะไม่ใช่เด็กคนเดียวที่งอแงหลังจากที่การแข่งขันระหว่างว่าวทั้งสองจบลง เด็กคนอื่น ๆ ต่างก็อยากได้มันเช่นกัน ว่าวสีม่วงรูปสัตว์ขนาดใหญ่บนฟ้านั้นต่างจากว่าวตัวอื่น ๆ ที่ลอยอยู่ด้านล่างโดยสิ้นเชิง
“อย่าร้องนะ พ่อจะทําว่าวที่ใหญ่และดีกว่านี้ให้เมื่อเรากลับไปบ้านนะ”
“ตอนนี้เงียบก่อนนะ พ่อจะถามเขาให้ว่าเขาซื้อว่าวมาจากและเราจะไปซื้อมาเช่นกัน”
ผู้ปกครองทุกคนปลอบใจลูก ๆ ของพวกเขาในขณะที่มองมาที่แม็กซ์ด้วยความเป็นศัตรู เขาทําลายความสนุกของทุกคน! เพราะว่าวที่บินได้สูงกว่าว่าวอื่น ๆ ทําให้เด็ก ๆ ไม่พอใจกับว่าวของตัวเองอีกต่อไป
เอมี่ค่อนข้างงุนงงเมื่อเห็นว่าเด็กคนอื่น ๆ ร้องไห้สะอึกสะอื้น “พ่อคะ ทําไมพวกเขาถึงร้องไห้ล่ะ?”
“น่าจะเป็นเพราะว่าว่าวของพวกเขาลอยได้ไม่สูงพอดังนั้นพวกเขาจึงอยากมาเล่นกับพวกเรา” แม็กซ์ยักไหล่ในขณะที่เขาอุ้มถือเอมเอาไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง เขาดึงเอ็นในมือแล้วนกฟีนิกซ์สีม่วงก็ตีลังกาบนท้องฟ้า หางที่มีสีสันของมันช่วยเพิ่มความอลังการและทําให้มันดูน่าทึ่งมาก
“ว้าว!! มันสุดยอดมาก!!”
เสียงอุทานดังขึ้นจากเด็ก ๆ รอบตัวพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม
“หยุดร้องไห้เถอะทุกคน ฉันรู้ว่าการเล่นว่าวของพ่อนั้นสวยและบินได้สูงมากดังนั้นถ้าพวกเธออยากจะเล่นกับมัน…” เอมี่มองเด็กคนอื่นด้วยสีหน้าจริงจังและปลอบใจ “งั้นพวกเธอก็ดูฉันเล่นกับมันได้”
เด็ก ๆ เพิ่งจะหยุดร้องไห้และตั้งใจฟังสิ่งที่เอมี่กําลังจะพูด แต่เมื่อพวกเขาได้ยินพวกเขาก็กลับมาร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม
“หนูอยากเล่นกับมัน! หนูอยากได้!”
“เธอมีว่าวที่สวยมาก ทําไมผมถึงไม่มีล่ะ? แงงง…”
“” แม็กซ์สนุกมากที่ได้เห็นเอมี่แกล้งเด็ก ๆ พวกนี้ คําพูดของเธอชั่วร้ายกว่าการที่เขาทําให้นกฟีนิกซ์สีม่วงตีลังกาซะอีก แต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่มีอะไรผิดไปจากสิ่งที่เธอพูด
“พ่อคะ ทําไมพวกเขาถึงร้องไห้ล่ะ? มันเป็นเพราะว่าหนูไม่ยอมให้พวกเขาเล่นว่าวของหนูเหรอ?” เอมี่รู้สึกงุนงงมากในขณะที่เธอหันไปหาแม็กซ์ ย้อนกลับไปเมื่อก่อนที่เธอยังไม่มีว่าวเธอจะรู้สึกพอใจมากเพียงแค่ได้ดูคนอื่นเล่นว่าวกัน
“นั่นเป็นเพราะทุกคนมีความอยากเป็นเจ้าของ พวกเขาอยากจะได้สิ่งที่ดีกว่าสําหรับตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทําไมเมื่อพวกเขาเห็นว่าว่าวของพวกเราดีกว่าพวกเขาจึงอยากจะได้มันไป อย่างไรก็ตามว่าวตัวนี้ไม่ได้เป็นของพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงทําได้แค่ร้องไห้เท่านั้น” แม็กซ์อธิบายด้วยรอยยิ้ม มันเป็นนิสัยตามธรรมชาติและแม็กซ์ก็ไม่ได้ใช้คําพูดที่ไม่ดีอะไร มันเป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างไรก็ตามสาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังความเจ็บปวดของเด็ก ๆ นั่นก็คือพ่อแม่ของพวกเขา
มีสาวน้อยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับพวกเขา เธอเองก็อิจฉาเช่นกันแต่เธอก็ยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อของเธออย่างเชื่อฟังและไม่ร้องไห้หรือกรีดร้องเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ นั่นคือความแตกต่างระหว่างการอบรมเลี้ยงดูที่ดีและการอบรมเลี้ยงดูที่ไม่ดี
“หนูเข้าใจแล้ว งั้นเราก็ควรปล่อยให้พวกเขาเล่นกับว่าวของเราด้วย แบบนี้พวกเขาก็จะไม่ร้องไห้อีกต่อแล้วใช่มั้ยคะ?” เอมี่ถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ถ้าหนูเต็มใจที่จะทําแบบนั้นงั้นมันก็น่าจะดีนะ” แม็กซ์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาดีใจมากที่ได้เห็นความเมตตาในหัวใจของเอมี่
“งั้นหนูขอลองได้มั้ย?” เอมเงยหน้าขึ้นมองว่าวที่ลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยสายตาที่คาดหวัง
“แน่นอน แค่หนูจับเส้นเอ็นนี้เอาไว้แล้วดึงมันเบา ๆ พ่อจะอุ้มหนูและวิ่งไปรอบ ๆ เพื่อทําให้ว่าวลอยได้สูงขึ้น” แม็กซ์ส่งเส้นเอ็นให้กับเอมี่และเลิกสนใจเด็กคนอื่น ๆ ถึงแม้ว่าเขาจะส่งเส้นเอ็นให้กับเอมี่แล้วแต่เขาก็ยังถือม้วนเส้นเอ็นเอาไว้ใต้มือของเธอ แรงดึงของว่าวขนาดใหญ่นั้นค่อนข้างมากดังนั้นถ้าเขาปล่อยให้เอมี่จับมันเอาไว้ด้วยตัวเองเธออาจจะได้รับบาดเจ็บ
“เมื่อพ่อบอกว่าปล่อยหนูก็ปล่อยนะ โอเคมั้ย?” แม็กซ์บอกด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็วิ่งออกไปเพื่อให้ว่าวต้านลมและบอกให้เอมี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาปล่อยเส้นเอ็น เพราะเส้นเอ็นที่ยาวขึ้นทําให้ฟีนิกซ์สีม่วงลอยสูงขึ้นไปอีกครั้ง
“สนุกมากเลย! หนูรักการเล่นว่าว” เสียงหัวเราะแสนสดใสของเอมี่ดังไปทั่วทั้งลาน ลูกเป็ดขี้เหร่เองก็วิ่งตามหลังพวกเขามาและบางครั้งมันก็เงยหน้ามองว่าวก่อนที่จะกางกรงเล็บของมันออกราวกับว่ามันอยากที่จะคว้าว่าวลงมา
เด็กคนอื่น ๆ ต่างก็มองเอมี่ด้วยความอิจฉา พวกเขาค่อย ๆ ลืมความสิ้นหวังและเสียงสะอื้นของพวกเขาก็ค่อย ๆ หายไป พวกเขาพากันมองว่าวด้วยความสนใจและสงสัยว่ามันจะลอยไปได้สูงแค่ไหน
ในที่สุดเหล่าผู้ปกครองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเด็ก ๆ เริ่มร้องไห้พวกเขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้โดยเฉพาะเมื่อเด็ก ๆ ต้องการอะไร ถ้าไม่มีสิ่งที่น่าสนใจกว่านี้ถูกนําเสนอขึ้นมาและทําให้เด็ก ๆ หันเหความสนใจออกไปพวกเขาก็ไม่มีวิธีใดที่จะปลอบใจเด็ก ๆ ได้ ใครจะไปคิดว่าเด็ก ๆ จะหยุดร้องไห้ด้วยตัวเอง?
แดเนียลมองไปที่แม็กซ์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาเตรียมตัวมาแล้วแต่แม็กซ์ก็ยังเอาชนะเขาได้ยายะเองก็หยุดร้องไห้เช่นกัน แต่เมื่อใดก็ตามที่เขามองเห็นใบหน้าที่อิจฉาของเธอ เขาจะรู้สึกไม่พอใจมาก
แม็กซ์และเอมเล่นว่าวกันอยู่นาน ในชีวิตก่อนเขาไม่ใช่นักเล่นว่าวมืออาชีพแต่เขามีเพื่อนที่เป็นนักเล่นว่าวที่มีความสามารถพอที่จะไปแข่งขันในระดับมืออาชีพและเขาได้เรียนรู้เทคนิคจํานวนมากมาจากเพื่อนคนนั้น ว่าวที่ระบบสร้างขึ้นมาให้เขานั้นผ่านมาตรฐานของระดับมืออาชีพดังนั้นถ้าเขาต้องการจะทําให้มันลอยสูง 100 ถึง 200 เมตรเขาก็สามารถทํามันได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามการทําให้มันลอยสูงขนาดนั้นเป็นเรื่องยากที่จะนํามันลงมาในภายหลัง ดังนั้นเขาจึงหยุดที่ความสูงประมาณ 30 เมตร ทุกคนสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนจากความสูงนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นจุดที่น่าพอใจที่สุด
“เอาล่ะ เรามานั่งพักและดื่มน้ำกันเถอะ” แม็กซ์วางเอมลงแล้วหยิบแก้วเก็บความร้อนขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าของเขา เขาเทน้ำหนึ่งแก้วให้กับเอมี่และเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเธอด้วยผ้าเช็ดหน้า
“ขอบคุณค่ะพ่อ” เอมี่ถือแก้วน้ำด้วยสองมือ ใบหน้าของเธอสดใสและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข วันนี้เธอมีความสุขมากจริง ๆ
แดเนียลเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและถามขึ้น “พี่ชาย ขอฉันคุยด้วยหน่อยได้มั้ย?”
“หืม?” แม็กซ์เงยหน้าขึ้นมามองแดเนียลด้วยสีหน้าสับสนและถามกลับ “คุณอยากคุย
อะไร?”
แดเนียลเป็นนักดาบ แต่แม็กซ์สัมผัสไม่ได้ถึงความเป็นศัตรูจากเขาดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวลอะไร
“พี่ชาย คุณมีปัญหาอะไรกับผมรึเปล่า? ทําไมคุณกับลูกสาวของคุณถึงพยายามทําให้ผมรู้สึกแย่? ดูสาวน้อยของผมสิ เธอร้องไห้จนตาเธอบวมเป่งแล้ว คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายหรือไงที่ฉันต้องใช้เวลาเกือบ 20 วันในการสร้างว่าว?” สีหน้าของแดเนียลนับย่นในทันทีที่เขาบ่น “ยังไงก็ตามผมแค่อยากถามคุณว่าคุณขายว่าวมั้ย?”