Chapter 35 : นี่แหละของจริง
“พี่ไปกินเนื้อและดื่มที่อื่นกันเถอะ อย่ากินที่นี่เลย” ฮาเป็งพูดกับฮากะด้วยภาษาออร์ค ถ้าฮากะกินข้าวผัดที่นี่เขาคงต้องไปดื่มคนเดียว
“นายอยากได้ด้วยมั้ย ? ฉันรู้สึกว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ” ฮากะพูดพร้อมกับยิ้ม
ฮาเป็งส่ายหน้า “ไม่ล่ะ ฉันคงตายก่อนที่ฉันจะได้กินอะไรที่นี่” เขาใช้ภาษากลางในตอนนี้และไม่คิดมราจะโต้เถียงอะไร เขากอดอกและเตรียมจะหัวเราะเยาะข้าวผัดของที่นี่
เอมี่นั่งอยู่ที่เคาเตอร์ “ต้องมีบางคนผิดคำพูดแน่ๆ” เธอพูดออกมาเบาๆขณะที่มองไปที่ฮาเป็ง
ฮาเป็งรู้สึกอายเล็กน้อยและคำพูดของเอมี่ทำให้เขารู้สึกกังวลและหงุดหงิด “ฉันสาบานเลยว่าฉันจะไม่กลับมากินที่นี่อีก !” เขาพูดอย่างหนักแน่น
โมไบอ่านความคิดของเขาได้อย่างง่ายดาย ทุกอย่างบอกออกมาผ่านทางสีหน้าของเขาจนหมด เขาไม่พูดอะไรและเขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดด้วย เขาแค่ต้องเพลิดเพลินไปกับอาหารของตัวเองเท่านั้น
คอนติมองไปที่ครัวด้วยสีหน้าคาดหวัง เขายังคงยิ้มออกมาราวกับว่าเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
ไม่นานแม็กซ์ก็เดินออกมาพร้อมกับจานข้าวผัดหยางโจว เขาวางมันไว้ตรงหน้าคอนติแล้ววางช้อนไว้ที่ขอบจาน “กินให้อร่อยนะ” กลิ่นหอมค่อยๆกระจายไปในอากาศอย่างช้าๆ
เป็นกลิ่นที่หอมจริงๆ ! ใบหน้าของฮาเป็งสดใสขึ้นมานทันที กลิ่นหอมจางๆนี้กระตุ้นเขาเหมือนกับมีลูกแมวมาข่วนเบาๆอยู่ที่หัวใจของเขา เขาไม่ได้ตั้งใจจะหันไปมองแต่หลังจากนั้นสักพักเขาก็แอบชำเลืองมองไปที่ข้าวผัดสีสันสดใสในจานของคอนติด้วยหางตา
“กลิ่นหอมจริงๆ” คอนติชมเมื่อเขามองไปที่ข้าวผัดที่น่าสนใจตรงหน้า เขาไม่เคยเห็นใครทำอาหารแบบนี้มาก่อน
ข้าวทุกเม็ดถูกเคลือบเอาไว้ด้วยไข่อย่างสมบูรณ์ วัตถุดิบทุกอย่างถูกหั่นให้มีขนาดเท่ากับเม็ดข้าว ช่างเป็นทักษะการหั่นที่น่าเหลือเชื่อ ! เม็ดข้าวนั้นมีขนาดใกล้เคียงกันราวกับถูกวัดขนาดมา วัตถุดิบมากมายถูกปรุงเข้าด้วยกันด้วยน้ำมัน กลิ่นหอมนั้นรุนแรงมากจนทำให้เขาน้ำลายไหล
เมื่อเขาตักข้าวผัดหนึ่งช้อนเข้าปาก รสชาติต่างๆก็ผสมรวมกันภายในปากจนทำให้เขาต้องหลับตาลงอย่างเคลิบเคลิ้ม ไข่นั้นนุ่มมาก ข้าวเองก็หวาน กุ้งก็มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของทะเลและหน่อไม้กับเห็ดก็ยังสด ทั้งหมดนี้ผสมรวมกันอยู่ภายในข้าวผัดคำนี้คำเดียวและทิ้งรสชาติที่เข้มข้นตกค้างเอาไว้ภายในปากของเขา
ฮาเป็งมองเขาและกลืนน้ำลาย จากนั้นเขาก็รู้สึกตัวและรีบหันหน้าหนี เมื่อพบว่าไม่มีใครสังเกตเห็น เขาก็เหลือบมองไปที่คอนติด้วยหางตาอีกครั้ง
แม็กซ์ยิ้มออกมาเล็กน้อย เขามองเห็นทุกอย่าง
เอมี่นั่งเท้าคาง ดวงตาของเธอเองก็เป็นประกายขึ้นมาราวกับเธอได้เห็นทุกอย่างเช่นกัน
“มันดีจริงๆ !” คอนติลืมตาขึ้นและยกนิ้วโป้งให้กับแม็กซ์ จากนั้นเขาก็กลับไปกินข้าวผัดของตัวเองต่อในทันที เขาตักมันกินไม่หยุด เจ้าดำน้อยเชื่อใจได้จริงๆ ฉันคิดถูกแล้วที่ฉันมาที่นี่
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่วิเศษก็คือหลังจากที่เขากินข้าวผัดเข้าไปแล้ว เขาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นภายในร่างกายที่ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าของเขา มันเป็นเหมือนกับยาฟื้นฟูที่มีความนุ่มนวลกว่า เขารู้สึกสบายราวกับว่ามีมือเล็กๆหลายๆมือมานวดตัวให้กับเขาอยู่
แม็กซ์กลับเข้าไปในครัวเพื่อทำข้าวผัดให้กับโมไบ มันอาจจะเป็นช่วงกลางวันที่ยุ่งนิดหน่อย
ฮาเป็งไม่รู้ว่าเขากลืนน้ำลายไปกี่ครั้งแล้ว ตอนแรกเขาทำเพียงแค่เหลือบมองด้วยหางตา แต่ตอนนี้เขากำลังจ้องไปที่ข้าวผัดหยางโจวตรงหน้าคอนติ ร่างกายของเขาโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อยราวกับว่าเขาพร้อมที่จะพุ่งเข้าหาคอนติได้ทุกวินาที
คอนติกินข้าวผัดจานแรกหมดลงอย่างรวดเร็ว เขามองไปที่จานเปล่าตรงหน้าและเงยหน้าขึ้น “มันเยี่ยมจริงๆ เจ้าของร้านฉันขอเพิ่มอีกจาน” เขาพูดกับแม็กซ์ที่อยู่ในครัว
“ได้ รอสักเดี๋ยวนะ” แม็กซ์ตอบกลับ
“ดู…ดี” ฮากะแสดงสีหน้าคาดหวังเมื่อเขาเห็นคอนติกินข้าวผัดหยางโจวจนหมด
แม้แต่ฮาเป็งก็มองไปที่คอนติก่อนจะถามขึ้น “มันดีจริงๆเหรอ ?”
คอนติพยักหน้ายิ้มๆ “ฉันไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ถ้านายไม่ลองกิน” ตอนนี้เขารู้สึกดีมากและไม่ได้เอาเรื่องที่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้มาใส่ใจ
ฮาเป็งมองไปที่จานเปล่าที่สะอาดยิ่งกว่าใบหน้าของเขา จากนั้นก็มองไปที่ใบหน้าของคอนติ เขารู้สึกว่ารอยยิ้มของอีกฝ่ายดูจริงใจ เขาก็ไม่ได้แย่อะไร ถ้าไม่นับเรื่องที่เขาชอบพูดจาใหญ่โต
ทันใดนั้นฮาเป็งก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่เขาเคยพูดไป ถ้าฉันกลับคำพูดของฉันตอนนี้ ฉันคงเสียหน้าและสาวน้อยคงจะหัวเราะเยาะฉันอย่างแน่นอน
“กินให้อร่อยนะ” แม็กซ์เดินออกมาพร้อมกับข้าวผัดของโมไบและวางมันลงตรงหน้า เขา
มันพึ่งขึ้นมาจากกระทะและยังมีไอร้อนลอยขึ้นมา ต้นหอมซอยด้านบนทำให้ข้าวมีสีสันและดูน่ากินมากยิ่งขึ้น กลิ่นหอมของมันทะลวงเข้าไปในจมูกของโมไบในทันที
เมื่อเห็นว่าแม็กซ์มาที่โต๊ะ ฮาเป็งก็กอดอกอีกครั้งและแสดงสีหน้าเคร่งขรึม อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะทำแบบนั้นแต่สายตาของเขาก็ยังถูกดึงดูดไปด้วยข้าวผัดหยางโจวที่อยู่บนโต๊ะ ในขณะเดียวกันจมูกของเขาก็สูดดมกลิ่นของมันอย่างแรง
“ขอบคุณ” โมไบตักข้าวผัดใส่ปากแล้วเคี้ยวด้วยความพึงพอใจ ตอนนี้เขากินมันมาเป็นสิบจานแล้วแต่เขาก็ยังเชื่อว่าเขาสามารถกินมันได้ทุกวันไม่มีเบื่อ
แม็กซ์เหลือบมองฮาเป็งที่กำลังกลืนน้ำลายอยู่ จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในครัวพร้อมกับคาดเดาว่าออร์คคนนี้จะสามารถทนไปได้อีกนานแค่ไหน บางทีเขาอาจจะยอมแพ้เมื่อถึงจานต่อไป
ฮาเป็งลดแขนลงทันทีที่แม็กซ์เดินออกไป เขามองไปที่โมไบที่กำลังกินอย่างรวดเร็วอยู่ “มันดีจริงๆเหรอโมไบ ?” เขาถามออกมาเบาๆ
“ทำไมฉันต้องโกหกนายด้วย ?” โมไบกินอีกคำและอีกคำแล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อของเขา มันรู้สึกสบายจนเขาอยากที่จะร้องครางออกมา
ฮาเป็งมองใบหน้าที่มีความสุขของโมไบและทนไม่ไหวอีกต่อไป “ให้ฉันลองหน่อย” ฮาเป็งพูดขึ้นพร้อมกับก้มหน้าลงไป
“ไม่มีทาง !” โมไบดึงจานของเขาหลบเพราะเขากลัวว่าเขาจะโดนแย่งมันไป เขาชี้ไปที่เมนูบนโต๊ะ “นายก็สั่งเอาเองสิ”
“แต่…” ฮาเป็งมองไปที่เมนูจากนั้นเขาก็แอบมองไปที่เอมี่ที่อยู่หลังเคาเตอร์โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องทำยังไง ฉันสาบานกับตัวเองไว้แล้วและฉันคงจะเสียหน้าถ้าฉันสั่งมันในตอนนี้
แต่ข้าวผัดหยางโจวนี่มีกลิ่นที่ดีมากๆและเขาก็ไม่สามารถยับยั้งความต้องการที่จะสั่งได้ เนื่องจากเขาได้เห็นคอนติและโมไบกินอย่างเพลิดเพลิน
“ถ้ามีใครอยากสั่ง เอมี่จะทำเป็นว่าหนูไม่เคยได้ยินสิ่งที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้ ยังไงซะข้าวผัดสายรุ้งของพ่อก็ดีเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้ นี่แหละของจริง” เอมี่ถอนหายใจออกมาแล้วหันหลังไป