Chapter 36 : มันดีมากๆ !
“เจ้าของร้านเอามาให้ฉันจานนึง !” ฮาเป็งตะโกนบอกแม็กซ์พร้อมกับลุกขึ้นยืน
จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีคนมองมาที่เขาด้วยท่าทีไม่พอใจและรู้ได้ในทันทีว่าเขาทำอะไรผิดไป “เจ้าของร้าน ฉันอยากได้ข้าวผัดหยางโจวจานนึง” เขาพูดซ้ำด้วยเสียงที่เบากว่าเดิม
“ได้ รอสักเดี๋ยวนะ” แม็กซ์ตอบกลับ เขาพบว่าตัวเองหัวเราะออกมาเมื่อเขาหันกลับมา เขายอมกลืนน้ำลายตัวเองเพื่อสั่งข้าวผัดหยางโจวหนึ่งจานแล้ว
“พ่อไม่ได้โกรธ ดังนั้นครั้งนี้หนูจะปล่อยไปนะ” ที่หลังเคาเตอร์ ลูกไฟเล็กๆในมือของเอมี่ดับลงเมื่อเอมี่กำมือของเธอโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นมัน
แม็กซ์เริ่มทำอาหารเร็วขึ้นแล้วหลังจากที่ได้ทำมาเป็นเวลาสองวัน เขาสามารถจัดการวัตถุดิบและทำข้าวผัดหยางโจวได้ในเวลาเพียงแค่ 5-6 นาทีเท่านั้น
“นี่ข้าวผัดหยางโจวของนาย กินให้อร่อยนะ” แม็กซ์วางจานข้าวผัดไว้ตรงหน้าฮากะ
“ขอบ…คุณ” ฮากะพูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม ตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อเขากินเข้าไปคำแรก มันวิเศษจริงๆ ไม่เหมือนกับอาหารอะไรที่ฉันเคยกินมาก่อนเลย
เขาสัมผัสได้ถึงรสชาติของไข่ที่เคลือบอยู่ด้านนอกข้าวเป็นอย่างแรก เขาทำได้ยังไง ? แม้แต่ไข่ของหงส์ที่อยู่ในทะเลสาบก็ไม่ได้นุ่มละมุนขนาดนี้ รสชาติของไข่โดดเด่นขึ้นมาเพราะข้าว ข้าวที่มีรสหวานนั้นรวมเข้ากับไข่ได้เป็นอย่างดี วัตถุดิบอื่นๆก็ดีมากเช่นเดียวกัน แฮมที่หมักเกลือมานานหลายปีจะปล่อยน้ำของเนื้อออกมาเมื่อฉันเคี้ยวมัน กุ้งมีรสของทะเล ถั่ว หน่อไม้ เห็ดและหัวหอมที่มีขนาดเท่ากับเม็ดข้าว วัตถุดิบทุกอย่างสามารถเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ พวกมันรวมเข้าด้วยกันและสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาซึ่งยังคงอบอวลอยู่ในปากหลังจากที่ฉันกลืนพวกมันลงไป
ฮาเป็งกลืนน้ำลาย “พี่ ให้ฉันลองกินหน่อยสิ” เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้และมองไปที่ฮากะด้วยความคาดหวัง
ฮากะเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดของเขาและอีกฝ่ายก็มักจะแบ่งให้เขาเมื่อเจอของอร่อย
“ไม่” ฮากะดึงจานของตัวเองหลบแล้วหันตัวหนีไปเหมือนกับที่โมไบทำ ช้อนของเขากระทบเข้ากับจานครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างรวดเร็ว
ฮาเป็งไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “ฉันเป็นน้องชายนายนะ นายแบ่งของกินให้ฉันตลอดไม่ใช่เหรอ” ฮาเป็งพูดขึ้นพร้อมกับเดินวนรอบฮากะ
ฮากะหยุดกินและกลืนข้าวผัดลงไป “เพราะว่าอาหารพวกนั้นมันแย่ไง” เขาพูดกับฮาเป็งยิ้มๆ
ฮาเป็งนิ่งไปในทันที เขามองฮากะที่กำลังกินข้าวผัดอยู่จากนั้นเขาก็กลับไปที่นั่งที่เก้าอี้ของตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก นี่ใช่พี่ชายที่แสนดีของฉันรึเปล่า ?
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาคิดถึงข้าวผัดหยางโจวอีกครั้ง เขารอแล้วก็รอและในที่สุดมันก็เสร็จ
“ข้าวผัดหยางโจวของนาย กินให้อร่อยนะ” แม็กซ์วางจานลงแล้วถอยหลังไป
เอมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆแม็กซ์เองก็ขยิบตาให้กับเขา
ฮาเป็งมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ข้าวผัดหยางโจวของเขา มีคนสามคนมีความสุขกับของอร่อยต่อหน้าเขาแต่เขาก็ทำได้แค่มองเท่านั้น มันเป็นการทรมานที่เขาแทบจะทนไม่ไหว
เขาหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตักข้าวจนพูนช้อน กลิ่นหอมของมันรุนแรงกว่าเดิมและน่ากินยิ่งกว่าเนื้อย่าง เขาเอาช้อนเข้าปากแล้วก็ต้องตาเบิกกว้างในทันที
มีรสชาติที่ดีแบบนี้ได้ยังไง ?!
รสชาติของวัตถุดิบต่างๆได้กระจายไปทั่วลิ้นของเขา เขารู้สึกดีมากจนเหมือนกับว่าร่างกายและวิญญาณของกำลังกรีดร้อง : กิน กิน กิน !
“มันดีมั้ย คุณเสียงดัง ?” เอมี่ถามฮาเป็ง
ฮาเป็งถือจานด้วยมือข้างหนึ่งและถือช้อนด้วยมืออีกข้าง เขาถูกเรียกด้วยชื่อแปลกๆ แต่เขาก็ยังพยักหน้าตอบรับพร้อมกับยิ้ม “ดีจริงๆ !”
“ถ้าคุณอยากกินอีกก็อย่าเสียงดัง ไม่งั้นเราจะไม่ขายให้คุณอีก” เอมี่พูดราวกับว่าเธอเป็นผู้ใหญ่และกอดอก
ฮาเป็งรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่ทำแน่ ฉันสัญญา !” เขาไม่ได้ดูหงุดหงิดเหมือนกับตอนแรก ตอนนี้เขาคิดถึงแต่ข้าวผัดหยางโจวเท่านั้น จานเดียวคงไม่พอ เขาคงเสียใจไปตลอดชีวิตถ้าเขาถูกไล่ออกจากร้านเพราะเขาทำเสียงดัง
600 เหรียญทองแดง หน้าตาหรือว่าเกียรติของเขา มันสำคัญด้วยรึไง ?
ไม่ พวกมันไม่สำคัญเลยเมื่อเทียบกับข้าวผัดหยางโจวนี่
แน่นอนมันเป็นเพราะว่าเอมี่ที่เป็นทั้งสาวน้อยน่ารักและน่าสะพรึงกลัว ถ้าเป็นคนอื่นที่มาพูดกับเขาแบบนี้เขาคงหยิบกระบองของเขาขึ้นมาสู้เพื่อรักษาเกียรติของเขาในฐานะออร์คไปแล้ว
และเขาคงจะตายก่อนที่จะได้สู้กับเอมี่
เอมี่พยักหน้า ดูเหมือนว่าเธอจะชอบคำตอบของฮาเป็ง เธอปีนขึ้นไปบนเก้าอี้หลังเคาเตอร์และยิ้มให้กับแม็กซ์อย่างสนุกสนาน
แม็กซ์หัวเราะออกมาเบาๆและลูบหัวเอมี่ สาวน้อยคนนี้พยายามช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยของร้าน เธอน่ารักและสามารถช่วยได้มากอย่างคาดไม่ถึง จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง
“ขออีกจาน !” ลูกค้าตะโกนสั่งเพิ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าและแม็กซ์ก็ต้องหมกตัวอยู่ในครัวเกือบทั้งช่วงเที่ยง กลิ่นหอมของข้าวผัดได้นำลูกค้าเข้ามามากกว่าเดิม พวกเขาดูโมไบ ฮาเป็ง ฮากะและคอนติที่กำลังตักข้าวกินอย่างมึนเมาพร้อมกับกลืนน้ำลาย บางคนถึงกับสั่งมันทันทีโดยที่ไม่สนว่ามันจะมีราคาเท่าไหร่
ฮาเป็งพูดชมออกมา “เจ้าของร้าน คุณต้องเป็นอัจฉริยะแน่ๆ คุณทำอาหารที่อร่อยแบบนี้ได้ยังไงกัน ? เราจะกลับมากินอีกครั้งตอนมื้อเย็น” หลังจากที่กินไป 5 จานในที่สุดเขาก็อิ่ม
แม็กซ์วางข้าวผัดไว้ตรงหน้าลูกค้าและพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม เขารู้สึกดีมากที่เขาสามารถเอาชนะลูกค้าได้ด้วยอาหารของเขา
“5 จาน 5×6=30 ทั้งหมด 30 เหรียญทอง” เอมี่พูดกับฮาเป็งพร้อมกับยื่นมือออกมา
ฮาเป็งยิ้ม “สาวน้อย พวกเรามาด้วยกัน”
“งั้นก็เป็น…” เอมี่เอียงหัวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “60 เหรียญทอง !” เธอพูดออกมาอย่างดีใจเมื่อแม็กซ์กำลังจะใบ้ให้กับเธอ
“นี่ 6 เหรียญมังกร” ฮาเป็งหยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋าของเขาและวางพวกมันเอาไว้ในมือของเอมี่ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและยื่นมือออกมา “แม็กซ์ใช่มั้ย ? ฉันฮาเป็งและนี่พี่ชายฉันฮากะ ขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้ด้วย”
“นายมีพี่น้องอีกคนชื่อ ‘ฮาคุย’ ใช่มั้ย ?” แม็กซ์ถามหลังจากที่จับมืออีกฝ่ายเบาๆ
“อะไรนะ ?” สองพี่น้องถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร แล้วมากันอีกล่ะ” แม็กซ์ยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วนใจโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไร