Chapter 371 : ทางเลือกคือเสรีภาพอย่างหนึ่ง
“วันนี้ฉันจะประกาศอะไรบางอย่าง”
ในห้องอาหารที่หรูหราของคฤหาสน์มอร์ตัน เจฟฟรีที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
มิกกี้ที่เพิ่งจะแอบหยิบล้อมขึ้นมารีบวางมันลงไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น เขานั่งตัวตรงและมองไปที่เจฟฟรีด้วยความยําเกรงและเลื่อมใสในแววตา
ในขณะเดียวกันไซริลที่นั่งอยู่ที่ที่นั่งของเขากําลังก้มหน้ามองจานตรงหน้าด้วยดวงตาที่ไร้วิญญาณ ราวกับว่าเขากําลังรอคําพิพากษาที่กําลังจะตัดสินลงมา
ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาเองก็หน้าซีดเล็กน้อยเช่นกัน เธอเหลือบมองกลอเรียอย่างไม่พอใจ และกํามือแน่น
ในทางตรงกันข้ามเฮอร์ตี้และเฮอร์นี่ต่างก็มีสีหน้ายิ้มแย้ม โดยปกติแล้วเมื่อปู่มีท่าทีแบบนี้ หมายความว่าปู่กําลังจะต่อว่าครอบครัวของลุงของพวกเขา นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและมันก็กลายเป็นกิจกรรมก่อนอาหารที่น่าสนใจ พวกเขาสงสัยว่าเป็นลุงของพวกเขาหรือว่าลูกสาวของเขากลอเรียที่จะถูกดุ
“คุณคะ…” เดนนิส มาร์ควิสที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เจฟฟรีพูดขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ชู่วว” เจฟฟรีส่งเสียงบอกให้เธอเงียบ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดขาดอย่างไม่อาจโต้เถียงได้
เดนนิสหยุดพูดในทันที เธอก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดอะไรอีก
แลนซ์นั่งอยู่ที่ที่นั่งของเขาด้วยความประหม่า เขาไม่รู้ว่าเจฟฟรีจะพูดอะไรแต่ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนใจหรือสั่นคลอนความตั้งใจของเขาได้ถึงแม้ว่าเขาจะถูกไล่ออกไปจากคฤหาสน์มอร์ตันก็ตาม
ดวงตาของเดบร้ามีน้ําตาคลอและมองไปที่กลอเรียด้วยความกังวล กลอเรียไม่ได้มีท่าที่สํานึกผิดจากการโต้เถียงกันกับเจฟฟรีในการกินอาหารร่วมกันครั้งก่อน เขาจะตําหนิเธอเพราะเรื่องนี้มั้ย?
เป็นไปได้มั้ยว่าปู่จะเห็นด้วยกับคําขอของฉัน กลอเรียที่นั่งอยู่ที่หางโต๊ะมองไปที่เจฟฟรีจาก ภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีดําของเธอพร้อมกับความคาดหวังในดวงตา มือที่อยูที่ใต้โต๊ะของเธอกําแน่นราวกับว่าเธอกําลังรอการตัดสินที่จะตัดสินอนาคตของเธอ
จุ๊ จุ๊จะมีอะไรเกิดขึ้นนะ? ทําไมฉันถึงรู้สึกว่ากําลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น? ร่องรอยของความอยากรู้อยากเห็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ซีดเซียวของออโรร่า เธอมองไปที่ไซริลที่กําลังกังวลและใจลอยด้วยท่าทีสนใจมากยิ่งขึ้น
เจฟฟรีมองทุกคนจนไปหยุดอยูที่กลอเรียและพูดขึ้นอน่งจริงจัง “ฉันขอประกาศว่ากลอเรียจะเป็นหนึ่งในคนที่มีสิทธิ์สืบทอดตําแหน่งของตระกูลมอร์ตัน ดังนั้นตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปเธอมีสิทธิพิเศษทุกอย่างเหมือนกันกับไซริล”
หลังจากที่เขาประกาศความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องอาหาร มันเงียบมากจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นได้
ใบหน้าของไซริลและภรรยาของเขาซีดลงยิ่งกว่าเดิม พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับริมฝีปากที่สั่นเทา
“ปะเป็นไปได้ยังไง!” เฮอร์ตี้และเฮอร์นี่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ พวกเขาหันไปมองกลอเรียสาวน้อยขี้ขลาดที่ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเผยใบหน้าของตัวเองและพยายามทําความเข้าใจกับความจริงที่ว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นหนึ่งในคนที่มีสิทธิ์สืบทอดตระกูลมอร์ตันเหมือนกับพ่อของพวกเขาแล้ว
นั่นหมายความว่าสถานะของไซริลในฐานะผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลมอร์ตันไม่มีอยู่อีกแล้ว มันมีโอกาสมากที่ในอนาคตกลอเรียจะกลายเป็นผู้ควบคุมตระกูลมอร์ตัน
“เยี่ยม!” กลอเรียกําหมัดแน่นด้วยความดีใจและเกือบจะกระโดดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
มิกกี้และเดบร้าพากันมองไปที่กลอเรียด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
“พ่อครับ ผมขอคัดค้านการตัดสินใจของพ่อ!” ทันใดนั้นเองแลนซ์ก็ลุกขึ้นยืนและมองไปที่เจฟฟรีด้วยสีหน้าจริงจังในขณะที่เขาพูด “พ่อครับ ไม่ว่าพ่อจะไม่พอใจเรามากแค่ไหนแต่พ่อต้องรู้ว่า ผมเป็นคนตัดสินใจทุกอย่างเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันไม่เกี่ยวอะไรกับกลอเรียเลย ดังนั้นผมหวังว่าพ่อจะไม่ระบายความโกรธแค้นกับเธอ เธอยังเป็นเด็กอยู่”
“พ่อคะ หนูก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน พ่อบอกว่าหนูไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลมอร์ตันเพราะว่าหนูเป็นผู้หญิง แล้วทําไมตอนนี้พ่อถึงให้กลอเรียเป็นหนึ่งในคนที่มีสิทธิ์สืบทอดล่ะคะ? หนูเป็นลูกสาวของพ่อนะ! ทําไมพ่อถึงเลือกยัยเด็กเหลือขอนี่มากกว่าหนูล่ะ? อะไรทําให้เธอมีค่าพอที่จะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลมอร์ตัน?” ออโรร่าเองก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน เธอต้องใช้ความพยายามมากที่จะมองไปที่เจฟฟรี สีแดงจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนแก้มซีด ๆ ของเธอ เธอกํามือที่แทบจะมีแต่หนังหุ้มกระดูกเอาไว้แน่นราวกับว่าเธอเป็นสิงโตที่กําลังโกรธแต่ขาดสารอาหาร
“เธอไม่รู้เหรอว่าทําไมเธอถึงไม่คู่ควร?” เจฟฟรีมองออโรร่าและไม่พยายามเก็บซ่อนความรังเกียจในแววตาแม้แต่น้อย
“หนู” ออโรรามองเข้าไปในดวงตาของเจฟฟรี เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเป็นหนอนที่ถูกแสงแดดแผดเผา ความกล้าหาญที่เธอรวบรวมมาถูกทําให้หายไปโดยอย่างสมบูรณ์และทําได้แค่ก้มหน้าลงด้วยความกลัว เธอทรุดตัวลงนั่งก่อนที่จะมองไปที่กลอเรียอย่างไม่พอใจ
“แกคิดว่าฉันเป็นคนที่จะระบายความโกรธใสหลานสาวของตัวเองเหรอ? ฉันเคยทําอะไรแบบนั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมามั้ย?” เจฟฟรีย์หันไปมองแลนซ์พร้อมกับถามด้วยสีหน้าบูดบึง
“ไม่ครับ” แลนซ์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะส่ายหัว เขารู้ว่าพ่อของเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง แม้กระทั่งตอนที่เขาปฏิเสธตําแหน่งผู้สืบทอดของตระกูลพ่อก็ไม่ได้ทําอะไรกับเขาเลย ดังนั้นมันจึงไม่มีทางที่เขาจะมีเจตนาร้ายต่อเด็ก
“แต่กลอเรียยังเด็กเกินไป เธอจะรับผิดชอบมันไหวได้ยังไง? แล้วเธอเต็มใจที่จะทําอะไรแบบนี้เหรอครับ? ผู้หญิงควรมีความฝันและไล่ตามมันไม่ใช่ถูกบังคับให้ต้องแบกรับภาระหนัก ๆ แบบนี้” แลนซ์ส่ายหัวอีกครั้ง เขาไม่เข้าใจว่าทําไมเจฟฟรีถึงตัดสินใจแบบนี้
“ พี่สาว?” มิกกี้มองกลอเรียด้วยความกังวล
“พ่อคะ นี่เป็นทางเลือกของหนูเอง” ในขณะนั้นเองกลอเรียก็ยืนขึ้นและมองไปที่แลนซ์ที่หันมามองเธอด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินคําพูดของเธอ เธอมองตาเขาและพูดอย่างจริงจัง “พ่อคะ พ่อบอกหนูว่าทุกคนรวมถึงผู้หญิงมีสิทธิ์ในการเลือกอย่างอิสระ หนูอยากเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจและเป็นผู้สืบทอดของตระกูลมอร์ตัน นี่คือสิ่งที่หนูเลือกด้วยตัวเองค่ะ”
ไซริลเงยหน้าขึ้นมามองกลอเรียด้วยความตกใจและมีความโกรธแค้นในแววตา เขาคิดว่าเจฟฟรีตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยความโกรธเพื่อกดดันเขา อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเรื่องนี้มันจะไม่ได้ง่ายแบบนั้น ดูเหมือนว่ากลอเรียจะวางแผนเรื่องนี้มาล่วงหน้า
“กลอเรีย ลูกต้องรู้ว่าถ้าลูกกลายเป็นผู้มีสิทธิ์สืบทอดของตระกูลใหญ่แบบนี้ลูกจะสูญเสียอิสรภาพมากมาย จะมีหลายครั้งที่ลูกถูกบังคับให้ทําสิ่งต่าง ๆ ที่ขัดกับความต้องการของลูก มันไม่ยุติธรรมสาหรับลูกเลย” แลนซ์มองกลอเรีย เขามีความสุขมากกับความกล้าหาญของเธอแต่เขาก็มีความกังวลอยู่เล็กน้อยเช่นกัน
“พ่อคะ การเลือกก็เป็นอิสรภาพในตัวของมันเองไม่ใช่เหรอคะ?” กลอเรียมองแลนซ์ด้วยรอยยิ้ม
แลนซ์ตะลึงไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับ “แน่นอนว่ามันเป็น พ่อควรเคารพในสิ่งที่ถูกเลือกไม่ใช่บังคับให้ลูกทําตามสิ่งที่พ่อคิด”
“ขอบคุณค่ะพ่อ” กลอเรียยิ้ม
“ผมขอโทษครับพ่อ ขอบคุณสําหรับการตัดสินใจรวมถึงการเคารพการตัดสินใจของกลอเรียของพ่อด้วยครับ” แลนซ์หันไปมองเจฟฟรีและขอบคุณเขา
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปร้านสิ่งทอ “บลูสเวด (Blue Suede) จะอยู่ภายใต้การบริหารของกลอเรีย มานาร์ดจะแจ้งรายละเอียดทั้งหมดให้เธอทราบ ถ้าเธออยากเป็นผู้สืบทอดตอนนี้ตรงหน้า เธอมีภูเขาลูกใหญ่ที่เธอต้องปีนขึ้นไป และถ้าเธอปีนขึ้นไปบนยอดของภูเขาลูกนี้ไม่ได้เธอจะถูกกําจัด” เจฟฟรีละความสนใจจากแลนซ์และหันไปทางกลอเรีย จากนั้นเขาก็หยิบมีดและส้อมของเขาขึ้นมาแล้วลงมือนั่นสเต็ก