Chapter 372 : การเปลี่ยนแปลงและการสืบทอด
“ขอบคุณค่ะปู่” กลอเรียยืนขึ้นโค้งคํานับขอบคุณเจฟฟรีก่อนที่จะนั่งลงอย่างมีความสุข
เมื่อได้ยินแบบนั้นความหดหูบนใบหน้าของไซริลก็หายไปในทันทีและมีร่องรอยของความสุขปรากฏขึ้นในแววตาของเขา เขามองไปที่กลอเรียด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ดูเหมือนว่าพ่อจะไม่มีความตั้งใจที่จะให้ผู้หญิงสืบทอดตระกูลมอร์ตันจริง ๆ ไซริลคิดกับตัวเองอย่างโล่งใจ ร้านสิ่งทอบลูสเวดเป็นธุรกิจแรกที่ตระกูลมอร์ตันก่อตั้งขึ้นและเป็นร้านค้าที่เก่าแก่ที่สุดในลานเอเดนมานานหลายทศวรรษ
อย่างไรก็ตามข้อดีเพียงอย่างเดียวที่ร้านสิ่งทอนี้มีนั่นก็คือคุณค่าทางจิตใจและความสําคัญทางประวัติศาสตร์ของตระกูลมอร์ตัน มันเป็นธุรกิจที่ธรรมดาที่สุดในบรรดาธุรกิจที่มีอยู่นับไม่ถ้วนของตระกูลมอร์ตัน และเนื่องจากความไม่มีอะไรโดเด่นของมันจึงทําให้มันขาดทุนมาตลอดในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหตุผลเดียวที่มันยังเปิดอยู่ได้นั้นก็เพราะเจฟฟรียืนยันที่จะเปิดมันเอาไว้
ตอนนี้เจฟฟรีกําลังจะยกหน้าที่บริหารร้านสิ่งทอนี้ให้กับกลอเรีย เธอเป็นแค่สาวน้อยที่ไม่ค่อยได้ออกไปนอกคฤหาสน์ดังนั้นเธอจะแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้ได้ยังไง เธอน่าจะเสียเวลากับร้านสิ่งทอนี้ไปสองสามปีโดยไม่มีประโยชน์อะไรก่อนที่จะสูญเสียตําแหน่งผู้มีสิทธิ์สืบทอด
มิกกี้มองกลอเรียด้วยสีหน้าชื่นชมและกระซิบถามเธอ “พี่สาว พี่สุดยอดมากเลย! ตอนนี้พี่หัวหน้าแล้วใช่มั้ย?”
“ชูวว กินก่อน” กลอเรียตอบเบา ๆ แต่ความสุขในน้ําเสียงของเธอนั้นค่อนข้างชัดเจน
สาวน้อยของฉันโตขึ้นแล้วจริง ๆ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าปู่ของเธอ เธอเป็นเหมือนกับพ่อของเธอจริง ๆ เดบร้ามองกลอเรียด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเริ่มต้นที่ยากลําบากแต่อย่างน้อยมันก็ดีที่เธอได้ลงมือทํา แค่เธอมีความสุขนั่นก็เพียงพอแล้ว แลนซ์หยิบมีดและส้อมขึ้นมา เขารู้ดีถึงสถานการณ์ของร้านสิ่งทอบลูสเวดแต่เขาก็ประหลาดใจมากที่เจฟฟรีตัดสินใจแบบนี้
ไม่ว่าเธอจะประสบความสําเร็จในการเดินทางครั้งนี้หรือไม่ ทุกอย่างจะคุ้มค่าตราบใดที่เธอมีความสุข
…
“ท่านประธานครับ นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมจัดเลี้ยงและคุกบาสเทียรวมถึงคําแนะนําจากกลุ่มที่ปรึกษาของเราครับ ขอให้ท่านทําการตัดสินใจขั้นสุดท้ายด้วยครับ” มานาร์ดที่เข้ามาทํางานในฐานะเลขาแทนมาร์รายงานแล้ววางเอกสารสองชุดลงบนโต๊ะตรงหน้าเจฟฟรี
“อ่านให้ฉันฟังซิ” เจฟฟรีเอนหลังลงบนเก้าอี้ของเขาและหลับตาลงด้วยสีหน้าอ่อนล้า
“ได้ครับ” มานาร์ดหยิบเอกสารทั้งสองชุดขึ้นมาในทันทีและอ่านพวกมันจนจบ
“ทําตามที่พวกเขาบอกเมื่อต้องทําข้อตกลงกับสมาคมจัดเลี้ยง หอการค้าและสมาชิกของคณะกรรมการของเราไม่สามารถรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ได้ วอร์เรนและรองประธานถูกจับตัวไปแล้วดังนั้นพวกเขาจะต้องรับภาระอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้” เจฟฟรีลืมตาขึ้นมาและมองดูเอกสารชุดที่สองในมือของมานาร์ดพร้อมกับหัวเราะเยาะ “ฉันจ่ายเงินให้คนพวกนี้จํานวนมากแต่คําแนะนําของพวกเขาบางอย่างกลับไร้สาระ หอการค้าของเรามีพลังมากพอที่จะต่อต้านคุกบาสเทีย แต่พวกเขาคงลืมไปว่าวิหารสีเทาและปราสาทเจ้าเมืองนั้นเป็นผู้หนุนหลังคุกบาสเทียอยู่ ถ้าเราไปหาเรื่องขุมอํานาจที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองมันจะไม่มีที่สําหรับเราในเมืองเคออสอีกต่อไป”
“งั้นเราจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดีครับท่านประธาน?” มานาร์ดถาม
“มอบข้อมูลทั้งหมดที่เรามีให้กับดีโว่และกู้ดเนียและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสอบสวนของคุกบาสเทียเพื่อที่เราจะได้ชดเชยความพยายามของไซริลในการประกันตัวทั้งสองออกมา เราต้องทําให้มั่นใจว่าหอการค้าของเราจะไม่ถูกกวาดล้างเพราะเรื่องนี้ สําหรับเงินที่ไซริลรับมาให้เขาคืนมันไปให้ทั้งหมด” เจฟฟรีตอบอย่างใจเย็น
“แต่กลุ่มที่ปรึกษาได้วิเคราะห์มาว่าถ้าหอการค้าของเราไม่สามารถปกป้องสมาชิกของคณะกรรมการได้มันจะทําลายชื่อเสียงของเราและอาจทําให้สมาชิกบางคนหันไปหาครอบครัวบัฟเฟตต์แทนนะครับ” มานาร์ดรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“เหอะ ฉันไม่เคยบอกใครว่าหอการค้าจะเป็นเครือข่ายที่ปลอดภัยสําหรับพวกเขาและฉันจะไม่ทนกับคนที่ฝ่าฝืนกฏ เอาแบบนี้แหละ พวกนั้นจะได้รับรู้ถึงความกลัวซะบ้าและเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกฎแทนที่จะแหกมัน ถ้าเด็กเหลือขอจากตระกูลบัฟเฟตต์ยอมรับคนพวกนั้นไปเธอก็เป็นแค่คนโง่ที่ไม่มีภัยคุกคามต่อเรา” เจฟฟรีหัวเราะเบา ๆ
“ครับท่าน” สีหน้าของมานาร์ดเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหยิบเอกสารแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
หอการค้าเคยเจอกับความท้าทายและภัยคุกคามมานับครั้งไม่ถ้วนแต่เจฟฟรีก็เอาชนะพวกมันมาได้เสมอด้วยมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์และวิธีการทําสิ่งต่าง ๆ ของเขา นี่คือสาเหตุที่หอการค้ากลายเป็นองค์กรที่ทรงพลังในทวีปนอร์แลนด์
เขาเป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกธุรกิจในเมืองเคออสและทั่วทั้งทวีปเป็นเวลาหลายสิบ
ฉันไม่อยากเห็นการต่อสู้ระหว่างตระกูลมอร์ตันและตระกูลบัฟเฟตต์กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้หญิงสองคนในตอนสุดท้าย ฉันหวังว่าแกจะไม่ทําให้ผิดหวังอีกครั้งนพไซริล เจฟฟรีเคาะนิ้วของเขาลงบนโต๊ะอย่างใช้คาดคิดในขณะที่เขามองออกไปนอกหน้าต่าง
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโรเบิร์ตจะเป็นประธานคนใหม่ของพวกคุณ เขาจะรับช่วงต่อจาก วอร์เรนและปฏิรูปสมาคมจัดเลี้ยง เขาจะสร้างสมาคมการจัดเลี้ยงขึ้นมาใหม่ให้มันยุติธรรมและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ปราสาทเจ้าเมืองเองก็จะเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากในกระบวนการนี้ รวมถึงองค์กรเฝ้าระวังที่จะเข้ามาช่วยให้สมาคมจัดเลี้ยงของเราเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเพื่อนักชิมทุกคนในเมืองเคออส”
ภายในห้องประชุมของสมาคมจัดเลี้ยงเจ้าหน้าที่ผู้แทนจากปราสาทเจ้าเมืองประกาศเปิดตัวประธานคนใหม่ก่อนที่เขาจะจับมือกับโรเบิร์ต
“ทุกอย่างเพื่ออาหาร! ฉันหวังว่าพวกเราทุกคนจะมุ่งสู่เป้าหมายเพื่อส่วนรวม ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะรู้สึกภาคภูมิใจเมื่อพวกคุณมองเห็นคําขวัญที่สลักเอาไว้ที่รูปปั้นด้านนอกนั่น” โรเบิร์ตมองทุกคนที่อยู่ข้างล่างด้วยท่าที่จริงจัง
เสียงปรบมือดังสนั่น แต่ทุกคนก็ยังรู้สึกแปลก ๆ กับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
“เมื่อได้รองประธานโรเบิร์ตขึ้นมาเป็นประธานคนใหม่มันจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่การจัดอันดับอาหารของเราจะได้รับการสนับสนุนจากบรรดาลูกค้าอีกครั้ง!” รูดกําหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น
“เห็นด้วยเลย ใครจะไปคิดว่าประธานคนก่อนและรองประธานทุกคนจะถูกจับกุมไปในเวลาเพียงแค่คืนเดียว? ในที่สุดฉันก็มองเห็นความหวังของสมาคมจัดเลี้ยงของเราแล้ว” อาร์วินพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น
“จะมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ใช่มั้ย? พวกเราจะตกงานมั้ย?”
“พวกเราจะต้องรับโทษร่วมกับประธานคนก่อนมั้ย? วันนี้มีกลุ่มคนจากปราสามเจ้าเมืองมาเอาเอกสารทั้งหมดของเราไป หลังจากผ่านมาหลายปีในสมาคมใครจะไม่เคยทําเรื่องผิด ๆ เอาไว้บ้างล่ะ”
ผู้คนจํานวนมากรู้สึกตื่นตระหนกและวิตกกังวลมากกว่าตื่นเต้น
“เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษนี้เราจะไม่ตรวจสอบสิ่งที่พนักงานเคยทํา ดังนั้นไม่ต้องกังวลและให้ความสนใจกับการทํางานของพวกคุณไปตามปกติ ฉันหวังว่าทุกคนจะทํางานหนัก เพื่อทําให้สมาคมจัดเลี้ยงดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ” โรเบิร์ตช่วยบรรเทาความกังวลในใจของทุกคนก่อนที่ เขาจะประกาศข้อสรุปในการประชุม