Chapter 375 : ขอโทษด้วยนะคะ ฉันทําไม่ได้
“ขอโทษด้วยนะคะแต่นี่เป็นกฎของร้านอาหารของเราค่ะ และเราไม่สามารถยกเว้นให้คุณได้ถึงแม้ว่าคุณจะจ่ายเป็นสองเท่าก็ตามค่ะ” ยาเบะมิยะส่ายหัวปฏิเสธอีกครั้ง
“เห็นมั้ยล่ะ? ถึงแม้ว่านายจะอยากกินทั้งสองแบบแต่แม็กซ์ก็ไม่ยอมขายให้นายหรอก ยอมแพ้ แล้วสั่งแค่พุดดิ้งเต้าหูแบบคาวเถอะ” ชายชราที่คุยกับเธอก่อนหน้านี้หัวเราะเบา ๆ ในขณะที่เขาตักพุดดิ้งเต้าหูแบบคาวเข้าปากความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
อ๊าาา! ฉันโกรธมาก! ฉันไม่อยากกินอาหารที่นี่อีกแล้วเวิเวียนรู้สึกโมโห แต่เมื่อเธอมองเห็นรอยยิ้มของยาเบะมิยะรวมถึงกลิ่นหอมของพุดดิ้งเต้าหูและปลาย่างในอากาศเธอก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันไปบอกกับยาเบะมิยะ “ก็ได้ งั้นฉันเอาแค่พุดดิ้งเต้าหู แบบคาวกับปลาย่างระดับเผ็ดมากก็แล้วกัน”
“โอเคค่ะ รอสักครู่นะคะ” ยาเบะมิยะพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วเดินออกไป
“หึม ถือว่าโชคดีนะที่ฉันเป็นคนใจอ่อน ไม่งั้นฉันจะ..จะ…” วิเวียนมองไปที่ปลาย่างรสเผ็ดที่เพิ่งจะถูกวางลงบนโต๊ะใกล้ ๆ และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ําลาย
“วันนี้พวกเราทําได้ดีมากเลยนะครับหัวหน้า ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราจะเก็บเงินได้มากพอที่จะซื้อโร่วเจียหมัวไปตลอดฤดูหนาว”
“หมูปาสัมฤทธิ์หนึ่งตัว งูปีกเขียวสองตัวและเสือเขี้ยวเลื่อยอีกหนึ่งตัว แค่พวกนี้เราก็ซื้อโร่วเจียหมัวไปได้หลายวันแล้ว” ที่ด้านนอกร้านอาหาร มอนด์และเคลมองซาเจราสด้วยความตื่นเต้นทั้งคู่มีบาดแผลเล็กน้อยบนใบหน้าแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก
“โร่วเจียหมัวมีผลมากต่อความก้าวหน้าของเรา ฉันรู้สึกว่าแค่ฉันกินโร่วเจียหมัวอีกไม่กี่ ชิ้นฉันก็จะเลื่อนระดับ!”
คอสซัส คาลแซคและมาร์คซาเองก็มีชีวิตชีวาเช่นกัน นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้กินโร่วเจียหมัวเป็นครั้งแรกความคิดแรกในใจของพวกเขาเมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมานั่นก็คือ “เพื่อโร่วเจียหมัว!” เราต้องต่อสู้เพื่อโร่วเจียหมัว! เราต้องทําภารกิจให้สําเร็จมากขึ้นเพื่อโร่วเจียหมัว!”
เพียงแค่กินโร่วเจียหมัวให้มากขึ้นเท่านั้นพวกเขาจะมีพลังมากขึ้น นี่เป็นเส้นทางสู่พลังที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและพวกเขารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ค้นพบมัน
“ฤดูหนาวกําลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้และสภาพอากาศในปีนี้เย็นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มาซึ่งแสดงให้เห็นว่าฤดูหนาวครั้งนี้อาจจะยาวนานกว่าปกติ เราต้องเตรียมโร่วเจียหมัวให้มากพอที่จะรับมือกับมัน” ซาเจราสส่ายหัวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดต่อ “นอกจากนี้พี่น้องกลุ่มที่สามน่าจะมาถึงในไม่ช้าดังนั้นเราจะต้องเตรียมการสําหรับเรื่องนี้ เมื่ออากาศเริ่มเย็นลงเหยื่อจะหายากขึ้นเรื่อย ๆ”
สีหน้าของปีศาจลาวาทุกคนเปลี่ยนไปเป็นจริงจังเมื่อได้ยินแบบนี้
ซาเจราสชูกําปั้นของเขาขึ้นฟ้าและตะโกนเสียงดัง “มาทํางานหนักเพื่อเผ่าของเราและเพื่อโร่วเจียหมัวกันเถอะ!”
“เพื่อโร่วเจียหมัว!” ปีศาจลาวาทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขาเต็มไปด้วยพลังอีกครั้ง
“ปีศาจพวกนี้…น่ารักจริง ๆ”
ลูกค้าทุกคนหันไปมองข้างนอกร้านอาหารเมื่อได้ยินเสียงตะโกนนั้นและมีหลายคนที่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูปีศาจลาวาพวกนี้มาที่ร้านอาหารทุกวันเพื่อกินโร่วเจียหมัว ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของพวกเขาจะน่ากลัวแต่พวกเขาทุกคนล้วนมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ข้างใน พวกเขาปฏิบัติตามกฎทุกข้อของร้านอาหารแล้วยังช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในร้านอาหารอีกด้วย เพื่อไม่ให้ตัวเองส่งผลกระทบกับการกินอาหารของลูกค้าคนอื่นๆ พวกเขาจึงสมัครใจออกไปกินอาหารข้างนอกร้าน เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาทําให้ลูกค้าจํานวนมากชื่นชอบพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
โร่วเจียหมัว? นั่นคือสิ่งที่ทําให้ปีศาจลาวาพวกนั้นบ้าคลั่งใช่มั้ย? วิเวียนมองออกไปข้างนอกพร้อมกับสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นเธอก็เปิดเมนูตรงหน้าอีกครั้งเพราะเธออยากรู้ว่าโร่วเจียหมัวของพวกเขาคืออะไร
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรมันก็ไม่มีทางอร่อยไปกว่าปลาย่างรสเผ็ดของฉันได้หรอก ฉันกินอาหารเมนนี้ไปได้ตลอดทั้งชีวิตของฉันเลย แค่ความเผ็ดระดับกลางที่กินไปเมื่อวานนี้ก็อร่อยมากแล้ว ฉันแทบจะอดใจรอระดับเผ็ดมากไม่ไหวแล้วสิวิเวียนมองไปที่ห้องครัวพร้อมความคาดหวังในแววตาของเธอ
“นี่คือพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวที่คุณสั่งค่ะ กินให้อร่อยนะคะ” ยาเบะมิยะเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถ้วยพุดดิ้งเต้าหูแบบคาวและวางมันลงตรงหน้าวิเวียนด้วยรอยยิ้ม
“ ขอบคุณนะ” วิเวียนพยักหน้าในขณะที่เธอมุ่งความสนใจไปที่พุดดิ้งเต้าหูตรงหน้าเธอ
น้ําซอสสีส้มแดงถูกราดเอาไว้บนพุดดิ้งเต้าหูพร้อมกับผักดองสับ ผักชี กระเทียมสับ ต้นหอมซอย กุ้งแห้งและน้ํามันงาอีกเล็กน้อย ไอร้อนยังคงลอยขึ้นมาจากพุดดิ้งเต้าหูที่สดใหม่และกลิ่นที่น่ากินของมันก็ส่งผลกับเธอเป็นอย่างมาก
“อึก”
วิเวียนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ําลาย อย่างไรก็ตามเธอตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเธอสูญเสียความสงบไปและพยายามเก็บซ่อนความอับอาย เธอยึดตัวตรงแล้วพูดแก้ตัว “จริงๆ แล้วฉันอยากกินแค่ปลาย่างเผ็ด แต่เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่พร้อมดังนั้นฉันจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสั่งเจ้านี่มาถึงอย่างนั้นฉันก็คิดว่าปลาย่างรสเผ็ดเป็นอาหารที่อร่อยที่สุด”
ยาเบะมิยะยิ้มแต่ก็ไม่พูดอะไร เธอพบว่าชายหนุ่มคนนี้ค่อข้างตลก เขามักจะคุยกับตัวเองเป็นครั้งคราวแต่บุคลิกของเขานั้นค่อนข้างดูดีและไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล
วิเวียนหยิบซ้อนของเธอขึ้นมาแล้วค่อย ๆ ตกลงไปในพุดดิ้งเต้าหู ช้อนตัดผ่านเนื้อพุดดิ้งเต้าหู้นุ่ม ๆ ราวกับว่ามันถูกจุ่มลงไปในน้ำ ส่วนน้ําซอสสีส้มแดงด้านบนก็ซึมเข้าไปในรอยแยกในทันที เมื่อช้อนของเธอตักลึกลงไปในพุดดิ้งเต้าหูกลิ่นหอมของมันก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นดวงตาของเธอเปล่ง ประกายขึ้นมาด้วยความคาดหวัง
เนื่องจากสภาพร่างกายของเธอเธอมักจะได้กินแต่อาหารรสชาติจืด ๆ ดังนั้นเมื่อเธอออกมากินอาหารข้างนอกเธอมักจะชอบหาอาหารที่มีรสชาติเข้มข้นเพื่อกระตุ้นต่อมรับรสของเธอ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ากลิ่นของพุดดิ้งเต้าหู้จะไม่ได้รุนแรงมาก แต่มันก็กระตุ้นเธอได้เป็นอย่าง
เมื่อพุดดิ้งเต้าหู้สัมผัสกับลิ้นของเธอมันก็แทบจะละลายไปกับน้ําซอสรสเผ็ดในทันที เครื่องเคียงที่สมบูรณ์แบบยังช่วยเพิ่มรสชาติและทําให้พุดดิ้งเต้าหูน่ากินมากยิ่งขึ้นด้วย
มันอร่อยมาก! นี่มันอะไรกัน? มันนุ่มขนาดนี้ได้ยังไง? มันไม่ใช่น้ําแต่มันกลับละลาย ไปในปากของฉันและทําให้ฉันรู้สึกได้ถึงรสชาติของอาหารทะเลอยู่อ่อน ๆ กุ้งแห้งนี้มีขนาดเล็กมากแต่มันกลับเต็มไปด้วยรสชาติ แม้แต่ผักดองของที่นี่ก็แตกต่างจากที่ฉันเคยกินมาก่อนรสชาติ ที่ถูกต้องช่วยเสริมให้พุดดิ้งเต้าหู้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น วิเวียนมองที่ถ้วยพุดดิ้งเต้าหูตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ รสชาติของมันแตกต่างจากปลาย่างรสเผ็ดโดยสิ้นเชิง แต่มันก็น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก
หนึ่งคําไม่เพียงพอ! เธอหยุดไม่ได้อีกต่อไปหลังจากที่เธอกินคําแรกเข้าไป!
เธอตักพุดดิ้งเต้าหู้เข้าปากอีกช้อนแล้วก็อีกช้อน รอยยิ้มมีความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอเมื่อรสชาติแสนอร่อยของมันกระจายไปทั่วทั้งปาก
ปลาย่างรสเผ็ดดีที่สุด! แต่…พุดดิ้งเต้าหูเองก็อร่อยมากเหมือนกันเวิเวียนลืมสิ่งที่เธอเคยพูดไปโดยสมบูรณ์แล้ว จิตใจของเธอกําลังหมกมุ่นอยู่กับพุดดิ้งเต้าหู้!
“เป็นอย่างที่บอกใช่มั้ยล่ะ พุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวดีที่สุด” ชายสูงอายุผงกหัวด้วยความพึงพอใจเขาตกพุดดิ้งเต้าหู้คําสุดท้ายเขาปากอย่างไม่เต็มใจและลิ้มรสมันอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะกลืนลงไป
“ถึงแม้ว่ารสชาติของมันจะค่อนข้างธรรมดา…แต่ในเมื่อปลาย่างรสเผ็ดยังไม่พร้อมงั้นฉันขอ พุดดิ้งเต้าหูแบบคาวเพิ่มอีกถ้วย” วิเวียนวางถ้วยที่เธอกินจนเกลี้ยงลงพร้อมกับหันไปพูดกับยาเบะมิยะ ถึงว่าสีหน้าของเธอจะค่อนข้างสงบแต่หูของเธอกลับแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“ขอโทษด้วยนะคะแต่ฉันทําไม่ได้” ยาเบะมิยะส่ายหัวด้วยท่าทางแน่วแน่