Chapter 60 : ลูกค้าต่อแถวกันอยู่ด้านนอก
ข้าวผัดหยางโจวนั้นอร่อยและโร่วเจียหมัวก็เช่นเดียวกัน แต่การกินพวกมันทุกวันก็อาจจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเบื่อได้
เขารู้ว่าเขาจะได้รับพุดดิ้งเต้าหู้หลังจากที่เขาภารกิจใหม่นี้เสร็จ แต่เขาก็ยังต้องการหลอกให้ระบบปลดล็อคอาหารอย่างอื่นเพิ่มอีกสักอย่างสองอย่าง
“เนื่องจากคุณไม่ได้ทำภารกิจสุดท้ายอย่างจริงจังและใช้ทางลัด คุณจึงกระตุ้นภารกิจลับ : มีลูกค้ามากินอาหารที่ร้าน 1,000 คน ถ้าทำสำเร็จคุณจะปลดล็อคสูตรข้าวไก่ตุ๋น คุณมีเวลาอีก 15 วัน ลูกค้าแต่ละคนจะไม่ถูกนับซ้ำ หากคุณทำภารกิจล้มเหลว พละกำลังของคุณจะลดลง 0.5 หน่วย คุณมีลูกค้า 155 คนแล้วในตอนนี้” ระบบพูด
นั่นหมายความว่าฉันต้องมีลูกค้าอีก 845 คนที่ไม่ซ้ำหน้ากันภายใน 15 วัน ? แม็กซ์ยกคิ้ว มันยากกว่าการขายโร่วเจียหมัว 1,000 อันซะอีก เพราะว่าลูกค้าแต่ละคนสามารถกินโร่วเจียหมัวได้หลายชิ้นและมากินได้เป็นประจำ ลูกค้าคนหนึ่งอาจจะซื้อไปถึงหนึ่งโหลภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน
อย่างไรก็ตามการมีลูกค้า 1,000 คนแบบไม่ซ้ำกันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งโดยสิ้นเชิง ถ้าเขาสามารถทำได้ ร้านอาหารของเขาจะเต็มไปด้วยลูกค้าอย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่เขามีลูกค้าแค่ 155 คนเท่านั้นตั้งแต่ที่เขาเปิดร้านมา ถ้าเขาทำภารกิจลับนี้ล้มเหลวมันจะทำให้พละกำลังของเขาลดลง ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะแย่มากสำหรับเขา
ตอนนี้เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับธุรกิจ แต่กังวลเกี่ยวกับจำนวนลูกค้า ลูกค้าใหม่อาจจะไม่สามารถรับกับราคาอาหารได้และไม่ได้มีมาทุกวัน นั่นจะทำให้การเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ลดลง
กินที่ร้านอาหารเป็นคำสำคัญ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องควบคุมปริมาณการซื้อกลับบ้าน ฉันต้องทำการประชาสัมพันธ์และในเวลาเดียวกันก็ต้องพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้า แม็กซ์คิดและตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาในทันทีเมื่อเขาคิดถึงข้าวหน้าไก่ตุ๋น
ข้าวไก่ตุ๋น, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อหลานโจวและหมี่ผัดซอสเป็นอาหารสามอย่างที่มีร้านอาหารเปิดขายมากที่สุดในประเทศจีน
ในชีวิตก่อน แม็กซ์เคยกินข้าวไก่ตุ๋นแบบต้นตำรับมาหลายร้าน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทุกครั้งเขาจะวิจารณ์ด้วยคำพูดที่ชั่วร้าย แต่รสชาติของมันก็ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง เนื้อไก่นั้นสดและนุ่มมาก น้ำซุปเองก็กลมกล่อม หลังจากที่เขากินไก่จนหมด เขาก็จะใส่ข้าวลงไปในหม้อและทำให้มันกลายเป็นข้าวคลุกน้ำซุปรสไก่แสนอร่อย
เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็พบว่าเขาพิถีพิถันเกินไป ใบหน้าของเขาเริ่มบึ้งตึงเมื่อเขาจำความคิดเห็นที่เลวร้ายของเขาได้ ไอ้บ้าเอ๊ย ถึงแม้ว่าฉันจะทำภารกิจนี้ได้สำเร็จและได้รับสูตรมา ฉันก็ต้องเตรียมตัวเพราะว่าฉันอาจจะต้องใช้เวลาหลายร้อยวันในการทดสอบ
กรรมตามสนอง
แม็กซ์บ่นในใจ เป็นเทพองค์ไหนที่ดลใจให้เขากำหนดมาตรฐานการทำอาหารแบบนี้นะ แล้วเขาก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
เช้าวันรุ่งขึ้นเขาถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงของเอมี่ เขาหันไปเปิดโคมไฟข้างเตียงแล้วลุกขึ้นนั่งและมองไปที่เตียงเล็กของเอมี่ เอมี่นั่งอยู่บนเตียงของเธอและดูเหมือนว่าเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมาเช่นเดียวกัน เธอขยี้ตาที่สลึมสลือและมองไปรอบๆ “พ่อ ลูกเป็ดขี้เหร่อยู่ที่ไหน ?” เธอถามและมองมาที่แม็กซ์ด้วยความสับสน
แม็กซ์รู้สึกแปลกใจ มันไม่ได้หลับไปบนแขนของเอมี่เหรอ ?
“เหมียว !” เสียงร้องที่ฟังดูไม่มีความสุขดังมาจากใต้เตียง
เอมี่และแม็กซ์มองลงไปที่ใต้เตียงในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่รู้ว่ามันลงไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มันเงยหน้ามองเอมี่อย่างน่าสงสารเหมือนกับว่ามันเป็นภรรยาสาวที่ถูกสามีเตะจนตกเตียง แววตาของมันดูเศร้ามาก
เอมี่หัวเราะ “ลูกเป็ดขี้เหร่ ฉันเตะแกตกเตียงเหรอ ?” เธอถามอย่างขบขันในขณะที่เธอนอนคว่ำอยู่บนเตียง
ลูกเป็ดขี้เหร่พยักหน้าราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของเธอ ตอนนี้มันดูเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมซะอีก มันยกอุ้งเท้าเล็กๆของมันขึ้นมาราวกับว่ามันอยากให้เธอกอดมัน
แม็กซ์ยิ้มและรู้สึกขอโทษมันเล็กน้อย
เอมี่ยักไหล่ “ฉันบอกแกแล้วว่าแกอาจจะถูกฉันเตะจนตกเตียงแต่แกก็ไม่เชื่อฉัน แกควรนอนอยู่ในตะกร้าเล็กๆของแกคุณในครั้งหน้า จากนั้นเธอก็มองไปที่แม็กซ์และถามว่า “พ่อคะ เราต้องลุกออกจากเตียงตอนนี้เลยมั้ย ?” เธอหาว
แม็กซ์ดูนาฬิกา – มันเพิ่งตี 4:50 น. เขาลุกขึ้นจากเตียงแล้วหยิบลูกเป็ดขี้เหร่ขึ้นมาวางลงบนเตียงเล็ก “มันยังเร็วเกินไป” เขาพูดพร้อมกับยิ้มแล้วส่ายหัว “พวกลูกนอนกันต่อเถอะ พ่อจะลงไปเตรียมวัตถุดิบ”
เอมี่พยักหน้า “งั้นหนูจะนอนต่ออีกหน่อย” เธอจับหัวของลูกเป็ดขี้เหร่ขึ้นมาในขณะที่มันกำลังพยายามที่จะปีนเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ “ลูกเป็ดขี้เหร่อย่าเอาเล็บมาจิกเสื้อผ้าของฉัน พ่อเพิ่งซื้อมันให้ฉัน ถ้าแกทำให้มันเสียหายฉันจะเตะแกลงจากเตียงอีกครั้ง”
ลูกเป็ดขี้เหร่หยุดขยับตัวในทันทีและพยักหน้า “เหมียว…” จากนั้นมันก็ปิดตาลงและนอนลงบนผ้าห่ม
เอมี่พยักหน้าอย่างพอใจ “ดี” เธอนอนลงบนเตียง หลับตาลงแล้วหลับไปอีกครั้ง
แม็กซ์ยิ้มแล้วห่มผ้าให้เธอและลูกแมวด้วยผ้าห่มให้ดีขึ้น อุณหภูมิของร่างกายนั้นสำคัญมาก
แม็กซ์เปลี่ยนเสื้อผ้าของเขา ล้างหน้าแล้วก็ลงมาที่ชั้นล่างเพื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับโร่วเจียหมัว เช้านี้เขาวางแผนที่จะทำขนมปังสี่ชุด – 64 ก้อน เขาน่าจะขายมันจนหมดได้ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งของช่วงมื้อเช้า
7 โมง แม็กซ์ขึ้นไปที่ชั้นบนเพื่อปลุกเอมี่ เมื่อล้างหน้าเสร็จเธอก็ยืนยันว่าเธอจะแปรงฟันให้กับลูกเป็ดขี้เหร่
แม็กซ์หัวเราะเบาๆและอธิบายให้เธอฟังเป็นเวลานาน สุดท้ายเธอก็หันไปขู่ว่าจะแปรงฟันให้มันอีกสองสามครั้ง
เอมี่พยักหน้าขณะที่เธอกำลังแปรงฟัน “โอเค เราจะแปรงฟันให้แกเมื่อพวกมันซี่ใหญ่ขึ้น” เธอพูดและมองดูลูกเป็ดขี้เหร่
ลูกเป็ดขี้เหร่มองไปที่แปรงเล็กๆและฟองในปากของเอมี่แล้วค่อยๆถอยไปที่ประตู – มันรู้สึกกลัวเล็กน้อย
แม็กซ์อุ่นนมแกะที่ซื้อมาเมื่อวานเสร็จแล้ว เขาไม่มีเวลาที่จะออกไปซื้อมาเพิ่มเพราะว่ามันใกล้จะถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว
ในช่วงเวลาอาหารเช้า ลูกเป็ดขี้เหร่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเอมี่และมองไปที่แม็กซ์กับเอมี่ที่กำลังกินโร่วเจียหมัวและข้าวผัดหยางโจวอยู่ ตาของมันเป็นประกายขึ้นมาในทันที แต่ก็ไม่มีใครต้องการให้อาหารมัน ดังนั้นมันจึงทำได้แค่ปิดตาของมันเอาไว้ด้วยอุ้งเท้าด้วยความเศร้าเพื่อที่มันจะได้มองไม่เห็นและไม่รู้สึกทรมาน
เอมี่กัดโร่วเจียหมัวของเธอจากนั้นก็พูดว่า “ลูกเป็ดขี้เหร่ ฉันมองเห็นตาของแกผ่านทางช่องของอุ้งเท้า แกสามารถดูได้เท่าที่แกต้องการ แต่เราจะไม่ให้แกกินมัน” เธอพูดและมองลงมาที่มันพร้อมกับยิ้ม
ลูกเป็ดขี้เหร่หันขยับอุ้งเท้าน้อยๆของมันออกแล้วเงยหน้าขึ้นมองข้างบนและทำเป็นไม่สนใจ
แม็กซ์ส่ายหัวและยิ้ม หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ เขาก็เก็บโต๊ะแล้วก็เปิดร้านอาหารตอนเจ็ดโมงครึ่ง
เหมือนอย่างเคย โมไบมาถึงเป็นคนแรกและรออยู่ที่ด้านนอกร้าน แล้วเขาก็พบว่าด้านหลังของโมไบนั้นมีอีกหลายคนที่กำลังต่อแถวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ ใบหน้าของพวกเขาสดใสขึ้นมาในทันทีเมื่อแม็กซ์เปิดประตูร้าน หลายคนยิ้มและพูดว่า “อรุณสวัสดิ์แม็กซ์”