Chapter 63 : เจ้าของร้าน ฉันต้องการแบบนั้นหนึ่งอัน
ซาเจราสได้กลิ่นหอมที่รุนแรงของเนื้อทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในร้าน ทำให้ตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาในทันที
กลิ่นนี้มันแตกต่างจากกลิ่นของเนื้อย่างและเนื้อต้ม มันรุนแรงกว่าแล้วก็น่ากินมากกว่า เขาไม่รู้ว่ามีเครื่องเทศหรือว่าเครื่องปรุงอะไรที่ถูกใส่ลงไปและไม่รู้ว่ามันถูกทำขึ้นมาด้วยวิธีการแบบไหน เขาทำได้แค่กลืนน้ำลาย
เขาไม่สนใจเรื่องการตกแต่งและไม่ชอบอะไรที่มันแฟนซีมากเกินไป การตกแต่งของร้านอาหารนี้ค่อนข้างเรียบง่าย แต่เขาก็ต้องชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเขาเห็นภาพวาดบนผนัง มันเป็นภาพวาดของหมู่เกาะปีศาจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นภาพวาดของหมู่เกาะปีศาจภายในร้านอาหารที่มนุษย์เป็นเจ้าของ นอกจากนี้มันยังมีภาพวาดอื่นๆอยู่บนผนังด้วย เช่น เมืองหลวงของอาณาจักรรอทและป่าแห่งสายลมลมของพวกเอลฟ์ เขามองไปที่แม็กซ์ที่สวมชุดสีขาวและดำของเขา เห็นได้ชัดว่าเจ้าของร้านเป็นคนที่เคยเดินทางไปทั่วโลก
แต่เขาจะให้ฉันกินอาหารที่นี่มั้ย ? ซาเจราสหยุดยืนอยู่ที่ทางเดิน
แม็กซ์เองก็กำลังมองซาเจราสเช่นกัน เขาเคยเห็นปีศาจเป็นบางครั้งเมื่อเขาออกไปข้างนอก เผ่าปีศาจมีรูปลักษณ์ที่หลากหลายมาก – ปีศาจบางคนมีดาบใบหญ้าอยู่บนหัวและปีศาจบางคนก็มีหัวที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ…พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ใกล้เคียงกับคำว่าสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติมากที่สุดแล้ว
แน่นอนว่าไม่รวมซัคคิวบัส ตอนที่เขาออกไปซื้อนมแกะเมื่อวานนี้ เขาได้เห็นซัคคิวบัสที่ดูดีเป็นอย่างมาก เธอมีเสียงที่ไพเราะและยั่วยวน เพียงแค่เธอต่อรองกับพ่อค้าไม่กี่คำเธอก็ทำให้พ่อค้าขายถุงแตงกวาที่มีราคาอยู่ที่ 15 เหรียญทองแดง – ด้วยราคาเพียงแค่ 5 เหรียญทองแดงเท่านั้นและเธอยังได้ต้มหอมมาฟรีอีกหลายต้น ! เขารู้สึกประทับใจเป็นมาก
ซาเจราสเป็นลูกค้าเผ่าปีศาจคนแรกที่เข้ามาในร้านอาหารของเขา เขาตัวใหญ่มากและสูงมากกว่าพวกฮาเป็งซะอีก ที่สำคัญคือเขาดูเหมือนมนุษย์เป็นอย่างมาก
ตาของเขาเป็นสีแดงเข้ม รอยแตกจำนวนมากปกคลุมใบทั่วทั้งศีรษะ ใบหน้า ลำคอและมือ ในรอยแตกนั้นเป็นลาวาสีแดงที่ทำให้ดูเหมือนว่าเขามีรอยสักไปทั่วทั้งตัวทำให้ดูน่ากลัวเล็กน้อย
ชุดสีดำของเขาดูเรียบร้อยและเป็นแบบกึ่งทางการ พื้นรองเท้าบูทหนังของเขานั้นบาง – เขาต้องเดินทางมาไกลอย่างแน่นอน สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือเสื้อคลุมสีแดงที่ยาวเลยเอวลงมาของเขา มันเป็นสีแดงที่เป็นเหมือนกับไฟ
มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเมืองเคออสมาเป็นเวลานานมักจะไม่ค่อยกลัวปีศาจ ยังไงซะพวกเขาก็สามารถเห็นเผ่าพันธุ์ต่างๆได้ทุกวันและมันก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะมีเพื่อนบ้านเป็นปีศาจ
อย่างไรก็ตาม มนุษย์ส่วนมากนั้นไม่ชอบกินอาหารพร้อมกับปีศาจหรือว่าโทรลป่า เพราะว่าพวกเขาไม่กล้าพูดเสียงดังต่อหน้าพวกนั้นและนั่นทำให้พวกเขารู้สึกว่าถูกกดดัน
นั่นเป็นสาเหตุที่ร้านอาหารที่มีมนุษย์เป็นเจ้าของบางร้านจะทำที่นั่งแยกสำหรับปีศาจและโทรลหรือไม่พวกเขาก็จะติดป้ายไว้ที่หน้าประตูว่า ‘ไม่อนุญาตให้ปีศาจและโทรลเข้ามาในร้านอาหาร’
สำหรับร้านอาหารที่มีเจ้าของร้านเป็นเอลฟ์ พวกเขาจะทำส่วนที่สะดวกสบายที่สุดเอาไว้ให้กับเอลฟ์ด้วยกันและจะไม่ปล่อยให้คนแคระ ปีศาจหรือว่าโทรลเข้าไปในร้าน
ลูกค้าทุกคนต่างก็มองไปที่แม็กซ์ พวกเขาทุกคนเป็นมนุษย์ยกเว้นแค่โมไบ พวกเขาไม่เห็นที่นั่งแยกพิเศษสำหรับปีศาจที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงสงสัยเป็นอย่างมากว่าแม็กซ์จะทำยังไง
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ปีศาจเข้ามากินอาหารที่นี่ แม็กซ์เองก็เป็นมนุษย์ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าแม็กซ์จะไม่ปล่อยให้ปีศาจเข้ามา
แม็กซ์สามารถอ่านใจของพวกเขาได้จากสีหน้าที่พวกเขาแสดงออกมา ไล่เขาออกไป ?
ไม่ เขาจะไม่ทำแบบนั้น !
เขาคิดว่าเขาจะได้รับสมบัติจากมังกรยักษ์ในสักวันหนึ่งและปีศาจไม่มีอะไรเทียบกับมังกรได้
ดังนั้น ตราบใดที่พวกเขามากินอาหารที่นี่พวกเขาก็จะถือว่าเป็นลูกค้าของเขาโดยไม่มีการแบ่งแยกใดๆ
“ฉันแนะนำให้คุณปฏิเสธลูกค้าบางคนเพื่อสร้างประสบการณ์การในการกินอาหารที่ดีแก่ลูกค้าส่วนมากของคุณ” ระบบพูดแนะนำอย่างจริงใจออกมาในทันที “หรือไม่คุณก็แบ่งร้านอาหารออกเป็นส่วนๆและจัดให้พวกเขานั่งกินอยู่ในส่วนที่กำหนดไว้ของแต่ละเผ่าพันธุ์เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง”
“แล้วนายจะลดจำนวนลูกค้าในภารกิจลูกค้า 1,000 คนมั้ย ?” แม็กซ์ถามอย่างใจเย็น
“ภารกิจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หลังจากที่ให้ไปแล้ว ! ทำภารกิจอย่างจริงจัง ไม่งั้นคุณจะกระตุ้นภารกิจลับอีกครั้ง !” ระบบตอบอย่างเคร่งขรึม
“แล้วทำไมนายถึงแนะนำให้ฉันปฏิเสธลูกค้าครึ่งหนึ่งของฉันล่ะ ? นายเห็นฉันเป็นคนโง่รึไง ?” แม็กซ์เบะปาก
“…” ระบบพูดอะไรไม่ออก
“แล้วนายจะขยายร้านอาหารให้ฉันด้วยเหรอ ?” แม็กซ์ถาม
“ระบบสามารถใช้ได้เฉพาะที่ดินที่คุณเป็นเจ้าของเท่านั้นและตอนนี้ร้านอาหารก็สร้างจนเสร็จแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะขยายร้านในขณะนี้” ระบบตอบ
“ร้านมันเล็กมากแล้วนายยังต้องการให้ฉันแบ่งมันออกเป็นหลายๆส่วนอีก ในร้านสามารถวางโต๊ะได้แค่ 16 โต๊ะเท่านั้น ดังนั้นนายวางแผนที่จะให้ฉันแบ่งให้เผ่าพันธุ์ละสองโต๊ะแล้วติดป้ายว่า ‘เอลฟ์‘, ‘ปีศาจ‘, ‘มนุษย์‘… ระบบนี่คือวิธีที่เทพแห่งการทำอาหารควรทำเหรอ ?” แม็กซ์ถามอย่างเหน็บแนม
“…” ระบบเงียบ
เมื่อเห็นว่าระบบไม่ได้ตอบ แม็กซ์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาจะไม่แบ่งร้านอาหารออกเป็นส่วนๆและจะไม่ปฏิเสธเผ่าพันธุ์อื่นเพราะว่าความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเขาคือการกำจัดอคติในการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ มันเป็นเพราะว่าเอมี่เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ที่ถูกเลือกปฏิบัติอยู่ในตอนนี้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทนไม่ได้
การเดินขบวนประท้วงไม่สามารถทำได้จริงในโลกนี้ เขาจึงตัดสินใจที่จะเริ่มต้นจากการปลูกฝังความคิดของเขาให้กับลูกค้า ดังนั้นเขาจึงมองปีศาจลาวาและยิ้ม “ยินดีต้อนรับ นั่งก่อนสิ”
ลูกค้าคนอื่นๆมองไปที่แม็กซ์ด้วยความแปลกใจ พวกเขาคิดว่าแม็กซ์จะไม่ปล่อยให้ปีศาจเข้ามา เพราะว่ายังไงซะลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ทุกวันก็เป็นมนุษย์
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าไม่ใช่แค่แม็กซ์จะปล่อยให้ปีศาจเข้ามาเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้วางแผนที่จะแยกที่นั่งพิเศษให้กับปีศาจอีกด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ปีศาจจะสามารถนั่งได้ทุกที่ที่ต้องการ บางทีปีศาจอาจจะนั่งลงที่โต๊ะถัดจากพวกเขาหรือแม้แต่นั่งลงที่โต๊ะของพวกเขา !
เมื่อคิดถึงตรงนี้ลูกค้าบางคนก็เริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย ในเมืองนี้ทุกเผ่าพันธุ์อาจจะอยู่ภายใต้การดูแลของวิหารเทา (ขอแก้จาก : โบสถ์เกรย์) และแม้แต่มนุษย์ธรรมดาก็สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบสุข
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่มีแค่เผ่าพันธุ์มนุษย์มันก็ยังมีความขัดแย้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภายในเมืองเคออสเลย โดยทั่วไปแล้วมนุษย์นั้นจะอ่อนแอกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มนุษย์จะถูกฆ่าโดยปีศาจ โทรลหรือไม่ก็ออร์ค ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์จะรู้สึกไม่พอใจ
พวกเขามองดูโร่วเจียหมัวที่ส่งกลิ่นหอมออกมาในมือจากนั้นก็หันไปมองซาเจราส หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งพวกเขาก็กลับไปกินโร่วเจียหมัวของพวกเขาต่อในที่สุด
ไปลงนรกซะ ! มันเป็นเพราะว่าโร่วเจียหมัวนี่อร่อยมาก ฉันจะกินมันต่อให้มีมังกรมานั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันกับฉัน ! พวกเขาคิด