Chapter 9 : วัตถุดิบจากที่ลึกลับ
เอมี่เห็นว่าแม็กซ์เหม่อไปจึงได้ถามขึ้นมา “มีอะไรรึเปล่าคะพ่อ ?” เอมี่ถามขึ้นเพราะไม่เข้าใจท่าทีของแม็กซ์
“โอ้ ไม่มีอะไรหรอกเอมี่” แม็กซ์ส่ายหน้าและยิ้มออกมา “นี่ ดื่มน้ำนี่ซะแล้วเล่นอยู่ในร้าน พ่อจะไปทำข้าวผัดเพิ่ม” เขาผลักแก้วไปให้เอมี่และรีบเดินไปที่ครัว
“เป็นแก้วคริสตัลที่สวยจริงๆ !” เอมี่จับแก้วไว้อย่างดีใจ เธอโน้มตัวไปที่โต๊ะและมองไปที่แก้วสลับไปซ้ายขวาและไม่กล้าดื่มมัน
เมื่อแม็กซ์เข้ามาในครัว เสียงของระบบก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ส่วนผสมในครัวมาจากฟาร์ม อวนปลาและโรงเลี้ยงของระบบซึ่งอยู่ทั่วทั้งทวีป ราคาของมันเท่ากับทรัพยากรของมันเองและไม่คิดค่าขนส่ง ราคานั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นคุณสามารถสบายใจในเรื่องนี้ได้”
“มันจะสมเหตุสมผลได้ยังไงกับการที่ถั่วฝักเดียวมีราคาตั้ง 1 ทองแดงน่ะ ?” แม็กซ์เบะปาก ถ้าเขาไม่ได้กังวลเรื่องบทลงโทษหากทำให้ระบบไม่พอใจ เขาอาจจะวิจารณ์หนักกว่านี้แล้ว
ระบบเงินของทวีปนอร์แลนได้พัฒนามากว่าร้อยปีแล้ว ในช่วงสงครามพวกเขาจะใช้การแลกเปลี่ยนกัน แต่หลังจากที่ทำการสงบศึก เศรษฐกิจก็เริ่มพัฒนาขึ้นแล้วก็เกิดค่าเงินขึ้นมา หลังจากที่เกิดการแข่งขันด้านสกุลเงิน สุดท้ายจักรวรรดิรอทก็เป็นผู้ชนะด้วยการที่มีทรัพยากรจำนวนมาก อัตราการแลกเปลี่ยนที่มีเหตุผล ความมั่นคง ค่าเงินที่หนักแน่นและจำนวนประชากร
ค่าเงินที่น้อยที่สุดคือเหรียญทองแดง แม็กซ์ค้นหาความทรงจำในหัวและพบว่าในเมืองเคออสนี้ค่าของเงิน 1 ทองแดงเท่ากับ 1 หยวน 10 เหรียญทองแดงก็เท่ากับ 1 เหรียญเงิน 10 เหรียญเงินเท่ากับ 1 เหรียญทอง 10 เหรียญทองเท่ากับ 1 เหรียญมังกร
ถ้าเป็นชีวิตก่อนของเขาข้าวผัดถ้วยหนึ่งที่ราคา 296 หยวนคงไม่ได้มีค่าอะไรมากสำหรับเขา แต่ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารแล้ว วัตถุดิบอย่างเดียวก็ราคา 296 ทองแดงแล้ว ดังนั้นเขาจะต้องขายข้าวผัดหยางโจวที่ราคา 500 ทองแดงต่อถ้วยงั้นเหรอ ? ถ้าเป็นแบบนั้นลูกค้าอาจจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ ยังไงซะมันก็มีหลากหลายเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันในเมืองเคออสแห่งนี้
“ถั่วเขียวมาจากพื้นที่ห่างไกลผู้คนส่วนในของป่าทไวไลท์ซึ่งเป็นพื้นที่ของออร์ค แสงอาทิตย์ที่นั่นมี 16 ชม.ต่อวัน ถั่วเขียวแต่ละต้นผลิตได้ 100 ฝักซึ่งจะได้ฝักที่ดีที่สุดแค่ 10 ฝักที่ถูกเลือกมาขาย พวกมันมีรสชชาติหวานและมีสารอาหารอย่างมาก กุ้งมาจากทะเลสตาโรทางตะวันออกเฉียงเหนือของจักรวรรดิรอท น้ำที่นั่นปนเปื้อนและมีไซเรนอยู่ ไม่มีมนุษย์ไปจับปลาที่นั่น มีกุ้งผลิตออกมาได้แค่ 100,000 ตัวต่อปี เนื้อของมันอร่อยเป็นอย่างมาก ข้าวมาจากพื้นที่ส่วนในของป่าไวด์ซึ่งเป็นพื้นที่ของเอลฟ์ มันถูกรดน้ำโดยน้ำใต้ดินจากน้ำพุแห่งชีวิต ไม่มีสารเคมีเจือปน แต่ละไร่นั้นผลิตได้ 300 จิน…”
แม็กซ์ฟังที่มาของราคาจากระบบทีละอย่างๆ รวมถึงวิธีการปลูกและจับของวัตถุดิบแต่ละอย่าง ปากของเขาค่อยๆอ้ากว้างขึ้นอย่างช้าๆ
นี่ไม่ต้องนับเรื่องการปลูกถั่วเขียวในดินแดนของออร์คที่แข็งแกร่ง ทะเลสตาโรก็โด่งดังเรื่องทะเลแห่งความตาย บางทีคนถึงกับบอกว่าแม้แต่มังกรยักษ์ก็หลงทางที่นั่นได้ แต่ระบบกลับบอกว่ากุ้งเอามาจากที่นั่นงั้นเหรอ !?
สำหรับน้ำพุแห่งชีวิต มันคือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ของเอลฟ์และระบบก็ใช้มันในการรดน้ำงั้นเหรอ !? ถึงน้ำจะมาจากใต้ดินแต่มันก็ยังดูเกินไปหน่อย บางทีแม้แต่เอลฟ์บางคนเองก็ยังไม่เคยได้ใช้มันเลยก็มี
สำหรับของอย่างอื่นอย่างเห็ดนั้นถูกปลุกเอาไว้ในเกาะผีของปีศาจ แฮมทำมาจากหมูป่าเงาซึ่งมีแค่ในดินแดนของโทรล หน่อไม้เองก็ถูกขุดมาจากดินดำบนถูเขาวิคซึ่งเป็นดินแดนของก็อบลิน ไข่เอามาจากแม่ไก่ที่อยู่ใกล้กับปราสาทอิสเซ่นซึ่งเป็นที่อยู่ของคนแคระ แม้แต่หัวหอมก็ปลูกขึ้นจากฟาร์มปลาซาร์ดีนใกล้กับท่าเรือลอดาเมียร์ ต้องบอกว่ารสชาติของมันดีกว่าต้นหอมปกติ
แม็กซ์คนเก่าเคยเป็นทหารชายแดนของจักรวรรดิรอท ดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องภูมิประเทศและส่วนที่สำคัญของทวีป เขาไม่ได้สืบทอดธุรกิจของครอบครัวในชีวิตที่แล้วแต่เขาก็ถูกสั่งสอนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มา ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าวัตถุดิบพวกนี้ล้ำค่ามากแค่ไหน
กุ้งลายคาดม่วงราคา 50 ทองแดงต่อตัวมันแพงรึไง ?
ไม่ แม็กซ์ ไม่เห็นว่ามันแพงแม้ว่าราคาของมันจะมากกว่านี้สักสิบเท่าก็ตาม
วัตถุดิบพวกนี้คงลดราคามากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว พวกมันคือของที่ดีที่สุดที่แม้แต่เงินก็ไม่อาจจะหาซื้อได้
นอกจากนี้การขนส่งมันมาก็จะทำให้ราคาของมันสูงมากกว่าเดิม การเก็บของให้สดในระหว่างการขนส่งยังไม่มีให้ใช้ในดลกนี้
คนที่อยู่ในเมืองจะไม่มีโอกาสได้กินอาหารทะเลสดๆนอกซะจากว่าพวกเขาจะมีนักเวทย์ที่ใช้เวทย์คงสภาพวัตถุดิบให้มีชีวิตเอาไว้ระหว่างการขนส่งได้ แต่มันก็เกินไปหน่อย แม็กซ์นึกขึ้นได้ว่าราชวงศ์ของจักรวรรดิรอทมีกลุ่มคนที่รับหน้าที่ในการขนส่งอาหารทะเลและพวกนั้นก็จะใช้นกกลุ่มใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อเหยี่ยวแดงในการขนส่งอาหารทะเล มันเป็นการขนส่งทางอากาศของโลกนี้ ปลาทะเลสดๆในเมืองนั้นจะมีราคามากกว่าที่ท่าเรือเป็นร้อยเท่า
ถ้าหากขายกุ้งลายคาดม่วงหนึ่งตัวด้วยราคา 1,000 ทองแดง จะมีลูกค้าในเมืองมากมายต้องการที่จะซื้อมัน และนั่นถือว่ามันไม่ได้แพงเลย
“ตอนนี้คุณยังสงสัยว่าระบบปล้นคุณอยู่รึเปล่า ?” ระบบถาม
“ไม่ ไม่ ระบบ นายนับว่าใจดีด้วยซ้ำ บางทีนายอาจจะเป็นคนที่ใจดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย” แม็กซ์ตอบอย่างจริงใจ อันที่จริงมันบอกได้ว่าการทำธุรกิจแบบนี้ถือว่าใจดีเกินไปด้วยซ้ำ ลองดูวัตถุดิบในตู้เย็นสิ อยู่ๆแม็กซ์ก็ได้ความคิดบ้าๆขึ้นมา เขาถามขึ้นมาทันที “ระบบ ฉันขายวัตถุดิบแทนที่จะเปิดร้านอาหารได้รึเปล่า ฉันคิดว่าฉันน่าจะหาเงินได้เร็วกว่านะ”
“วัตถุดิบที่ระบบหามาให้นั้นจะถูกใช้สำหรับร้านอาหารเท่านั้นและไม่อนุญาตให้ขาย” ระบบตอบอย่างใจเย็น “ภารกิจใหม่ คุณต้องซื้อวัตถุดิบด้วยเงินสด 3,000 ทองให้ได้ภายในเวลา 10 วัน ถ้าทำสำเร็จจะปลดล็อคสูตรใหม่ ‘โร่วเจี๋ยหมัว’ แต่ถ้าหากล้มเหลวจะทำให้แรง -0.5 หน่วย”
“สะ…สามพันทอง !” แม็กซ์คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าระบบคงจะไม่ให้เขาขายวัตถุดิบ แต่ภารกิจใหม่นี้แทบจะทำให้เขาร้องไห้
สามพันทอง มันเท่ากับสามแสนทองแดง…มันถือว่าเป็นเงินก้อนโต !
นอกจากนี้แล้วนี่ยังเป็นแค่ค่าวัตถุดิบเท่านั้น !
วัตถุดิบสำหรับข้าวผัดหยางโจวหนึ่งจานเท่ากับ 3 ทองซึ่งหมายความว่าเขาต้องขายให้ได้ 1,000 จานในเวลา 10 วัน ถ้าเขาล้มเหลว แรงของเขาจะลดลง 0.5 หน่วยและเขาก็จะกลับไปเป็นคนพิการอีกครั้ง
“ระบบ นี่นายอยากให้ฉันพิการอีกรึไง ?” แม็กซ์อดบ่นไม่ได้
แม้ว่าเขาจะมั่นใจในข้าวผัดหยางโจวของเขา แต่ว่าร้านอาหารยังไม่เปิด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขายได้พันจานในสิบวัน
ในทวีปนอร์แลน ข้าวผัดไม่ค่อยมีคนทำนัก อย่างน้อยเขาก็จำไม่ได้ว่าเคยกินของแบบนี้ในความทรงจำของแม็กคนเก่า
“ภารกิจถูกส่งมอบแล้ว โปรดทำให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ระบบไม่คิดจะต่อรองกับแม็กซ์อีก
“ได้ งั้นเอาเรื่องนี้ไว้ก่อน” แม็กซ์รู้ว่าคงต่อรองไม่ได้อีก ดังนั้นเขาจึงยิ้มและพูดขึ้น “ระบบ ตอนนี้ฉันไม่มีเงินและยังไม่ได้กินข้าวเช้าด้วย นายให้วัตถุดิบกับฉันฟรีๆได้มั้ย ? ถ้าฉันหิวตาย งั้นเรื่องเชฟเทพนี้ก็คงจะจบแน่”
“ดูจากสถานการณ์ของคุณตอนนี้แล้ว ระบบจะทำการปล่อยกู้ให้” ระบบตอบกลับ “คุณมี 3,000 ทองแดงให้ใช้ได้และต้องจ่ายคืนก่อนวันที่ 10 ของเดือนต่อไป คุณเลือกที่จะจ่ายเป็นงวดก็ได้แต่มันจะมีดอกเบี้ย”