AtW ตอนที่ 19 เดิมพัน!
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย
ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ด้วยชื่อโจชัว เขากำลังยืนยิ้มอยู่ “มาตินฉันคิดว่าพวกเรากำลังถูกหลอกแล้วนะ ไม่มีทางที่ชายคนนี้จะมีทักษะการตีดาบที่สุดยอดแบบนั้นได้หรอก”
“ดาบแห่งร้อยทักษะ?” อาเบลหันไปมองซัค ดูเหมือนว่าซัคจะเป็นคนที่โชว์ของขวัญที่เขาได้รับมาให้กับเพื่อนๆ ได้ดู
ซัคกำลังตกอยู่ในอาการเขินอาย เขาเริ่มที่จะถูฝ่ามือทั้งสองข้างไปมาอย่างรวดเร็วระหว่างที่สบตากับเอมิลี่อยู่ “ดูเหมือนว่าเพื่อนๆ ของฉันจะไม่เชื่อว่าน้องชายของฉันเป็นคนสร้างดาบแห่งร้อยทักษะขึ้นมา พวกเขาจึงเริ่มเถียงกันอีกแล้วสินะ”
พ่อของอาเบลมักจะบอกเอาไว้เสมอว่าคนเป็นพี่ชายนั้นสิ่งที่จะต้องมีนั้นก็คือความเป็นผู้ใหญ่นั่นเอง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พี่ชายของอาเบลกำลังตกหลุมรักเอมมิลี่เข้าอย่างจังแล้ว เขาไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป อาเบลที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับพูดไม่ออก
“ดาบเล่มนั้นเป็นแค่การฝึกตีดาบของผมเองครับ” อาเบลอธิบายอย่างแผ่วเบา
เพื่อนของซัคบางคนแสดงสีหน้าตึงเครียดขึ้นมาทันที เพื่อนของซัคไม่รู้ว่าจะตอบกลับอาเบลยังไงดี แต่พวกเขากำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ดาบแห่งร้อยทักษะ ใครจะบ้าเรียกดาบแห่งร้อยทักษะว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนกัน “ฝึกตีดาบ?”
“ใครเป็นคนที่สอนการตีดาบให้เธออย่างงั้นหรอ?” เอมมิลี่ถามอาเบลด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและเปล่งประกาย ดูเหมือนว่าเธอจะอยากรู้เรื่องนี้เป็นพิเศษ
“ผมเรียนตีดาบจากอาจารย์เบธแฮมครับ” อาเบลพยายามตอบอย่างสุภาพมากที่สุดกับเอมิลี่ เธอคนนี้อาจจะเป็นพี่สะใภ้ในอนาคตของอาเบลก็เป็นได้
มาตินที่ฟังอยู่นานพูดแทรกขึ้นมาทันที “ท่านอาจารย์เบธแฮมเป็นที่รู้จักกันดีในเหล่าขุนนางอยู่แล้ว แล้วนายติดตามฝึกฝนกับเขามานานเท่าไหร่แล้วล่ะ?”
“1 เดือนครับ”
มาติน บ๊อบ และเอมิลี่ตกตะลึงทันทีที่ได้ฟังคำตอบของอาเบล “โอ้พระเจ้า เหลือเชื่อเกินไปแล้ว” เพื่อนของซัคทั้งหมดพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดกันไว้
“ถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะมีอาจารย์เบธแฮมเป็นคนสอน” โจชัวพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอาเบล “พวกนายคิดว่าเด็กตัวแค่นี้จะสร้างดาบแบบนั้นได้อย่างงั้นหรอ?”
“เฮ้ อย่าหยาบคายกันสิ!” เอมิลี่พยายามตักเตือนโจชัว ทั้งโจชัวและซัคดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะพยายามที่จะทำให้เอมิลี่ประทับใจอยู่ เอมิลี่ไม่พอใจที่เพื่อนๆ ของซัคไม่เชื่อคำพูดของอาเบลและพยายามที่จะพูดเยาะเย้ยอาเบล ในสายตาของเอมิลี่ซัคเป็นคนที่ซื่อสัตย์อีกคนหนึ่ง ดังนั้นสำหรับเอมิลี่แล้วเธอจึงเชื่อในคำพูดของอาเบลที่เป็นน้องชายของซัคนั่นเอง
โจชัวยังไม่หยุดแค่นี้ เขาเหลือบไปมองที่อาเบลก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังคล้ายกับเสียงขู่ว่า “อาเบล นายคงไม่ได้ขโมยผลงานของอาจารย์นายมาหรอกนะ”
ซัคเริ่มไม่พอใจเช่นกัน “โจชัว หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว นายคงไม่อยากเป็นศัตรูกับฉันหรอกนะ”
มาตินพยายามที่จะแยกทั้งสองคนให้ห่างออกจากกัน “เฮ้พวกนาย ถ้าอยากรู้จริงๆ ว่าใครสร้างดาบเล่มนี้ขึ้นมาแถวนี้มีร้านขายอาวุธที่ชื่อว่าไจแอนท์แฮมเมอร์อยู่ ถ้าเราขอให้ร้านนั่นตรวจสอบว่าใครกันที่สร้างอาวุธนี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร”
“เอางั้นก็ได้” ซัคพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองน้องชายของเขา อาเบลเองก็พยักหน้าตกลงด้วยเช่นกัน
“ดูเหมือนว่านายจะเชื่อมั่นในน้องชายของนายน่าดูเลยนะซัค ทำไมพวกเราไม่ลองพนันกันดูหน่อยล่ะ?” โจชัวพูดท้าทายซัคพร้อมกับหัวเราะไปด้วย
หลังจากที่พูดท้าทายซัคเสร็จโจชัวก็หยิบดาบใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของเขาออกมา “ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดาบเล่มนี้เท่าไรหรอกนะ แต่สิ่งที่แน่ใจได้เลยว่าเบธแฮมคนนั้นเป็นคนสร้างดาบเล่มนี้มากับมือ ถ้าหากดาบของนายไม่ใช่ดาบของเบธแฮมก็เอาดาบของฉันไปได้เลย แต่ถ้าดาบที่น้องนายสร้างเป็นของเบธแฮมนายก็ต้องยกดาบของนายให้กับฉัน ตกลงไหมซัค?”
มาตินที่ฟังอยู่ก็เข้ามาแทรกอีกครั้ง “อย่าเพิ่งท้าทายกันสิ พวกเราก็แค่อยากรู้ความจริงก็เลยตรวจสอบเท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องเดิมพันอะไรเลยนิ”
แม้แต่บ๊อบที่เงียบมาตลอด เขาได้ก้าวออกมาและพยายามที่จะยุติสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ลง “พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ? ถ้าจะเดิมพันอะไรทำไมเราไม่เดิมพันให้คนที่แพ้เลี้ยงอาหารในมื้อค่ำนี้ล่ะ?”
โจชัวพูดต่อไป “หวังว่านายจะไม่ปอดแหกนะซัค?”
เอมิลี่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เธอไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้รุนแรงขนาดไหน สิ่งที่เธอสนใจก็คือการตรวจสอบดาบที่จะมาถึงนั่นเอง
“งั้นฉันจะเป็นผู้ตัดสินให้เอง” เอมิลี่พูดขออาสาขึ้น “ใครที่แพ้การเดิมพันนี้จะต้องยกของวางเดิมพันให้อีกฝ่ายทันที ถ้าหากไม่ยอมมอบของเดินพันให้คนคนนั้นจะต้องลิ้มรสบทลงโทษของฉัน ตกลงไหม”
เอมิลี่ดูตื่นเต้นมากขึ้น มาตินกับบ๊อบเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะทำให้ผู้ชายทั้งสองคนต้องทำอะไรโง่ๆ สินะ
อาเบลที่ฟังอยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย นับตั้งแต่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรก โจชัวไม่เคยเห็นด้วยอะไรเลยกับตัวของอาเบลและซัค ถ้าหากไม่มีใครพูดอะไรอาเบลคงคิดว่าโจชัวคนนี้เป็นศัตรูของซัคอย่างแน่นอน
“แน่นอน ฉันเอาด้วย” ซัคตอบด้วยความเดือดดาล ซัคยอมไม่ได้ที่เห็นโจชัวพยายามทำให้น้องชายของเขาต้องเสียหน้า แถมการเสียหน้าครั้งนี้ทำให้ซัคดูไม่ดีในสายตาเอมิลี่ด้วย วิธีการที่สุดแสนจะสกปรกนี้มาจากศัตรูความรักของเขานั่นเอง
ร้านขายอาวุธไจแอนท์แฮมเมอร์เป็นร้านขายอาวุธและชุดเกราะ เมื่อลูกค้าทั้งหลายเข้ามาในร้านนี้ครั้งแรกสิ่งที่จะเห็นก็คือเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ที่ทำมาจากไม้เนื้อแข็งทั้งหมด
ยินดีต้อนรับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ที่นี่ร้านขายอาวุธไจแอนท์แฮมเมอร์ ฉันเป็นผู้จัดการร้านมีชื่อว่าเท็ด พวกคุณต้องการอะไรกันอย่างงั้นหรอ?” ชายวัยกลางคนพูดต้อนรับก่อนที่จะถามพวกซัคทันที
“อ่า คุณเท็ด เรามาที่นี่เพื่อให้คุณตรวจสอบดาบใหญ่เล่มนี้ ได้โปรดพาผู้ประเมินดาบที่เก่งที่สุดเพื่อช่วยพวกเราตรวจสอบดาบเล่มนี้ด้วย” โจชัวพูดความต้องการของเขาออกมาอย่างเร่งรีบ
“ได้โปรดรอสักครู่ ฉันเป็นคนตัดสินเอง” เอมิลี่ประท้วงขึ้น “ตอนนี้ฉันกำลังจริงจังอยู่นะ” เอมมิลี่มองไปที่ใบหน้าของซัคและโจชัว “เอาดาบทั้งสองเล่มมาให้ฉัน ฉันจะรับผิดชอบตัดสินเรื่องในครั้งนี้เอง”
ซัคหยิบดาบของเขาที่อาเบลมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ส่งให้กับเอมิลี่ไป โจชัวเองดูเหมือนจะลังเลอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเขาเห็นซัคส่งดาบให้กับเอมิลี่โจชัวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งดาบที่อยู่ในมือของเขาให้กับเอมิลี่ไปเช่นกัน
“ลังเลเป็นผู้หญิงไปได้” เอมิลี่พูดขึ้นเมื่อเห็นโจชัวแสดงความลังเลออกมา นี่ถือเป็นเรื่องแปลกที่เอมิลี่พูดว่าโจชัวเช่นนี้ แต่เอมิลี่ก็ไม่ได้สนใจ เธอรีบคว้าดาบของโจชัวไป
ในขณะเดียวกันนี้เองเท็ดก็ได้เรียกชายเครายาวออกมา “คนคนนี้คือผู้ประเมินอาวุธทางร้านไจแอนท์แฮมเมอร์ คุณหนูโปรดส่งมอบดาบทั้งสองเล่มให้กับเขาด้วย สำหรับค่าตรวจสอบแล้วผมขอคิดเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2 เหรียญทองละกันนะ”
เอมิลี่หยิบเหรียญทอง 2 เหรียญออกมาก่อนที่จะมอบให้เท็ดผู้จัดการร้านขายอาวุธในทันที “โอเค คุณช่วยตรวจสอบอาวุธชิ้นนี้หน่อยได้ไหม? พวกเราอยากจะรู้ว่ามันเป็นผลงานของเบธแฮมไหม?”
ผู้ประเมินอาวุธรู้สึกตื่นเต้นทันทีที่เห็นดาบของซัค เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสตรวจสอบผลงานของช่างตีดาบที่มากฝีมือแบบนี้มาก่อน ชายคนนั้นหยิบดาบเล่มใหญ่ไปตรวจสอบด้วยความระมัดระวังที่มากเป็นพิเศษ
ชายผู้ประเมินอาวุธกำลังสัมผัสดาบของซัคอย่างช้าๆ แต่เมื่อเขาสัมผัสไปได้สักพักชายผู้ประเมินเองก็แสดงท่าทีที่ตื่นเต้นออกมายิ่งกว่าเดิม เขากำลังลูบใบดาบด้วยนิ้วของเขาราวกับว่ากำลังใช้นิ้วลูบสมบัติของมีค่าอย่างไงอย่างงั้น
“ใครก็ตามที่สร้างผลงานชิ้นนี้ขึ้น มันเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบจริงๆ” ชายผู้ประเมินอาวุธกำลังบ่นพึมพำอยู่ “ใครกันนะที่สร้างอาวุธแบบนี้ได้กัน ดาบแห่งร้อยทักษะแบบนี้? แค่ดูจากความคมก็รู้ได้ทันทีว่าดาบเล่มนี้คมแค่ไหน ไม่น่าเชื่อจริงๆ”
ชายผู้ประเมินอาวุธกำลังหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัวของเขาโดยสิ้นเชิง ในตอนนี้เขาอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าเขากำลังทำงานเพื่อตรวจสอบอาวุธทั้งสองชิ้นอยู่
“เอ่อ อืมมม” เอมมิลี่พยายามกระแอมอยู่หลายครั้งเพื่อดึงสติของผู้ประเมินอาวุธกลับมา “ตกลงแล้วมันเป็นผลงานของเบธแฮมไหม?”
“โอ้ แน่นอนว่าไม่!” ชายผู้ประเมินอาวุธสูงอายุพูดอย่างมั่นใจ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนทำ แต่มันไม่ใช่ผลงานของเบธแฮมคนนั้นอย่างแน่นอน”
“อะไรนะ…มันเป็นไปได้ไงกัน?” โจชัวขว้างปลอกดาบอย่างไม่พอใจไปที่เพดานของร้านขายอาวุธร้านนี้ โจชัวคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของชายผู้ประเมินอาวุธคนนี้ แต่การที่ชายผู้ประเมินอาวุธคนนี้ปฏิเสธว่าดาบเล่มนี้ไม่ใช่ผลงานของเบธแฮมนั้นมันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับโจชัวมากเกินไป ใครกันที่ทำผลงานได้ออกมาดีเยี่ยมในขนาดนี้ได้
โจชัวเริ่มดูกังวลมากยิ่งขึ้น “คุณแน่ใจแล้วนะ ว่าคุณดูถูกแล้ว?” โจชัวยังคงถามต่อไป “คุณคงรู้สินะว่าเรื่องในครั้งนี้คงไม่จบอย่างง่ายๆ แน่นอนถ้าคุณยังไม่รีบบอกความจริงออกมาน่ะ”
ชายผู้ประเมินอาวุธจ้องหน้าของโจชัวอย่างเย็นชา “ถ้าหากคุณไม่พอใจแล้วละก็คุณก็ฟ้องนายกเทศมนตรีของเมืองเลยสิ แต่จำไว้หน่อยก็ดีนะว่าร้านขายอาวุธร้านนี้เป็นของท่านเจ้าเมืองน่ะ ถ้าหากคุณสงสัยอะไรจนก่อเรื่องเข้าให้ผมเกรงว่าคุณจะต้องรับผลที่ตามมาให้ได้ด้วยนะ”
เอมิลี่รีบเข้ามาห้ามโจชัวทันที ดูเหมือนว่าโจชัวจะพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะให้ชายผู้ประเมินอาวุธคนนี้พูดเข้าข้างเขาให้ได้ เอมิลี่รีบหยิบดาบทั้งสองเล่มให้กับซัคก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป เอมิลี่ทำเหมือนไม่รู้จักกับโจชัวอีกต่อไป
ก่อนที่เอมิลี่จะเดินออกจากร้านไป ชายผู้ประเมินอาวุธเองก็ยังพูดทิ้งท้ายไว้อีกว่า “จะขายดาบใหญ่เล่มนี้ไหมล่ะ?” ชายผู้ประเมินอาวุธยังพูดด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อไปอีกว่า “ฉันจะให้ราคา 1200 เหรียญทอง “
นี่เป็นข้อเสนอที่แปลกมาก เอมิลี่ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอได้ยินเท่าไร เธอจึงรีบหันหลังกลับไปถามความจริง “จากที่ฉันเคยได้ยินดาบแห่งร้อยทักษะจะขายกันในราคา 1000 เหรียญทองไม่ใช่หรอ ทำไมคุณถึงเสนอราคา 1200 เหรียญทองล่ะ?”
ไม่ใช่แค่เอมิลี่คนเดียวเท่านั้นที่อยากรู้ คนอื่นๆ ที่อยู่ด้วยกันกับเอมิลี่เองก็อยากรู้เช่นกัน แม้แต่อาเบลเองก็อยากรู้ด้วย ถึงแม้ว่านี้จะเป็นชีวิตที่สองของอาเบลแต่นี้ก็เป็นเหมือนกับดาบเล่มแรกของเขา อาเบลอยากรู้ว่าที่จริงแล้วดาบที่เขาสร้างนั้นมีมูลค่าเท่าไรกันแน่
“1000 เหรียญทองเป็นราคาของดาบแห่งร้อยทักษะธรรมดาๆ เท่านั้น มูลค่าของดาบที่แท้จริงจะเพิ่มมากขึ้นตามคุณสมบัติของดาบนั้นๆ การวัดคุณสมบัติของดาบจะสามารถทำได้โดยการทดลองฟันเพียงไม่กี่ครั้ง ฉันมั่นใจเลยนะว่าดาบเล่มนี้จะต้องแข็งแกร่งกว่าดาบแห่งร้อยทักษะธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน มันจะต้องทำลายดาบแห่งร้อยทักษธรรมดาได้อย่างง่ายดาย ถ้าหากดาบเล่มนี้ตกอยู่ในมือของผู้มากความสามารถแล้วละก็ดาบเล่มนี้จะเพิ่มความสามารถให้กับคนคนนั้นได้มากถึง 2 เท่าเลยทีเดียว”
โจชัวแพ้ให้กับเดิมพันในครั้งนี้ หลังจากที่กลุ่มของซัคออกจากร้านขายอาวุธพร้อมกันโจชัวก็ได้เดินจากไปแต่เพียงลำพัง เขาคงอับอายมากเกินกว่าที่จะอยู่ร่วมกลุ่มกับซัค
“เฮ้ซัค ทำไมนายไม่ตะโกนให้ใครสักคนเลี้ยงข้าวพวกเราคืนนี้ล่ะ?” มาตินและบ๊อบพูดในขณะที่มองดาบใหม่ที่ซัคได้มา ส่วนเอมิลี่เองใช้เวลาส่วนใหญ่มองไปที่อาเบลอย่างสงสัย แต่เป็นโชคดีสำหรับอาเบลที่เธอยังไม่ได้ถามคำถามใดๆ กับเขา ไม่ว่าอาเบลจะมีความลับแบบไหน ความสุภาพของเอมิลี่เองก็คอยห้ามไม่ให้ถามอะไรไม่สุภาพกับอาเบล
สุดท้ายแล้วเอมิลี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอได้เอยถามอาเบลหลังจากที่จ้องมองอยู่นาน “อาเบล นายช่วยสร้างดาบให้กับฉันได้ไหม? ฉันจะจ่ายค่าตอบแทนให้สาสมอย่างแน่นอน”
“ผมสร้างอาวุธให้กับครอบครัวของผมเท่านั้นครับ” อาเบลรีบปฏิเสธไปในทันที
เพื่อเห็นแก่ความถูกต้อง ถ้าหากอาเบลยอมสร้างดาบให้กับเอมิลี่ มาตินและบ๊อบเองคงจะต้องขอให้อาเบลสร้างดาบให้กับพวกเขาทั้งสองคนต่อไปอย่างแน่นอน
“เฮ้!” เอมิลี่ร้องเรียกอย่างเสียงดังในขณะที่มองซัคและอาเบลอยู่