AtW ตอนที่ 42 ดาบไร้ที่คุณลักษณะพิเศษ
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย
ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือการวางอัญมณีลงในช่องใส่อัญมณีนั่นเอง เมื่อใส่อัญมณีไปแล้วอาเบลจะต้องใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นในการชักนำพลังจากรูนไปสู่อัญมณีนี้
ในตอนนี้อาเบลมีดาบระเบิด 2 เล่มและคัมภีร์วาร์ปเท่านั้นที่อยู่ในฮอร์ราดริกคิวบ์ของอาเบล ในระหว่างการต่อสู้กับโวร์แกนอย่างไซมอน อาเบลได้ใช้ดาบระเบิดไป 1 เล่มเพื่อจัดการกับไซมอนนั่นเอง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอาเบลก็ไม่ได้สร้างดาบระเบิดขึ้นมาอีกเลย ถ้าหากอาเบลสร้างดาบล้มเหลวอีกครั้งในเวลานี้ก็เท่ากับว่าอาเบลจะได้ดาบระเบิดเล่มที่สามนั่นเอง
ในขั้นตอนการชักนำพลังนี้อาเบลได้มีประสบการณ์ในการทำมาแล้วมากมายดังนั้นการที่จะชักนำพลังจากรูนไปสู่อัญมณีได้จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงอาเบลก็สัมผัสได้ว่าพลังจากรูนที่ไหลไปสู่อัญมณีนั้นไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะสามารถใช้งานได้ หลังจากที่ชักนำพลังจากรูนที่อาเบลได้เขียนขึ้นมารูนอันนั้นก็ได้กลายเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานหลังจากนั้นมันก็ละลายหายไปในทันที หลังจากที่รูนละลายหายไปพลังของอัญมณีเองก็หายไปเช่นกัน
การล้มเหลวในการสร้างดาบเวทย์ในครั้งนี่้ไม่เหมือนกับครั้งไหนๆ ที่อาเบลเคยทำพลาด มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไป ดูเหมือนว่าปัญหาครั้งนี้จะอยู่ที่หมึกในการเขียนรูน
แต่ความล้มเหลวครั้งนี้มันไม่ควรที่จะเป็นไปได้ ในตอนที่อาเบลผสมหมึกเสร็จแล้วก็มีแสงสีขาวส่องประกายออกมาจากตัวหมึกในทันที การที่มีแสงนั้นก็หมายความว่าสูตรที่ผสมหมึกนั้นถูกต้องแล้ว
หรือนี่เป็นเพราะระดับของหมึกที่อาเบลสร้างจะไม่สูงมากพอ? หรือนี่อาจเป็นเพราะพลังของอัญมณีนั้นทรงพลังเกินไป? ในตอนนี้อาเบลได้แต่ประเมินความผิดพลาดของตัวเอง อาเบลได้ใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดในการทำหมึกแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาส่วนผสมที่ดีกว่านี้มาผสมหมึกได้
อาเบลยังคงใช้ความคิดของตัวเองอยู่ ในคู่มือการทำอาวุธเวทย์ของคนแคระเองก็มีคำแนะนำ ภาพและโครงสร้างของรูน รวมไปถึงสูตรการทำหมึกสำหรับการเขียนรูน ในสูตรหมึกแต่ละสูตรนั้นต่างก็มีคุณลักษณะพิเศษประจำหมึกอยู่ หรือความจริงแล้วหมึกที่อาเบลสร้างขึ้นไม่ได้มีไว้เขียนรูนที่ปราศจากคุณลักษณะพิเศษ อาเบลไม่สามารถรู้ได้เลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็คงมีแต่การถามผู้สร้างอย่างคนแคระเท่านั้น
แต่ที่จริงคนแคระก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน ส่วนผสมที่ใช้สำหรับทำหมึกเพื่อสร้างรูนคุณสมบัติต่ำเป็นอะไรที่หาได้ยากเกินไปสำหรับคนธรรมดาทั่วไป คงไม่มีใครสามารถหาวัสดุพวกนี้มาได้เว้นแต่จอมเวทย์เพียงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองเหล่าคนแคระจึงไม่ได้บันทึกรูนชนิดนี้เอาไว้ในหนังสือที่พวกเขาได้สร้างขึ้น
หมึกที่ใช้เขียนรูนทั่วไปนั้นจะสามารถดึงพลังจากคุณลักษณะพิเศษของแหล่งกำเนิดพลังแบบเดียวกันออกมาใช้งานได้ แต่หมึกที่อาเบลเป็นคนทำขึ้นนั้นกลับมีคุณลักษณะพิเศษอยู่หลายอย่างมากเกินไปจึงทำให้รูนที่ถูกเขียนขึ้นโดยหมึกที่อาเบลสร้างนั้นไร้คุณลักษณะพิเศษไปในที่สุด หรือจะพูดให้ถูกก็คือหมึกที่อาเบลได้สร้างขึ้นมีส่วนผสมจากคุณลักษณะต่างๆ มากเกินไป ดังนั้นส่วนผสมอื่นๆ ทั่วไปที่ถูกนำมาผสมทำเป็นหมึกด้วยจึงไม่อาจที่จะต้านทานส่วนผสมที่มีคุณลักษณะพิเศษได้ ดังนั้นแล้วอักษรรูนที่อาเบลเขียนจึงละลายหายไปนั่นเอง
ในตอนที่อาเบลได้ล้มเหลวในการสร้างอาวุธเวทย์มนตร์อาเบลก็ได้หยิบสัญลักษณ์รูนออกมาจากกระเป๋าของตัวอาเบลเอง จากที่อัศวินมาแชลได้บอกไว้ สัญลักษณ์รูนอันนี้จะสามารถขับไล่พวกศัตรูได้ ถ้าหากสัญลักษณ์รูนอันนี้ทำแบบที่อัศวินมาแชลได้พูดไว้ได้จริงแสดงว่ารูนที่ปราศจากคุณลักษณะพิเศษรูนนี้สามารถที่จะใช้งานได้อย่างแน่นอน แต่มีเพียงปัญหาเดียวนั้นคืออาเบลไม่รู้เลยว่าต้องใช้หมึกแบบไหนในการเขียนรูนอันนี้กันแน่ นอกจากนี้เองสัญลักษณ์รูนอันนี้ก็ยังเหมือนกับมีแหล่งพลังงานเป็นของตัวเองอีกด้วย ในตอนนี้สัญลักษณ์รูนยังคงปรากฎอยู่ การที่สัญลักษณ์ยังปรากฎอยู่แสดงว่ามันจะต้องได้รับพลังจากแหล่งพลังงานอะไรบางอย่างที่อาเบลไม่รู้อย่างแน่นอน
ในตอนนี้อาเบลกำลังติดอยู่ในความคิดของตัวเองต่อไป ในอดีตอาเบลสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำยาเดินลมปราณได้ แล้วทำไมหมึกสำหรับการเขียนรูนเองจะเพิ่มประสิทธิภาพไม่ได้ล่ะ?
ในตอนนี้อาเบลกำลังรู้สึกมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ถ้าหากดาบที่อาเบลได้สร้างขึ้นกลายเป็นดาบที่ล้มเหลวจนเป็นดาบระเบิดไปก็เท่ากับว่าอาเบลจะได้ดาบระเบิดเล่มที่สามมาเก็บไว้ในฮอร์ราดริกคิวบ์นั่นเอง การที่มีดาบเล่มระเบิดทั้งสามเล่มเก็บเอาไว้ในคิวบ์ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรสำหรับอาเบลเลย การเก็บดาบระเบิดเอาไว้เยอะเกินความจำเป็นมีแต่จะทำให้เปลืองช่องของฮอร์ราดริกคิวบ์มากกว่า สุดท้ายแล้วอาเบลจึงตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง
เพื่อที่จะทำตามสิ่งที่อาเบลได้คิดเอาไว้อาเบลได้ขุดหลุมลึกใกล้ๆ กับปราสาทแฮรี่ทันที หลังจากนั้นอาเบลก็ได้นำดาบระเบิดของเขาทั้งสองเล่มที่มีอยู่แล้วออกมาทันที
ตู้ม! มีเสียงระเบิดดังขึ้น ตอนนี้อาเบลได้เคลียร์ช่องของฮอร์ราดริกคิวบ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาเบลคิดว่าเขาควรจะทำแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
หลังจากที่จัดการกับดาบระเบิดทั้ง 2 เล่มเสร็จอาเบลก็ได้เดินกลับมาที่ห้องตีเหล็กส่วนตัวของเขาทันที ตอนนี้อาเบลได้หยิบคัมภีร์วาร์ปออกมาจากฮอร์ราดริกคิวบ์ก่อนที่จะเก็บมันใส่กล่องโลหะเอาไว้ด้วยความระมัดระวัง นี่เป็นเหมือนสมบัติติดตัวแสนสำคัญของอาเบล ถ้าหากอาเบลไม่ต้องการที่จะใช้ฮอร์ราดริกคิวบ์เพื่อที่จะรวบรวมอะไรบางอย่างอาเบลก็คงไม่ต้องเอาคัมภีร์วาร์ปออกมาจากคิวบ์แบบนี้ การเก็บคัมภีร์อันนี้เอาไว้ในกล่องเหล็กคงเป็นวิธีเดียวที่จะเก็บคัมภีร์เอาไว้ให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่อาเบลจะนึกได้แล้วในเวลานี้
อาเบลได้หยิบส่วนผสมเพิ่มเติมอื่นๆ ออกมาดู อาเบลได้ทำหมึกที่ปราศจากคุณลักษณะพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 ครั้งด้วยกัน จากนั้นอาเบลก็ได้ใส่หมึกที่ตัวอาเบลทำขึ้นลงไปในฮอร์ราดริกคิวบ์ของเขาทันที หลังจากนั้นก็ได้มีแสงไฟสีขาวส่องสว่างขึ้นมา หมึกสำหรับการเขียนรูนทั้ง 3 ขวดก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ที่มุมบนซ้ายของฮอร์ราดริกคิวบ์กลับมีขวดใส่หมึกขวดใหม่ปรากฎขึ้นแทน
อาเบลประสบความสำเร็จแล้ว นี่เป็นเหมือนการเปิดทางสำหรับการใช้งานฮอร์ราดริกคิวบ์ในอนาคตของอาเบลเอง ตอนนี้อาเบลรู้ได้ทันทีว่าหมึกที่ตัวเขาได้มาจะต้องมีมูลค่าสูงกว่าหมึกชนิดอื่นๆ ที่เคยมีในโลกใบนี้อย่างแน่นอน ถ้าหากคนแคระเห็นเข้าแน่นอนว่าคนแคระทั้งหลายจะต้องยินดีแลกเปลี่ยนอัญมณีอย่างนับไม่ถ้วนเพื่อหมึกขวดนี้อย่างแน่นอน
อาเบลหยิบขวดหมึกที่ได้มาใหม่เทใส่ลงไปในขวดคริสตัลสีดำทันที ตอนนี้ขวดคริสตัลที่อาเบลได้เตรียมเอาไว้ได้ส่องแสงประกายสีน้ำเงินออกมา จากประสบการณ์ของอาเบลในการผสมน้ำยาเดินลมปราณที่ผ่านมาทำให้อาเบลรู้ได้ทันทีว่าหมึกที่อาเบลผสมได้นั้นเป็นหมึกสำหรับการทำรูนระดับกลางนั่นเอง และแน่นอนว่าหมึกที่อาเบลทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นหมึกสำหรับการทำรูนระดับพื้นฐานทั้งนั้น
หลังจากที่ได้หมึกสำหรับการเขียนรูนระดับกลางมาแล้วอาเบลก็ได้หยิบดาบเล่มเดิมออกมาในทันที ตอนนี้อาเบลไม่รอช้าอีกต่อไปเขารีบเขียนอักษรรูนขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งด้วยความรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าการใช้หมึกระดับกลางเองจะต้องกินพลังแห่งความมุ่งมั่นของอาเบลมากกว่าเดิม หลังจากที่อาเบลได้เขียนรูนเสร็จอาเบลก็รู้สึกหมดแรงในทันที ตอนนี้ความอ่อนล้าได้เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของอาเบลแล้ว ความรู้สึกนี้ทำให้อาเบลนึกถึงความพยายามในครั้งแรกของเขาในการเขียนรูนนั่นเอง
อาเบลใช้เวลาพักอยู่ครู่หนึ่ง ทันทีที่พลังแห่งความมุ่งมั่นของอาเบลฟื้นฟูกลับมาอาเบลก็ไม่รอช้ารีบใส่อัญมณีลงไปในดาบทันที จากนั้นอาเบลก็ได้ใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นในการชักนำพลังอีกครั้งหนึ่ง
ในครั้งนี้อาเบลได้ชักนำพลังเหมือนกับครั้งก่อนๆ แต่ในครั้งนี้อาเบลไม่สามารถที่จะควบคุมพลังทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวอาเบลเองไม่อาจที่จะชักนำพลังไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับครั้งก่อนๆ ที่อาเบลทำได้ แต่ถึงแบบนั้นอาเบลก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าตัวเขาเองจะสามารถชักนำพลังได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับครั้งก่อนๆ เมื่ออาเบลได้ชักนำพลังมาใกล้ๆ กับอัญมณีแล้ว พลังที่อาเบลได้ชักนำมาก็ไหลซึมเข้าไปในอัญมณีอย่างรวดเร็วคล้ายกับรถที่กำลังเร่งความเร็วอยู่บนทางด่วนยังไงยังงั้น นอกจากนี้อาเบลยังใช้พลังแห่งความตั้งใจของตัวเองในการเร่งพลังความเร็วอีกด้วย ตอนนี้อาเบลสามารถเสร็จสิ้นกระบวนการชักนำพลังได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของอาเบลกำลังจับจ้องไปที่ดาบเวทย์อย่างไม่ละสายตา ดาบเวทย์ส่องประกายแสงสีน้ำเงินออกมา ประกายแสงสีน้ำเงินที่ส่องออกมากลับไม่เหมือนกับประกายแสงตอนที่อาเบลได้ทำดาบเวทย์น้ำแข็ง เท่าที่อาเบลสังเกตเห็นดาบมีประกายแสงสีน้ำเงินเหมือนกับตอนที่อาเบลได้สร้างหมึกระดับกลางสำเร็จนั่นเอง
ประกายแสงสีน้ำเงินที่ส่องออกมาจากดาบเองส่องสว่างอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะจางหายไปในที่สุด ตอนนี้อาเบลได้แต่มองดาบเวทย์ที่อยู่ในมือของตัวเองเท่านั้น
“ประกายแสงสีน้ำเงิน นี่หมายความว่าดาบเล่มนี้เป็นดาบเวทย์ที่มีระดับสูงกว่าดาบเวทย์เล่มอื่นๆ แล้วอย่างงั้นหรอ?” อาเบลได้แต่พูดกับตัวเอง
แต่ไม่มีใครเลยที่จะตอบกลับอาเบล เมื่อการทดลองของอาเบลมาถึงจุดนี้ได้อาเบลก็คงทำได้เพียงตั้งข้อสันนิษฐานและทดลองต่อไปได้เท่านั้น
อาเบลได้ทดลองโบกดาบเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้ไปมา ความรู้สึกตอนที่อาเบลมีโบกดาบเวทย์เล่มนี้เหมือนกับความรู้สึกที่อาเบลนั้นได้โบกดาบธรรมดาๆ หรือว่ามันจะสามารถที่จะใช้งานอย่างอื่นได้กัน
จากนั้นอาเบลก็ได้ลองผ่าฟืนด้วยดาบเวทย์เล่มนี้ อีกครั้งแล้วที่ความรู้สึกของอาเบลยังคงเหมือนเดิม ตอนนี้อาเบลไม่ได้รู้สึกเลยว่ามีอะไรพิเศษเกิดขึ้น
อาเบลได้เอาคัมภีร์วาร์ปใส่กลับไปเก็บในฮอร์ราดริกคิวบ์ดังเดิม ตอนนี้อาเบลได้เดินออกจากห้องไปพร้อมกับดาบเวทย์เล่มใหม่ของเขา
“เห็นอัศวินมาแชลไหมครับ?” อาเบลหยุดถามทันทีที่เห็นลินด์เซ่ ตอนนี้เขากำลังดูยุ่งๆ อยู่กับงานพ่อบ้านของเขา
“นายน้อย นายท่านกำลังฝึกฝนตัวเองอยู่ที่ห้องฝึกฝนครับ” ลินด์เซ่ตอบอาเบลทันที จากนั้นอาเบลก็ขอบคุณลินด์เซ่ก่อนที่จะไปที่ห้องฝึกฝนในทันที
พ่อบ้านลินด์เซ่ได้แต่ยิ้มในขณะที่เฝ้ามองอาเบลเดินจากไป ตอนนี้เขารู้สึกภูมิใจในตัวนายน้อยคนนี้เป็นอย่างมาก ตอนนี้อาเบลที่มีอายุ 13 ปีนั้นกลับไม่ได้สนใจการใช้ชีวิตอย่างหรูหราเหมือนกับชนชั้นสูงคนอื่นๆ เลย ทุกคนรู้ดีว่าอาเบลนั้นเป็นอัจฉริยะแค่ไหน แต่ใครจะรู้แล้วว่าความพยายามของเด็กหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้มีน้อยไปกว่าความเป็นอัจฉริยะของเขาเลย
ในความคิดของพ่อบ้านลินด์เซ่นั้น เขาไม่เคยเห็นนายน้อยของชนชั้นสูงตระกูลไหนเลยที่ใช้เวลาในชีวิตไปกับการฝึกฝนเหมือนกับอาเบล หลังจากที่นายน้อยตระกูลแฮรี่ได้กลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กไป สิ่งที่ทุกวันนี้อาเบลยังคงทำอยู่นั้นก็คือการหมกตัวอยู่ในห้องตีเหล็กของเขาเอง
มีคนไม่มากนักนอกเหนือจากพ่อบ้านลินด์เซ่ที่จะรู้ความจริงเรื่องนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าอัศวินมาแชลนั้นมีดาบเวทย์น้ำแข็งอยู่ ผู้ที่ช่วยเหลือและกอบกู้ปราสาทแฮรี่จากการบุกโจมตีจากพวกออร์คก็คือนายน้อยอย่างอาเบลนั่นเอง ด้วยธนูแฮรีและกับดักหมียักษ์ที่อาเบลได้สร้างขึ้นทำให้การรุกรานของออร์คนั้นถูกป้องกันไว้ได้ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณความสามารถนายน้อยอย่างอาเบลจริงๆ
ถ้าหากอาเบลได้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว สมบัติของอัศวินมาแชลทั้งหมดก็คงต้องตกอยู่ในมือของอาเบลอย่างแน่นอน แต่ด้วยความสามารถที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดในตัวอาเบลแล้ว เขาจะต้องนำพาสิ่งของใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ มาให้กับคนรอบข้างของเขาอย่างแน่นอน
ในทางกลับกันอาเบลดูเหมือนจะไม่ได้กังวลเกี่ยวกับอนาคตเหมือนกับที่พ่อบ้านลินด์เซ่คิดเอาไว้เลย ตอนนี้สิ่งที่อาเบลต้องการทำมีเพียงการทดสอบดาบเวทย์เล่มใหม่กับอัศวินมาแชลเท่านั้น
ในช่วงเวลาที่อาเบลเดินเข้าไปในห้องฝึกฝนอาเบลก็ได้ยินเสียงดาบใหญ่ที่กำลังฟาดฟันอยู่กลางอากาศ ดูเหมือนว่าอัศวินมาแชลนั้นกำลังฝึกพื้นฐานของการต่อสู้อยู่
อาเบลไม่ได้อยากที่ขัดจังหวะการฝึกฝนของอัศวินมาแชล ตอนนี้อาเบลได้เฝ้าดูการฝึกฝนและรอคอยอัศวินมาแชลอยู่ด้านหลังจนกว่าอัศวินมาแชลจะฝึกฝนจนเสร็จสิ้น
อัศวินมาแชลได้แต่ฝึกฝนการต่อสู้พื้นฐานต่อไป ถึงแม้ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบพื้นฐานแต่อาเบลก็ยังรู้สึกถึงแรงกระทบที่มเกิดาจากการแกว่งดาบในระยะไกลได้อยู่ดี อัศวินมาแชลได้ใช้พละกำลังของเขาทั้งหมดในการแกว่งดาบใหญ่เล่มนั้นต่อไป
หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกแกว่งดาบแล้วอัศวินมาแชลก็ได้ฝึกการเคลื่อนไหวของเขาต่อไป อาเบลที่ยืนดูอยู่ได้แต่จินตนาการต่อไป ตอนนี้อาเบลได้แต่จินตนาการว่าถ้าหากเขาต้องยืนเผชิญหน้ากับอัศวินมาแชลในตอนนี้ตัวเขานั้นจะทำอะไรได้บ้าง