อาเบลได้เล่นกับลมทมิฬอยู่พักหนึ่งในค่ำคืนนี้ หลังจากที่ฝึกฝนเทคนิคการหายใจแบบอัศวินแล้วอาเบลก็ไม่ลืมที่จะนวดลมทมิฬด้วยลมปราณของเขา
อาเบลยิ้มก่อนที่จะพูดกับลมทมิฬออกไป “โตเร็วๆ นะ โตมาเป็นสุดยอดหมาป่าให้ได้ล่ะ เมื่อนายโตแล้วนายจะต้องแบกฉันพร้อมกับอาวุธให้ได้ล่ะ!”
ลมทมิฬได้มองไปที่ใบหน้าของอาเบล ดวงตาของมันเบิกกกว้างราวกับว่าไม่เข้าใจว่าเจ้านายของมันนั้นพูดอะไรออกมากันแน่ ลมทมิฬได้แต่สงสัยว่ารอยยิ้มบนหน้าของอาเบลนั้นหมายความว่าอะไรกันแน่
การตอบสนองของลมทมิฬนั้นทำให้อาเบลรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ดูน่ารักแล้วตอนนี้ลมทมิฬที่อยู่ในรูปร่างของลูกหมาป่านั้นยังดูน่าเอ็นดูอีกด้วย ตอนนี้ลมทมิฬเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากแล้วเพราะว่าเทคนิคการเพิ่มขีดความสามารถของสัตว์ที่อาเบลใช้นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาแล้วนั่นเอง
ถ้าหากมีนักบวชหรือพวกออร์คเห็นการเจริญเติบโตของลมทมิฬเข้า พวกเขาจะต้องแปลกใจที่ลมทมิฬสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วแบบนี้แน่นอน นี่อาจเป็นเพราะอาเบลได้ใช้พลังลมปราณสีทองของเขาในการเพิ่มขีดความสามารถของสัตว์ขี่นั่นเอง
หลังจากเล่นกับลมทมิฬเสร็จแล้วอาเบลก็ได้เริ่มผสมน้ำยาพิเศษทันที
อาเบลได้นำน้ำยาแห่งโลหิต 27 ขวด น้ำยาแห่งการเพิ่มพลัง 270 ขวด และน้ำยาแห่งการควบแน่น 162 ขวดออกมาจากกล่องใบใหญ่ อาเบลวางน้ำยาทั้งหมดไว้ด้านหน้าของตัวเองก่อนที่จะเปิดฮอร์ราดริกคิวบ์ออกมา
ในระหว่างที่น้ำยาในระดับเริ่มต้นทั้งหมดกำลังจะถูกพัฒนาไปสู่ระดับที่ดีกว่าเดิมน้ำยาทั้งหลายก็เริ่มส่องแสงสีน้ำเงินออกมา ตอนนี้อาเบลสามารถสร้างน้ำยาแห่งโลหิตที่มีคุณภาพดีมากกว่าเดิมได้ 9 ขวด น้ำยาแห่งการเพิ่มพลังที่คุณภาพดีกว่าเดิม 90 ขวด และน้ำยาแห่งการควบแน่นที่ดีกว่าเดิมอีก 54 ขวดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ทำน้ำยาทั้งหมดให้มีคุณภาพดีได้แล้วอาเบลก็ต้องการที่จะทำน้ำยาระดับดีเยี่ยมต่อไปในทันที อาเบลได้ผสมน้ำยาทั้งหมดในฮอร์ราดริกคิวบ์อีกครั้ง ครั้งนี้มีแสงสีทองเข้มเปล่งประกายขึ้นมาหลังจากการผสมนั้นเสร็จสิ้น สิ่งที่อาเบลได้มีน้ำยาแห่งโลหิตระดับดีเยี่ยมทั้งหมด 3 ขวด น้ำยาแห่งการเพิ่มพลังระดับดีเยี่ยมทั้งหมด 30 ขวด และน้ำยาแห่งการควบแน่นระดับดีเยี่ยมทั้งหมด 18 ขวด
ในที่สุดอาเบลก็จะได้ผสมน้ำยาระดับสุดยอดแล้ว หลังจากการผสมผ่านพ้นไปอาเบลก็ได้น้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอด 1 ขวด น้ำยาแห่งการเพิ่มพลังระดับสุดยอด 10 ขวด และน้ำยาแห่งการควบแน่นทั้งหมด 6 ขวดด้วยกัน ในตอนที่อาเบลได้ผสมน้ำยาระดับสุดยอดได้ก็มีแสงสีทองเข้มเปล่งประกายขึ้นมาจากน้ำยาพิเศษทั้งหมดทันที ตอนนี้อาเบลจะต้องหาที่เก็บน้ำยาพวกนี้ไว้อย่างปลอดภัยซะก่อน
อาเบลได้เทน้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอดใส่ในปากของตัวเองทันที ในตอนที่เทน้ำยาอาเบลก็ได้แต่หลับตาอย่างตื่นเต้น หลังจากที่ได้กินน้ำยาแห่งโลหิตไปแล้วอาเบลก็ได้เริ่มใช้เทคนิคการหายใจแบบอัศวินในทันที ตอนนี้อาเบลรู้สึกได้ทันทีว่าเลือดภายในร่างกายของเขากำลังเดือดพล่านอยู่ เลือดในตัวของอาเบลได้เริ่มระเหยและหดตัวลงเรื่อยๆ พลังลมปราณที่เกิดจากการหดตัวของเลือดนั้นเริ่มรวมตัวกันมากขึ้นแล้ว ในตอนนี้ปริมาณพลังลมปราณของอาเบลยังมีไม่มากพอ แต่พลังอาเบลก็ได้เพิ่มมามากกว่า 10 เท่าแล้วถ้าเทียบกับอาเบลที่กำลังอยู่ในสภาวะปกติ
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงอาเบลก็เริ่มรู้สึกอ่อนล้าตั้งแต่ภายในร่างกายมาสู่ภายนอก น้ำยาแห่งโลหิตนั้นทำให้อาเบลสูญเสียเลือดภายในเป็นอย่างมาก
ผลลัพธ์ที่วีเว็ตต์ได้เตือนไว้มันช่างน่าตกใจเกินไป ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่อาเบลกำลังเจอนั้นจะไม่เหมือนกับผลลัพธ์ของน้ำยาแห่งโลหิตคุณภาพทั่วไปจะทำได้ หวังว่าการสูญเสียเลือดในครั้งนี้ของอาเบลคงจะไม่อันตรายมากพอที่จะทำให้ชีวิตของอาเบลนั้นอยู่ในอันตรายได้
อาเบลรีบกินน้ำยาแห่งการเพิ่มพลังทันที ตอนนี้เลือดในตัวของอาเบลได้หายไปมากแล้ว อาเบลที่กำลังสูญเสียเลือดกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังร้อนราวกับว่าตัวเองนั้นเป็นน้ำมันที่ถูกไฟเผาอยู่ แต่หลังจากที่อาเบลได้กินน้ำยาเพิ่มพลังไปตอนนี้อาเบลก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว
หลังจากที่กินน้ำยาทั้งสองชนิดแล้วดูเหมือนว่าร่างกายของอาเบลจะสร้างเมอร์ริเดียนเส้นใหม่ขึ้นมาได้ แต่ภายในเมอร์ริเดียนนั้นไม่มีพลังลมปราณเหลืออยู่เลย เมอร์ริเดียนที่อาเบลได้สร้างขึ้นมานั้นว่างเปล่า หากไม่ได้ใช้น้ำยาเสริมพลังแล้วอาเบลจะต้องใช้เวลาอีกกว่าหลายปีกว่าที่อาเบลจะสามารถสร้างเมอร์ริเดียนขึ้นมาแบบนี้ได้
อาเบลไม่ได้คาดหวังว่าน้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอดจะมีประสิทธิภาพขนาดนี้มาก่อน ถ้าหากอาเบลไม่ได้ซื้อน้ำยาแห่งการเพิ่มพลังมาในตอนนี้อาเบลอาจจะกลายเป็นมัมมี่ไปแล้วหลังจากที่กินน้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอดไป
ถ้าจะพูดถึงเรื่องในประวัติศาสตร์อาเบลไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีใครที่ได้กินน้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอดมาก่อนไหม จากคำบอกเล่าของวีเว็ตต์ด้วยสภาวะปัจจุบันในตลาด การที่จะหาน้ำยาแห่งโลหิตที่ดีที่สุดได้ก็คงจะหาได้แค่น้ำยาแห่งโลหิตคุณภาพดีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองอาเบลจึงเป็นหนูทดลองที่ได้กินน้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอดเป็นคนแรก แน่นอนว่าประสบการณ์ครั้งแรกครั้งนี้ไม่ได้ดีเท่าไรสำหรับอาเบล
จากที่อาเบลได้สังเกตมาอัตราส่วนในการผสมน้ำยาแห่งโลหิตและน้ำยาแห่งการเพิ่มพลังนั้นเป็นอะไรที่เหมือนกัน การที่จะกินน้ำยาแห่งโลหิต 1 ขวดจะต้องกินน้ำยาแห่งการเพิ่มพลัง 10 ขวดนั่นเอง แต่สำหรับน้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอดนั้นไม่มีความเสี่ยงใดๆ ในการกิน
หลังจากที่ได้กินน้ำยาแห่งโลหิตระดับสุดยอดไป 1 ขวดแล้วอาเบลก็รีบกินน้ำยาแห่งการเพิ่มพลังระดับสุดยอด 10 ขวดตามไปในทันที ในการกินอาหารเสริมในครั้งนี้อาเบลได้ใช้เงินไปกว่า 4,000 เหรียญทองอย่างรวดเร็วไปแล้ว
ถ้าหากอาเบลยังคงกินน้ำยาแบบนี้ต่อไปแน่นอนว่าอาเบลจะต้องใช้เงินจำนวนเยอะอย่างมหาศาล และร้านเอ็ดมันเองก็คงจะมีของไม่เพียงพอต่อความต้องการของอาเบล และการที่จะซื้อน้ำยาทั้งหมดในปริมาณมากๆ เองก็จะทำให้ทางร้านเอ็ดมันเองสงสัยในตัวอาเบลเช่นกัน ถ้าหากเกิดปัญหาทั้งหมดขึ้นจริงอาเบลจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน
หลังจากที่ดื่มน้ำยาแห่งโลหิตและน้ำยาแห่งการเพิ่มพลังไปแล้วอาเบลก็ได้นำน้ำยาแห่งการควบแน่นระดับสุดยอดขึ้นมาก่อนที่จะดื่มลงไปในทันที เมื่ออาเบลได้กินน้ำยาแห่งการควบแน่นไปแล้วร่างกายของอาเบลก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานที่ร้อนแรงที่เกิดมาจากคอร์ของอาเบลเอง หากอาเบลใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาตอนนี้ อาเบลจะรู้สึกถึงพลังลมปราณของเขาที่มีอยู่ในคอร์อย่างแน่นอน
อาเบลได้หยิบน้ำยาสำหรับเสริมพลังอีกขวดจากฮอร์ราดริกคิวบ์ออกมาก่อนที่จะกินไปอีกครั้ง หลังจากที่อาเบลได้กินน้ำยาควบแน่นไปอาเบลก็รู้สึกถึงพลังลมปราณที่อยู่ในคอร์ของเขาอีกครั้ง
อาเบลได้กินน้ำยาอีก 4 ขวดตามไปในเวลาต่อมา ตอนนี้อาเบลรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาแล้ว ถ้าหากอาเบลได้ดื่มน้ำยาอีก 100 ขวดพลังลมปราณของอาเบลจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
การจะทำน้ำยาแห่งการควบแน่นระดับสุดยอดได้จะต้องใช้ทองกว่า 2,700 เหรียญทอง และถ้าอาเบลจะต้องใช้น้ำยา 100 ขวดแน่นอนว่าอาเบลจะต้องใช้ทองทั้งหมด 270,000 เหรียญทอง
อาเบลรู้สึกว่าการหาเงินจำนวนกว่าสองแสนเหรียญได้คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถึงแม้ว่าตัวเขานั้นจะมีของพิเศษอย่างฮอร์ราดริกคิวบ์ก็ตาม นอกจากจะต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมากแล้วอาเบลจะต้องใช้เวลานานจนเกินไปกว่าที่จะทำน้ำยาตามความต้องการได้ นอกจากนี้เองการจะซื้อน้ำยาควบแน่นจำนวนมากมายขนาดนั้นจะต้องถูกสงสัยอย่างแน่นอน ถ้าหากมีผู้คนเริ่มสงสัยในตัวอาเบลแล้วอาเบลก็คงจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ได้อีกต่อไป
ในตอนนี้อาเบลได้ตัดสินใจที่จะใช้เวลาที่เหลือจากการฝึกฝนในการสร้างอาวุธเพื่อที่จะขายอาวุธหาเงินทุนต่อไป
วิธีที่จะทำให้อาเบลหาเงินได้เร็วที่สุดก็คือการสร้างอาวุธนั่นเอง แน่นอนว่าอาวุธที่อาเบลสร้างมาเพื่อขายนั้นจะต้องไม่กระทบกับร้านขายอาวุธของปราสาทแฮรี่ด้วย
ตอนนี้อาเบลได้จมไปกับความคิดของตัวเขาเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างที่อาเบลกำลังฝันหวานอยู่ ตอนนี้เขากำลังปรุงน้ำยาพิเศษทั้งหลายขึ้นมาด้วยตัวเองอยู่ อาเบลได้ใช้เวลาไปกับการปรุงน้ำยาระดับสุดยอดนี้ ในระหว่างที่อาเบลกำลังฝันหวามอยู่อาเบลก็ได้เผลอหลับไปในที่สุด
ในเช้าวันต่อมาอาเบลก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของเขากำลังเปียกอยู่ อาเบลได้ลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นลมทมิฬกำลังเลียใบหน้าของตัวเขาด้วยลิ้นที่ยืดออกมาจากปากอยู่
“บ้าเอ้ย” อาเบลอุทานออกมา อาเบลยังไม่ได้ผสมยาทั้งหมดไปนั่นเอง อาเบลต้องใช้เวลาเกือบทั้งคืนในการผสมน้ำยาทั้งหมดที่ซื้อมา ด้วยเหตุนี้เองอาเบลจึงไม่ได้ดื่มน้ำยาไปแม้แต่ขวดเดียว
อาเบลคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะอุ้มลมทมิฬขึ้นมาแล้วเริ่มเกาที่ท้องสีดำของลมทมิฬ ในขณะที่ลมทมิฬกำลังถูกเกาท้องมันก็ได้บิดตัวไปมาในอ้อมอกของอาเบล
หลังจากที่เล่นกับลมทมิฬเสร็จแล้วอาเบลก็ได้ฝึกฝนการเป็นอัศวินต่อเหมือนกับทุกๆ เช้าของทุกๆ วัน หลังจากเสร็จสิ้นการวฝึกฝนแล้วอาเบลก็จะทานอาหารเช้าก่อนที่จะไปโรงตีเหล็กส่วนตัวที่ถูกสร้างขึ้นในปราสาททันที
ในตอนนี้อาเบลมีของที่อยากจะสร้างมากขึ้นดังนั้นแล้วการมีโรงตีเหล็กส่วนตัวสำหรับตัวเองทำให้อาเบลสามารถทำงานได้อย่างสะดวกขึ้นนั่นเอง อาเบลเริ่มระมัดระวังตัวในโลกใบนี้มากขึ้นกว่าเดิม อาเบลมักจะใช้ฮอร์ราดริกคิวบ์ของเขาในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แน่นอนว่าเทคนิคลับในการใช้ฮอร์ราดริกคิวบ์เองอาเบลไม่สามารถที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ให้กับคนอื่นได้เลย จากนี้ไปอาบลตัดสินใจที่จะสร้างทุกอย่างภายในโรงตีเหล็กส่วนตัวของเขาแทน
เมื่ออาเบลได้เดินเข้าห้องตีเหล้กส่วนตัวมาอาเบลก็พบว่ามีรถม้าคันใหม่คันหนึ่งถูกจอดเอาไว้ในห้องตีเหล็กของอาเบลอยู่ก่อนแล้ว
“พ่อบ้านลินด์เซ่ทำงานเร็วขนาดนี้เลยอย่างงั้นหรอ?” อาเบลได้พูดกับตัวเองขึ้นมา หลังจากที่อาเบลเห็นรถม้าคันใหม่เขาก็ไม่รอช้าเดินไปใกล้ๆ กับรถม้าคันนั้นในทันที ดูเหมือนว่ารถม้าทั้งคันที่อาเบลได้มานั้นจะทำมาจากไม้ทั้งหมด ภายนอกของรถม้าเองถูกติดภาพที่แสดงถึงการต่อสู้อันมีชื่อเสียงที่ถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์อยู่ ภาพศิลปะแบบนี้เป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้ทั่วไปในดินแดนที่อาเบลได้อาศัยอยู่นี้
ผนังด้านในของรถม้าเองถูกปูไปด้วยแผ่นยางก่อนที่จะมีหนังสัตว์ที่ดูอ่อนนุ่มถูกวางซ้อนเอาไว้อีกที ที่นั่งในรถม้าเองก็ถูกทำให้นั่งสบายเช่นกัน ดูเหมือนว่าคุณสมบัติต่างๆ นีเองผู้ที่ออกแบบรถม้าขึ้นมาต้องการที่จะให้รถม้าคันนี้นั้นสามารถทนทานต่อแรงกระแทกสูงได้ ล้อของรถม้าคันนี้ถูกสร้างมาจากไม้ ภายในวงแหวนของรถม้านั้นถูกห่อหุ้มไปด้วยชั้นของแผ่นเล็กบางๆ เพื่อป้องกันไม่ให้โครงสร้างภายในนั้นต้องเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็ว และแกนของรถม้าคันนี้ถูกสร้างมาจากเหล็กทั้งแท่งอีกด้วย
ถ้าไม่นับการตกแต่งรถม้าคันนี้แล้วแน่นอนว่าอาเบลชอบทุกสิ่งทุกอย่างและพอใจกับรถม้าคันนี้มาก รถม้าคันนี้มีทุกสิ่งทุกอย่างตามที่อาเบลต้องการเกือบจะครบถ้วนแล้ว อาเบลจะต้องดัดแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นรถม้าในฝันของอาเบลก็จะเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด แต่สำหรับการตกแต่งแล้วอาเบลคิดว่ามันไม่จำเป็นเท่าไรนัก
เมื่อเทียบกับช่างซ่อมรถในโลกที่อาเบลได้จากมา อาเบลสามารถถอดชิ้นส่วนยานพาหนะของโลกใบนี้ได้อย่างง่ายดาย สิ่งแรกที่อาเบลลงมือทำนั้นคือการถอดล้อของรถม้าคันนี้ออกก่อน จากนั้นอาเบลก็ได้ยกที่นั่งออกมาจากเพลาล้อ หลังจากยกที่นั่งออกมาได้อาเบลก็สามารถแยกชิ้นส่วนที่เหลือออกได้อย่างง่ายดายและวางชิ้นส่วนทุกชิ้นไว้อยู่ใกล้ๆ กับตัวเอง