Abe the Wizard (AtW) – AtW ตอนที่ 80 การต่อสู้ที่แสนนองเลือด

Abe the Wizard (AtW) AtW ตอนที่ 80 การต่อสู้ที่แสนนองเลือด

AtW ตอนที่ 80 การต่อสู้ที่แสนนองเลือด

 

พวกวูฟไรเดอร์ทั้งหมดต่างจับจ้องมาที่อาเบล ตอนนี้อัศวินที่ยัง ไม่บรรลุนิติภาวะกําลังถือหอกยาวที่ไม่เข้ากับตัวเองอย่างน่าขันอยู่ พวกวูฟไรเดอร์ทั้งหมดคิดเอาไว้ว่าอาเบลจะต้องเป็นอัศวินฝึกหัดอ ย่างแน่นอน แต่ทําไมความสามารถของเขาคนนี้ถึงไม่เหมือนกับอัศ วินฝึกหัดแม้แต่น้อย

 

ถ้าหากอาเบลเป็นอัศวินฝึกหัดจริงๆแล้ว การที่เขาจะสามารถจัดการวูฟไรเดอร์ไปกว่า 5 ตัวในระยะเวลาอันรวดเร็วนี้เป็นเหมือนกับเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกิดไป ตอนนี้มีรูฟไรเดอร์ระดับสูง 1 ตัว วูฟไรเดอร์ระดับกลาง 1 ตัว และวูฟไรเดอร์ระดับทั่วไปอีก 3 ตัว ถูกเด็กคนนี้จัดการในเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

 

ม้าที่อาเบลกําลังขอยู่นั้นกําลังรู้สึกเร่าร้อนมากกว่าเดิม แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าม้าตัวนี้จะเริ่มสงบลงมากขึ้นแล้ว แต่ถึงแบบนั้นด้วยพลังของอาเบลเองจึงทําให้ม้าตัวนี้ดูมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง

“เกียรติยศคือชีวิตของฉัน!” อาเบลกู่ร้องออกมาอย่างเสียงดัง ทันใดนั้นม้าและตัวเขานั้นก็ได้พุ่งไปหาพวกวูฟไรเดอร์อีกครั้ง หอกที่มีขนาดใหญ่ของอาเบลกําลังอยู่ในมือข้างขวาของตัวเขาเอง ตอนนี้อาเบลได้ควงหอกของเขาไปมาด้วยความคล่องแคล่ว แต่ด้วยพละกําลังของอาเบลเองทําให้วูฟไรเดอร์กว่า 10 ตัวด้วยกัน ถูกหอกของอาเบลฟันจนกระเด็นลอยไป

อัศวินผู้คุ้มกันกว่า 20 คนได้เริ่มตั้งแถวแล้ว ตอนนี้พวกเขาพร้อมแล้วนั่นเอง พวกอัศวินทั้งหมดได้เริ่มออกเดินไปทางวูฟไรเดอร์อย่างช้าๆ หลังจากที่เห็นอาเบลได้แสดงพลังแห่งความกล้าหาญออกมาลอร์ดมาแชลก็ไม่รอช้า เขารีบกู่ร้องออกมาเช่นเดียวกัน “เกียรติยศคือชีวิตของฉัน!” จากนั้นลอร์ดมาแชลก็ได้พุ่งเข้าใส่ศัตรูเช่นเดียวกัน

 

ถึงลอร์ดมาแชลจะมีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากกว่าอาเบล แต่วิธีในการต่อสู้ของเขานั้นค่อนข้างที่จะสวนทางกันไปคนละทางกับอาเบล วิธีที่ลอร์ดมาแชลใช้จัดการกับศัตรูไม่รวดเร็วเหมือนกับอาเบล แต่ถึงแบบนั้นแล้วเกราะทอรัสทองคําของเขาก็สามารถป้องกันการโจมตีได้ทุกรูปแบบจากพวกวูฟไรเดอร์

ภายใต้คําสั่งของวูฟไรเดอร์ที่เป็นผู้นําทัพ วูฟไรเดอร์ระดับทั่วไปทั้งหมดก็ได้เห่าหอนขึ้นมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อาเบลอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่สามารถจัดการกับอาเบลได้ แต่การเสียสละของพวกมันนั้นจะทําให้เป้าหมายอย่างอาเบลเคลื่อนที่ได้ช้าลง

 

และทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกวูฟไรเดอร์นั่นเอง ในตอนนี้อาเบลใช้หอกยาวอยู่นั่นเอง การที่จะหอกยาวจัดการกับวูฟไรเดอร์ระดับทั่วไปไปเป็นจํานวนมากนั้นจะทําให้การเคลื่อนไหวของอาเบลช้าลงอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสไม่มากนักแต่อาเบลก็ไม่สามารถใช้หอกยาวโจมตีต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน เมื่อเกิดช่องว่างจากการต่อสู้ขึ้นรูฟไรเดอร์ระดับสูงจะใช้จังหวะนั้นโจมตีไปที่อกของอาเบลแคล้ง

 

เสียงชุดเกราะกระทบกับของมีคมดังขึ้นมา ดูเหมือนว่าชุดเกราะตัวนี้จะทนทานเกินกว่าที่จะถูกอาวุธนั้นเจาะทะลุการป้องกันได้ การค้นพบครั้งนี้เป็นเหมือนกับสัญญาณอันเลวร้ายของเหล่าวฟไรเดอร์ พวกวูฟไรเดอร์นั้นเสียกําลังพลมากมายเพื่อที่จะสร้างโอกาสในการโจมตีครั้งนี้ขึ้นมา แต่สุดท้ายแล้วพวกมันก็พบแต่กลับความผิดหวัง หอกยาวของพวกมันไม่อาจที่จะทําร้ายอาเบลได้นั่นเอง อาเบลที่ถูกโจมตีไม่รอช้าเขาได้สังหารวูฟไรเดอร์ตัวนั้นไปในทันทีด้วยการโจมตีโดยการใช้หอก

รูฟไรเดอร์ที่ต่อสู้กับมาแชลอยู่นั้นก็เจอปัญหาเดียวกัน ตอนนี้พวกมันทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะสร้างโอกาสในการโจมตีอาเบลและลอร์ดมาแชล แต่สุดท้ายแล้วพวกมันก็ไม่สามารถที่จะทําอะไรได้เลย นี่เป็นสถานการณ์ที่แสนสิ้นหวังของพวกวูฟไรเดอร์ไปซะแล้ว

 

ตอนนี้อัศวินกว่า 20 ชีวิตได้เข้าสู่สนามรบเป็นที่เรียบร้อย ในฐานะที่เป็นทหารผ่านศึกมา พวกเขาเคยมีประสบการณ์การต่อสู้กับพวกออร์คมาก่อนนั่นเอง พวกอัศวินทั้งหลายเองล้วนแต่เคยเจอกับเหล่าออร์คที่ดุร้าย การที่จะฆ่าพวกออร์คได้เป็นเหมือนกับการพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง

หลังจากที่ใช้ความพยายามอย่างหนักในการจัดการกับอัศวินทั้ง 2 คน วูฟไลเดอร์ทั้งหลายก็ตัดสินใจที่จะล่าถอยไปในที่สุด พวกมันหวังเพียงจะทําให้อัศวินทั้งสองคนยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับวูฟไรเดอร์ หลังจากนั้นเองพวกมันจะไปจัดการอัศวินคุ้มกันทั้งหมดที่ตามมาทีหลังแทน

 

อัศวินคุ้มกันทั้งหมดที่กําลังอยู่ในสนามรบในตอนนี้พวกวูฟไรเดอร์คิดว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่นักรบธรรมดาเท่านั้น วูฟไรเดอร์พวกนั้นไม่คิดว่าอัศวินทั้งหมดจะสวมใส่ชุดเกราะที่ทรงพลังถึงขนาดที่ต้านทานการโจมตีของมันได้ แม้ว่าพวกออร์คทั้งหลายจะรู้อยู่แล้วว่าพวกอัศวินนั้นใช้อาวุธเวทย์อยู่ก็ตามที่ ไม่มีทางได้เลยที่พวกนักรบแบบนี้จะสวมใส่สุดยอดเกราะป้องกันไปได้

” ด้วยดาบยาวในมือ

ด้วยสายตาที่มองตรงหน้า

 

พวกเราได้หล่อหลอมเหล็กขึ้นมา

ด้วยโล่ห์ของพวกเราที่คอยปกป้อง ปกป้องหัวใจที่กําลังเต้นระ รัวของพวกเรา

ตราบใดที่พวกเรานั้นมีตรายูนิคอร์นอยู่ที่อก

 

พวกเราจะไม่ลังเลอีกต่อไป

ถึงแม้ตัวของพวกเราจะตายจากไป แต่ชื่อของพวกเราจะยังคงประจักษ์อยู่

ด้วยเสียงแตรที่ดังกึกก้องไปทั่ว

 

และดาบของพวกเราที่กําลังอาบไปด้วยเลือด

เส้นทางของพวกเราจะเปิดออกขึ้น!

ในขณะที่เหล่าอัศวินคุ้มกันนั้นกําลังร้องเพลงสงคราม พวกรูฟไรเดอร์ทั้งหลายก็ใช้หอกของพวกมันโจมตีไปที่โล่ห์ของอัศวินคุ้มกัน อัศวินทั้งหลายกู่ร้องออกมาอย่างเสียงดังเมื่อโล่ห์ของพวกเขาเข้าไปปะทะกับหอกของวูฟไรเดรย์ แต่ถึงการปะทะจะเกิดขึ้นรูปแบบแถวของอัศวินก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

หอกยาวที่กระแทกเข้ากับโล่ห์ถูกเบี่ยงออกไปอย่างสมบูรณ์แบบ อัศวินคุ้มกันยังคงเดินต่อไปพร้อมกับร้องเพลงไปด้วย เสียงที่ใช้ร้องเพลงของอัศวินหลายคนนั้นทําให้ผู้ที่อยู่ไกลกว่าหลายไมล์นั้นถึงกับได้ยิน ตอนนี้อัศวินทั้งหมดได้ทํางานกันอย่างเป็นทีม ด้วยจํานวนคนที่อยู่ด้านหน้าแถว 10 คนและจํานวนคนที่อยู่ด้านหลังอีก 10 คนทําให้ไม่เกิดช่องวางในขบวนทัพนี้เลย อัศวินที่อยู่ด้านหลังทั้ง 10 คนนั้นกําลังถือดาบยาวรอโจมตีศัตรูที่อยู่ด้านหน้านั่นเอง

 

วูฟไรเดอร์ที่เพิ่งโจมตีไปตอบสนองต่อการป้องกันได้ช้าเกินไป ร่างกายของพวกมันถูกแทงด้วยใบดาบในทันที หลังจากที่ถูกโจมตีแล้วบาดแผลที่ถูกโจมตีนั้นก็ถูกน้ําแข็งแช่แข็งไว้ทันที ตอนนี้วูฟไรเดอร์ทั้ง 2 ตัวเคลื่อนไหวช้าลงแล้ว ทั้งหมดนี้เกิดจากอาวุธเวทย์น้ําแข็งที่อาเบลเป็นคนสร้างนั่นเอง

 

อัศวินที่ตั้งแถวอยู่ด้านหน้านั้นไม่ได้ลงมือโจมตีพวกรูฟไรเดอร์แต่อย่างใด ตอนนี้พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นกับการป้องกันการโจมตี ส่วนอัศวินอีก 10 คนที่อยู่ด้านหลังเองได้เริ่มใช้พลังลมปราณในการโจมตีวูฟไรเดอร์ต่อไปทันที ภายในพริบตาเดียว วูฟไรเดอร์ทั้งสองตัวก็ถูกตัดหัวจนขาดออกไป ทันใดนั้นพวกมันก็สิ้นใจตายไปในทันที

หลังจากที่อัศวินคุ้มกันโจมตีเป้าหมายเสร็จแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็กลับมาจัดขบวนแถวในรูปแบบของการป้องกันอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มเดินทัพโจมตีพวกวูฟไรเดอร์ต่อไป วูฟไรเดอร์ทั้งหลายต่างก็พุ่งมาโจมตีกองทัพอัศวินคุ้มกันอย่างไม่หยุดหย่อน สุดท้ายแล้วพวกมันก็ถูกจัดการไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าการจัดขบวนทัพแบบนี้จะแข็งแกร่งและทรงพลังมากแต่ถ้าหากพวกเขาไม่ได้มีอาวุธเวทย์ที่มีประสิทธิภาพแล้วแน่นอนว่าขบวนทัพของเขาอาจจะถูกตีแตกไปแล้วด้วยฝีมือของวูฟไรเดอร์ก็เป็นไปได้

 

พวกอัศวินทั้งหมดในตอนนี้ก็เป็นเหมือนกับนักรบที่เปี่ยมไปด้วยกลยุทธ์และวิธีการต่างๆไปแล้ว พวกอัศวินทั้งหลายนั้นถูกฝนฝนมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก แน่นอนว่าพวกเขาสามารถใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ได้ พวกเขาทั้งหมดไม่ได้กินอาหารดีๆ เหมือนกับอาเบลที่อยู่อย่างสบายกับลอร์ดมาแชล นักรบทั้งหมดนี้กินเพียงอา

หารทั่วไปเท่านั้น สิ่งที่พวกเขามีเหนือกว่าคนทั่วไปนั่นคือความเพียรพยายามในการฝึกฝนนั้นเอง

 

ถึงแม้ว่าอัศวินคุ้มกันทั้งหมดจะสามารถใช้พลังลมปราณในการ โจมตีได้แต่พวกเขาทั้งหมดก็ไม่ได้มีพลังลมปราณที่มากพอ หลังจากที่ใช้พลังลมปราณในการโจมตีเสร็จแล้ว พวกเขาจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเพื่อที่จะฟื้นฟูพลังลมปราณให้กลับมาได้ แต่ถึงแม้พวกอัศวินทั้งหลายจะไม่สามารถใช้พลังลมปราณได้ดังใจนึก แต่พวกเขาเหล่านี้กลับมาความทนทานที่เหนือกว่าอัศวินทั่วๆไป ความทนทานที่เพิ่มมานี้เองคือผลจากความเพียรพยายามในการฝึกนั่นเอง ดังนั้นแล้วพวกอัศวินคุ้มกันทั้งหลายจึงสามารถเดินทัพ และใช้พลังร่วมกันในการต่อสู้ได้ดีกว่าพวกนักรบทั่วๆไป

 

ในทางเทคนิคแล้วถ้าจะพูดกันว่าพวกนักรบนั้นมีพลังการต่อสู้น้อยกว่าพวกอัศวินเป็นสิ่งที่ถูกพูดมาโดยตลอด และเหล่านักรบเองก็จะถูกใช้ในการต่อสู้บ่อยที่สุดในสนามรบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การจะเป็นอัศวินได้นั้นจะต้องฝึกฝนและซ้อมหนักกว่ามาก กลยุทธ์ทางการทหารส่วนมากจะถูกออกแบบมาสําหรับพวกนักรบแต่เพียงเท่านั้น กลยุทธ์ทางการทหารอย่าง “กลยุทธ์น้ําขึ้นน้ําลง” กลยุทธ์นี้เองเป็นกลยุทธ์สุดคลาสสิกอีกกลยุทธ์หนึ่ง โดยการที่จะใช้กลยุทธ์นี้ได้เหล่านักรบทั้งหลายจะต้องเชื่อใจในกันและกันเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะใช้กลยุทธ์นี้โจมตี พลังทั้งหมดภายในตัวก็จะถูกใช้ออกมาโดยที่กักเก็บพลังของตัวเองไว้ไม่ได้แม้แต่น้อย ฝ่ายที่รับหน้าที่เป็นฝ่ายปกป้องนั้นจะต้องใช้พลังทั้งหมดไปกับการป้องกันนั่นเอง ส่วนฝ่ายที่โจมตีนั้นก็ต้องทุ่มพลังในการโจมตีอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน

ถ้าหากมีวูฟไรเดอร์ระดับสูงพยายามที่จะโจมตีอัศวินคุ้มกันเหล่านี้ อาเบลและมาแชลนั้นจะคอยพยายามไล่พวกวูฟไรเดอร์ระดับสูงให้ถอยจากไป ในไม่ช้าวูฟไรเดอร์ระดับสูงอีก 2 ตัวก็ถูกล้อมเอาไว้ด้วยความร่วมมือกันของเหล่าอัศวิน

ถ้าจะให้พูดตามตรงแล้วอาเบลไม่ค่อยพอใจที่เขาจะต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลย หมาป่าที่เป็นสัตว์ขี่ของพวกวูฟไรเดอร์นั้นรวดเร็วและคล่องแคล่วเกินกว่าที่จะทําให้อาเบลตามได้ทัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทําให้พวกวูฟไรเดรย์นั้นสามารถใช้กลยุทธ์กองโจรก่อนเริ่มสงครามได้นั่นเอง

 

” ฉันหวังว่านายจะโตเร็วๆนะลมทมิฬ” อาเบลได้แต่คิดในใจ ถ้าหากเขามีหมาป่าที่ทรงพลังแล้วละก็พวกวูฟไรเดอร์ก็จะไม่ใช่คู่มือของอาเบลอีกต่อไป

 

หลังจากที่ปัดป้องการโจมตีของวูฟไรเดอร์ด้วยโล่ไป อาเบลก็ได้ใช้หอกยาวของเขาเล็งแทงไปที่วูฟไรเดอร์ตัวนั้น ในตอนที่โจมตีอยู่นั้นเองเขาได้ใช้พลังลมปราณสีทองของตัวเองเปลี่ยนไปเป็นแรงกว่า 7000 ปอนด์ด้วยกันเพื่อที่จะโจมตีวูฟไรเดอร์ตัวนั้น เมื่อหอกยาวถูกส่งไปด้วยแรงกว่า 7000 ปอนด์ตอนนี้หอกยาวของอาเบลก็เป็นเห มือนกับขีปนาวุธขนาดย่อมๆไปในที่สุด

 

หอกที่บินลอยผ่านอากาศไปคล้ายกับขีปนาวุธเป็นอย่างมาก เมื่ อหอกอันนั้นพุ่งเข้าใส่หูฟไรเดอร์ทั้งสองตัว หอกอันนั้นเองก็ได้พุ่งผ่า นตัววูฟไรเดอร์ก่อนที่จะหายไปในขอบฟ้าในทันที ดูเหมือนว่าวิธี การโจมตีแบบนี้จะได้ผลเป็นอย่างมาก อาเบลตัดสินใจที่ จะทดลองใช้วิธีการโจมตีอีกครั้ง ในไม่นานมากนักวูฟไรเดอร์ที่อยู่ไกลจากอาเบลก็ได้มีรูปรากฏขึ้นบนคอของมันเอง

 

วูฟไรเดอร์ระดับสูงอีก 2 ตัวได้เผชิญหน้ากับอาเบลอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มโจมตีวูฟไรเดอร์ก็ได้เห่าหอนเพื่อที่จะเรียกลูกน้องของพวกมันมานั่นเอง ในตอนนี้รูฟไรเดอร์ทั้งหลายได้เริ่มเล็งไปที่ม้าของอาเบล มันรู้แล้วนั่นเองถ้าหากจัดการม้าของอาเบลได้ การจะจัดการกับอาเบลต่อไปนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

การโจมตีในรูปแบบนี้ยากที่จะมองเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือออร์คก็ตาม สัตว์ขี่พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกับทรัพยากรที่ทรงคุณค่าที่สุดในสนามรบ หากไม่มีหมาปาพวกวูฟไรเดอร์ก็ไม่สามารถที่จะโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เลย อัศวินส่วนใหญ่เองก็ไม่สามารถโจมตีศัตรูได้โดยตรงโดยที่ไม่มีสัตว์ขี่ด้วยเช่นกัน

 

“โจมตีที่มาอย่างงั้นหรอ” ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่กฎของการต่อสู้ก็ตามแต่ เรื่องนี้เองก็ทําให้อาเบลโกรธมาก การกระทําเช่นนี้เป็นเหมือนกับการกระทําที่แสนสกปรกนั่นเอง

อาเบลหันหน้าของเข้าไปมองที่อัศวินผู้คุ้มกัน หลังจากตรวจสอบแล้วว่าระยะห่างระหว่างตัวเขากับพวกอัศวินนั้นอยู่ห่างกันมากพอ อาเบลก็ตัดสินใจที่จะเหวี่ยงหอกของตัวเองไปรอบๆด้วยความรวดเร็วในทันที ตอนนี้วูฟไรเดอร์ทั้งหมดได้ถอยห่างจากอาเบลไปแล้ว เมื่อไม่มีวูฟไรเดอร์กล้าขยับเข้ามาใกล้กับเขาอีก อาเบลตัดสินใจที่จะกระโดดลงจากม้าศึกของเขาก่อนที่จะตบให้ม้าศึกตัวนี้หนีไป

อาเบลได้สั่งให้ม้าของเขาหนีไป ม้าศึกตัวนี้ดูจะเข้าใจสิ่งที่อาเบลอยากจะบอกเป็นอย่างดี ตอนนี้พวกวูฟไรเดอร์ได้บรรลุความตั้งใจของพวกมันแล้ว พวกมันจึงตัดสินใจที่จะไม่โจมตีม้าศึกที่ไร้คนขี่อีกต่อไป

สิ่งที่อาเบลได้ทํานั้นถูกต้องแล้ว เขาไม่ต้องการที่จะให้ม้าศึกตัวนี้ถูกลูกหลงไปนั่นเอง ลําพังชุดเกราะของตัวเขาก็คงสามารถป้องกันการโจมตีของวูฟไรเดอร์พวกนี้ได้

 

หอกในมือของอาเบลได้ถูกขว้างออกไปครั้งแล้วครั้งอีก ตอนนี้วูฟไรเดอร์อีกหลายตัวก็ได้ล้มลงบนพื้นแน่นิ่งไป เนื่องจากตอนนี้ อาเบลไม่มีอาวุธเหลืออยู่ใกล้กับตัวเขาเองอีกต่อไปแล้วดังนั้นเขาจึงหยิบหินขึ้นมาก่อนที่จะโยนหินก้อนนั้นใส่ศัตรู ด้วยแรงแขนของตัวอาเบลเองรวมไปถึงพลังลมปราณของเขา ทําให้หินที่โยนออกมานั้นถูกโยนออกมาอย่างรุนแรง หินทุกก้อนที่ถูกขว้างออกไปนั้นทําให้วูฟไรเดอร์อีกหลายตัวล้มลงแน่นิ่งไปกับพื้น

 

Abe the Wizard

Abe the Wizard

ATW, 巫师亚伯
Score 6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Abe the Wizardฉันได้กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่นี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่โลกใบนี้ด้วย สิ่งนั้นคือ ฮอร์ราดริกคิวบ์ จากเกม Diablo II นั่นเอง หนทางการเป็นอัศวินสุดเท่ห์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ทำไมการเป็นจอมเวทย์ก็อยู่ในทางเลือกด้วยล่ะ? แล้วฉันควรจะเลือกทางไหนกันแน่นะ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset