สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ได้เพียงแค่มีรูปลักษณ์ที่งดงาม แต่ยังมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดอีกด้วย ทุกๆการเคลื่อนไหวของนางแฝงไว้ด้วยความงามจนผู้คนหลงไหล บวกกับพลังบ่มเพาะศักดิ์สิทธิ์ของนางแล้ว นางจึงกลายเป็นจุดดึงดูดไปโดยปริยาย
สตรีเช่นนี้ คนที่เห็นใครบ้างจะไม่ใจสั่น?
“สาวงามชั้นเลิศ!”
“ดูบั้นท้ายนั่นสิ ช่างกลมและงอนยิ่งนัก ข้าอยากจะเดินไปสัมผัสมันเหลือเกิน”
“โอ้ หน้าอกนั่นก็ใหญ่ได้รูป ข้าจะหยุดมือตัวเองไว้ไม่ได้แล้ว”
ผู้คนมากมายในห้องรับรองที่กำลังกินอาหารกันอยู่ส่งเสียงเอะอะ
หลิงฮันมีสีหน้าเย็นชาและจ้องมองไปยังหนึ่งในคนเหล่านั้น
“เจ้าหนู มองมาทำไม?” เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ดูมีอายุราวๆสี่สิบปี ร่างของเขาบึกบึนและมีรอยแผลเป็นกากบาดอยู่บนใบหน้า เขาสวมชุดคลุมสีแดงที่ไม่โดดเด่น
เขาชี้ไปยังหลิงฮันและกล่าว “ลองมองข้าสิ ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“หลิงฮัน!” สุ่ยเยี่ยนยวี่คว้าหลิงฮันเอาไว้ นางไม่ต้องการให้เขาใช้ความรุนแรงที่นี่
หลิงฮันส่ายหัว เขาปัดมือของนางออกและเดินไปยังชายวัยกลางคน
“โมโหงั้นรึเจ้าหนู?” ชายวัยกลางคนแสยะยิ้ม “เจ้าเป็นทายาทของตระกูลใดกัน ถึงได้ครอบครองสตรีที่งดงามเช่นนี้! เหอๆ ถ้าหากไม่มีตระกูลหนุนหลังแล้ว เจ้าจะได้นางมาครอบครองรึ?”
ชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความอิจฉา แววตาของเขาแดงฉาน เขาที่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงกลับไม่มีสตรีเหมือนกันหลิงฮัน
“พวกสุนัขแก่นี่ไม่รู้จักวิธีหุบปากหรือวิธีพูดแบบสุนัขของตัวเองเลยรึไง?” หลิงฮันเดินเข้าไปใกล้ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
ในเมื่อเขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่จำเป็นต้องพักที่นี่สองวัน ถ้าเขาไม่ยืนหยัดแสดงพลัง เขาก็จะต้องถูกคนเหล่านี้ดูถูกและสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็จะถูกเอาเปรียบ
“ปากดี!” ชายวัยกลางคนแสยะยิ้ม “เจ้าหนู ท่านลุงผู้นี้จะสอนเจ้าเองว่า คนเช่นเจ้าเมื่อออกจากตระกูลก็ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้!”
แม้ทั้งสองคนจะกำลังมีเรื่องกัน แต่ผู้คนโดยรอบก็ยังหัวเราะล้อเล่นเพื่อดูการแสดงสนุกๆ ทางด้านโรงเตี๊ยมเองถ้าไม่ใช่การต่อสู้จากบุคคลนอก หากทั้งสองคนจะทะเลาะกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเข้าไปยุ่ง
แต่แน่นอนว่าหากชายวัยกลางคนหรือหลิงฮันขอความช่วยเหลือ พวกเขาก็จะเข้าแทรกแซงเพื่อหยุดการต่อสู้
หลิงฮันเดินเข้าใกล้ชายวันกลางคนด้วยความโกรธ กลิ่นอายของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าระดับภูผาวารีขั้นกลางทั่วไปหลายเท่า
“แส่หาที่ตาย!” ชายวัยกลางคนทำการผลักฝ่ามือใส่หัวของหลิงฮันทันที
ถึงแม้ว่าเขากล่าวไว้ว่าเขาต้องการจะสั่งสอนหลิงฮัน แต่เขากลับโจมตีเพื่อหวังสังหารหลิงฮัน หากใครจะเชื่อคำพูดของหลิงฮันก็ดูจะไร้เดียงสาเกินไป
หลิงฮันเค้นเสียงและปล่อยฝ่ามือปะทะกับชายวัยกลางคน
ปัง!
ฝ่ามือของทั้งสองปะทะกันจนเกิดเสียงปะทะดังก้องกังวาน คลื่นปะทะที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าทำให้โต๊ะรอบข้างพังทลาย
“อ้ากกก” ชายวัยกลางคนกรีดร้อง เขารู้สึกราวกับว่าฝ่ามือของเขาพุ่งเข้าชนกับแร่โหละศักดิ์ศิทธิ์ กระดูกมือของเขาแตกร้าว เขามองไปยังหลิงฮันด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ รุ่นเยาว์ที่มีพลังบ่มเพาะระดับภูผาวารีขั้นกลางกลับมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้
เขาเป็นถึงระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นต้นเชียวนะ!
เขาเขยิบถอยหลังและใช้มือขวากำหมัดชกใส่หลิงฮัน
หลิงฮันเองก็กำหมัดชกเข้าสู้เช่นกัน
ปัง!
ร่างของชายวัยโซเซถอยไปเจ็ดก้าวและล้มลงที่โต๊ะ ภายใต้แรงกระแทกทำให้โต๊ะแหละเป็นเศษไม้
ร่างของเขายังไม่หยุดเพียงเท่านั้น คนที่อยู่ด้านข้างต้องนำมือมาดึงไว้ถึงจะหยุดร่างชายวัยกลางคนไว้ได้
“อ้ากก!” ชายวัยกลางคนกัดฟันและยกมือขึ้นมาดู เขารู้สึกอึ้งทันทีเนื่องจากกระดูกมือของเขานั้นแตกหัก
บ้าชัดๆ ในโลกนี้จะมีคนที่มีกายหยาบแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
ชายวัยกลางคนทั้งอึ้งและโกรธ เขาพ่ายแพ้ในการแลกหมัดถึงสองครั้ง
รุ่นเยาว์ผู้นี้จะต้องบ่มเพาะทักษะกายาแน่ๆ กายหยาบของเขาถึงได้น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้!
เขายิ่งมั่นใจไปอีกว่าสถานะของหลิงฮันจะต้องเป็นทายาทของตระกูลใหญ่แน่ๆ ดังนั้นเขาจึงมีทรัพยาการณ์ที่ช่วยในการขัดเกลากายหยาบ เพราะการที่จะขัดเกลากายในระดับระพลังพระเจ้านั้นสิ้นเปลืองมหาศาล การจะมีกายหยาบเช่นนี้จำเป็นต้องอาบสมุนไพรระดับศักดิ์สิทธิ์ทุกวันเป็นเวลานับปี
ชายวัยกลางคนไม่อสบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง รุ่นเยาว์ที่ระดับพลังบ่มเพาะต่ำกว่าเขากลับมีกายหยาบอันทรงพลังที่เป็นความฝันของเขา และมีอีกฝ่ายมีสตรีงามข้างกายก็เป็นเพราะมีต้นกำเนิดตระกูลที่ดี
“ตาย!” เขาคำราม ‘พรึบ’ คลื่นเสียงของเขาเปลี่ยนสภาพเป็นรูปลักษณ์ของมนุษย์และเขวี้ยงแท่งไม้ใส่หลิงฮัน
เขาเข้าใจว่าการโจมตีโดยเว้นระยะแบบนี้ถึงจะได้ผลกับหลิงฮัน
‘ทักษะยุทธรูปแบบเสียง?’
หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อยเนื่องจากทักษะประเภทนี้หายากเป็นอย่างมาก เขาไม่นึกเลยว่าจะได้เห็นมันที่นี่ แต่ไม่ว่าทักษะจะยอดเยี่ยมแค่นั้นพลังของมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ดังนั้นหลิงฮันจึงไม่หวั่นเกรง
‘ตูม’ เขาโจมตีสวนทันที
คลื่นเสียงที่มีรูปลักษณ์มนุษย์สลายไป หลิงฮันยกมือขึ้นรับแท่งไม้เอาไว้ ‘พรึบ’ ร่างของเขาสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่พลังของแท่งไม้จะสลายไป
เขามองที่แขนตนเองและพบว่าแขนเสื้อของเขาฉีกขาด บนผิวของเขาปรากฏรอยขีดข่วน
จะอย่างไรนี่ก็เป็นการโจมตีของระดับภูผาวารีขั้นสูง ไม่อาจดูถูกได้
แม้เขาจะมีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อย แต่คนรอบครั้งกลับตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
“ไม่เน่าเชื่อ เจ้าหนูนั่นเป็นเพียงระดับภูผาวารีขั้นกลางแต่สามารถประจันหน้ากับหลูฉีเหว่ยที่เป็นระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นต้นได้ แถมหลูฉีเหว่ยยังด้อยกว่าเล็กน้อยอีกด้วย”
“อัจฉริยะอย่างน้อยหนึ่งดาว!”
“ที่น่าตกตะลึงกว่านั้นคือกายหยาบ เขาจะต้องเป็นบุตรของตระกูลใหญ่แน่ๆซึ่งใช้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มากมายขัดเกลากายหยาบมาตั้งแต่เด็ก”
ความคิดของพวกเขาเหมือนกันกับของชายวัยกลางคนหลูฉีเหว่ย พวกเขาเชื่อว่าหลิงฮันเป็นทายาทของตระกูลใหญ่ถึงได้มีกายหยาบที่น่าสะพรึงกลัว
ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นจอมยุทธพเนจร พวกเขาไม่มีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกริษยาหลิงฮัน