“ถึงแม้เจ้าจะรู้แล้ว เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี!” โจวเกาหยางแสยะยิ้ม
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “เห้อ เจ้าไม่สมควรสังหารคนที่ไม่เกี่ยวข้องเลย”
“โอ้ หรือเจ้าอยากจะตายแทนเขาล่ะ?” โจวเกาหยางกวัดแกว่งดาบอย่างโหดเหี้ยม
หลิงฮันยิ้ม “ข้าไม่ได้ว่างขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไรก็มีใครคนหนึ่งที่ต้องการทุบตีเจ้าให้เละ!”
“เหอะ ใครกัน?” โจวเกาหยางกล่าวโดยที่ไม่หยุดดาบในมือ
“ข้าไง!” เสียงอันเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับปรากฏร่างของหยางเทียนเฉิง ทั่วร่างของเขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา สีหน้าของเขามืดมนอย่างถึงที่สุด
โจวเกาหยางขนลุกไปทั้งร่าง ความรู้สึกเย็นยะเยือกผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจและแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ขั้นพลังย่อยของเขากับหยางเทียนเฉิงต่างกันอย่างสิ้นเชิง แถมทักษะของตัวเขาก็ฝึกฝนมาเพื่อเป็นนักฆ่าโดยเฉพาะ ที่สำคัญคือเขาไม่ใช่อัจฉริยะแต่หยางเทียนเฉิงนั้นเป็นอัจฉริยะสองดาว!
หรือก็คือความต่างของทั้งสองนั้นคือหกขั้นพลังย่อย
เขาไม่ใช่หลิงฮันที่มีกายหยาบที่ไร้เทียมทานเหมือนหลิงฮัน หากต้องปะทะกับปรมาจารย์เช่นหยางเทียนเฉิง มีโอกาสสูงมากที่เขาจะถูกสังหารในสิบกระบวนท่า
“หยางเทียนเฉิง ตายซะ!” โจรสลัดสามคนพุ่งเข้ามา
หยางเทียนเฉิงใช้เพียงมือเดียวในการต่อต้านพวกมันในขณะที่จ้องไปยังโจวเกาหยางด้วยสายตาเย็นชา “เจ้ามีอะไรจะสั่งเสียไหม?”
โจวเกาหยางนิ่งเงียบ ‘พรึบ’ เขารีบเผ่นหนีทันที
แทนที่จะต้องสู้กับหยางเทียนเฉิง เขาเลือกที่จะหนีลงไปในมหาสมุทรดีกว่า แม้ว่าในมหาสมุทรจะมีแรงโน้มถ่วงที่น่าสะพรึงกลัว การเคลื่อนที่ของเขาเมื่ออยู่ที่นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินเท้าของมนุษย์ทั่วไป เป็นไปได้ว่าหากต้องการออกจากมหาสมุทรแห่งนี้เขาต้องใช้เวลาแปดถึงสิบปี
แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะต้องทิ้งชีวิตให้กับหยางเทียนเฉิงไม่ใช่รึ?
“คิดหนี?” หยางเทียนเฉิงแสยะยิ้ม เขาใช้อีกมือหนึ่งยื่นโจมตีออกไปทางโจวเกาหยาง
ฝ่ามือนี้แสดงอำนาจพลังของระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดออกมาได้อย่างเต็มที่ ฝ่ามือสีดำขยายใหญ่อย่างไร้ที่สิ้นสุดราวกับขุนเขา
‘ครืนนน’ ฝ่ามือของหยางเทียนเฉิงมีขนาดใหญ่เกินไป มันครอบคลุมไปทั่วทั้งเรือในพริบตาเพื่อปิดทางหนีของโจวเกาหยาง
“ดาบพิฆาต!” โจวเกาหยางกล่าวเบาๆ ร่างของเขาเคลื่อนที่ว่องไวขึ้นพร้อมกับใช้ดาบทะลวงใส่มือยักษ์
‘พรึบ!’
ดาบส่องสว่างราวกับแสงพิรุณที่สาดไปทั่วท้องฟ้า
หลิงฮันโคจรเนตรแห่งสัจธรรม เขามองเห็นโจวเกาหยางทะลวงมือขนาดใหญ่จนเป็นรู ‘ฟุบ’ โจวเกาหยางพุ่งออกไปได้แต่เขาก็ดูอ่อนแรงเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่ากระบวนท่าดาบเมื่อครู่ทำให้เขาต้องจ่ายค่าเสียหายไปพอสมควร
“คิดว่าจะหนีได้?” หยางเทียนเฉิงแสยะยิ้ม เขาเค้นเสียงและขยับมือไล่ตาม
“อ้ากกก” โจวเกาหยางกรีดร้องเนื่องจากถูกมือยักษ์จับเอาไว้ได้ กระดูกในร่างของเขาส่งเสียงแตกหักทำให้เขาต้องกรีดร้องออกมา
ความแตกต่างของพลังชัดเจนมาก ด้วยความโหดเหี้ยมของหยางเทียนเฉิงและพลังที่มากกว่าถึงหกขั้นย่อย เขาสามารถจัดการโจวเกาหยางได้อย่างง่ายดาย
“ตายยย!” โจรสลัดสามคนกระหน่ำโจมตีอย่างต่อเนื่อง
หยางเทียนเฉิงใช้เพียงแต่มือเดียวในการปัดป้อง ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมดทำให้เขาถูกโจมตีอยู่บ้าง แม้กายหยาบของเขาจะน่าทึ่งแต่มุมปากก็ยังมีโลหิตไหลออกมา
“ผู้อาวุโสโปรดเมตตา!” โจวเกาหยางรีบอ้อนวอน “ข้าไม่ได้สังหารใครทั้งนั้น ข้าไม่ได้สังหารใครทั้งนั้น!”
‘หมับ!’
หยางเทียนเฉิงขยำมือแน่นจนร่างของโจวเกาหยางแหลกเป็นฝนโลหิต เขาเค้นเสียงก่อนจะปล่อยมือและมือยักษ์ก็ค่อยๆสลายไป
“เจ้าพวกโจรสลัด วันนี้ข้าจะส่งพวกเจ้าไปลงนรกให้เอง!” เขาปลดปล่อยจิตสังหารออกมา ด้วยร่างที่สูงใหญ่ราวกับอสูรของเขา ทำให้เขาดูทรงอำนาจเป็นอย่างยิ่ง
“ตายย!” โจรสลัดไม่หวั่นเกรงที่จะเข้าปะทะ
“เอาล่ะเจ้าหนู ทีนี้ก็เหลือแต่พวกเราแล้ว มอบชีวิตของเจ้ามาซะ!” ชายหัวโล้นลงมือโจมตีเพื่อสังหารหลิงฮันอีกครั้ง
หลิงฮันเข้าปะทะ ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ใช้กระบวนท่าลับออกมา ด้วยกายหยาบของเขาแล้วเขาสามารถรับการโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์ แม้จะบาดเจ็บเขาก็ยังฟื้นฟูตนเองได้ในพริบตาด้วยคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์
หากมองจากพลังต่อสู้แล้ว เขาในตอนนี้คืออัจฉริยะห้าถึงหกดาว แต่ถ้ามองจากพลังป้องกันแล้ว เขาคืออัจฉริยะสัตว์ประหลาดสิบดาวอย่างไม่ต้องสงสัย
หลิงฮันเสียดายเล็กน้อย การที่ต้องมาพัวพันกับชายหัวโล้นแบบนี้ทำให้เขาไม่สามารถไปช่วยสุ่ยเยี่ยนยวี่สังหารโจรสลัดคนอื่นเพื่อทำภารกิจได้
งั้นเขาก็ต้องทำเองคนเดียว
หลิงฮันใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหารอย่างต่อเนื่องใส่โจรสลัดคนอื่นและนำร่างพวกเขาเข้าไปยังอุปกรณ์มิติ
ชายหัวโล้นโกรธจนคำรามออกมา ทั้งๆที่ยังปะทะอยู่กับเขา หลิงฮันกลับยังสามารถหาโอกาสไปสังหารโจรสลัดคนอื่นได้ นี่มันเป็นการเหยียดหยามเขาอย่างแท้จริง
ในขณะเดียวกันนี้ เมื่อโจรสลัดที่อ่อนๆเริ่มถูกสังหารมากขึ้นเรื่อยๆ ทางด้านของลูกเรือเองก็ถูกสังหารไปไม่น้อยเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้หยางเทียนเฉิงโกรธแทบบ้าคลั่ง ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นยักษ์ที่สูงถึงสองฟุต
เสื้อผ้าของเขาขาดกระจายเหลือไว้เพียงกางเกงบางส่วนที่ปิดไว้เฉพาะส่วนสำคัญ บนร่างของเขามีสัญลักษณ์วงกลมเก้าดวงสลักเอาไว้ ตอนนี้สัญลักษณ์เหล่านั้นกำลังส่องแสงสว่าง ซึ่งทำให้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
“อักขระเก้าผนึกศักดิ์สิทธิ์!” โจรสลัดที่แข็งแกร่งหลายคนอุทานออกมา “ทักษะลับของตระกูลหยาง ด้วยการสังเวยอายุขัยของตน มันสามารถทำให้ผู้ใช้มีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นหนึ่งดาว”
แต่เดิมหยางเทียนเฉิงก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งมีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งดาว คงไม่มีใครสามารถปะทะกับเขาซึ่งๆหน้าได้แน่
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องสังเวยอายุขัยของตนเอง!
สำหรับสิ่งมีชีวิตแล้ว อะไรจะมีค่าไปกว่าอายุขัย?
“ตายไปซะ!” หยางเทียนเฉิงคำราม
หลิงฮันตกตะลึงเช่นกัน ถ้าเขาต้องปะทะกับหยางเทียนเฉิง เป็นไปได้ว่าเขาจะพ่ายแพ้อีกฝ่ายในสิบกระบวนท่า และถ้าหากถูกโจมตีร้อยกระบวนท่า แม้แต่กระดูกที่เทียบกับแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ต้องแตกหัก
ด้วยพลังของหยางเทียนเฉิง เหล่าโจรสลัดก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที
เพียงแต่ว่าคนที่หลิงฮันสนใจที่สุดในหมู่จอมยุทธบนเรือนั้นไม่ใช่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดอย่างเหลี่ยวหยิงหรือยักษ์อย่างหยางเทียนเฉิง แต่กลับเป็นฟู่เทียน ชายหนุ่มที่ดูแล้วมีอายุเพียงสิบหกหรือสิบเจ็ดปี
เด็กหนุ่มคนนี้ช่างโหดเหี้ยม!
พลังบ่มเพาะของเขาคือระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดเท่านั้น แต่พลังต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก เขาไม่ได้ใช้อาวุธใดๆแต่เลือกใช้ทุกส่วนของร่างกายในการต่อสู้ หลิงฮันมองเห็นอีกฝ่ายใช้แม้กระทั่งปากในการกัดจมูกคู่ต่อสู้