“ดาบที่แข็งแกร่งที่สุด?” หลิงฮันดูแปลกใจ
นี่ไม่ใช่คำพูดธรรมดา มันมีคำว่าแข็งแกร่งที่สุดอยู่ในโลกใบนี้หรือไม่? เหนือฟ้ายังมีฟ้า แล้วนิยามของคำว่าแข็งแกร่งที่สุดนั้นคืออะไรกัน?
หยางเทียนเฉิงและคนอื่นต่างพากันส่ายหัว คำว่าแข็งแกร่งที่สุดควรเป็นความคิดที่ไร้เดียงสาของเด็ก
“ดาบที่แข็งแกร่งที่สุด!” จินจื้อฮุยพยักหน้าอีกครั้งและพูดว่า “ข้าจะต้องตีดาบที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาให้จงได้!”
“แล้วจะสร้างขึ้นมาได้ยังไง?” หลิงฮันรู้สึกสนใจมาก
สมองของจินจื้อฮุยเต็มไปด้วยเรื่องดาบ แต่ตอนนี้เขาเริ่มสนิทกับหลิงฮันแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะปกปิดความลับและพูดว่า “ข้ากำลังศึกษาวัตถุดิบชนิดหนึ่ง หากสามารถหลอมมันขึ้นมาได้ก็จะมีความหวังที่จะตีดาบที่แข็งแกร่งที่สุดได้สำเร็จ”
พรวด!
หยางเทียนเฉิงและคนอื่นดูไม่เชื่อ มันจะมีวัตถุดิบแบบนั้นอยู่ได้ยังไง?
แม้จินจื้อฮุยจะไม่สนใจคนพวกนั้น แต่ก็พูดว่า “มันเป็นวัตถุดิบที่สามารถพัฒนาตัวเองได้ตลอด แล้วการตีดาบนั้นมันขึ้นกับวัตถุดิบด้วย”
“ไม่เลว” หลิงฮันพยักหน้าเห็นด้วย แร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งจะไม่สามารถสร้างอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สองขึ้นมาได้ การสร้างอาวุธวัตถุดิบถือเป็นปัจจัยสำคัญ
“อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าสามารถหลอมวัตถุดิบนั้นขึ้นมาได้ อาจกล่ายได้ว่านั่นคือแก่นแท้ของมัน และถ้าใช้มันสร้างอาวุธ มันสามารถดูดกลืนวัตถุดิบอื่นและยกระดับตัวเองจากระดับหนึ่งเป็นระดับสอง จากระดับสองเป็นระดับสามไปเรื่อยๆ” จินจื้อฮุยพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้นเอง หยางเทียนเฉิงและคนอื่นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจถึงขั้นอ้าปากค้าง
อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างไม่จำกัด?
หลิงฮันเองก็ตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ แต่แล้วเขาก็ตบไหล่ของจินจื้อฮุยและพูดว่า “สมแล้วที่เป็นพี่ชายจิน ท่านเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง!”
สีหน้าของจินจื้อฮุยดูมีความสุข เมื่อเขาบอกทฤษฎีนี้ให้กับคนในหมู่บ้านหรือแม้กระทั่งพ่อของเขาฟัง ทุกคนต่างพูดจาเยาะเย้ยเขา แม้แต่พ่อของเขาก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝันและให้คิดถึงความเป็นจริงบ้าง
“น้องชายหลิง เจ้าเชื่อด้วยหรือว่าข้าสามารถตีดาบแบบนั้นขึ้นมาได้?” เขาถาม
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ถ้าพี่ชายจินยังไม่ลองก็คงไม่มีทางทำสำเร็จ แต่ถ้าพี่ชายจินลองทำดู แม้โอกาสจะสำเร็จจะมีแค่หนึ่งในพันล้าน แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีความหวัง!”
“ถูกต้อง! ถูกต้อง!” จินจื้อฮุยพยักหน้าไม่หยุด ตอนนี้เขาเหมือนได้พบเจอเพื่อนสนิทที่เข้าใจเขา
หยางเทียนเฉิงและคนอื่นเลิกสนใจทั้งสองคน ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดฟังดูแล้วสุดยอดก็จริง แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
“น้องชายหลิง เมื่อใดที่ข้าตีดาบที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาได้สำเร็จ ข้าจะนำมันมามอบให้เจ้าทันที!” จินจื้อฮุยพูดอีกครั้ง เขาชอบตีดาบ แต่เขาไม่ใช่นักดาบ อันที่จริงแล้วทุกคนในหมู่บ้านนักตีดาบมักจะจับค้อนเป็นอยู่ตลอด เพราะพวกเขาต้องใช้ค้อนทุบแร่เหล็กให้เปลี่ยนรูปร่างเป็นดาบ
“เช่นนั้น ข้าก็จะตั้งหน้าตั้งตารอ” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม
จินจื้อฮุยพยักหน้า ตอนนี้เขามีแรงบันดาลใจแล้ว และเขาจะต้องทำให้สำเร็จ
กลุ่มของหลิงฮันทั้งหกคนเดินเข้าไปในป่าทึบ แต่หลังจากที่เข้ามาได้ไม่นาน เบื้องหน้าเขาก็กลายเป็นที่เปิดและมีแสงแดดของดวงอาทิตย์สาดส่องลงมา ซึ่งทำให้ทั้งหกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
ด้านหน้าของพวกเขามีหลุมขนาดยักษ์!
หลุมยักษ์นี่มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับพื้นที่หนึ่งในสามของเกาะ ความลึกของมันยังไม่มีใครทราบ แต่ผนังของหลุมนั้นมีความสูงชันและเรียบเนียบเหมือนกับกระจก
มันเหมือนกับเสายักษ์ที่ตระหง่านขึ้นไปบนท้องฟ้า
พวกเขายังคงยืนอยู่ในป่า หากเดินข้างหน้าไปอีกก้าวเดียวจะกลายเป็นหน้าผา ถ้าพวกเขาประมาทคงจะตกลงไปในหน้าผาไปแล้ว
ต้องทราบก่อนว่าแรงดึงดูดของที่นี่น่ากลัวมาก แม้จะมีอุปกรณ์บินก็ไร้ประโยชน์ และหากตกลงไปในหลุมยักษ์นี่…เกรงว่ามันจะไม่มีที่สิ้นสุดและไม่ได้กลับออกมา
ทุกคนยืนอยู่ที่ริมหน้าผาและเมื่อมองเข้าไปในหลุมจะเห็นแต่ความมืดมิดราวกับว่ามันจะนำพาไปสู่แกนโลก ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ต่อให้เป็นจอมุยทธระดับดาราก็คงตายถ้าตกลงไป!
ความร้อนของแกนโลกสามารถเผาร่างของจอมยุทธระดับดาราให้กลายเป็นเถ้าถ่ายได้
ในขณะที่พวกเขาก้มลงไปมอง มันเหมือนกับมีแรงโน้มถ่วงพยายามดึงพวกเขาลงไป ดังนั้นทุกคนจึงรีบดึงหัวของตัวเองกลับมาทันที
“ผู้อาวุโสหยาง ท่านเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้มาก่อนหรือไม่?” หลิงฮันถาม
ใบหน้าของหยางเทียนเฉิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาส่ายหัวไปมาและพูดว่า “ข้ารู้สึกละอายใจยิ่งนัก แม้ตระกูลหยางของข้าจะเรียกได้ว่าผู้ปกครองมหาสมุทรดาราก็ไม่ผิด แต่ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเกาะแห่งนี้มาก่อนเลย”
แม้กระทั่งตระกูลหยางยังไม่รู้ แล้วใครจะไปรู้
ทุกคนกลายเป็นนิ่งเงียบ เกาะแห่งนี้มันดูลึกลับมาก แต่ในความลึกลับนั้นก็ทำให้ทุกคนเกิดความอยากรู้อยากเห็น แม้จะอันตรายอะไรอยู่ไม่รู้ก็ตาม
หลิงฮันตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งและลองโยนมันลงไปในหลุม
เมื่อต้นไม้ขนาดใหญ่ตกลงไปในหลุม ภายในไม่กี่วินาทีมันก็กลายเป็นจุดสีดำเล็กๆ จากนั้นมันก็ถูกความมืดภายในหลุมกลืนกินและมองไม่เห็นอีกต่อไป เมื่อผ่านไปเป็นเวลานานก็ยังไม่ได้ยินเสียงตกกระทบ
“มันไม่มีที่สิ้นสุดหรือไงกัน” หลิงฮันกล่าว
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
หลิงฮันลองใช้เนตรแห่งสัจธรรม แต่มันก็ไม่ได้ผล เขามองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของมันเลย
“หืม!”
สีหน้าของหยางเทียนเฉิงดูตื่นตระหนก ในไม่ช้าหลิงฮันและคนที่เหลือก็เผยสีหน้าระมัดระวังและมองดูรอบๆ
พรึบ มีสามคนกระโจนออกมาจากป่าอย่างกะทันหัน
ทั้งสามคนไม่ใช่หลัวอู่ ฟานหยง และเหลี่ยวหยิง แต่เป็นชายหนุ่มสามคนที่กำลังนั่งอยู่บนเสือ หมาป่าและเสือดาวตามลำดับ แต่ถ้ามองดูให้ดีจะเห็นว่าสัตว์อสูรทั้งสามตัวไม่ใช่ของจริง แต่ทำมาจากเหล็ก หากมองจากระยะไกลคนไม่รู้ แต่ถ้ามองดูใกล้ๆก็จะเห็นรายละเอียดเล็กน้อย
“หุ่นเชิด!” หยางเทียนเฉิงและคนที่เหลือส่งเสียงอุทานออกมาพร้อมกัน