โกวชิ่วเหวินเคลื่อนไหวใดๆ แต่เป็นหุ่นเชิดเสือที่พุ่งแทรกเข้ามาเพื่อหยุดหลิงฮัน มันคำรามใส่เขา ‘โฮกกก’ มันอ้าปากและพ่นเขี้ยวทั้งยี่สิบออกมาเพื่อโจมตีราวกับเป็นมีดบิน
ฉัวะ!
หุ่นเชิดเสือมีพลังต่อสู้ของระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดชั้นปลาย หลิงฮันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ร่างของเขาถูกเขี้ยวทั้งยี่สิบกว่าอันทิ่มแทงและมีโลหิตไหลออกมา
ต่อให้เป็นกายหยาบของเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บหากคู่ต่อสู้มีพลังระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด นี่เพราะอย่างไร ระดับพลังบ่มเพาะของพระเจ้านั้นแม้พลังจะห่างกันแค่ขั้นเล็กแต่ความต่างของพลังนั้นใหญ่โตมาก
หุ่นเชิดเสืออ้าปากอีกครั้งและคิดจะดูดเขี้ยวที่มันพ้นกลับเข้ามา
“คิดอะไรง่ายๆ!” หลิงฮันแสยะยิ้ม เขาสั่งการในใจให้สัมผัสสวรรค์คลุมเขี้ยวเอาไว้ ‘พรึบ’ ทันใดนั้นเขี้ยวทั้งยี่สิบสี่ซี่ก็ถูกนำเข้าไปยังหอคอยทมิฬ
บนเขี้ยวของหุ่นเชิดไม่มีเจตจำนงใดๆเหลือเชื่อจึงเป็นเรื่องง่ายที่หลิงฮันจะทำเช่นนี้
“อะไรกัน!” โกวชิ่วเหวินตกใจจนตาถลน
เกิดอะไรขึ้น?
จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของหุ่นเชิดคือมันไม่มีความคิดเป็นของตนเอง มันสามารถถูกนำเข้าไปในอุปกรณ์มิติได้ง่ายมาก แต่ปัญหานั้นแก้ง่ายมากคือการทำให้หุ่นเชิดกลายเป็นอุปกรณ์มิติเสียเอง
เท่าที่รู้อุปกรณ์มิตินั้นไม่สามารถนำอุปกรณ์มิติอีกชิ้นเข้าไปในตัวมันได้ ที่เป็นแบบนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่ขนาดของมิติแต่เป็นคุณภาพ
ไม่ว่าจะเป็นตัวหรือฟันของหุ่นเชิดเสือก็ส้วนแต่มีช่องมิติเล็กๆอยู่เพื่อป้องกันไม่ให้มันถูกขโมยเข้าไปยังอุปกรณ์มิติ
แต่ตอนนี้เขี้ยวทั้งยี่สิบสี่อันกลับหายไปแบบดื้อๆ!
แต่ด้วยขีดจำกัดความรู้เรื่องมิติของโกวชิ่วเหวิน เขาไม่มีทางรู้แน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้น
“โฮกกก!” หุ่นเชิดเสือคำรามและแกว่งกรงเล็บเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ตราบใดที่เป็นสิ่งที่ไม่มีเจตจำนง เขาสามารถใช้สัมผัสสวรรค์นำมันเข้ามาในหอคอยทมิฬได้
ฮ่าๆๆ ยอดเยี่ยม!
เขาจ้องไปยังหุ่นเชิดเสือและพาดมือไว้ด้านหลัง ท่าทีของเขาดูเหมือนกับกำลังอวดดี
เพียงแต่ว่าสัมผัสสวรรค์ของเขานั้นได้ขยายออกกว้างราวกับเป็นตาข่ายเพื่อโอบล้อม
หุ่นเชิดเสือพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วที่สูงมาก ถ้าลองเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางคนอื่น ยังไม่ทันทีสัมผัสสวรรค์จะโอบล้อมได้เสร็จสมบูรณ์ร่างของพวกเขาก็คงจะถูกบดขยี้โดยหุ่นเชิดเสือเสียก่อน
แต่พลังจิตวิญญาณของหลิงฮันนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าระดับพลัง แถมยังถูกทำให้มั่นคงด้วยคัมภีร์สวรรค์อีก
“แส่หาความตาย!” โกวชิ่วเหวินคำราม เขาชี้นิ้วและกล่าว “สังหารเขาแต่อย่าให้ศพเละมาก ไม่เช่นนั้นมันจะยุ่งยาก!”
หุ่นเชิดเสือพุ่งกระโจน ‘พรึบ’ และหายไปทันที
พรวด!
โกวชิ่วเหวินตกตะลึงจนลูกตาของเขาถลนออกมา ปากของเขาอ้าค้างและเผลอแลบลิ้นห้อย
หายไปแล้ว!
หุ่นเชิดระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดหายวับไปราวกับความฝัน
‘พึบ’ ทันใดนั้นเอง หลัวอู้ก็เปลี่ยนความสนใจจากสุ่ยเยี่ยนยวี่มาโจมตีหลิงฮัน
แม้เขาจะได้รับคำสั่งให้สังหารทั้งหลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่ แต่ความเกลียดชังที่เขามีต่อหลิงฮันในความทรงจำนั้นมากกว่า
แน่นอนว่าเขาต้องเลือกสังหารหลิงฮันเป็นคนแรก!
“กลับมา! จงกลับมา!” โกวชิ่วเหวินรีบตะโกน เขารู้สึกตัวแล้วว่าหลิงฮันมีอะไรที่แปลกๆ
หลิงฮันจ้อมอง หลัวอู้นั้นเป็นคนที่คิดจะไล่ล่าสังหารเขา แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพบเจอกับความตาย แถมตายไปแล้วก็ยังถูกใช้เป็นสุนัขรับใช้อีก
หลิงฮันส่ายหัว แน่นอนว่าเขาไม่มีความรู้สึกสงสารกับคนเช่นนี้ แต่เขาแค่อดคิดไม่ได้เท่านั้น
หลัวอู้นั้นเป็นหุ่นเชิดที่ผิดพลาด? โกวชิ่วเหวินออกคำสั่งแล้วแท้ๆแต่เขาก็ยังลงมือไม่หยุด เขาเลือกที่จะโจมตีก่อนถึงจะค่อยล่าถอย
‘พรึบ’ ร่างหุ่นเชิดของหลัวอู้หายไป
หลิงฮันหัวหน้ายิ้มให้กับโกวชิ่วเหวินและกล่าว “ทีนี้ก็เหลือแค่พวกเราแล้ว!”
ขาสองข้างของโกวชิ่วเหวินสั่นสะท้านด้วยความกลัว
ตามหลักแล้ว นักปรุงยา ผู้ใช้รูปแบบอาคม นักคำนายและอื่นๆ นั้นพวกเขาจะมีพลังต่อสู้ที่ไม่สูงเท่าไหร่ อย่างมากก็พอจะสู้ได้ในระดับพลังเดียวกันเท่านั้น การจะสู้ข้ามระดับนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็ง่ายมาก พวกเขาในเวลาและความพยายามไปกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ศาสตร์วรยุทธ แล้วพวกเขาจะสามารถขัดเกลาพลังสู้ได้อย่างไร?
โกวชิ่วเหวินก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่เขาแตกต่างคือการเป็นนักเชิดหุ่นทำให้มีหุ่นเชิดอยู่ข้างกาย ที่พึ่งของเขาคือหุ่นเชิดเสือที่มีพลังต่อสู้ของระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดชั้นปลาย
แต่ตอนนี้หุ่นเชิดทั้งสองของเขากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย การที่เขาไม่เข้าใจว่าหายไปได้อย่างไรทำให้ขาหวาดกลัว ยิ่งกว่านั้นพลังบ่มเพาะของเขาเองก็อยู่ที่ระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นปลายเท่านั้น
ห้องนี้เองก็เป็นห้องปิดเสียง ต่อให้เขาตะโกนแหกปากไปก็ไม่มีใครได้ยิน
นอกเสียจากว่าเขาต้องหนีออกไปให้ได้
เมื่อคิดเช่นนั้นสายตาของเขาก็เพ่งไปยังประตูทันที
หนี!
เขาสับขาวิ่งเพื่อรีบไปขอความช่วยเหลือ ตอนนี้เขาลืมความคิดจะซ่อนหลิงฮันเอาไว้เพื่อจะนำไปหลอมเป็นหุ่นเชิดระดับสุริยันจันทราไปสนิทแล้ว
แต่ที่เขาประหลาดใจก็คือหลิงฮันไม่ไล่ตามมา
ดี!
เขากล่าวในใจและค่อยๆเข้าใกล้ประตูมากขึ้น ใบหน้าของเขาเผลอแสดงท่าทีดีใจออกมาไม่ได้
‘พรึบ’ แสงที่เย็นยะเยือกแวบผ่านเข้ามา
“อ้ากกก” โกวชิ่วเหวินครวญครางและล้มลงพื้นทันที
เขามองไปด้านหลังและพบว่ามีบาดแผลปรากฏที่ขา เขาไม่รู้เลยว่าอะไรทำให้เขาเกิดบาดแผล แต่การโจมตีเมื่อครู่ทำให้เส้นลมปราณที่บริเวณขาของเขาฉีกขาด
แน่นอนว่าสิ่งที่หลิงฮันใช้โจมตีไปคือศรฆ่ามังกรทะลวงดารา ดังนั้นมันจึงรวดเร็วจนมองไม่ทัน!
โกวชิ่วเหวินรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน เขาอดกลั้นความเจ็บปวดและเดินไปยังประตู ความคิดเดียวในหัวของเขาตอนนี้คือการหลบหนี
“ข้ามองเจ้าสูงไปจริงๆ!” หลิงฮันกระโดดเพื่อหวังไปคว้าคอของอีกฝ่าย
“อย่าเข้ามาใกล้ข้า!” โกวชิ่วเหวินกรีดร้องและใช้มือทุบตีหลิงฮัน
หลิงฮันส่ายหัว ด้วยพลังของเขาความพยายามของโกวชิ่วเหวินย่อมไร้ความหมาย โกวชิ่วเหวินถูกหลิงฮันจับไว้ได้ทันที
“เอาล่ะ เล่าที่มาของอาจารย์ขาเป๋ของเจ้ามาซะ!” หลิงฮันกล่าว
ก่อนหน้านี้เขาไม่มีความคิดจะไปวุ่นวายกับเผยจี แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเผยธาตุแท้ออกมาและเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน หลิงฮันก็ต้องการรู้ข้อมูลของศัตรูเป็นธรรมดา