หลิงฮันตัดสินใจเลิกคิดปัญญาวุ่นวายไปก่อนและเริ่มทำตามแผนที่ตั้งไว้
เขาต้องการขายเม็ดยาไข่มุกนภา
เรื่องนี้แน่นอนว่าเขาต้องพึ่งหลีเหว่ยเหว่ย
หากเขาเป็นคนนำไปขายเองคงไม่พ้นถูกคนอื่นกดราคาเพราะไม่มีเบื้องหลัง แต่หากหลีเหว่ยเหว่ยเป็นคนนำไปขาย ใครกันจะกล้ากดราคากับลูกสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย
ต่อให้เขาต้องแบ่งรายได้ให้กันหลีเหว่ยเหว่ยมันก็ยังคุ้มกว่าอยู่ดี
หลีเหว่ยเหว่ยติดใจรสชาติของการหาเงินแล้ว แน่นอนว่านางรับปากทำหน้าที่นี้ด้วยความยินดี แต่เมื่อนางเห็นเห็นจำนวนของเม็ดยาไข่มุกนภานางก็อดอุทานออกมาไม่ได้ “นี่เจ้าไปขโมยเม็ดยามาจากตระกูลนักปรุงยาไหนกัน?”
จำนวนมันมีมากเกินไป ขนาดร้านขายเม็ดยาทั่วไปก็อาจจะไม่มีเม็ดยาไข่มุกนภาจำนวนขนาดนี้
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ส่วนแบ่งของข้าแปดส่วนของเจ้าสองส่วนเป็นอย่างไร?”
หลีเหว่ยเหว่ยพยักหน้าด้วยความยินดี มูลค่าของเม็ดยานั้นแพงกว่าวัตถุดิบไม่รู้กี่เท่า ต่อให้เป็นส่วนแบ่งแค่สองส่วนมันก็ยังทำให้นางตื่นเต้นได้
หลิงฮันก็ได้พูดคุยกับหลิงยู่และหม่าซิงด้วยเช่นกัน พวกเขายังคงอยู่ในระดับทลายมิติ ถ้าพวกเขาไม่ขัดเกลาพลังต่อสู้ให้ถึงยี่สิบดาวพวกเขาก็จะไม่ทะลวงผ่านไปยังระดับพระเจ้า แม้พวกเขาทั้งสามจะเข้าร่วมสำนักนภาสีชาดพร้อมกัน แต่มีแค่พวกเขาที่ยังอยู่ที่เดิมในขณะที่หลิงฮันบรรลุระดับภูผาวารีขั้นกลางแล้ว
ทำไมความห่างของพวกเขาถึงได้กว้างขนาดนี้?
หลีเหว่ยเหว่ยทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อเงินแล้วคุณหนูผู้นี้เต็มใจยอมเหนื่อย ภายในเวลาเพียงแค่สามวันหลิงฮันก็ได้รับรายได้ถึงสามล้านผลึกก่อเกิด ต่อให้ต้องแบ่งแปดต่อสองส่วน เงินที่หลิงฮันได้รับก็ยังมากกว่าสองล้านผลึกก่อเกิดอยู่ดี
เขาเหลือผลึกก่อเกิดไว้สำหรับบ่มเพาะพลังเพียงเล็กน้อยและใช้ผลึกก่อเกิดที่เหลือไปซื้อวัตถุดิบสำหรับหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม เม็ดยาเวหาสีคราม
การหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสามด้วยระดับพลังบ่มเพาะภาวารีขั้นกลางนั้นค่อนข้างลำบาก แต่หลิงฮันที่มีหอคอยทมิฬย่อมไม่ต้องกังวลเรื่องอุณหภูมิของเปลวเพลิง และด้วยจิตวิญญาณที่ทรงพลังเหนือกว่าจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางทั่วไปทำให้เขาสามารถหลอมเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามได้
การหลอมครั้งแรกจบลงด้วยความล้มเหลว
วัตถุตดิบมูลค่ากว่าสองล้านผลึกก่อเกิดเพียงแค่หนึ่งเดือนเขาก็ใช้พวกมันไปกว่าเก้าส่วน แต่ในความผิดพลาดที่ผ่านมาหลิงฮันก็จับเคล็ดบางอย่างได้
อืม ถ้าหลอมล้มเหลวซักร้อยกว่ารอบคงจะหลอมเม็ดยาสำเร็จได้
นี่มันการเผาผลาญเงินชัดๆ
หลิงฮันปวดหัวทันทีเนื่องจากวัตถุดิบมูลกว่าสองล้านผลึกก่อเกิดไม่เพียงพอและเขาก็ใกล้จะถึงความสำเร็จแล้ว
“เงินไม่พอ!” หลิงฮันเกาหัวและเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาได้เงินกว่าสองล้านผลึกก่อเกิดมาเมื่อไม่นานนี้ไม่ใช่รึ ทำไมเขาถึงได้กลับมาจนอีกแล้ว?
……
“นายน้อย!” เบื้องหน้าจ้าวหลุน มีสตรีที่งดงามคนหนึ่งยืนอยู่ หากมองนางให้ดีนางมีส่วนที่คล้ายคลึงกับสุ่ยเยียนยวี่ แต่ถึงจะคล้ายนางก็ยังมีหลายส่วนที่ด้อยกว่า
จ้าวหลุนมองไปยังคลื่นของทะเลสาปและโคจรทักษะบางอย่างที่ราวกับมีงูทองคำหลายพันตัวกำลังเลื้อยคลานไปพร้อมๆกัน
เขาฝึกฝนทักษะลับโบราณที่สามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวของสายน้ำและกฎของธรรมชาติได้
“มีอะไร?” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“หลิงฮันและคุณหนูสุ่ยกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” สตรีที่งดงามกล่าว ชื่อของนางชื่อหยังลั่วตัน
ใบหน้าที่สงบนิ่งของจ้าวหลุนบิดเบี้ยวทันทีและเผลอกำมืออย่างโกรธแค้น เหตุการณ์ที่พ่ายแพ่ให้กับหลิงฮันนั้น ต่อให้เป็นเพราะเขาถูกลดพลังบ่มเพาะลงก็ตาม มันก็ยังเป็นมลทินที่ไม่อาจลบไปจากชีวิตของเขา
“ไอ้ตัวไร้ประโยชน์สองคนนั่น ภารกิจแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ!” จ้าวหลุนเค้นเสียง ตอนนี้หลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่กลับมาแล้วและจั่วเซียวและฟานหยงก็หายตัวไป พวกเขาคงหนีไม่พ้นถูกหลิงฮันสังหารแล้วเป็นแน่
จ้าวหลุนไม่เข้าใจเลย ทั้งสองคนมีพลังบ่มเพาะระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดแท้ๆ แถมก็ยังมีพลังต่อสู้ราวๆสองสามดาว บวกกับสมบัติที่เขาให้ทั้งสองไปแล้วเหตุใดยังล้มเหลวในการสังหารหลิงฮัน?
แค่มดปลวกที่เปิดสวรรค์และได้รับวาสนาจากสวรรค์และปฐพี… พวกเจ้าสังหารไม่ได้รึไง?
“อย่าบอกว่าจะต้องให้ข้าเป็นคนลงมือเอง?” จ้าวหลุนเกรี้ยวกราด เบื้องหลังของเขามีดวงอาทิตย์สีแดงปรากฏอยู่ ถึงแม้ขนาดของมันจะเล็กแต่ในด้านของพลังแล้วมันแข็งแกร่งจนระดับภูผาวารีไม่อาจเทียบได้
มดปลวกจากโลกใบเล็กนั่นตอนนี้เป็นคนของราชินีที่เก้า ใครกันจะกล้าลงมือกับหลิงฮันตรงๆ? คนที่กล้าทำเช่นนั้นไม่หวาดกลัวความเกรี้ยวกราดของราชินีที่เก้ารึไง? ไม่ต้องพูดถึงจ้าวหลุนเลย ต่อให้เป็นผู้อาวุโสจ้าวเองก็ไม่กล้า
“นายน้อย ไปจ้างวานคนของสมาคมราตรีนิรันดร์เป็นอย่างไร?” หยังลั่วตันเอ่ยแนะนำ
จ้าวหลุนคำรามออกมาทันที “บังอาจ!”
สมาคมราตรีนิรันดร์เป็นศัตรูอย่างเปิดเผยของสามจักรพรรดิราชวงศ์ จ้าวหลุนที่เป็นบุตรของแม่ทัพนั้นหากมีข่าวรั่วไหลว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาคมราตรีนิรันดร์และจักรพรรดินีรู้เข้า เขาจะต้องถูกประหารแน่นอน
หยังลั่วตันรีบคุกเข่าและกล่าว “นายน้อยโปรดเมตตา!”
……
หลิงฮันใช้วัตถุดิบที่มีอยู่จนหมด ตอนนี้เขาหมดตัวแล้ว หากต้องการหลอมเม็ดยาต่อเขาต้องหาเงินเพิ่ม
ตั้งแต่กลับมาตอนนี้เวลาก็ผ่านไปห้าเดือนแล้ว
สำหรับจอมยุทธห้าเดือนไม่ต่างอะไรกับการกระพริบตา ระยะเวลาเท่านี้หากเป็นในมุมมองของคนทั่วแล้วก็แค่หนึ่งวัน
แต่เวลาเท่านี้นั้นสำหรับหลิงฮันแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
เม็ดยาเวหาสีครามถูกหลอมสำเร็จแล้ว แถมพลังบ่มเพาะของเขาก็ยังเพิ่มเป็นระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นปลายแล้วด้วย