ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
อย่ามองว่าระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดชั้นสูงสุดนั้นห่างกับระดับสุริยันจันทราเพียงขั้นเดียว แม้จะเป็นขั้นเดียวแต่ก็เป็นขั้นเดียวที่ห่างไกล มีคำบอกว่าจอมยุทธระดับสุริยันจันทราครึ่งก้าวนั้นสามารถดึงพลังของระดับสุริยันจันทรามาใช้ได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงทฤษฎี
พวกเขาคาดเดาว่าหวูซื่อเหรินจะต้องมีพลังต่อสู้อย่างน้อยเจ็ดดาวถึงได้สามารถครอบครองพลังของระดับสุรันจันทราได้ในขณะที่มีพลังบ่มเพาะอยูที่ภูผาวารีขั้นชั้นสูงสุดชั้นสูงสุด
อัจฉริยะห้าดาวปรากฏเพียงในตำนาน แล้วอัจฉริยะเจ็ดดาวล่ะ?
หวูซือเหรินไม่ได้เป็นอัจฉริยะขนาดนั้นแต่ไม่ว่าเขาจะใช้ทักษะลับใดทำให้มีพลังต่อสู้เจ็ดดาวก็ตาม ค่าตอบแทนจะต้องมหาศาลอย่างยิ่ง หลังจากผลลัพธ์ของทักษะหมด ผู้ใช้ทักษะจะต้องพิการหรืออาจจะถึงขั้นตาย!
“นี่มันการเข่นฆ่าฝ่ายเดียวชัดๆ!” ใครบางคนกล่าว
“มีคนต้องการสังหารหลิงฮันต่อหน้าสาธารณะชน และสิ่งที่คนคนนั้นต้องจ่ายก็คือชีวิตของจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด!”
“เป็นขุมอำนาจไหนกัน?”
“จักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์? จักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม? หรือจะเป็น… สมาคมราตรีนิรันดร์?”
“นอกจากสามขุมอำนาจนี้ก็ไม่มีแล้ว”
ณ ที่นั่งชั้นสูง จ้าวหลุนเองก็คิดเช่นเดียวกัน
เขาไม่รู้ว่าหวูซื่อเหรินถูกสมาคมราตรีนิรันดร์ส่งมารึไม่ แต่จากการตรวจสอบพลังต่อสู้ของอีกฝ่าย คนคนนี้แข็งแกร่งมาก
ครึ่งก้าวสุริยันจันทรา ต่อให้เขาลงมือเองก็ต้องใช้ความพยายามเล็กน้อยถึงจะจัดการคนคนนี้ได้ ถ้าเป็นคนคนนี้ล่ะก็คงจะสามารถสังหารหลิงฮันได้ภายในหนึ่งหรือสองกระบวนท่าเป็นแน่
สุ่ยเยี่ยนยวี่เป็นกังวลทันที ถึงกับส่งระดับสุริยันจันทรามาจัดการกับระดับภูผาวารี?
ความต่างนี้เรียกได้ว่าเป็นการสังหารฝ่ายเดียว
นางพยายามสงบจิตใจ ใช่ว่าหลิงฮันจะไม่เคยปะทะกับจอมยุทธระดับสุริยันจันทรามาก่อน นอกจากนี้เขาก็ยังมีสมบัติและไพ่ลับมากมายเกินกว่าคนอื่นจะคาดคิด
ยิ่งกว่านั้นหลิงฮันก็มีกายหยาบที่แข็งแกร่ง แถมหากหลบไปอยู่ในหอคอยทมิฬใครจะสามารถสังหารเขาได้
สำหรับเรื่องที่ว่าอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์จะถูกเปิดเผยนั้น แม้จะมันจะเป็นการนำปัญญาใส่ตัว แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต สิ่งแรกที่ควรทำคือหลบหนีเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้
จ้าวหลุนแสยะยิ้มไม่หยุด ครั้งนี้หลิงฮันต้องตายแน่!
หลิงฮันตกตะลึง กลิ่นอายของอีกฝ่ายนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาเพิ่งพบเจอ
ปราณอสูร!
ปราณอสูรจะมาอยู่ในร่างของเผ่ามนุษย์? หรืออีกฝ่ายจะดูดซับแก่นพลังของจ้าวอสูรเหมือนกับเขา?
ไม่ใช่ หากพูดถึงความหนาแน่นแล้ว ปราณอสูรของอีกฝ่ายเบาบางมาก คาดว่าคงไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าปราณอสูรของจักรพรรดิจอมอสูร การที่พลังของอีกฝ่ายพุ่งสูงขึ้นขนาดนี้สมควรเป็นเพราะทักษะที่ฝ่าฝืนกฎธรรมชาติของสวรรค์และปฐพี
บัญญัติดาบเร็วนั้นฝ่าฝืนกฎธรรมชาติเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ก่อให้เกิดภาระต่อผู้ใช้อย่างหนัก แต่ตอนนี้หวูซื่อเหรินฝ่าฝืนกฎธรรมชาติโดยนำพลังปราณของสองดินแดนมารวมกันในร่างกาย แม้มันจะทำให้เขาระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาได้ แต่ผลกระทบในภายหลังนั้นคงรุนแรงกว่าบัญญัติดาบเร็วหลายเท่า
หลังจากประลองเสร็จ เขาคงหนีไม่พ้นความตาย?
แต่เจ้าตัวก็ยินยอมเช่นนั้น!
หลิงฮันคิดในใจ เขาตระหนักแล้วว่าต้องระวังสมาคมราตรีนิรันดร์ให้มาก พวกเขาสามารถนำปราณอสูรมาเพิ่มพลังต่อสู้ให้ตนเองได้เช่นนี้ เขาต้องระวังตัวให้มากแล้ว!
นี่ขนาดเป็นเพียงจอมยุทธระดับภูผาวารีเท่านั้น ถ้าหากจอมยุทธระดับสุริยันจันทราใช้ทักษะลับนี้ พลังต่อสู้จะไม่เพิ่มเป็นระดับดาราเลยรึไง?
เขาคงคิดมากเกินไป ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถรับความรุนแรงของปราณอสูรเอาไว้ในร่างได้ และในสมาคมราตรีนิรันดร์ก็คงมีคนที่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อภารกิจแค่หยิบมือ
“ตาย!” หวูซื่อเหรินรีดเค้นพลังจนถึงขีดสุด
เขายกมือขึ้นและกำหมัดชกเข้าใส่หลิงฮัน หมัดของเขาขยายจนมีขนาดใหญ่ราวๆบ้านหนึ่งหลัง หมัดที่ชกออกไปก่อให้เกิดชั้นพายุและอากาสที่บิดเบี้ยว
นี่คือการโจมตีที่ไร้ปรานี หลิงฮันต้องถูกบดขยี้กลายเป็นก้อนเนื้อแน่ ต่อให้กายหยาบที่แข็งแกร่งเทียบเท่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของระดับสุริยันจันทราได้
จะป้องกันอย่างไรดี?
หลิงฮันก้าวถอย แต่ที่นี่คือสังเวียนเหล็กไหล แม้สังเวยนจะกว้างแต่ก็ยังมีพื้นที่จำกัด เมื่อเขาถอยไปถึงขอบกำแพงหมัดของหวูซื่อเหรินก็มาถึงตัวเขาแล้ว
ร่างของหลิงฮันยืนเอียงข้างอยู่หน้ากำแพง มือขวาของเขายื่นออกมาด้านหน้า
ในมือของเขามีแผ่นหินถูกถือเอาไว้
มันคือหินต้นกำเนิดสวรรค์
‘ปัง!’
“อั่ก!” หลิงฮันกระอักโลหิต หินต้นกำเนิดสวรรค์สามารถดูดซับได้เพียงการโจมตีตามขนาดของมัน แม้หลิงฮันจะหันเอียงตัวให้หลบอยู่ด้านหลังแผ่นหินมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็ยังหลบได้ไม่มิดทั้งตัว
ไหล่ซ้ายของเขาถูกโจมตีใส่จนกลายเป็นเศษเนื้อ เท้าขวาของเขาหายไปครึ่งนึง ส่วนขาซ้ายเหลืออยู่เพียงหนึ่งในสามส่วน
แต่เขาก็ยังรอดชีวิตมาได้!
หยดวารีอมตะนิรันดร์ถูกใช้งาน ในพริบตาบาดแผลของหลิงฮันก็ถูกฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
หลิงฮันกวัดแกว่งดาบและพุ่งโจมตีด้วยทักษะบัญญัติดาบเร็ว
หวูซื่อเหรินตกตะลึงและรีบเอื้อมมือมาป้องกันบริเวณหน้าอกเนื่องจากสัมผัสได้ว่ามีประกายดาบพุ่งเข้าใส่หัวใจของเขา
แต่เมื่อเข้าเอื้อมมือขึ้นมาก็พบว่ามือของเขาถูกแผ่นหินต้นกำเนิดสวรรค์กันเอาไว้
และทันใดนั้นเองดาบก็ถูกแทงเข้าใส่เป้าหมาย!
เร็วมาก!
ปลายดาบทะลวงร่างของเขาและทะลุหัวใจ!
“ตายไปกับข้า!” ตาของหวูซื่อเหรินเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาอ้าปากและปล่อยคลื่นเสียงออกมา
คลื่นเสียงแปรเปลี่ยนเป็นดาบสีดำนับร้อย ดาบแต่ละเล่มถูกเคลือบไว้ด้วยปราณอสูร
ปราณอสูรไม่ใช่อำนาจของดินแดนแห่งนี้ หลิงฮันจะต้องถูกกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติบดขยี้แน่นอนหลังจากปราณอสูรเข้าไปในร่างของเขา
ระยะใกล้เช่นนี้หลิงฮันจะหลบพ้น?
ถึงแม้เขาจะพยายามหลบเท่าที่หลบได้และปัดป้องดาบดำหลายเล่มด้วยแผ่นหินต้นกำเนิดสวรรค์ จำนวนของดาบดำก็มีมากเกินไปทำให้มีบางเล่มที่เฉือนโดนร่างเขา ต่อหน้าระดับสุริยันจันทรา กายหยาบระดับโลหะศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามย่อมไร้ความหมาย ดาบดำทำลายการป้องกันและทิ่มเข้ามาในร่างของเขา
“ฮ่าๆๆ สุดท้ายข้าก็ทำภารกิจสำเร็จ!” ใบหน้าของหวูซื่อเหรินเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
เนื่องจากร่างของเขามีอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของสองพิภพอยู่ด้วยกัน หลังจากสู้เสร็จชะตากรรมของเขาก็หนีไม่พ้นความตายอยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้ถูกหลิงฮันสังหารก็ไม่ได้แย่อะไร
“ข้าคงทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว” หลิงฮันกล่าวหยอกล้อ เขาที่ดูดซับแก่นพลังของจ้าวอสูรอยู่ ปราณอสูรเล็กน้อยแค่นี้ย่อมทำอะไรเขาไม่ได้
เขาขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้ดาบดำหลุดออกมาจากร่าง ดาบดำสลายกลายเป็นปราณสีดำในขณะที่บาดแผลของหลิงฮันถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
“เป็นไปได้อย่างไร!” ใบหน้าของหวูซื่อเหรินตกตะลึงอย่างไม่อาจยอมรับได้ เขาถูกปราณอสูรบุกรุกเข้าไปในร่างแล้วแต่กลับขับไล่ออกมาได้ง่ายเพียงนี้?
เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?
หวูซื่อเหรินยอมรับไม่ได้ แต่พลังเฮือกสุดท้ายของเขาก็หมดลง ร่างของเขาล้มลงทันที จากการที่ใช้พลังอำนาจของทั้งสองพิภพ เขาไม่ใช่แค่ตกตายแต่ร่างก็ยังเน่าเปื่อยจนไม่เหลือเศษซากแม้แต่ชิ้นเดียว