ปัง! ปัง! ปัง!
ปราณชั่วร้ายยักษ์อย่างน้อยสิบตัวเข้ามาล้อมรอบหลิงฮัน เขารีบหลบเข้าไปซ่อนตัวในหอคอยทมิฬทันที จากนั้นก็เคลื่อนที่ไปตามแรงลมไปที่แท่นบูชา
หลิงฮันเห็นรถม้ากำลังมุ่งหน้ามาจากระยะไกล
รถม้าพวกนั้นเป็นกรงเหล็ก!
รถม้าแต่ละคันนั้นมีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อและบรรทุกสัตว์อสูรหลายชนิด พวกมันต่างส่งเสียงร้องคำรามด้วยความรู้สึกโกรธแค้นและสาปแช่ง
แต่มันไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์อสูรที่ทรงพลังเท่านั้น แม้แต่มนุษย์เองก็ถูกขังและส่งไปที่แท่นบูชาเหมือนกับพวกสัตว์อสูร
นี่คือเครื่องสังเวย?
ระหว่างที่รถม้าเคลื่อนที่ผ่าน พวกมันถูกปราณชั่วร้ายจู่โจมเช่นเดียวกัน แต่เมื่อมันโจมตีกลุ่มรถม้า อักขระศักดิ์สิทธิ์บนรถม้าก็ส่องประกาย และทำให้พวกมันกระเด็นกลับไปด้านหลัง
นั่นมันน่าจะเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์ระดับดารา
หลิงฮันคิดอยู่ในใจ ปราณชั่วร่ายบางร่างบรรลุอยู่ในระดับสุริยันจันทราขั้นสูง แต่ก็ยังกระเด็นไปด้านหลัง นี่แสดงให้เห็นว่ามันเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์ระดับดารา
หลิงฮันจ้องมองรถม้าอย่างระมัดระวัง และเห็นการดาษแปะอยู่บนรถม้า เมื่อถูกโจมตีกระดาษพวกนั้นจะเปล่งประกายและก่อตัวเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์
รถม้ายังคงมุ่งหน้าไปที่แท่นบูชา ปราณชั่วร้ายพวกนั้นไม่อาจหยุดยั้งได้
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลิงฮันจึงถือโอกาสเคลื่อนไหว เขาปรากฏตัวออกมาจากหอคอยทิฬและเข้าไปคลุกเคล้ากับปราณชั่วร้าย
รูปลักษณ์ของเขาในตอนนี้คงไม่มีใครตระหนักว่าเขาเป็นใครและไม่มีทางที่จะเชื่อมโยงไปถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาได้เลย
หลังจากนั้นหลิงฮันก็กระโจนเข้าใส่รถม้าโดยตรง
“รถหาที่ตาย!” คนขับรถม้าตะโกนอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้ลงมือโจมตี
ด้วยอักขระศักดิ์สิทธิ์ระดับดาราจะมีปราณชั่วร้ายตนใดสามารถต่อต้านได้?
หืม?
คนขับรถม้าตกตะลึง เมื่อครู่เขาเห็นเต็มตาว่ามีชายคนหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามา แต่ชายคนนั้นหายไปในพริบตา!
หรือชายคนนั้นจะกลายเป็นเศษเนื้อไปแล้ว?
“ต้าเถี่ยโถ๋วเกิดอะไรขึ้น?” ภายในรถม้าใครบางคนตะโกนถาม “เมื่อครู่เหมือนข้าจะเห็นเงาคนโจมตีรถม้า!”
“ท่านไม่ต้องกังวล อีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีเท่านั้น ตอนนี้มันคงกลายเป็นเศษเนื้อไปแล้ว!” คนขับที่ชื่อต้าเถี่ยโถ๋วตอบกลับ
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านั่นจะต้องเป็นโจรภูเขาที่พยายามสร้างความสับสนและปล้นรถคุกเพื่อปล่อยนักโทษแน่นอน ช่างเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี!” คนที่อยู่ภายในรถม้ากล่าวและส่งเสียงหัวเราะ
“ใช่แล้วนายท่าน!” ต้าเถี่ยโถ๋วพยักหน้าและขับรถม้าต่อ แล้วไม่เก็บเรื่องที่เกิดเมื่อครู่มาใส่ใจ
หลิงฮันนั่งมองอย่างเงียบๆ ในตอนที่กำลังจะปะทะกับรถม้า เขาได้เข้าไปหลบในหอคอยทมิฬ และปล่อยให้หอคอยทมิฬลอยเข้าไปในรถม้าเอง แน่นอนว่าอักขระศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นไม่สามารถปิดกั้นหอคอยทมิฬได้
มีสัตว์อสูรหลายสิบตัวอยู่บนรถม้าคันนี้ แต่ละตัวล้วนเป็นสัตว์อสูรระดับภูผาวารี มันมีทั้งพยัคฆ์สี่ตา อสรพิษหัวกระทิง แกะยักษ์ทองคำ แต่พวกมันถูกย่อส่วนด้วยทักษะลับ จึงทำให้พวกมันมีขนาดเท่ากับสัตว์อสูรธรรมดา
นอกจากนี้ พลังของมันยังถูกผนึกไว้อีกด้วย ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีร่างกายที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่สามารถโคจรพลังได้ นี่ทำให้พวกมันเต็มไปด้วยความโกรธและความสิ้นหวัง
สัตว์อสูรระดับภูผาวารีนั้นมีสติปัญญหาที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์ พวกมันรู้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปที่แท่นบูชา จึงรู้ชะตากรรมว่าจะต้องตกเป็นเครื่องสังเวย
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้พวกมันโกรธและแผดเสียงคำราม แต่หลังจากนั้นชั่วครู่เสียงคำรามก็ดังเงียบหายไป
สิ้นหวัง!
รถม้ามุ่งหน้าไปที่แท่นบูชาอย่างช้าๆ
เส้นทางที่อยู่ด้านล่างแท่นบูชาเพียงพอที่จะให้รถม้าพวกนี้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย มันค่อนข้างกว้างทีเดียว
บรรยากาศโดยรอบเริ่มมืดมน แต่ก็มีคบเพลิงให้แสงสว่างอยู่ตามทาง แต่มันสว่างไม่พอ จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบมืดมัว
เมื่อรถม้ามุ่งหน้ามาถึง ประตูด้านหน้าก็เปิดทันที
ด้านในของแท่นบูชานั้นกลวงและฐานที่มีรูปทรงเป็นทรงกรวยสามมุมนั้นแยกจากกัน และมีเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมาจากด้านล่างไปด้านบนที่แน่นไปด้วยห้องขัง ซึ่งห้องขังส่วนใหญ่นั้นมีมนุษย์หรือสัตว์อสูรถูกขังอยู่ แต่ห้องขังบางห้องก็ว่างเปล่า
ด้านล่างของแท่นบูชากลวงและมันมีความลึกเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ เพราะมันเต็มไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน
ถึงแม้จะอยู่ในหอคอยทมิฬ แต่หลิงฮันก็ยังได้กลิ่นโลหิตที่รุนแรง โลหิตที่อยู่ในหลุมลึกด้านล่างแท่นบูชาจะต้องมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ
ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีศพจำนวนมหาศาลอยู่ด้านนอก นี่เป็นการสังหารหมู่!
ในบ่อโลหิต หรืออาจเป็นทะเลสาบโลหิตมีแสงสว่างสลัวๆและปลดปล่อยกลิ่นอายที่หนาวเย็นอย่างไม่น่าเชื่อออกมา
ตุบ!
โลหิตในทะเลสาบโลหิตสาดกระเซ็น สัตว์อสูรขนาดใหญ่ถูกโยนลงมาจากด้านบน โดยที่หัวของมันถูกตัดก่อนที่ร่างของมันจะถูกโยนลงไปในทะเลสาบโลหิต แต่ในไม่ช้าก็มีใครบางคนนำศพของมันออกไป แล้วทิ้งไว้ด้านข้าง
ประตูห้องขังเปิดออก และมนุษย์กับสัตว์อสูรที่มากับรถม้าก็ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปข้างใน จากนั้นรถม้าก็จะขนศพออกไปจากแท่นบูชาเพื่อนำไปทิ้งด้านนอก
หลิงฮันออกจากรถม้า แล้วในขณะที่คนอื่นเผลอ เขาก็กลับเข้าไปซ่อนในหอคอยทมิฬอีกครั้ง
เสียงกรีดร้องยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุด หัวมนุษย์และสัตว์อสูรถูกตัดและโยนร่างลงมาในทะเลสาบโลหิตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นเช่นนั้นนักโทษชุดใหม่ต่างก็ส่งเสียงคำรามจนประตูเหล็กของห้องขังสั่นสะเทือน
รถม้าออกจากแท่นบูชาพร้อมศพเต็มคันรถ และมีรถม้าอีกหลายคนรอบรรทุกศพตามลำดับ
นอกเหนือจากเสียงกรีดร้องและเสียงของร่างที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบโลหิตแล้ว ที่นี่ค่อนข้างเงียบทีเดียว ทุกชั้นจะมีจอมยุทธคอยเดินลาดตระเวน แต่เนื่องจากแท่นบูชามีขนาดใหญ่เกินไปจึงต้องใช้เวลาในการลาดตระเวนนาน
เมื่อจอมยุทธที่ลาดตระเวนกำลังเดินผ่านหน้าห้องขังของเขาไป ทันใดนั้นหลิงฮันก็ปรากฏตัวออกมาจากหอคอยทมิฬและคว้าร่างของชายคนนั้น
ชายคนนั้นตกตะลึงมาก ใครจะไปคิดว่ามีคนปรากฏตัวออกมาจากอากาศและโจมตีเขาทีเผลอ? เขารีบหันหลังกลับและปล่อยหมัดทันที แต่มันกะทันหันเกินไปจึงทำให้เขาใช้พลังได้แค่สามในสิบส่วนเท่านั้น
หยุด! หลิงฮันใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหาร ชายคนนั้นหยุดชะงักทันที แล้วในตอนนั้นเองหลิงฮันก็คว้าคอของอีกฝ่ายและพาเข้าไปในหอคอยทมิฬ
หลิงฮันคลายทักษะจิตเจ็ดสังหาร และเมื่อชายคนนั้นตื่นขึ้นมา เขาก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก
“เจ้ากล้าดียังไง!” ชายคนนั้นส่งเสียงตะโกน “มีศัตรู-” เขาหยุดพูดทันที และพบว่าที่นี่ไม่ใช่ด้านในของแท่นบูชา!
เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน? นี่ข้าหมดสติไปนานแค่ไหน?
“เจ้านายของข้าต้องการถามอะไรบางอย่างกับเจ้าและเจ้าต้องให้ความร่วมมือ มิฉะนั้นข้าจะกินเจ้า!” จักรพรรดิจอมอสูปรากฏตัวพร้อมกับแสดงให้เห็นถึงฟันที่แหลมคมและเลียใบหน้าของชายคนนั้น
อาจพูดได้ว่าจักรพรรดิจอมอสูรค่อนข้างเหมาะสมกับงานประเภทนี้