“เจ้ามีธุระอันใด?” หลิงฮันถาม
ศิษย์คนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “เมื่อครู่ข้าเพิ่งเดินผ่านประตูของฝ่ายตะวันออกมาและข้าเห็นชายคนหนึ่งถูกคนของฝ่ายตะวันออกกักตัว แล้วดูเหมือนว่าชายคนนั้นกำลังตามหาศิษย์พี่หลิงอยู่”
“ตามหาข้า?” หลิงฮันลูบคางคิด อีกฝ่ายเป็นใคร? ถึงมาที่ฝ่ายตะวันออกเพื่อตามหาเขา นี่เขาไม่รู้เลยหรือว่าสำนักนภาสีชาดแบ่งออกเป็นสี่ฝ่ายและไม่ถูกกัน แล้วเจ้ายังตามหาหลิงฮันที่ฝ่ายตะวันออก นั่นไม่ถือว่าเป็นการตบหน้าฝ่ายตะวันออกหรอกหรือ?
แต่ที่แน่ชัดคือคนผู้นั้นรู้ว่าเขาอยู่สำนักนภาสีชาด แต่เขาไม่ทราบสถานการณ์ภายในสำนัก
“คนผู้นั้นเป็นคนยังไงอย่างนั้นรึ?” หลิงฮันถาม
ศิษย์ที่พูดคุยกับหลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “เขาเป็นคนที่ดูธรรมดามาก…แต่เขามักใช้มือจับดาบอยู่ตลอดเวลา!”
หืม!
หลิงฮันดูตกตะลึง หรือว่าจะเป็นจินจื้อฮุยจากหมู่บ้านนักตีดาบ?
หลิงฮันไม่ได้นัดหมายอะไรกับจินจื้อฮุย แต่ถ้าอีกฝ่ายตีดาบที่แข็งแกร่งในโลกสำเร็จ เขาจะมามอบให้หลิงฮันด้วยตัวเอง นี่ฝ่ายมาแค่หนึ่งปีเท่านั้น หรือว่าอีกฝ่ายจะตีดาบที่ว่าสำเร็จแล้ว?
อย่างไรก็ตาม เขาควรไปดูก่อน
“ขอบคุณเจ้ามาก” หลิงฮันพยักหน้าให้กับศิษย์ที่มาบอกเรื่องดังกล่าวให้เขาฟัง แล้วโยนขวดหยกให้เป็นรางวัลตอบแทน
ศิษย์คนนั้นเปิดฝาขวดและเห็นเม็ดยาสีเขียวอยู่ภายใน ซึ่งทำให้สีหน้าของเขากลายเป็นตื่นเต้นทันที
—— ศิษย์พี่หลิงช่างเป็นคนที่ใจกว้างยิ่งนัก และมาบอกเรื่องดังกล่าวให้เขาฟังก็ได้รับเม็ดยาไข่มุกนภาแล้ว!
หลิงฮันรีบมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที แต่เขาขี้เกียจเกินไปที่จะเดินอ้อม ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะเดินผ่านประตูฝ่ายตะวันออกโดยตรง
เครื่องแบบศิษย์ทั้งสี่ฝ่ายมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้น เมื่อหลิงฮันเข้าสู่พื้นที่ฝ่ายตะวันออก เขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของศิษย์ฝ่ายตะวันออกทันที และถูกจ้องมองทีละคน
แต่พวกเขารู้ว่าหลิงฮันเป็นใคร เขาไม่เพียงแค่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น แต่ยังเป็นพลทหารระดับเจ็ดของจักรพรรดิอีกด้วย!
ดังนั้น ทุกคนจึงทำได้แค่เฝ้ามองหลิงฮันปล่อยให้เดินผ่านประตูไป ด้วยสีหน้าแปลกๆ
ในวันนั้น เขาไม่เพียงแค่ดูถูกดูแคลนฝ่ายตะวันออกเท่านั้น แต่นี่ยังตามมาซ้ำเติมอีก!
ศิษย์ทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทั้งที่หลิงฮันยังไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาทุกคนรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าแล้ว
สถานะสูงกว่าแล้วมันยังไง? เขาสามารถทำตัวอวดดีแบบนี้ได้ด้วยหรือ?
“หลิงฮัน เจ้าชักจะมากเกินไปแล้ว!” ในที่สุดก็มีศิษย์ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางทางหลิงฮัน
ทุกคนรู้ว่าหลิงฮันอยู่ระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นสูงและอาจมีพลังต่อสู้มากกว่าห้าดาว เช่นนั้นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาก็อาจเทียบเท่ากับระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นต้น ถ้าใครต้องการหยุดหลิงฮันจะต้องมีความแข็งแกร่งดังกล่าว…
ศิษย์ที่เข้ามาขวางทางหลิงฮันเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นต้นและมีพลังต่อสู้เกือบหนึ่งดาวครึ่ง ถึงกระนั้นเขาก็ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่ดี
หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่อยากเดิมอ้อม ข้าแค่ขอเดินผ่านเท่านั้น”
“แต่ที่นี่คือฝ่ายตะวันออก!” ศิษย์คนนั้นตะคอก
“ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตะวันออกหรือฝ่ายเหนือก็เป็นสำนักนภาสีชาดอยู่ดี ข้าสามารถเดินไปได้ทุกที่” หลิงฮันกล่าว
ศิษย์คนนั้นเผยสีหน้าดุร้ายและพูดว่า “ในเมื่อข้าพูดดีๆแล้วเจ้าไม่ฟัง คงจะต้องใช้กำลัง!” เขาเป็นฝ่ายริเริ่มที่จะโจมตีหลิงฮัน
ตามกฎระเบียบของสำนัก ศิษย์ที่มีระดับบ่มเพาะพลังสูงกว่าไม่สามารถต่อสู้กับศิษย์ที่มีระดับบ่มเพาะพลังต่ำกว่าได้ แต่ใครขอให้หลิงฮันบุกเข้ามาในฝ่ายตะวันออกกันล่ะ? เมื่อเขาบุกเข้าบ้านคนอื่น เจ้าของบ้านจะไม่สู้กลับได้อย่างไร?
ดังนั้น เขาจึงมีเหตุผลที่จะต่อสู้กับหลิงฮัน!
หลิงฮันเอามือพาดหลัง เมื่ออีกฝ่ายเริ่มโจมตีเขาก็สวนการโจมตีกลับไปทันทีด้วยนิ้วมือที่เหมือนกับดาบ
ทักษะบัญญัติดาบเร็ว!
ในตอนที่หลิงฮันฝึกฝนอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นสังสารวัฎ มันทำให้เขาเข้าใจทักษะบัญญัติดาบเร็วในระดับลึกลงไปอีก
ต้องทราบก่อนว่าตั้งแต่ที่ต้นสังสารวัฎเติบโตนี่ก็เป็นเวลาสี่เดือนแล้ว หลังจากที่หลิงฮันใช้เวลาฝึกฝนอยู่ใต้ต้นสังสารวัฎประมาณห้าสิบวันเท่ากับห้าสิบปีในโลกภายนอก ด้วยความเข้าใจของหลิงฮันหลังจากที่ใช้เวลาฝึกฝนทักษะบัญญัติดาบเร็วเป็นเวลาห้าสิบปี เขาจะไม่เข้าถึงแก่นแท้ของทักษะบัญญัติดาบเร็วได้อย่างไร?
อัก!
หน้าอกของศิษย์คนนั้นระเบิดและมีโลหิตพุ่งออกมา แล้วร่างของศิษย์คนนั้นก็ล้มลงกับพื้น แต่หลิงฮันก็ยังคงมุ่งหน้าเดินไปที่ประตู
แข็งแกร่งมาก!
ศิษย์ที่มุงดูรู้สึกตกตะลึง ศิษย์พี่ของพวกเขาเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นต้น แต่กลับถูกหลิงฮันจัดการได้ในพริบตา นี่เขาทำได้ยังไงกัน? ประเด็นสำคัญคือหลิงฮันเพิ่งเข้าร่วมสำนักได้ไม่กี่ปีเท่านั้น ซึ่งศิษย์ส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมสำนักพร้อมกับเขายังคงอยู่ในระดับทลายมิติยี่สิบดาวอยู่เลย แต่ในกรณีของหลิงฮัน เขาได้ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นต้นแล้ว!
อย่างน้อยความแข็งแกร่งของเขาน่าจะเทียบได้กับจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นกลาง มิฉะนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจัดการศิษย์พี่ได้ในพริบตา
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางทางหลิงฮันอีกต่อไป นั่นเป็นเพราะจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงส่วนใหญ่มักเก็บตัวฝึกฝนอย่างสันโดษ
แต่ถ้าปล่อยให้หลิงฮันผ่านไป แล้วฝ่ายตะวันออกจะยังมีหน้าพบผู้คนในอนาคนอีกหรือไม่?
ในทันใดนั้นเองก็มีใครบางคนรีบไปบอกให้ศิษย์พี่หญิงและศิษย์พี่ชายที่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นกลางออกมาหยุดหลิงฮัน
ในไม่ช้าประตูก็อยู่ตรงหน้า
หลิงฮันเดินไปข้างหน้าและเห็นศิษย์หลายคนกำลังยืนอยู่ด้านหน้าประตูล้อมรอบชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่เขาไม่มีดาบอยู่ในมือ
ถ้าเขาไม่ใช่จินจื้อฮุย แล้วจะเป็นใคร?
“ดาบข้า! เอาดาบของข้าคืนมา!” จินจื้อฮุยตะโกน
ในกลุ่มศิษย์ที่ยืนอยู่ที่ประตู มีชายหนุ่มผมสีเงินคนหนึ่งกำลังถือดาบยาวอยู่ในมือ และจินจื้อฮุยกำลังตะโกนใส่อีกฝ่าย
“ศิษย์พี่หยาง พวกเราจะทำยังไงกับดาบเล่มนี้ดี?” ศิษย์คนหนึ่งถาม
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหมอนี่บอกว่านี่เป็นดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ข้าไม่เห็นว่ามันจะแข็งแกร่งอะไรเลย!” ศิษย์ที่อยู่ด้านข้างพูดกับชายหนุ่มผมสีเงิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกรึ น่าตลกสิ้นดี” ชายหนุ่มผมเงินส่งเสียงหัวเราะ เขายกดาบในมือขึ้นมาและพูดว่า “มันสร้างมาจากแร่เหล็กระดับหนึ่งเท่านั้น แม้ข้าจะไม่รู้ว่าใช้วัตถุดิบอะไรในการสร้าง แต่อักขระศักดิ์สิทธิ์บนดาบแทบจะไม่มีพลังอะไรเลย!”
“ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอะไรกัน มันก็แค่เศษเหล็ก!”
ใบหน้าของจินจื้อฮุยเต็มไปด้วยความโกรธและพูดว่า “นี่คือดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เจ้าไม่มีทางเข้าใจมันหรอก! เอาดาบกลับคืนมาให้ข้า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงแม้มันจะเป็นแค่ดาบไร้ค่า แต่มันก็อยู่ในมือของข้าแล้ว นี่เจ้ายังคิดที่จะเอามันคืนอีกรึ? น่าขันสิ้นดี” ชายหนุ่มผมเงินแสยะยิ้ม เขามีนามว่าหยางชวงเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงและเป็นอัจฉริยะของฝ่ายตะวันออก
“จับมันกดลงพื้น เจ้ากล้ามากที่เรียกชื่อของหลิงฮันต่อหน้าข้า”
“อืม!” ศิษย์หลายคนรีบกระโดดเข้าไปจับจินจื้อฮุยกดลงกับพื้นและบังคับให้เขาคุกเข่าพร้อมกับก้มหัวลงกับพื้น
“ปล่อยข้าไป! คืนดาบของข้า!” จินจื้อฮุยตะโกน
หลิงฮันส่ายหัว และรีบเดินเขาไปหาพร้อมกับพูดว่า “พี่ชายจินไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”
หลิงฮันปลดปล่อยความโกรธของเขา จินจื้อฮุยมาที่นี่เพื่อมอบดาบให้กับเขาตามสัญญา แต่กลับถูกคนพวกนั้นทำให้อับอายขายหน้า นี่ทำให้เขารู้สึกโกรธมาก
“หลิงฮัน!” ศิษย์ที่ยืนอยู่ที่ประตูทุกคนดูตกใจ